ThaiSEOBoard.com

อื่นๆ => Cafe => ข้อความที่เริ่มโดย: Lactacyd ที่ 29 กันยายน 2011, 12:36:23



หัวข้อ: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Lactacyd ที่ 29 กันยายน 2011, 12:36:23
ไม่มีอะไรครับ แค่ออกไปซื้อ "มาม่า" มาติดห้องไว้ซักลัง


“สมิทธ” เตือนคนกรุงรับมือ “สตอร์มเซิร์จ” เชื่อน้ำท่วมกว่า 2-3 สัปดาห์ - ขาดน้ำกินน้ำใช้!

สองGuruแนะวิธีรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบพร้อม ระบุคนกรุงเสี่ยงเจอ “สตอร์มเซิร์จ” ชี้ต้องนำเรื่องนี้เป็น “วาระแห่งชาติ” ระบุกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ ยังไม้พ้นวิกฤตเหตุเพราะพายุ 2 ลูกกำลังจ่อคิวเข้ามาถล่มซ้ำ ชี้ปัญหาน้ำท่วมภาคกลางเหตุเพราะการจัดการเรื่องน้ำล้มเหลว ฟันธงวิธีแก้ปัญหาระยะยาวต้องทำ “แก้มลิง” ทั่วทุกภาคของประเทศเท่านั้น
      
       เหตุการณ์น้ำท่วม-ดินถล่มที่ทำเอาคนไทยค่อนประเทศได้รับความลำบากในการดำรงชีพอยู่ในขณะนี้เป็นปัญหาที่หน่วยงานที่รับผิดชอบได้พยายามเข้ามาแก้ไข แต่ปัญหานี้ก็ยังจะเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกในปีต่อๆ ไป
      
       เตือน กทม.จะจมบาดาล
      
       ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ บอกกับ “ผู้จัดการรายสัปดาห์” ว่า มาจนถึงวันนี้ปัญหาภัยพิบัติโดยเฉพาะวิกฤตการณ์น้ำท่วมจะยังคงมีต่อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนเนื่องจากในระยะนี้ไปจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนจะยังคงมีพายุที่คาดว่าจะมีความรุนแรงพัดเข้ามาในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้อย่างต่อเนื่องซึ่งคาดว่าพายุทั้งสองลูกนี้จะมีโอกาสเข้าถล่มกรุงเทพฯ มากที่สุด
      
       “เดือน ต.ค.-พ.ย.นี้เราจะต้องระวังพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มาก เพราะปริมาณน้ำที่จะทะลักเข้ามาจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจุบันเขื่อนที่ใช้กักเก็บน้ำทั่วประเทศมีปริมาณน้ำเกินอัตรากักเก็บแล้ว ซึ่งปัญหานี้เกิดจากการปล่อยปริมาณน้ำที่น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาหนำซ้ำการกักเก็บน้ำในเขื่อนก็กักเก็บมากเกินไป พอปริมาณน้ำในเขื่อนเกินการกักเก็บก็ปล่อยน้ำออกมาพร้อมกัน อย่างนี้ร้อยทั้งร้อยน้ำก็ต้องท่วมแน่นอน”
      
       ที่ผ่านมาได้มีการศึกษาติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติมาโดยตลอด พบว่า ภัยพิบัติที่จะกระทบ กทม.และปริมณฑล มีอยู่ 2 ประเภท คือ ภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว และภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขังซึ่งเกิดจากสภาวะโลกร้อน โดยภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหวเป็นภัยที่รุนแรงและมีผลกระทบต่อมนุษย์จำนวนมาก ทั้งนี้ ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ 13 รอย และจากการศึกษาพบว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ รอยเลื่อนทั้งหมดเกิดรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ซึ่งการเกิดรอยร้าวดังกล่าวทำให้อาคารที่โครงสร้างไม่แข็งแรงใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ มีโอกาสถล่มลงมาได้
      
       อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงในพื้นที่ กทม.อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากรอยเลื่อน 2 รอย คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี หากเกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นมาอีก เชื่อว่าจะส่งผลให้เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์แตก และทำให้น้ำปริมาณกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตรไหลทะลักเข้าสู่ จ.ราชบุรี จ.นครปฐม และ กทม.
      
       สำหรับภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขังเนื่องจากสภาวะโลกร้อนขึ้นนั้น จากสถิติไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าพายุที่เกิดในมหาสมุทรอินเดียจะมีแรงลมสูงมากถึงขนาดเป็นไซโคลน แต่ตอนนี้เกิดขึ้นแล้ว คือ พายุไซโคลนนาร์กีส ซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อขึ้นฝั่งในลุ่มน้ำอิระวดีในพม่า แรงลมสูงสุดถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความรุนแรงถึงระดับ 4 ซึ่งในอนาคตโอกาสที่เราอาจจะประสบกับพายุที่รุนแรงอย่างนี้ได้อีก
      
      “ขอทำนายว่า ในเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีพายุขนาดใหญ่พัดถล่มประเทศไทย ทางด้านอ่าวไทย ไล่ตั้งแต่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.เพชรบุรี เพราะช่วงดังกล่าวเป็นช่วงฤดูฝน อยู่ระหว่างช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าประเทศไทย จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าช่วงดังกล่าวมีพายุพัดถล่มประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง อย่างเช่น พายุไต้ฝุ่นเกย์ พายุไต้ฝุ่นลินดา ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนก็เกิดขึ้นในช่วงนี้ซึ่งอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์สตอร์มเซิร์จ (Storm Surge) หรือน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะทำให้น้ำทะเลไหลเข้ามาถึงบริเวณปากอ่าวเจ้าพระยา และเข้าท่วมพื้นที่ กทม. โดยกว่าจะไหลย้อนกลับสู่ทะเลต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 สัปดาห์ และหากท่วมเหนือคลองประปา จะทำให้ประชาชนไม่มีน้ำในการอุปโภคบริโภค”
      
       ทุกภาคทำ “แก้มลิง”
       ช่วยแก้ปัญหาระยะยาว
      
       สำหรับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในระยะยาว อย่างเช่นน้ำท่วมขังบริเวณภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง ทุกจังหวัดควรจะลงมือทำแก้มลิงตามโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้พร้อมๆ กันทุกพื้นที่ เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมแล้วยังสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งได้ ซึ่งหากทุกจังหวัดนำเอาพื้นที่ที่ว่างเปล่า ห้วย คลอง บึง จัดการขุดลอกให้ลึกลงไป 3 เมตรจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน
      
       “ตัวอย่างบึงบอระเพ็ดน่าจะมีการขุดลอกในหน้าแล้งเพื่อในหน้าฝนจะสามารถรองรับปริมาณน้ำได้มาก ช่วยให้น้ำท่วมขังน้อยหรือบางพื้นที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ แต่ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ริเริ่มโครงการและดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะจะมาหวังว่าจะสร้างเขื่อนเพิ่มเติมคงจะทำไม่ได้และไม่ทันกับการแก้ไขปัญหา ที่สำคัญการทำโครงการแก้มลิงใช้งบประมาณน้อยกว่าการสร้างเขื่อน และไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนด้วย”
      
       แนะรัฐต้องบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ
      
       “ปัญหาภัยพิบัติซึ่งมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกๆ ปีนี้เป็นปัญหาสำคัญมากและต้องแก้ไขกันแบบจริงจัง เพราะเมื่อถึงเวลาหน้าฝนน้ำจะท่วมขังในหลายพื้นที่อย่างที่เราเห็นกันอยู่ และรัฐบาลรวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดการกับปัญหาน้ำมากมายมหาศาลโดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้าไม่ได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เราต้องยอมรับว่ามีการบริหารจัดการน้ำอย่างไม่ถูกต้องและไม่มีการวางแผนกันไว้ล่วงหน้า พอเกิดเหตุการณ์แล้วมาบอกว่าจะไม่ให้น้ำท่วมที่นั่นที่นี่บอกตรงๆ ว่ามันเป็นไปไม่ได้” ปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทานบอก และว่า เราต้องทำการศึกษาสภาพภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ให้เป็นระบบแล้วนำมากางช่วยกันแก้ปัญหาในระยะยาว เพราะที่ผ่านมาพอน้ำท่วมทีก็หารือกันที พอน้ำลดทุกคนก็ลืมแล้ว แผนการที่วางไว้ในปีก่อนก็ถูกเก็บในลิ้นชักเช่นเดิม
      
       สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยาวนั้นได้เคยเสนอไปแล้ว 2 รูปแบบ แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนนำไปทำ คือ การต่อสู้กับน้ำ ซึ่งเราจะต้องดูพื้นที่ที่สามารถแก้ไขได้ อย่างเช่นพื้นที่ กทม.แก้มาจนสามารถพูดได้ว่าแก้ได้ดี แต่ในพื้นที่ภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มเป็นจุดรองรับน้ำจากภาคเหนือ เป็นแอ่งกระทะขนาดใหญ่ เมื่อเราสู้ไม่ได้เราก็ต้องถอย เช่น อพยพชาวบ้านที่ไปตั้งถิ่นฐานขวางทางน้ำออกไปอยู่ในพื้นที่ไม่เสี่ยง เพราะแม้จะมีการเตรียมการอย่างดี แต่เวลาน้ำหลากก็ต้องอพยพหนีบางคนสูญเสียทรัพย์สินถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว ฉะนั้นแล้วหากต้องการจะแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ รัฐบาลจะต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านแล้วหาพื้นที่ที่ปลอดภัยทดแทน
      
       ในระดับที่สอง เราต้องสอนให้ประชาชนรู้จักปรับตัวให้เข้ากับภัยพิบัติ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางในทุกจังหวัด เมื่อหน้าฝนจะประสบปัญหาน้ำท่วมแต่ถ้าเรารู้จักปรับสภาพ เช่น การทำนา หน้าแล้งก็ควรปรับพื้นที่ใพาะปลูกให้สูงขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำคู คลองที่สามารถระบายน้ำออกไปสู่พื้นที่ลุ่มอื่นๆ ซึ่งลักษณะนี้จะเหมือนการทำแก้มลิงแต่เป็นแก้มลิงที่สามารถเพาะปลูกได้ด้วย
      
       “หากรัฐบาลไม่จัดทำโครงการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ เชื่อว่าเมืองไทยเราจะประสบปัญหาน้ำท่วม แผ่นดินทรุดอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ และคาดว่าในปีต่อๆ ไปจังหวัดในแถบภาคกลางทั้งหมด จังหวัดในภาคอีส่าน เช่น อุบลราชธานี ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ก็ยังคงประสบปัญหานี้ไม่รู้จักจบสิ้น และอาจจะรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” อดีตอธิบดีกรมชลประทานกล่าวสรุป

hปปp://manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9540000123762


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: d2i ที่ 29 กันยายน 2011, 12:42:38
โอ้โห  :P


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: businessman ที่ 29 กันยายน 2011, 12:45:44
ออกไปซื้อด้วยคน คอนโดเราอยู่ที่สูงยังไงก็ไม่ท่วม :wanwan019:


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวกระเพราหมู ที่ 29 กันยายน 2011, 12:45:57
 :-[ :-[ หิวมาม่า


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 9inepiek ที่ 29 กันยายน 2011, 12:47:08
หิวมาม่า


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mooyongster ที่ 29 กันยายน 2011, 12:50:27
กินด้วย


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวกระเพราหมู ที่ 29 กันยายน 2011, 12:52:21
ออกไปซื้อด้วยคน คอนโดเราอยู่ที่สูงยังไงก็ไม่ท่วม :wanwan019:
น้ำไม่ทวม แต่แผ่นดินไหว ท่านจะทำยังไง :wanwan016:


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: businessman ที่ 29 กันยายน 2011, 13:02:35
ออกไปซื้อด้วยคน คอนโดเราอยู่ที่สูงยังไงก็ไม่ท่วม :wanwan019:
น้ำไม่ทวม แต่แผ่นดินไหว ท่านจะทำยังไง :wanwan016:
เออลืมคิด :wanwan012:แต่ไม่เป็นไรถ้าเกิดแผ่นดินไหวแรงๆในกรุงเทพอยู่ตรงไหนก็ตายห :wanwan035:ขนาดญี่ปุ่นยังหนัก :wanwan009:


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MR.chk ที่ 29 กันยายน 2011, 13:21:17
กินด้วยคน


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: UnLock UnlimiT ที่ 29 กันยายน 2011, 13:22:17
อีตา สมิทธ  ที่ชอบแช่งประเทศ  อีกแล้วหรอ


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Dj.wayne_Gum ที่ 29 กันยายน 2011, 13:27:15
อ่านข่าวไทยรัฐออนไลน์มา
#www.thairath.co.th/content/edu/205324
โดนเต็ม ๆ บ้านผม


หัวข้อ: Re: ผมออกไปซื้อ "มาม่า" ก่อนนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tingaim ที่ 29 กันยายน 2011, 13:28:21
น่ากลัวจริงๆ ครับ
ขอบคุณที่มาส่งข่าวครับ  :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017: