ThaiSEOBoard.com

ชื่อกระทู้อาจดูน่ากลัว แต่จริงๆ แล้วเป็นกระทุ้ต้องการให้คนมาแสดงความคิดเห็น
ส่วนตัวผมว่ามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว  แต่อยากให้เพื่อน ๆ ร่วมแสดงความเห็น แล้วผมจะส่งลิ้งก์ไปให้เพื่อนผมอ่าน

เพื่อนเชื่อนาย A เล่าว่า  มีข้าราชการคนหนึ่งสมมุติว่าชื่อ นาย B  (อายุประมาณ 35-45 ปี)  ทำงานหาเงินทางอินเตอร์เน็ต (ซึ่งก็ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า หาเงินทางไหน)
ถูกนำข้อมูลไปทำบัตรเครดิตและนำไปใช้  ทำให้เป็นหนี้และมีการทวงหนี้ด้วยการทำร้ายร่างกาย  จนกระทั่งอยู่ไม่ได้
ต้องหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน   ทำให้นาย A กังวลว่าการหาเงินทางเน็ตจะเป็นหลุมพลาง   ผมเลยอยากให้เพื่อนตาสว่าง  เห็นมุมมองอีกมุม ของเพื่อน ๆ ในบอร์ดของเราครับ

จะถามความเห็น ก็ตั้งชื่อกระทู้ ให้มันเป็นการถามความเห็นสิครับ :-\

หาเงินในเนท อย่าโลภ อย่าโง่ อย่าหน้ามืด อย่าตื่นทอง อย่าตื่นตูม อย่าเป็นแมงเม่า
ทำอะไรให้นึกถึงพื้นฐานของความเป็นจริง หาข้อมูลให้เยอะๆจากหลายๆทาง อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะ เค้าว่ามา
เวลามีคนเตือนก็ฟังไว้มั่ง อย่าไปคิดว่าเค้าอิจฉา ขวางทางรวย
เงินในเนทมีให้ขุดเยอะแยะ และมีหลากหลายวิธี แต่จำไว้ว่า แค่นอนกระดิกตีนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่มีทางทำเงินได้หรอก
คนมันจะลงหลุมก็เพราะอยากนอนเฉยๆนี่แหล่ะ

กรณีนี้ผมว่า มันคนจะเอ๋อไอ้ตรงเจ้าของข้อมูลแหละครับ เพราะว่าถ้าคุณไม่เซ็นเอกสารให้เค้าก็เอาของคุณไปทำไมได้ แล้วทำเสร็จถ้าคุณไม่ใช้บัตร มันก็เสียแค่ค่าธรรมเนียม บัตรเครดิตนั้นไม่ว่าธนาคารไหนๆก็ใช้มาตรฐานร่วมกันทั้งนั้น คือพนักงานไม่มีสิทธิ์รู้อะไรของคุณเลย

เพราะฉะนั้นกรณีโดนหลอกนั่น ไม่จำเป็นว่าต้องทำงานทางเนตหรอก ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ทำงานทางเนตแต่ถ้ามีบัตรก็อาจจะโดนเหมือนกัน

ในกรณีบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารนั้นถ้าคุณได้ยืนยันว่าการจ่ายเงินของคุณเป็นสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ หรือทำด้วยการถูกหลอก หรือทำด้วยความเข้าใจผิด คุณสามารถเรียกร้องให้ทางธนาคารเรียกเงินคืนได้อยู่แล้ว เพราะเงินที่ได้จากบัตรรเครดิตไช่เงินสดที่โอนกันทันที การเรียกคืนจะง่ายกว่าเพราะว่ามันจะอยู่ในกระบวนการของธนาคาร เงินยังไม่ตกเป็นเงินสดถึงผู้รับทันที  ::)

น้อมรับผิด แก้ไขแล้วครับ 

มีเพื่อนบ้านผมคนนึง เป็นตำรวจ(ซะด้วย)อ่านเจอโฆษณาเรื่องแชร์ลูกโซ่ แล้วก็อะไรของเค้ามั่งไม่รู้หลายอย่างเห็นมาชวนพ่อผมทำด้วย แต่พ่อผมไม่ค่อยถูกกับคอม ;D เลยไม่ได้ทำ สุดท้ายตำรวจคนนี้ไปกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ ของที่ไหนไม่รู้แหล่งข่าวไม่ได้แจ้ง กู้มาประมาณ สองแสนด้วยความโลภ ลงทุนหมดเลย สุดท้ายบริษัทปิดหนี  :( :(
              เลยเป็นที่มา ในครอบครัวผม พ่อและ พี่ๆด่าว่าเห็นไหมทำงานทางเน็ตอ่ะเห็นไหมเค้าหลอกไปเป็นแสนๆ
ผมก็เลยพยาพามอธิบายอยู่ว่ามันไม่ใช่นะ  แต่ใครจะฟัง เศร้า :( :(หวังว่าเช็คใบแรกมาเมื่อไหร่สถานการณ์คงดีขึ้น ;D ;D

ฮิ ๆ  เจอพวกเดียวกันแล้ว ครอบครัวผมก็ไม่มีใครเชื่อว่าอินเตอร์เน็ตมันทำเงินได้  ที่ทำอยู่ทุกวันเนี่ยไม่ได้หวังอะไรมาก
นอกจากลบคำสบประมาทเท่านั้น (แต่ได้บ้างก็ดี)  ตอนนี้ได้เข้า Paypal จากพวกเวบอัพโหลดมาบ้าง  แต่ยังไม่พออวดคนที่บ้าน  ขอแค่ 100$ ก็จะเลิกแล้วครับ  แนะนำเพื่อน(ให้ศึกษา ไม่ได้หวังดาวน์ไลน์) เพื่อนก็เอาข้อมูลผิด ๆ จากไหนไม่รู้มา

บอกตามตรงเรื่องที่ผมฟังมาั นันแปลกมาก  คนระดับข้าราชการจะหนีหนี้บัตรเครดิต ไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ฟังดูมันทะแม่ง ๆ   

อยู่ที่ใช้วิธีการไหนในการหาเงิน ในมุมมองผม การหาเงินในอินเตอร์เนตมีหลากหลายทาง มีทั้งจ่ายจริง จ่ายไม่จริง มันอยู่ที่ว่าคนที่สนใจจะหาเงินทางนี้มีความละเอียดรอบครอบในการหาข้อมูลมากแค่ไหน ทุกอย่างมีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง ก่อนทำควรศึกษาสิ่งที่จะทำให้ดีๆซะก่อนจะได้ไม่โดนหลอกจนเป็นหนี้ท่วมหัวเหมือนเรื่องที่ท่านเจ้าของกระทู้ได้เล่าไว้ครับ

การลงทุนมีความเสี่ยง ยิ่งการลงทุนผ่านทางระบบ SEO ยิ่งมีความเสี่ยง

 :)

จริง ที่ว่าหาเงินทางอินเตอร์เน็ต อาจเป็นหนี้ไม่รู้ตัว
และก็
จริง ที่ว่าหาเงินทางอินเตอร์เน็ต อาจเป็นเศรษฐีไม่รู้ตัว

การเป็นหนี้ ไม่ได้เกิดจากวิธีการ
แต่ เกิดจากตัวเราเอง

:)

+1

+1

เห็นด้วยอย่างมากครับ  เพราะตอนนี้ก็กำลังเป็นหนี้ :P

ก่อนจะทำไรก็ควรศึกษาเรื่องนั้นๆให้ดีครับ
เจ๊งเพราะโลภมาหลายคนละเพราะอยากรวยเร็ว

สำหรับผมรายได้จากการหาเงินทางเน็ต เป็นรายได้ 1 ใน 3 ส่วนของรายได้ทั้งหมดที่ผมหามาได้หลังจากเรียนจบ ;D

เอาจริง ๆ แล้วผมเคยเป็นหนี้ (มีเงินไม่พอจ่าย) เพราะทำเวปเยอะไป แบบว่าทำแล้วรายได้มาไม่ทันต้องยืมเงินญาติมาจ่ายก่อน  แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอดี และการวางแผนการเงินด้วยนะครับ ส่วนผมเจอแล้วเจ็บแล้ว จำได้แล้ว 55+

มันต้องศึกษาข้อมูลให้ดีครับ ข้อมูลต้องแน่นจะได้ไม่โดนหลอก

เห็นด้วยจริงๆ ยิ่งอาการตื่นทอง เป็นกันซะทุกชนชั้น
เอาหลักธรรมมะ มาใช้ซะบ้าง ทุกอย่างล้วนเห็นเหตุเป็นผล

ไม่มีทางที่ผลจะเกิด ถ้าไม่มีความพยายาม
เจอพวกบอกแชร์เงิน นอนรอรับตังค์ ความเป็นไปได้ จะมีเหรอ ?

ต้องมีสติทุกเวลา ทุกขณะ แล้วมันจะเจริญ

ต้องดูด้วยครับ หาเงินทางเน็ตแบบไหน หาข้อมูลเยอะ ๆ อย่าใจร้อน หรือ คิดว่าตัวเองทำได้ เพราะว่าการหาเงินบนเน็ตมันมีหลายแบบจริง ๆ ครับ แบบเร็วแบบช้า ศึกษานาน ๆ ไปก็จะรู้เอง

แต่ที่สำคัญเนี่ย อยู่ที่ตัวคุณว่าจะสู้แบบไหน (ต้องตัดสินใจครับว่าจะทำเงินแบบไหน สู้ต่อไปครับ ล้มแล้วก็ลุก อย่ายอมแพ้)(สักวันจะต้องทำได้เหมือนคนอื่นครับ)

(เคยโดนกับตัวเองมาเลย ไฟแรงนึกว่าตัวเองทำได้ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด หลงเดินทางผิด คิดจนวันตาย)(เจ้าหนี้ ทั้งหลายก็ใจดีครับ ไม่ได้จี้อะไรมากตอนนี้เริ่มจะฟื้นตัวแหละ   :-* เจ้าหนี้เก่า ๆ pm มาคุยกันได้ครับ)

มือใหม่ขอรับฟังคำสอนอันมีค่านี้ครับ
สุดยอดคำคมเตือนสติ เลยครับ  :)

ก่อนจะทำอะไรก็ควรศึกษาให้ดีก่อนอ่ะครับ อย่าให้ความโลภมาบังตา คิดถึงหลักเหตุและผลเยอะ ๆ

อย่างพวกอ่านเมลล์ได้ฉบับละ 10$ สมัครต่อได้ 50$ ลองคิดดูว่าที่มาของเงินมันมาได้ยังไง เป็นไปได้หรือ?

แล้วอีกอย่างต้องจำไว้เสมอ ว่าข้อเสนอที่ดีเกินจริงก็เพราะว่ามันไม่จริง !  :o

เห็นใจคนถูกหลอกจัง :'( หน้าม้ามันสร้างกันง่ายๆ

ทำธุรกิจอะไรก็เป็นหนี้ได้หมดแหละครับ


ขายลูกชิ้นปิ้งหน้าบ้าน ยังขายแซนวิชหน้าซอย  คนทำไม่เป็นยังขาดทุนเป็นหนี้ได้เลย

ส่วนเรื่องโดนหลอกแล้วเป็นหนี้  มันคนละประเด็นรึเปล่า  เพราะทำธุรกิจอะไร ถ้าไม่ศึกษาให้ดี ก็โดนหลอกได้ทุกอย่างหละครับ

มันอยุ่ที่ความคิดความอ่านของตัวบุคคลด้วยนะ ผมมองว่า การทำงานหรือทำเงินทางเน็ตมันต้องมีความชำนาญในโลกอินเตอร์เน็ตพอสมควรนะครับ.. เราต้องมองออกว่า เว็บนี้ ต้องการอะไร แล้วเราจะได้อะไร ชั่งใจดู อ่านเกมส์ให้ขาด.. ผมว่ามันก็เหมือนกับการทำงานด้านนอกนี้แหละ เพียงแต่ว่าการทำงานด้านนอก ส่วนใหญ่เราจะทำงานกับบริษัทมากกว่าถูกมั้ยครับ

ส่วนการทำงานทางเน็ต เหมือนกับเราทำธุรกิจ ซึ่งมันก็มีความเสี่ยงเหมือนกับการทำธุรกิจด้านนอก เพียงแค่เปลี่ยนจากกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือ มาเป็นเลขฐานสอง แค่นั้นเอง  ::)

 ;Dเป็นไปได้ยากครับ เพราะผมรับทำบัตรเครดิตอยู่ ข้อมูลลูกค้า แค่ชื่อ และที่อยู่ไม่พอครับ ต้องใช้เอกสารต่างๆประกอบการสมัครด้วยครับ
เช่น 1. บัตรผู้เสียภาษี กรณีที่เงินเดือน 15,000 up
     2. บัญชีธนาคาร
      3.   สำเนาทะเบรยนบ้าน - บัตรปรชาชน

 ส่วนพวกมิชฉาชีพ ที่มันต้องการจริงๆ คือ เลขบัตรเครติด 16 หลัก และรหัส ccv 3 ตัวหลังบัตรครับ
เพราะ รหัส ccv3 ตัว นี้ก็เหมือนรหัสกดเงินที่ atm  ครับ แต่ รหัส ccv3 ตัว หลังบัตร ใช้ชำระสินค้า - บริการ ออนไลน์ครับ   

เห็นด้วยครับ กรณีของนาย B  ผมเองก็มีความเห็นว่าโยนความผิดให้การหาเงินทางอินเตอร์เน็ต ผมเลยต้องมาเรียกร้องความเป็นธรรม (จะว่าเจือก ก็ยอม)  เลยอยากมาขอความคิดเห็นท่านอื่นๆ งัยครับ

สมมุติที่ 1  เอาข้อมูลของเราไปทำบัตรเครดิต  ผมว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ เหตุผลตามท่าน dezing  ว่า
สมมุติที่ 2  หากนาย B  มีบัตรเครดิตอยูแ้ล้ว ถูกล่อลวงให้ให้แจ้งรหัส   แล้วมีคนแอบเอาไปใช้
             แล้วมีการทวงหนี้แบบรุ่นแรงเกิดขึ้น  ถึงขั้นต้องหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน  อันนี้ก็น่าสงสัย
             มีบัตรเครดิตที่ไหนทวงรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกาย  อย่างมากก็หนังสือทวงถามจากทนายมั่ง ตำรวจ(เลวๆ บางคน)
             รับจ้างทวงหนี้ตามขู่บ้าง ว่าจะจับติดคุก  ที่เห็นทวงกันถึงขั้นทำร้ายร่างกายก็มีแต่ทวงหนี้การพนันต่าง ๆ เท่านั้น
สมมุติที่ 3  หากเป็นหนี้โดยไม่ได้ก่อ  แล้วมีคนขู่ หรือทำร้ายจริง  ทำไมไม่หาที่พึ่ง  เช่นแจ้งความ หรือติดต่อบริษัทบัตรเครดิต
             หรือสื่อสารมวลชน  ก็มันเป็นหนี้ที่เราไม่ได้ก่อ หนำซ้ำยังถูกข่มขู่ ทำร้าย
             แต่กลับหนีไปอยู่ระเทศเพื่อนบ้านแทน
สมมุติที่ 4  หากสุดท้ายพึ่งใครไม่ได้  ทำไมไม่จ่ายหนี้นั้นซะ  จะผ่อนจ่าย  หรือกู้มาจ่าย  แทนที่จะเสี่ยงถูกทำร้าย 
             หนีไปก็เสียหน้าที่การงาน  อายุ 35-45 ปี และเป็นข้าราชการเนี่ย เงินเดือนไม่ใช่น้อย
             บำเหน็จบำนาญก็ไม่ใช่น้อย   สวัสดิการก็มี  หนีไปแล้วมีอะไรดีขึ้นมา

ข้อสังเกตุ  เท่าที่เห็นข้าราชการที่หนีออกนอกประเทศ  ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่ทำงานด้านการเงิน  ยักเงินแล้วหอบหนี 
             ส่วนพวกที่เป็นหนี้สาระพัดบัตร  สาระพัดกู้  สินเชื่ออีกบาน   ไม่เห็นมีใครหนีไปไหน  ไม่มี  ไม่หนี  ไม่จ่าย

ผมเห็นว่ามันไม่เป็นธรรม  หากจะมีใครสักคน มีปัญหาด้วยเรื่องใดก็แล้วแต่ ถึงขึ้นอยู่เมืองไทยไม่ได้  แล้วต้องหนีไปต่างประเทศ  แล้วมาโยนความผิดว่า  มาจากการหาเงินทางอินเตอร์เน็ต

ความคิดผม ผมคิดว่าการเป็นหนี้ของบุคคลนั้นน่าจะมาจากการ บริษัทขายตรง บนอินเตอร์เน็ต
ไปไว้ใจระบบมากเกินไป จนเซ็นอะไรไปมากกว่า

การที่เค้าเอาไปสร้างหนี้ ถ้า google cj amazon ผมว่าไม่น่าจะใช่

หากมีคนมาปลุกกระแสว่า ทำกูเกิ้ล ไม่ได้เงินจริงๆหรอก ซัก สิบปีก่อนผมก็จะเชื่อเค้า
แต่วันนี้ การหาเงินออนไลน์มีมากมาย เหลือเกิน แต่เค้าคนนั้นน่าจะไปดูแค่ผลตอบแทน จนเซ็นอะไรโดยไม่ดู

ส่วนมากจะเป็นเรื่องหรอก และหาผมประโยชน์มากกว่า  :D

เอาแบบนี้ ซิครับ ทำอะไรก็ใช้ของฟรีไปก่อน ผมทำ adsense ยังทำฟรีเลย  Hostfree / Subdomain ... แต่ลงแรงนะครับ

ได้เงินมาก็เอามาซื้อ โฮสเพิ่มโดเมนเพิ่ม ... ลองดูนะึีครับ
ผมขอยกตัวอย่างซัก 1เว็บ อย่าง Ziddu ผมเคยทำ ก็ได้ประมาณเดิือน ละ 10 $  แต่พอมาทำเว็บเอง คือทำหน้าเว็บแบบ ZiddU ให้คนไปที่ เว็บเรา แทนที่จะไป ของคนอื่น ได้มาเกือบ 10 เท่า นะครับ แค่เดือนเดียว ยิ่งนานยิ่งเพิ่มครับ แถมยังติด โฆษณาอื่นๆ นอกจาก adsense ได้อีก

ขอเป็นแนวทาง
อาจไม่ใช่สิ่งดีที่สุด แต่ขอให้เกิดประโยชน์แล้วกัน
 8)

ผมว่าอยู่ที่คนทำนะครับ ว่าทำไปแล้วประมาณตนเองหรือเปล่า หากทำแบบค่อยเป็นค่อยไปคงไม่มีปัญหา  ::)

เห็นด้วยครับ อิอิ ผมก็ลองมาหลายวิธีละ แล้วก็ได้รู้มาว่าหาเงินทางเน็ตต้องจับจุดได้ก่อนครับแล้วเงินจะไหลมาเทมา แต่ไม่มีหรอกครับ ไอ้พวกที่ว่าไม่ต้องทำอะไรแล้วได้เงินอ่ะ อยากหาเงินทางเน็ตต้องรู้เกี่ยวกับอะไรหลายอย่าง แล้วต้องลองมันทุกอย่างจะได้รู้จริงครับ อิอิ

อ้าว เพิ่งเห็น  :D

ก็ จริงๆ แล้ว มีโอกาสเหมือนกัน ที่จะโดนหลอกลวง เสียเงินเสียทอง เพราะ ไม่ศึกษาให้ดี คิดแต่เพียงหวังรวยทางลัด และ คิดว่า เงินมาเร็วจริง เกิดการโลภ ทำโดยไม่นึกถึงความเสี่ยง และ ศึกษา

เสียเงิน หมดเงินกันเยอะแล้วครับ แต่บางคน กว่าจะเริ่มหาเงินได้จริง ก็ต้องผ่านจุดนั้น เป็นการเรียนรู้ กันมาก็มากครับ

อยู่ที่ว่า ใครจะอึด และ ค้นหาเคล็ดลับเจอก่อน

โกง ต้มตุ๋น ไม่ได้เงินจริง

ออกไปทำอาชีพอื่นซะ






 ;D กำจัดคู่แข่งไปได้อีกคน


ผมยังเคยเห็นเว็บลูกค้าคนหนึ่งมาเงียบๆ ซื้อ โฮสติ้งในราคาถูกสุด 9.99 ต่อปี   เปิด Adsense มีคนเข้าประมาณ 1,000 คนต่อวัน คนที่เข้าเว็บมันมากกว่าคนที่เข้าเว็บผมอีก ที่สำคัญมาจาก Google เกือบทั้งนั้น
เนื้อหาเป็นเว็บภาษาจีน อ่านไม่ออกซักตัว :P แต่ก็พอรู้ว่ามันไป Copy จากที่อื่นแล้วแปลเป็นภาษาจีนอีกที

คาดว่าน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 1 เหรียญต่อวัน

จะโดนหลอก ไม่โดนหลอก มันอยู่ที่ สติ ของคนครับ ถ้าไม่โลภมากก่อไม่โดน 8)

ขอบคุณม๊ากมากคับ :'(

ตอนทำ adwords แรก ๆ ด้วยความโลภนั่นแหละ

เล่น bid สุ้เกือบทุก KW เืกือบหมดตัว

 ;D ;D