ThaiSEOBoard.com

ผมคิดว่า….. 90% ขึ้นไปของมนุษย์ทุกคนอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง รูปแบบของกิจการส่วนตัวอาจเป็นเจ้าของคนเดียวหรือเปิดเป็นกิจการขนาดใหญ่เป็นบริษัทเป็นหลักเป็นฐาน แต่ในร้อยคนที่คิดกลับมีไม่กี่สิบคนที่ไปถึง เพราะอะไร?

กิจการส่วนตัวหรืองานส่วนตัวเป็นของยาก เพราะคุณต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีรายได้ประจำมาเป็นหลักประกัน คุณต้องสู้กับคู่แข่งรอบๆตัวด้วยตัวคนเดียว คุณต้องรับความเสี่ยงทุกอย่างคนเดียวและคุณต้องมีวินัยใจจิตวิญญาณอย่างแรงกล้าซึ่งข้อสุดท้ายน่าจะเป็น barrier of entry สู่การเป็นผู้ประกอบการที่มีอิทธิพลมากที่สุด จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมลองผ่านงาน freelance translator และเขียน e-book ขายที่ผ่านมา สองอย่างนี้เป็นงานส่วนตัวและพบว่าคนที่ใช้ชีวิตแบบมนุษย์เงินเดือนมานาน เมื่อเริ่มลงมือทำอะไรเป็นของตัวเองจริงจังและพบกับอิสระในการสร้างสรรค์งาน ก็จะเริ่มเกิดอาการผัดวันประกันพรุ่ง งานส่วนตัวที่ไม่มีตารางงานมาบังคับเหมือนกับงานประจำ แต่ก็ยังมีเงินเดือนจากงานประจำมาหล่อเลี้ยงอยู่จะทำให้คุณเกิดความฉะล่าใจหรือประมาท เกิดความขี้เกียจและผัดผ่อนขึ้นครอบงำจิตใจ คิดว่า เดี่ยวค่อยทำก็ได้ วันนี้เลิกงานดึกยังเหนื่อยอยู่ ฯลฯ พระพุทธเจ้าเรียกความคิดแบบนี้ว่า “ความเกียจคร้าน” มีแนวธรรมว่า "คนเกียจคร้านมักอ้างว่า หนาวนัก ร้อนนัก เวลาเย็นแล้ว ยังเช้าอยู่ หิวนัก กระหายนัก แล้วไม่ทำการงาน"

แนวคิดที่ธรรมะสอนนั้นถูกต้อง คนจำนานมากล้มเหลวไปไม่ถึงฝัน ไม่ใช่เพราะไม่มีต้นทุนชีวิตโดยสิ้นเชิง ปัจจัยภายนอกเป็นสิ่งที่หาได้อาจช้าเร็วต่างกันไป แต่ปัจจัยภายในคือตัวเองที่ ผัดวันประกันพรุ่ง เกียจคร้าน ไม่ลงมือทำ กังวลเกินเหตุ กลัว ถอดใจทั้งที่ยังไม่ทำ ฯลฯ เหล่านี้เป็นปัจจัยภายในที่มีอิทธิพลในการยับยั้งคนไม่ให้ก้าวหน้าเป็นอันดับหนึ่ง

วิธีเริ่มต้นสานฝันของตัวเอง

ตอนที่ผมตัดสินใจว่าจะทำงานแปล Freelance Translator, ผมก็เริ่มศึกษาตลาดของธุรกิจแปลอยู่นานมาก น่าจะเกือบปี แต่ระยะเวลาเกือบปีนั้นหมดไปกับส่วนที่เป็นความกลัวที่จะเริ่มด้วย ผมก็มานั่งงงกับตัวเองว่า เราศึกษาตลาดวนไปวนมานานแล้วนะ ทำไมเรายังไม่ได้เริ่มทำเสียที มันติดอะไร ผมก็หาคำตอบไม่ได้ว่าตัวเองติดอะไร ก็เลยคิดว่าคงเป็นจากปัจจัยภายในใจเรามากกว่าที่ไม่ยอมเริ่มเอง ผมจึงใช้เทคนิคของ Brian Tracy คือ กำหนดเป้าหมาย วาดแผนลงในกระดาษ ผมกำหนดว่าจะต้องเริ่มงานแปลนี้ให้ได้ภายใน 1 เดือนแล้วก็ไล่ทำ check list ว่าอะไรที่เราต้องเตรียม อะไรที่เราต้องทำ และจะทำอันไหน ตอนไหน เมื่อไร ทุกๆหัวข้อผมวางกำหนดไว้เลยว่าต้องทำ เลิกงานกลับมา 3-4 ทุ่มก็ต้องทำสักนิดก็ยังดี และผลปรากฏว่าผมทำสำเร็จหลังจากจับจรดมานาน พอลงมือทำจริงๆจังด้วยแผนที่ชัดเจนเราก็ทำได้ตามกรอบเวลาจนต้องอุทานว่า “รู้งี้กูทำไปนานแล้ว”

ธรรมชาติของจิตใจ สภาวะขี้เกียจ กับ สภาวะความเพียร เกิดได้ครั้งละหนึ่งสภาวะ นั่นหมายความว่าถ้าคุณปล่อยให้ความขี้เกียจมันอยู่อย่างนั้นมันก็ไม่มีวันที่จะหายไปไหน อย่างหวังเลยว่าคำว่า “พรุ่งนี้ค่อยทำ” จะเกิดขึ้น เพราะพอถึงพรุ่งนี้คุณก็ไม่ทำ! ถ้าจะทำคุณต้องทำเลย และเมื่อคุณฝืนดันความขี้เกียจออกไปได้แล้ว ทีนี้ความเพียรมันเกิดแล้วเวลามันเกิดเป็นเป็นกระแสที่ฝรั่งเรียกว่า momentum พอลงมือทำแล้วทีนี้ไหลลื่นยาวแบบวางงานไม่ลงเลย นี่แหละหัวใจผู้ประกอบการ มีไฟ มีพลัง จัดเต็ม

ผมคิดว่างานประจำก็ไม่ได้ปลอดภัยไปกว่ากิจการส่วนตัว

ผมคิดว่าในโลกนี้ไม่มีงานอะไรมั่นคง ไม่ว่าบริษัทมหาชนหรือราชการ ความเสี่ยงมีตลอด การค้นหาองค์กรมั่นคงแล้วเกาะไปจนตายนั้นเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว ทำไมผมถึงคิดแบบนั้น?

เพราะผมเห็นตัวอย่างคนที่อยู่กับองค์กรจนแก่มากๆโดยไม่ได้วางแผนหลังเกษียณไว้ทำให้ชีวิตเขาตกอยู่ในความเสี่ยง อายุเยอะเงินเดือนนิ่งไม่มีบทบาทในหน้าที่ ต้องอยู่แบบจำทน จะไปไหนก็ไมได้ ในขณะเดียวกันเงินเฟ้อสูงขึ้น ค่าตรองชีพสูงขึ้น เงินเดือนเป็นอะไรที่โตไม่ทันเงินเฟ้อตลอดกาล แบบนี้ลำบาก ในความคิดของทุนนิยม fixed-income ที่ออมในบัญชีเขามองเป็นความเสี่ยง เพราะเงินอยู่เฉยๆไม่ได้ใช้ไม่ได้แปลว่าจะไม่หายไปไหน เวลาผ่านไปจำนวนเท่าเดิมแต่มูลค่าลดลง
สมมุติว่าเมื่อ 20 ปีก่อนคุณเอาเงิน 20 บาทใส่ไหคล้องกุญแจไว้เฉยๆ วันนี้เปิดออกมาจะเอาไปซื้อข้าวกินไม่ได้แล้วนะ! อาหารตามสั่งวันนี้มันจานละ 30 บาท นี่คือตัวอย่างจริงๆของเงินเท่าเดิมแต่ใช้ซื้ออะไรไม่ได้

ดังนั้นการมีเงินเดือนประจำ ทำๆๆ แล้วก็ออม ไม่ใช่ wealth builder หรือ แผนสู่ความมั่งคั่งแต่เป็นความเสี่ยง ความมั่งคั่งเกิดจากการกระจายช่องทางการสร้างรายได้ เช่น อาชีพเสริม แบบ Pro-Active Income หรือ ลงทุน แบบ Passive Income เพื่อสร้างรายได้ทวีคูณ

ทำไมคุณจึงควรเริ่มสร้างอาชีพเสริมในขณะทำงานประจำ

เพราะการสร้างอาชีพเสริมเป็นการ........
1). ปูทางสู่การเป็นนายตัวเองและการเป็นเจ้าของกิจการ
2). สร้างฐานตัวเองอย่างมีหลักประกันจากเงินเดือนประจำ

ลูกจ้าง ภาษาอังกฤษเรียก Employee, จ้างตัวเอง เรียก Self-Employed และ ผู้ประกอบการคือ Entrepreneur ซึ่งอันสุดท้ายคือ ผู้ประกอบการ เป็นลักษณะของ Passive Income คือคุณวางระบบ จัดการบริหาร กระจายเงินลงทุนและงานไปสู่ผู้อื่น ให้เงินและผู้อื่นทำงานแทนคุณ เป็นลำดับขั้นวิวัฒนาการสูงสุดของมนุษย์ในทางโลก

ส่วน Self-Employed นั่นเป็น Pro-Active คือต้องทำเองและทำตลอดเวลาจึงจะได้เงิน ถ้าหยุดทำก็ไม่ได้เงิน แต่ผลตอบแทนสูงกว่าเป็นลูกจ้าง เช่น ลูกจ้างค่าแรงขั้นต่ำทำทั้งเดือน (240 ชั่วโมงเหมา) ได้ 9000 บาท งานฟรีแลนซ์หลายๆประเภททั้ง นักเขียน นักแปล นักออกแบบ ทำงาน 24 ชั่วโมง (ระยะเวลาบวกรวมกัน) ได้ 10,000-20,000 บาท

อาชีพเสริมที่ผมว่านี้จึงไม่ได้หมายถึงไปรับจ้างเสิร์ฟอาหารหลังเลิกงาน แต่เป็นการดึง

-> Passion ความรัก
-> Interested ความสนใจ
-> Knowledge ความรู้
-> Skill ทักษะ

ออกมาทำประโยชน์และรับจ้างสร้างสรรค์งานจากความรู้ที่ตัวเองมี ความรู้สามารถที่จะเป็นอะไรก็ได้ ความรู้จากงานประจำเช่น เป็น นักสอบบัญชี นักกฎหมาย นักการตลาด นักเขียนโปรแกรม หรือความรู้จากงานอดิเรก เช่น เลี้ยงสัตว์จนชำนาญ เลี้ยงต้นไม้บอนไซ เลี้ยงปลาตู้ หรือ ทำเว็บบล็อก ความรู้เหล่านี้สามารถนำมารับจ้างแบบ freelance หรือรับสอนแบบ Training/Coaching หรือทำเป็น Information product ในรูปแบบของ E-Book หรือ Video Tutorial

เช่นตัวผมเองทำบล็อกมา 2-3 ปีลองผิดลองถูกจนเกิดเป็นความรู้เรื่องการทำ blog และการผลิต contents ทำให้ผมสามารถนำมาเขียน E-Book; The Art of Blog หรือ ในต่างประเทศมีคนที่ถนัดเรื่องการบริหารเงินๆทองๆและเรื่องภาษีและกฎหมายการจ้างงานก็สามารถนำมาบล็อกได้ เช่น financialsamurai.com และขาย E-Book: How to Engineer Your Layoff ซึ่งเป็นเทคนิคการลาออกแบบ Quit-rich คือวางแผนลาออกอย่างไรให้ได้สิทธิประโยชน์จากนายจ้างให้มากที่สุด เป็นต้น

สรุปการสร้างอาชีพเสริมในขณะทำงานประจำ

อาชีพเสริมเหล่านี้ทำคู่งานประจำได้หมดเพียงแต่มันเป็นอะไรที่เหนื่อยกว่าชาวบ้านที่เขาทำแต่งานประจำอย่างเดียว แต่ในระยะยาวผลตอบรับมันคุ้มเพราะ Self-Employed เป็นทางเชื่อมสู่การเป็น Entrepreneur เป็นการลงสนามจริงในการบริหารจัดการอาชีพส่วนตัว หาเงินโดยตรงด้วยตัวเองโดยไม่ผ่านระบบการจ้างงานประจำ อย่างไรก็ดีการทำอาชีพเสริมก็อย่าให้เสียงานประจำหรือไปทับเส้นกับงานประจำ เพราะมันผิดสัญญาจ้างและผิดสัญญาใจ นายจ้างอย่างไรก็มีคุณกับเราฉะนั้นขอให้รักษาสมดุลรอบด้านไว้ให้ดีที่สุด

บทความเต็มจาก: http://www.theceoblogger.com/side-job-ceo-blogger/

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ แต่ส่วนตัวที่ผมคิดนะครับว่า "ทำไมคุณจึงควรเริ่มสร้างอาชีพเสริมในขณะทำงานประจำ" เหตุผลง่ายๆครับ ทำงานอย่างเดียว ทำเท่าไหร่ก็ไม่รวยครับ ถึงรวยอาจต้องใช้เวลา

โอ้วว มาอีกแล้วขอบคุณคร๊าฟฟ

ใช่เลยครับ เริ่มต่อยอด ปูทาง สร้างฐาน ในช่วงที่กำลังทำงานประจำแต่เนิ่นๆเป็นโอกาสเดียว หากรอให้เนิ่นนานไปใกล้เกษียณแล้วจะไม่มีกำลังในการลุยสู่การเป็น self-employed
เริ่มก่อนก็ใกล้เป้าหมายก่อน

ขอบคุณมาก คะ สำหรับบทความดีๆ   เหตุผลว่าทำไมจึงควรสร้างอาชีพเสริม เพราะงานประจำบางอย่างค่อนข้างกินเวลาในชีวิตของเราไปมากก เหมือนนำเงินไปแลกกับเวลาส่วนตัว
และยังสร้างความเครียดให้เรามากมาย ถ้าเรามีโอกาสที่จะพัฒนาอาชีพเสริมต่างๆ จนสามารถหาเลี้ยงชีพให้เราได้แทน จนมันอยู่ตัว เราก็คงจัดการกับชีวิตไ้ด้ดีขึ้น ไม่ต้อง
นำเวลาเกือบจะทั้งหมดที่มีไปแลกกับเงินมาอีกต่อไป  แต่ตอนนี้ยังไงก็ต้องทำงานประจำเก็บตังค์และสะสมความรู้ในบอร์ดกันไปก่อนจ้าาา  :wanwan031: :wanwan031:

ขอบคุณมากสำหรับบทความครับ
บางคนผลักดันแล้ว พูดแล้วพูดอีกก็แล้ว
ก็ไม่สามารถก้าวข้ามจากกรอบของพนักงานประจำได้
บางทีขอบเขตและการใช้ชีวิตอาจจะทำให้เค้า
ไม่อยากก้าวเดินกับเส้นทางที่รู้สึกเสี่ยงต่ออนาคต

เป็นบทความดีที่ดีจิงๆ  :wanwan017:

บทความดีมากๆเลยครับ

+1 สำหรับการแชร์บทความดีๆ

ผมว่า หากชอบและมีเวลามากพอ ก็น่าทำครับ

เจ้าของบทความออกบทความใหม่มาเรื่อยๆ ผมก็อ่านเรื่อยๆ มันทำให้ผมมีกำลังใจได้เรื่อยๆเลย งงไหม เอิ๊กๆ

+1 ครับ  :'(
... ผมเองก็ลาออกจากงานประจำทั้งๆที่มีความก้าวหน้า บริษัทมั่นคงที่ใครๆก็อยากเข้า แต่ผมเลือกที่จะใช้ชีวิตตามแบบของตัวเอง อาจเพราะผมเป็นคนขี้เกียจ ที่จะต้องตื่นเช้า ที่จะนั่งอยู่ออฟฟิส ที่จะทำอะไรซ้ำๆซากๆ ในขณะที่รายได้ก็อยู่ในกรอบ.. ผมออกมาอยู่กับครอบครัวและทำธุรกิจเล็กๆส่วนตัว และหารายได้พิเศษในโลกออนไลน์ ชนิดที่จะหยุดจะไปไหนก็ได้ สามารถทำงานได้ทุกที่ ตอนนี้ถึงไม่รวย แต่มีความสุขดีครับ อนาคตก็ต้องสร้างกันต่อไป...

ขอบคุณครับ

 :wanwan011:

 :wanwan017:  ขอบคุณครับสำหรับความรู้ดีๆๆ

ขอบคุณใสกครับ

 :wanwan017: :wanwan017:

ขอบคุณมากเลย ค่ะ อ่านแล้ว มีกำลังใจ ลดความขี้เกียจ เลยค่ะ

ผมว่าที่ไปถึง ร้อยคนมีไม่ถึงสิบคนนะครับ สถิติเค้าว่าไว้
การเรียนรู้ ฝึกฝน เตรียมตัวให้พร้อมก่อน จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากครับ
 :P

ทำอาชีพมาหลายปีแล้วครับ อยากลาออกเหมือนกัน

ขอบคุณครับแนวทางต่อยอดอาชีพจากงานประจำครับผม  :wanwan011: :wanwan011:

ตอนที่ออกจากงานประจำเพราะเบื่อการเมืองในที่ทำงานค่ะ เลยขายของออนไลน์ จนรายได้มากกว่างานประจำถึงลาออกมา ทุกวันนี้เราว่าจะหาอะไรมาขายดีนะ เพราะ สินค้าบางอย่างมันก็จะได้รับความนิยมเป็นช่วง ๆ ถ้ามีคน Copy ขายตามเราจะเลิกขาย เราต้องบริหารเงินทุนหมุนเวียน ให้ดี ไหนจะเงินบาทที่แข็งค่าทุกวันทุกวัน ถ้าขายของ Online แนะนำให้อ่านข่าวสารรอบตัวให้เยอะๆ

ตอนแรกเราคิดว่าทำส่วนตัว จะมีเวลามากกว่างานประจำ ของเรามันไม่ใช่เลย บางครั้งตีสามยังไม่ได้นอน รายได้ที่ร้านสวนกระแส ตอบอีเมล์ลูกค้าตกลงเรื่องราคา เพราะสินค้าเราเป็นบางตัวต้องเข้าสู้ตลาดเป็นลำดับต้นๆ สินค้ามันมีระยะเวลาของมัน แต่ก็ดีทำให้เราชยันตลอดเวลา เราตั้งเป้าเงินร่ายได้จากงานส่วนตัว ในแต่ละเดือน เราทำได้ตามเป้าทุกครั้ง

ถ้าว่างเราก็อ่านข่าวเศรษฐกิจดูว่าเราจะหาอะไรไปขาย ช่วงสองเดือนก่อน เราเครียดเรื่องนมค่ะ ไม่ใข่นมของเรานะคะ :-[ แต่เป็นนมผงเลี้บงทารกที่ประเทศจีนต้องการเพราะ นมผงประเทศเขามีสารปนเปื้อน เราได้นมมา/ 200 กระป๋อง แต่อีก 50 กระป๋องอีก 4 เดือนมันหมดอายุ  :o :oตอนนี้แก้ปัญหาได้แล้ว เดือนนี้ขอพักต่ะ   :wanwan012: :wanwan012:

บทความดีมากครับ  :wanwan017:

เนื้อหาดีทุกบทความเลยครับ

ยอดเยี่ยมครับ

ลาออก อย่างงี้ต้องลาออก จาขอลาออกกก เย้เย ฮาๆ

เอาตรงๆเลยก็ มันไม่พอกิน+เที่ยว :wanwan044:

บทความดีๆอีกแล้วค่ะ
ปล เขียนได้น่าสนใจมาก น่าจะไปเขียนหนังสือนะคะ  :wanwan019:

ขอบคุณครับ  :wanwan017:  :wanwan017:

เก็บก่อน ขอบคุณครับ  :wanwan017:

บทความดีมากครับ อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะ +1

บทความดีมากเลยครับ การทำงานควรมีการวางแผนที่ดี มีการกำหนดระยะเวลาของงาน  :wanwan003:

บทความดี อ่านแล้วโดนครับ

^^

เข้ามาติดตาม ขอบคุณที่ทำให้ได้แง่คิดดีๆ

ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดี ๆ ครับ ขอเก็บไว้เป็นกำลังใจในเรื่องต่าง ๆ ครับ  :(

 แรกๆ ก็ทำอาชีพเสริม  ต่อไป ไอ้ที่ว่าเสริมๆ เนี่ยแหละ ที่ทำให้รวยทุกวันนี้

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆคะอ่านแล้วรู้สึกมีใจฮึกสู้คะ

สุดท้ายคนเราต้องการอิสระครับ อยู่ที่ว่าใครจะกล้าลุกขึ้นมาทำตามความฝันของตัวเอง

บางทีไองานไม่ประจำนี่แหละ ตัวทำเงินเลย !!

งานประจำมันมั่นคงก็จริงแต่ก้าวหน้ายากครับ หางานเสริมมาทำด้วยดีกว่าเผลอๆได้มากกว่างานประจำ

ขอบคุณครับ เป็นบทความที่มีประโยชน์มาก

ทำไมถึงทำเหรอ.. ไม่พอกินไงครับ :wanwan035:

 :wanwan020:  รายได้ 2 ทางครับ

 แต่ก็ต้องฟิตมากขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า  :wanwan012:

เพื่อความมั่นคง

เงินเดือนงานประจำไม่พอยาใส้ :'( :'(

ขอบคุณครับ ยังไงมันก็ดีกว่ารอตังค์จากงานประจำอย่่างเดียวแล้ว ส่วนนึงไม่พอใช้ อยากหาประสบการณ์เปิดธุรกิจตัวเอง

ว่าง ไม่ีอะไรทำครับ 555

เพราะไม่มีใครอยากเป็นลูกจ้างคนอื่นไปตลอดชีวิต :wanwan008: :wanwan008:

ขอบคุณครับ อ่านสนุก มีสาระ อ่านเพลินเกินห้ามใจ

ไส้แห่ง แต่พุงโต

อ่านแล้วมีกำลังใจ ไม่อยากขี้เกียจเลยอ่ะ ... แต่เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยทำเน๊อะ!  :P

ช่วยกระจายความเสี่ยง  :-[

อยากทำงานประจำเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็สบายดี อิอิ

ขอบคุณค่ะ

สร้างรายได้ หลายช่องทางครับ

บทความเขียนได้ยอดเยี่ยม อ่านแล้วได้ประโยชน์ ทำให้ได้ข้อคิดอะไรต่างๆ ในการทำงานมากขึ้น

บทความมีประโยชน์จริงๆ ครับ

ทำแต่งานประจำบางที อดสงสัยไม่ได้ว่า มีแค่เงินพอเลี้ยงปากท้องไปจนตายแค่นั้น คงได้เสียใจตอนแก่ตัวลงแหงๆ

บทความดีมากเลยครับ ชอบ  :wanwan017:

เป็นบทความที่ดีมากครับ. ใครยังไม่เริ่มลองมาดูebay ได้ครับตามลิงด์ลายเซ็น

+1 ต้องเก็บไว้อ่านอีกเลยคับ

เขียนได้ดีครับ ตอนนี้มีไฟขึ้นเยอะเลย  :wanwan003:

บทความดีครับ อ่านแล้วมีกำลังใจ

ชอบมั่กมาก :wanwan008:

กำลังวางแผนเอาตัวรอดเมื่ออยู่ข้างนอกอยู่ครับ  ขอบคุณมากบทความมาได้จังหวะพอดี :wanwan007: :wanwan007: :wanwan007:

บทความดี ได้แรงใจอีกเยอะ  :wanwan003:

ขอบคุณมากครับ :wanwan017:

เป็นประโยชน์มากเลยครับ ชอบส่วนนี้มากที่สุดเลย

"ธรรมชาติของจิตใจ สภาวะขี้เกียจ กับ สภาวะความเพียร เกิดได้ครั้งละหนึ่งสภาวะ นั่นหมายความว่าถ้าคุณปล่อยให้ความขี้เกียจมันอยู่อย่างนั้นมันก็ไม่มีวันที่จะหายไปไหน อย่างหวังเลยว่าคำว่า “พรุ่งนี้ค่อยทำ” จะเกิดขึ้น เพราะพอถึงพรุ่งนี้คุณก็ไม่ทำ! ถ้าจะทำคุณต้องทำเลย และเมื่อคุณฝืนดันความขี้เกียจออกไปได้แล้ว ทีนี้ความเพียรมันเกิดแล้วเวลามันเกิดเป็นเป็นกระแสที่ฝรั่งเรียกว่า momentum พอลงมือทำแล้วทีนี้ไหลลื่นยาวแบบวางงานไม่ลงเลย นี่แหละหัวใจผู้ประกอบการ มีไฟ มีพลัง จัดเต็ม"

เขียนดีครับ

จนต้องมา htx +1

เรา แต่ก่อนนะคะ
  เหตุผล ทำงานประจำที่ทำอยู่ ความก้าวหน้าไม่มีเลย ทำมา 5 ปีตำแหน่งไม่ขึ้น ขึ้นแต่เงินเดือน นิดหน่อย ... นั่งคิดกับตัวเอง ทำแบบนี้เมื่อใหร่จะหยุดพัก เงินเก็บก็แทบไม่มี
ก็เลย ทำงานประจำ และหาอาชีพเสริมในเน็ตค่ะ  ทำไปเรื่อยๆ ของของในเน็ต ทำปีกว่ารายได้มากกว่าเงินเดือน 2-3 เท่า
ก็เลย ออกมาเต็มตัวค่ะ

ตอนนี้เราเปิดร้านในเน็ต ขายของออนไลน์มา 3 ปีแล้ว ...จากร้านค้าออนไลน์ธรรมดาก็เปิดเป็นบริษัทแล้ว
ทำงานตัวเอง ขยันมาก ได้เงินมากนะคะตามค่ะ  แต่ทำงานบริษัท ขยันมาก เงินเดือนเท่าเดิม ถ้าเราไม่ได้โดดเด่นและเก่งในสายตาหัวหน้า ความก้าวหน้าก็แทบไม่มีค่ะ

เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ขยันและพยายามค่ะ เดี๋ยวสักวันมันจะมีทางไปของมันเองค่ะ   

เป็นอีกคนนึ่งครับ ที่มีงานประจำและงานเสริม จะเก็บเงินทำธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเองให้ได้ครับ

เพื่อเราสามารถกำหนดอิสระในการใช้ชีวิตได้ ทั้ง การเงิน เวลา ความรัก ได้ตรงกับชีวิตเราที่สุด :'(

 :wanwan017: ขอบคุณครับบ ๆ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งดีๆครับ :wanwan008:

ขอบคุณครับ :wanwan017:

ขอบคุณครับ

เล่าให้ฟังบ้างครับเริ่มสร้างอาชีพเสริมในขณะทำงานประจำ
เนื่องจากเริ่มรู้ว่าตัวเอง และคนอื่นๆเก่งกว่าหัวหน้างาน หรือ ผ.อ ที่ใช้เราทำงาน
พวกนี้ไม่ได้เก่งหรอกแต่ใช้ความเก่งของเรา เขาถึงเดินเชิดหน้าได้ ประชุมฝ่ายหัวงานแท้ๆยังส่งเราซึ่งเป็นลูกน้องเขาไปแทนเลย

เลยคิดว่า ถ้าเราใช้สมองที่เราคิดงานให้คนอื่นมาหัดลองคิดงานตัวเองมันจะเป็นยังไง ผลคือสำเร็จครับ ได้เงินเองด้วย

ผมรู้สึกว่าผมต้องเริ่มตั้งแต่เป็นนักศึกษานี่ละครับ ขอบคุณมากครับสำหรับบทความดีๆ  :wanwan003:

เป็นความรู้ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ได้แง่คิดดีมาก ขอบคุณครับ  :wanwan003:

ขอบคุณค่ะ อ่านซะเมื่อยเลย :wanwan016:

เหมือนมีแรงผลักดันเลยครับ ฮึ๊บๆ สู้ๆ

ทุกคนอยากเป็นเจ้านายเองมากกว่า

ขอบคูรครับ ดีมาก ๆๆ :wanwan031: :wanwan031:

เป็นไทในวันหน้า

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณ บทความดีๆ

Thank you. :wanwan017:

ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากเลยครับ  :wanwan017:

ขอบคุบทความดีครับ
ต้องมีเป้าหมายชีวิต

ขอบคุณครับ  :wanwan017:

ใช่ครับ :'( :'(

บนความดีๆ สร้างแรงบันดาลใจ

สุดยอด บทความยอดเยี่ยมครับ

ขอบคุณสำหรับบทความมีค่าครับ

ขอบคุณครับผม  :wanwan017:

บางคนก็รักความอิสระเลยไม่อยากเป็นลูกจ้างเค้า                =   :wanwan003:
บางคนขอเป็นลูกจ้างดีกว่าเพราะไม่อยากเเบกรับภาระใดๆ     =   :wanwan022:
...เเล้วคุณละอยากเป็นคนข้างล่างหรือคนข้างบน... :wanwan016:

ขอบคุณความรู้ดีๆ จะนำไปปรับใช้ครับ  :wanwan011:

ต้องการความมั่นคงในชีวิตครับ :wanwan031: