หัวข้อ: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: gam_55 ที่ 01 ตุลาคม 2010, 15:32:53 ในปัจจุบันมีคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษที่คนไทยใช้กันจนติดปากอยู่มากมาย แต่คุณเคยรู้ไหมว่ามีบางคำที่ฝรั่งเค้าไม่ได้ใช้อย่างที่เราพูดกันติดปาก ผมจึงเสนอคำศัพท์สัก 10 ตัวอย่างที่คนไทยมักใช้อย่างผิดๆพร้อมทั้งคำที่ถูกต้องซึ่งคุณควรนำไปใช้ เวลาคุยกับฝรั่ง เริ่มเลยแล้วกันครับ
1) อินเทรนด์ (in trend) คำนี้อินเทรนด์มากๆ เอ๊ย...ฮิตมากๆ ในปัจจุบัน สามารถได้ยินตามรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ทั่วไป เพราะใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง เช่น เด็กสมัยนี้ถ้าจะให้อินเทรนด์ต้องตามแฟชั่นเกาหลี ซึ่งบางทีเวลาคุณต้องการพูดว่า 'มันทันสมัย' คุณอาจจะติดปากว่า 'It is in trend.' คำว่า 'ทันสมัย' ฝรั่งเค้าไม่ใช้คำว่า 'in trend' อย่างคนไทยหรอกครับ เค้าจะใช้คำว่า 'trendy' หรือ 'fashionable' ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ที่คุณสามารถวางไว้หน้าคำนามที่ต้องการขยาย เช่น a trendy haircut ทรงผมที่ทันสมัย, a fashionable restaurant ร้านอาหารที่ทันสมัย หรือจะไว้หลัง verb to be เช่น It is trendy. หรือ It is fashionable. ก็ได้ 2) เว่อร์ (over) เช่น ใยคนนั้นทำอะไรเว่อร์ๆ She is over. ไม่มีความหมายแต่อย่างใดในภาษาอังกฤษ ฝรั่งที่ได้ยินคุณพูดเช่นนี้ คงมึนตึบ พร้อมทำสีหน้างงว่ามันหมายถึงอะไรเหรอ? พูดถึงคำนี้ คนไทยน่าจะหมายถึงการพูดเกินจริงหรือทำเกินจริง ซึ่งถ้าพูดเกินจริง ควรจะใช้คำศัพท์ที่ว่า 'exaggerate' เป็นคำกิริยา อ่านว่า เอก-แซ้ก-เจ่อ-เรท เช่น 'He said you walked 30 miles.' เค้าบอกว่าคุณเดินตั้ง 30 ไมล์ 'No - he's exaggerating. It was only about 15.' ไม่หรอก เค้าพูดเว่อร์ (เกินจริง) มันก็แค่ 15 ไมล์เอง ดัง นั้น ถ้าจะบอกว่า เธอพูดเว่อร์น่ะ ก็บอกว่า You're exaggerating. หรือจะบอกเค้าว่า อย่าพูดเว่อร์ๆ น่ะ อาจใช้ว่า Don't exaggerate. ส่วนอาการเว่อร์อีกแบบคือการทำเกินจริง เราจะใช้คำกิริยาที่ว่า 'overact' เช่น You're overacting. เธอทำเว่อร์เกิน (แสดงอารมณ์เกินจริง) 3) ดูหนัง soundtrack เวลาคุณจะบอกใครว่า ฉันต้องการดูหนังฝรั่งที่พากย์ภาษาอังกฤษ อย่าพูดว่า 'I want to watch a soundtrack film.' แต่ควรจะใช้ว่า 'I want to watch an English film.' เพราะความหมายของคำว่า 'soundtrack' คือ ดนตรีที่อยู่ในภาพยนตร์ ต่างหากล่ะครับ ถ้าเราจะพูดถึงหนังฝรั่งที่พากย์เสียงภาษาไทย เราต้องบอกว่า 'I want to watch an English film that is dubbed into Thai.' เพราะคำกิริยาว่า 'dub' คือพากย์เสียงจากต้นแบบในหนังหรือรายการโทรทัศน์ไปเป็นภาษาอื่น ส่วน หนังที่มีคำบรรยายใต้ภาพเราเรียกว่า 'a subtitled film' ซึ่งคำบรรยายที่อยู่ใต้ภาพ เราเรียกว่า 'subtitles' (ต้องมี s ต่อท้ายเสมอนะครับ) เช่น a French film with English subtitles หนังฝรั่งเศสที่มีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาอังกฤษ หนังบางเรื่องจะมี คำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาเดียวกับที่นักแสดงพูด เรามีศัพท์เรียกเฉพาะว่า 'closed-captioned films/คำหวงห้าม/television programs' หรือ อาจเขียนย่อๆ ว่า 'CC' เช่น You should watch a closed-captioned film to improve your English. คุณควรจะดูหนังฝรั่งที่มีคำบรรยายภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ 4) นักศึกษาปี 1 คนไทยมักเรียกว่า 'freshy' ซึ่งฝรั่งไม่รู้เรื่องหรอกครับ เพราะไม่มีการบัญญัติศัพท์คำนี้ในภาษาอังกฤษ เค้าจะใช้คำว่า 'fresher' หรือ 'freshman' เช่น He is a fresher. หรือ He is a freshman. หรือ He is a first-year student. เขาเป็นนักศึกษาปี 1 ส่วนปีอื่นๆ คนไทยเรียกถูกแล้วครับ คือ ปี 2 เราเรียก a sophomore, ปี 3 เรียกว่า a junior และ ปี 4 เรียกว่า a senior 5) อัดหรือบันทึก คนไทยมักพูดทับศัพท์ว่า เร็คคอร์ด (record) คำๆ นี้สามารถเป็นได้ทั้งคำนามและคำกิริยา เพียงแค่เปลี่ยนตำแหน่ง stress กล่าวคือ ถ้าจะใช้เป็นคำนามที่แปลว่า แผ่นเสียงหรือสถิติ ให้ขึ้นเสียงสูงที่พยางค์แรก คือ 'เร็ค-คอร์ด' เช่น He wants to buy a record. เขาต้องการซื้อแผ่นเสียง, I broke my own record. ฉันทำลายสถิติของฉันเอง แต่ถ้าคุณจะหมายถึงคำกิริยาที่แปลว่า อัดหรือบันทึก ต้อง stress พยางค์หลัง ซึ่งจะอ่านว่า 'รี-คอร์ด' เช่น I'll record the film and we can all watch it later. ฉันจะอัดหนัง เราจะได้เก็บไว้ดูทีหลังได้ ส่วนเครื่องบันทึก เราเรียกว่า 'recorder' อ่านว่า รี-คอร์-เดอร์ 6) ต่างคนต่างจ่าย เรามักใช้ American share รับรองว่าฝรั่ง(ต่อให้เป็นชาวอเมริกันด้วยครับ) ได้ยินแล้ว งงแน่นอน ถ้าคุณจะหมายถึงต่างคนต่างจ่ายให้ใช้ว่า 'Let's go Dutch.' หรือ 'Go Dutch (with somebody).' อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นธรรมเนียมของชาวดัตช์หรือเปล่า? ที่ต่างคนต่างจ่ายเลยมีสำนวนอย่างนี้ หรือคุณอาจจะบอกตรงๆ เลยว่า 'You pay for yourself.' คือเป็นอันรู้กันว่าต่างคนต่างจ่าย แต่ถ้าคุณต้องการเป็นเจ้ามือ(ไม่ใช่เล่นไพ่นะครับ)เลี้ยงมื้อนี้เอง คุณควรพูดว่า 'It's my treat this time.' หรือ 'My treat.' หรือ 'It's on me.' หรือ 'All is on me.' หรือ 'I'll pay for you this time.' ทั้งหมดแปลว่า มื้อนี้ฉันจ่ายเอง ส่วนถ้าจะบอกเพื่อนว่า คราวหน้าแกค่อยเลี้ยงฉันคืน ให้บอกว่า 'It's your treat next time.' 7) ขอฉันแจม (jam) ด้วยคน ในกรณีนี้คำว่า 'แจม' น่าจะหมายถึง 'ร่วมด้วย' เช่น We are going to eat outside. Do you want to jam? เรากำลังจะออกไปกินข้าวข้างนอก เธอจะไปด้วยมั้ย? ในภาษาอังกฤษไม่ใช้คำว่า jam ในกรณีแบบนี้ ซึ่งควรจะใช้ว่า 'Do you want to join us?', 'Do you want to come with us?' หรือ 'Do you want to come along?' จะดีกว่าครับ เจ๋ง เขามีแบ็ค (back) ดี 'He has a good back.' ฝรั่งคงงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับข้างหลังของเค้า เพราะ back แปลว่า หลัง (อวัยวะ) แต่คุณกำลังจะพูดถึงมีคนคอยสนับสนุน ซึ่งต้องใช้ 'a backup' ซึ่งหมายถึง คนหรือสิ่งของที่ช่วยสนับสนุน ช่วยเหลือ เกื้อกูล เป็นกำลังใจให้ ที่มา http://www.netdesignboard.com/index.php?topic=919.0 หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: จอห๋น ชาวไร่ ที่ 01 ตุลาคม 2010, 15:45:02 ขอบคุณครับ :wanwan017: ใช้ผิดไปบ่อยๆ
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: doctorkarn ที่ 01 ตุลาคม 2010, 15:48:52 สุดยอดครับ :wanwan003:
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: bubbleball ที่ 01 ตุลาคม 2010, 15:51:59 ส่วนใหญ่ที่ผิดก็เพราะ คิดไทยแปลอังกฤษ
แต่ยังไงผมว่า เอาภาษาไทยให้รอดก่อนก็ดี ;D หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: tumtac ที่ 01 ตุลาคม 2010, 15:55:37 +1 ให้แล้วครับ
แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไร เพราะไม่ค่อยไปแชร์กะใครครับ หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: MaxKrub ที่ 01 ตุลาคม 2010, 15:58:09 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: two49 ที่ 01 ตุลาคม 2010, 16:10:00 :wanwan017:ขอบคุณณณ
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: jubajuba ที่ 01 ตุลาคม 2010, 16:17:33 ความรู้ครับ ขอบคุณครับ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: OES ที่ 01 ตุลาคม 2010, 16:17:59 แจ่ม :wanwan013:
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: cocojazz ที่ 01 ตุลาคม 2010, 16:49:31 แท็งหลายหลาย เดํอ
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: NeoWeb ที่ 01 ตุลาคม 2010, 16:56:56 ขอเสริมอีกคำนึงคือ
Blackmail อ่านว่า "แบลค เมล" ไม่ใช่ "แบลค เม" หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: ColdMoney ที่ 01 ตุลาคม 2010, 16:58:05 เจอ same same บ่อยมาก :wanwan019:
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: numnha ที่ 01 ตุลาคม 2010, 17:02:02 ได้ความรู็เพิ่มเติมอีกครับ
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: Horakung ที่ 01 ตุลาคม 2010, 17:09:16 แย่ละ -_- ใช้บ่อยหลายคำเลยเรา
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: 지원합니다. ที่ 01 ตุลาคม 2010, 17:21:17 This is aa book. :wanwan002:
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: gam_55 ที่ 02 ตุลาคม 2010, 00:44:44 'freshy' คนเข้าใจผิดเยอะค่ะ :wanwan012:
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: brownberry ที่ 02 ตุลาคม 2010, 00:56:42 sad แสดดดดดดด คำนี้ก็เข้าใจผิดครับ555+ :wanwan019: :P
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: Pookieman ที่ 02 ตุลาคม 2010, 01:06:19 ขอบคุณครับ :-X
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: HARRY ที่ 02 ตุลาคม 2010, 01:09:34 +1 อ่านแล้วได้ความรู้ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: linkinshot ที่ 02 ตุลาคม 2010, 01:18:51 :-[ ผิดหลายทีแล้วค๊าบบ ต้องปริ้นมาท่องเลยนะเนี่ย
+ เอาไปสอนนักเรียนได้เลยนะเนี่ย ^^ แจ่มๆ ขอบคุณครับ :wanwan017: หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: มายองเนสจัง ที่ 02 ตุลาคม 2010, 01:20:53 ไม่มี " ฮอลแพะ " หรอคะ :-[
หัวข้อ: Re: ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย เริ่มหัวข้อโดย: nateteam ที่ 02 ตุลาคม 2010, 01:38:34 เข้าใจมาหน่อยล่ะ :P
|