ThaiSEOBoard.com

เช่าโฮส จดโดเมนไม่เอาน่ะครับ

*ที่ผมคิดไว้ประมาณว่าอาจจะเป็นหุ้นส่วนหรือเปิดเองเลยคนเดียว

- ร้าน Internet
- ร้านเหล้าเล็กๆ
- หุ้นเปิดเช่าสนามฟุตซอล หญ้าเทียม
- เล่นหุ้น / เก็งกำไรทองคำ
- เปิดร้านกาแฟ / ร้านนมสด

 :wanwan044: คิดไม่ออกและครับ เม็ดเงิน 2 แสน บาท จะต่อยอดทำกิจการเล็กๆอะไรดี

เพื่อนๆ มีไอเดีย อะไรกันบ้างครับ


ขอบคุณครับ

ร้านอินเตอร์เน็ต 2แสน น่าจะยังไม่พอน่ะครับ ตอนเพื่อนผมเปิดร้านห้องเดียว 20เครื่องหมดไป 4แสนรวมค่าตกแต่ง ค่าติดตั้งระบบ

เล่นหุ้นถ้าจำไม่ผิดต้องมีเงินเย็นในธนาคาร 5แสนมั้งครับ (เคยคิดจะเล่นแล้วไปหาข้อมูลแต่ลืมไปแล้ว)

เก็งทอง อย่าไปรอเก็งเลยครับ เงินสองแสนไม่ค่อยเห็นกำไร

ร้านเหล้าเล็กๆ ร้านกาแฟ ร้านนมสด แสนเดียวก็เปิดได้สบายๆเลยครับ

เป็นผม ผมเลือกลงทุนแสนเดียวเปิดอย่างหลังก่อนดีกว่า

ถ้ามันคืนทุน+มั่นคงแล้วค่อยเอาทุนก้อนเดิมไปต่อยอด
 

ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ  เท๋วผับ เท๋วบาร์  แล้วที่เหลือเก็บไว้ใช้  :wanwan020:

ร้านเหล้าครับ หาทำเลใกล้มหาลัย  รอรับเงินแน่ๆ

...........เกี่ยวมั้ยเนี่ย

เอิ๊กๆๆ :wanwan004: :wanwan004:

เปิดร้านกาแฟที่เป็นซุ้ม แต่ต้องมีทำเลดีๆอะครับ ถาเวิร์คค่อยต่อยอดเพิ่ม

เล่นหุ้น บ้านปู หุหุ

-เล่นหุ้นหลักพันก็เล่นได้ครับ เทรดทางเนท สมัยนี้ ไม่มีขั้นต่ำ แต่มือใหม่ กะเข้าไปลงทุนมันจะกลายไปเสียทุน นะครับ
-เก็งทอง อึดมากครับ เสียเวลา หวังผลตอบแทน5เท่า แบบเมื่อก่อนคือ  จาก4พันมาหมื่นแปดใน10กว่าปี มันไม่มีอีกแล้ว
ต้องบอกรายละเอียดด้วยว่า สองแสนเป็นเงินเย็นหรือไม่ประมาณทิ้งลืมได้เลย และ คาดผลตอบแทนไว้ประมาณเท่าไหร่

ผมมองว่า ถนัดอะไร และ ชอบอะไร มากกว่านะครับแล้วก็ทำในสิ่งที่ชอบ ส่วนมากจะไปได้ดีครับ เพราะหากเราทำในส่ิงที่ถนัดและชอบ เมื่อมีปัญหาเราจะหาวิธีแก้ไขมันจนได้ครับ อันนี้พูดจากประสบการ และเมื่อเจอสิ่งที่ชอบแล้วลองศึกษาตลาดดูว่าความเป็นไปได้มากน้อยแค่น้อยแค่ไหน หมายเหตุสิ่งที่ชอบอาจ มี อันดับ 1,2,3 นะครับ ก็คงบอกได้เท่านี้ล่ะครับ บางอย่างดี แต่หากเราไม่ถนัดไม่ชอบก็อาจไม่ดีสำหรับเราได้เช่นกันครับ

- ร้าน Internet ไม่พอแน่นอน ค่าลิขสิทธิ์ ค่าต๋งอีก
- ร้านเหล้าเล็กๆ มีค่าต๋งกับค่าแต่งร้านพอหรือ?
- หุ้นเปิดเช่าสนามฟุตซอล หญ้าเทียม อันนี้ม่ายรู้
- เล่นหุ้น / เก็งกำไรทองคำ ถ้ามั่นใจว่าเล่นเป็นต้องลองดู แนะนำให้ลองเล่นในเกมดูก่อน
- เปิดร้านกาแฟ / ร้านนมสด โนคอมเม้นท์

สรุปให้ฟังว่า การลงทุน ยังไงก็ต้องมีความเสี่ยง

ทำอะไรที่เรามีความรู้ความสามารถ และวิเคราะห์แล้วว่าจะทำกำไรแน่นอน

ปล. ไปหาหนังสือเริ่มต้นธุรกิจมาอ่านก่อนเถอะครับ
ไม่งั้น ทำไปแบบไม่วางแผน มีสิทธิ์ 200000 ---> 0

ผมว่า หาซื้อเว็บ ที่ทำรายได้ รวมกัน วันละ 10-15 เหรียญ  ยังมีเงินเหลือ นะครับ   ทำอย่างอื่น 2 แสน กว่าจะคืนทุน  ต้องลงแรงลงเวลา ซื้อเว็บคุณภาพซักเว็บ ทำดี ๆ อยู่ได้ นาน ๆ ไม่เหนือ่ยด้วย ผมคิดของผมงี้นะ ถ้าผมมี 2 แสน

เอามาให้ผม  :wanwan004:

ล้อเล่นครับ

ร้านเหล้าครับ อิอิ

แต่ทุนไม่น่าพอนะ

ร้านเนต สัก 10-12 เครื่อง แล้วค่อยๆขยายครับ หาทำเลดีๆหน่อย แต่งร้านสวยๆ คนเล่นเอาบรรยากาศ ชั่วโมง 15 ได้ครับ 10 พวกเด็กมาเล่นวุ่นวายครับ  :wanwan012:

แนะนำทางรวยให้อีกอย่างครับ

เปิดบอทขายเงิน M รวยแน่นอน ลงทุนไม่ถึง5หมื่น

เสียดายเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนทำบอทแล้ว  :'(

เปิดร้านขายอาหารญี่ปุ่นครับ ราเม็ง สุกี้ บุฟเฟ่ต์ ประมาณนี้แหละน่าสนใจดี หรือไม่ก็โปรดักพวกหยอดเหรียญอะครับ ตู้น้ำ เครื่องซักผ้า น่าจะรายได้ดีนะ

ร้านเน็ตมันหมดยุคทอง แล้วมั๊งคะเราว่าอะ
 :wanwan022:

High Risk, High Return.   ธุรกิจที่กล่าวมาต่างๆ ผมว่ามันเข้าช่วง maturity ทั้งนั้นเลยนะครับ  ลองใจเย็นๆ เดินเล่นหรือไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แล้วค่อยคิดก็ได้ครับ   หรือทำอีคอมเมิร์ซส่งออกก็ดีครับ  :wanwan013:

ร้านเนทเลิกคิดเถอะ ผมทำมา5ปีจนเลิกมาไม่คิดจะกลับไปทำอีกแล้ว
ไปไหนแทบไม่ได้ พอทำท่าจะรุ่งเดี่ยวก้มีคู่แข่งมาช่วยแชร์รายได้ :wanwan031:

ร้านเนทรุ่นสมัยเดียวกับที่ผมทำตอนนี้เลิกทำกันไปเกือบหมดแล้วเหลือแต่พวกใจรักจริงๆที่ยังเปิดอยู่ไม่ถึง 4-5 คนเองครับ

ร้านกาแฟก้เยอะเกินไปเคยเปิดแล้วเจ๊งเรียบร้อยแล้ว

หาไอเดียใหม่ๆมาลองทำดีกว่าครับ เดี๋ยวช่วยคิดเพราะกำลังจะหาอาชีพใหม่เช่นกัน :-[

 :wanwan044: ฝาก BANK ไว้ก่อนดีมั้ย โอกาสการลงทุนยังไม่มี ณ ตอนนี้  :-[

คุณโซวเตือนแล้วไม่ใช่รึครับ  ว่าถ้าเจอเขียนทำนองนี้อีก  จะแบนถาวร
ขนาดคุณโซวออกมาเตือนด้วยตัวเองแล้วนะครับ

เศรษฐกิจ การเมือง ยังไม่นิ่ง อย่าเพิ่งเสี่ยงเลยครับ

ซื้อหุ้น พลังงานเลยครับ ยังไงก็รวยยยยยยยยยยย เพราะขนาดบาทแข็งยังจะขึ้นราคาได้ น้ำมันโลกลดก็ยังขึ้นราคาได้  :(
------------------------------------------------------------------

ข่าวร้ายเบนซินจ่อปรับขึ้นราคา หลังค่าการตลาดต่ำเหลือเพียง 1.30 บาท/ลิตร "มนูญ" แนะจับตาทิศทางราคาน้ำมันโลก ด้าน ธพ.ปลื้ม ยอดใช้แก๊สโซฮอล์พุ่ง 10%
       
       นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวถึงแนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันในขณะนี้ โดยระบุว่า ยังคงอยู่ในระดับทรงตัวเพราะเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น พร้อมแนะจับตาสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในช่วง 1-2 วันนี้ก่อนว่าจะมีการปรับขึ้นหรือไม่ หากมีการปรับขึ้นก็อาจจะมีการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศ โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินเพราะค่าการตลาดน้ำมันเบนซินอยู่ในระดับต่ำเพียง 1.30 บาทต่อลิตรเท่านั้น
       
       รายงานข่าวจากกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) แจ้งยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเดือน สิงหาคม 2553 ยอดการใช้น้ำมันเบนซินภาพรวมอยู่ที่ 20.041 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนก่อน 2.4% ที่มียอดการใช้อยู่ที่ 20.537 ล้านลิตรต่อวัน
       
       นายพีรพล สาครินทร์ อธิบดี ธพ. ยอมรับว่า ยอดรวมการใช้น้ำมันในเดือนสิงหาคม 2553 มีการปรับลดลงเล็กน้อย ประมาณ 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อน ซึ่งถือว่าเป็นไปตามฤดูกาลเนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงหน้าฝนที่มีปกติการใช้ น้ำมันจะลดลงอยู่แล้ว
       
       ทั้งนี้ คาดว่ายอดการใช้น้ำมันจะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือน พฤศจิกายน-มกราคม ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวและเป็นช่วงที่ผลผลิตทางการเกษตรเริ่มออก แต่ในส่วนของยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 และอี85 กลับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะยอดใช้แก๊สโซฮฮล์ อี85 มียอดการใช้อยู่ที่วันละ 6.1 พันลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 10% ส่วนของแก๊สโซฮอล์ อี20 มีการปรับขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย 0.3% มาอยู่ที่วันละ 3.82 แสนลิตรต่อวัน

200,000 บาท ซื้อโดเมนซัก500ชื่อ แล้วมาปั่นเว็บ :P

ปล.เปิดร้านกาแฟเล็กๆครับ ลงทุนน้อยสุดแล้วขายได้เรื่อยๆ แต่ทั้งนี้ต้องดูทำเลด้วยครับ

ชราภาพกันไปเลยครับท่านกว่าจะได้ตังค์  :wanwan019:

ไก่ย่างห้าดาว แล้วจ้างคนมาขาย  :wanwan019:

เคยไปดูมากำไรตัวละ 20 บาทได้มั้ง ทำเลดีๆก็รุ่งได้นะ แต่ถ้าจ้างคนมาขายก็อาจจะหนักหน่อย

หุ้นเปิดเช่าสนามฟุตซอล หญ้าเทียม ก็ดีนะผมว่า ดูแล้วถ้าบอลลีกในไทยยังบูมได้เรื่อยๆ เราเริ่มทำก่อนน่าจะได้เปรียบ
ดูจากรูปแล้วน่าจะชอบเตะบอล ทำสิ่งที่เรารักผมว่าเราจะอยู่กับมันได้นาน และทำได้ดีนะครับ

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

เอาไปแต่งงาน
หาแฟน
มีลูก
ส่งลูกเรียน
จบหมอฟัน
เปิดร้านทำฟัน
เรารวยแน่ครับตอนนั้น

ตามนั้น

ไม่เจอของจริงไม่รู้สึกสินะ

ที่ว่ามา อะไรก็น่าลอง แต่ถ้าร้านเน็ตผมว่าอย่าเลย

ผมเคยเปิดมาแล้วคับ เหนื่อย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต(2เส้นอย่างต่ำ) ค่าจ้าง ค่าเช่า รายจ่ายมันคงที่ แต่รายได้มันแล้วแต่วันนะคับ

ยิ่งถ้าต้องเช่าที่ จ้างเด็ก เหลือเดือนๆหนึ่งไม่เท่าไหร่ คู่แข่งอีก เน็ตเดี๋ยวนี้ก็ติดตั้งซะถูกเหลือแสน

เด็กมันก็ติดเล่นกันที่บ้านซะส่วนใหญ่  ลบเรื่องร้านเน็ตออกเลยคับ

สนามหญ้าเทียมน่าสน ที่เชียงใหม่ เช่าชม.ละ 900 บาท

ข้างบ้านผมกิจการดีมาก ผมว่าของเค้าเต็ม ผมจะเปิดมาร้านเนต มารับเพิ่มจากข้างบ้านผมนะครับ
เสียแต่ผมไม่มีคนมาเฝ้าร้าน 24 ชม นี่แระ

เราเปิดแล้วลูกค้าจะหนีมาร้านเรารึป่าวนี่สิ กลัวจะมองหน้ากันไม่ติดมากกว่า

เล่นหุ้นไง ว่างเงินได้พอดี เลยขึ้นต่ำ 200000

เปิดเซฟเวอร์เกมส์ออนไลน์คับ งบ50k ก็เยอะละ

เก็บไว้ดีกว่าคับ ให้ปรวกมันกินเล่นดีกว่า อิอิ

เก็บเงินสดไว้เพื่อฉุกเฉิน จำเป็นต้องใช้จิงๆ เดวยุ่ง ถ้าเอาเงินไปลงทุนหมด

ทำสิ่งที่ชอบสิครับแล้วมันจะออกมาดีเอง ถ้าถามผม ผมแนะนำหุ้นอีกเสียงครับ

สนามบอล หญ้าเทียม ที่เชียงใหม่ คนเตมสนามเลยอะ เล่นกันดึกโคตร  :P

เป็นผม ผมเจะเลือกธุรกิจที่ไม่ต้องดูแล ปล่อยให้เงินจัดการตัวของมันเอง

แต่ก็อยู่ที่คุณว่าเงิน 2 แสนก้อนนี้เป็นก้อนเดียวหรือป่าว หวังผลแค่ไหน

หรือว่า ต้องการแค่ว่า อยากจะลองทำอะไรซักอย่างด้วยเงิน 2 แสน

ลองคิดง่ายๆครับ

วิธีนี้อยุ่ที่มุมมอง + ดวง + ความกล้าเล้กน้อย

มองสิ่งต่างๆรอบตัวให้เข้าใจ มองหาทำเล ทำอะไรก็ได้ครับไม่เกี่ยงเลย

เมื่อได้แล้วก็ทำการ ลงทุนจ้าง สมมุติมองว่าร้าน ได่ย่าง ห้าดาว,ร้านเสื้อผ้า,ร้านรองเท้า,ร้านโจ๊ก

ก้ ลงทุนไป จ้างคนมาขาย [ต้องมองให้ขาดนะครับว่าขายได้] จากนั้นรอมันโต

ระหว่างนั้นเอาเงินที่เหลือไปลงอย่างอื่นต่อครับ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ

พอซักจุดหนึ่ง หลายๆธุรกิจจะลงตัวเราจะไม่ต้องไปดูแลมันเลย ปล่อยให้เงินทำหน้าที่ของมัน

หลักการคือ เมื่อเราเข้าใจสิ่งใดแล้ว ก็เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่ผลกำไรสูงกว่าครับ


ปล.ร้านเนต ไม่แนะนำครับ ยกเว้นร้านเนต ตจว พอได้อยู่

ทำๆ ไปเถอะครับ รักชอบ ผมเปิดบริษัทมีเงินหมื่นเดียวเอง ตอนนี้ก็ ....   :-[
อย่าไปทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ

คิดก่อนดีดี เน้อ
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง(มาก)

ร้านกาแฟครับ เคยถามที่สีลมเขาขายได้ วันละประมาณ 200 แก้ว เดือนนึงก็ได้ ประมาณ 150000 ครับ หยุดเสาร์อาทิตย์นะถ้าไม่หยุดก็ 200000 ขึ้นครับ
แก้ว 35 นะ ถ้ามากกว่านี้ก็อย่างเช่น 40,45 ก็เพิ่มไปอีก จ้างพนักงานสักสองคน หักทุนแล้วเหลือตัวเองก็เดือนละแสนกว่า


ที่สำคัญนะทำเล และรสชาติครับ

ทำให้คนติดก็จะมีรายได้เยอะขึ้นเปิดสาขา 2-3-4-5-6 ได้ครับ

ค่าเช่าที่แถวสีลมแพงมั๊ยอ่ะคะ

อยากเปิดเหมือนกัน อิอิ

ลูกน้องผมเล่าให้ฟัง เค้าไปนั่งคุยมา สถานีศาลาแดง ค่าเช่า 5 หมื่นครับ ร้านกาแฟ เจ้าของแกอยากเลิกจะตาย
ดันไปขายลอยฟ้าสงสัยไม่ work

เห็นด้วยคน น่าจะหยุดได้แล้ว... เพ้อเจ้อมาก...

พี่อยากได้ทราฟริกเร็วๆก็ซื้อเอาครับทำ ppc ใช้ adwords เอาเลย จะจ่ายต่อคนเท่าไหร่


ถ้าจะทำ seo ก็ต้องรู้วิธีการ ไม่ใช่ว่าอยากได้แล้วอันดับจะขึ้นเลย พี่ต้องศึกษาบ้าง


เหมือนมีคนซื้อรถให้แต่ขับรถไม่เป็นจะเอามาทำอะไร

6000 สำหรับที่เล็กๆ ส่วนใหญ่ก็ราคานี้จนถึงหลักหมื่นครับ แต่หาในซอยดีกว่าที่เวลาพนักงานบริษัทไปกินข้าวแล้วเดินกลบัมาซื้อได้ครับ

2 แสน  ซื้อเงินดอลล่าเก็บไว้สิครับ(คุกป่าวหว่า...)

เงินบาทกำลังแข็งรอมันอ่อนค่อยขายครับ(คุกอีกป่าวหว่า...)

 :wanwan022: :wanwan022:



แต่เป็นผมผมชอบฟุตบอลอยากมีสนามเป็นของตัวเองไม่รู้ค่าเช่าค่าทำเท่าไรนี่สิครับ ดูๆอยุเหมือนกัน

จ้างทำเว็บ e-com ขายเสื้อผ้า 50,000 อันนี้ถ้าทำเป็นก็อย่าได้แคร์
จ้างทำ SEO + Promote 50,000 ว่างๆ ก็ทำเอง (ไปลง adyim ก็ได้) หรือโปรโมทเก่งแล้วทำเองโลด
เช่า Host + Domain 3,000

เวลาที่เหลือและงบที่เหลือ หาเวลาไปเดินซื้อเสื้อสวยๆ ขายในเว็บเราครับ
หรือไปซื้อเสื้อผ้าถูกๆที่จีนมาขาย กำไรงามมากครับ (อย่าขายตัดราคาพอครับ)
ถ้ามีของขายแล้ว ว่างๆ ตอนเย็นๆ ไม่มีไรทำ ไปเช่าที่ขายหน้าร้าน หรือตลาดต่างๆ ได้ครับ
ดูสาวเพลินๆ สนุกดี ขายได้ไม่ได้อย่าได้แคร์ เรามาดูสาว + แจกใบปลิว แนะนำร้านในเน็ตของเราให้คนอื่นพอครับ
แต่เว็บเราต้องดูดีนะครับ ไม่งั้นไม่ค่อยมีคนซื้อหรอก

อันนี้แนะนำนะครับเพราะเห็นเพื่อนผมทำแล้วรุ่ง อย่างถ้าพี่ทำสบายๆอยู่แล้วครับ ผมว่าง่ายดีนะ :wanwan017:

แต่ถ้าให้เลือกผมชอบร้านกาแฟครับ  :-[

ปล. เหมือนสอนจรเข้ว่ายน้ยังไงก็ม่ะรู้นะเนี่ย  :wanwan004: :wanwan004:  :'(

ขอบคุณค่ะ

เก็บเงินเอาไว้ก่อนค่ะ  :-X

หุ้น

- ร้าน Internet
ไม่พอแน่นอนครับ ต่อให้มีที่เป็นของตัวเอง ก็ต้องจ่าย ค่าเครื่อง ค่าลิขสิทธิ์เกมส์  แล้วร้านเกมส์เดี๋ยวนี้ชั่วโมงละแค่ 10-15 บาท  ถ้ามีเครื่องน้อย คืนทุนช้าครับ กำไรน้อยด้วย

- ร้านเหล้าเล็กๆ
ถ้ามีทำเลเป็นของตัวเอง เช่น  มหาลัย ชุมชน ฯลฯ  อันนี้น่าจะพอ
 
- หุ้นเปิดเช่าสนามฟุตซอล หญ้าเทียม
ไม่พอชัวร์ครับ ถ้าจะให้พอ คงต้องหุ้นหลายคน

- เล่นหุ้น / เก็งกำไรทองคำ
ถ้ามีความรู้ก็น่าจะโอเค แต่เงิน 2 แสนน้อยไปครับ ถ้าจะเล่นต้องได้กำไรอย่างเดียว คงทนสภาพขาดทุนได้ไม่นาน

- เปิดร้านกาแฟ / ร้านนมสด
ทำเลต้อง โรงเรียนที่มีคนเยอะๆ กับ มหาวิทยาลัย ครับ ถึงจะคุ้ม ถ้าเป็นชุมชนผมว่า ขายน้ำเต้าหู้ คนซื้อเยอะกว่านมสดอีก



ทั้งหมดที่ว่ามา ต้องเผื่อ ระยะ คืนทุนด้วยนะครับ และไม่ใช่ลงไป 2 แสนหมดเลย ในส่วนของธุรกิจค่าขายต้องเผื่อเงินหมุนไว้ซักอย่างน้อย เท่าตัว ของเงินลงทุน

ทำอะไรก็ได้ครับที่ทำแล้วใจรักจะไม่เจ้งครับ

ซื้อรางวัลระฆังทองครับ  :wanwan004:

ปล. ไม่น่าจะเกี่ยว  :wanwan024:

จ้างมือปืนไปยิงคู่แข่งครับ  :wanwan010: (เอาฮานะ) :-X

ความรู้ SEM มากๆ
- 5k/y = 3.5k hostgator(เช่าเป็น ก็แค่ 1.5k) + 1.5k (โดเมน niche ที่เหลือ)
= รอผลอย่างเร็ว 2-3 เดือน เก่งๆก็เดือนละแสน ขยันด้วยก็เดือนละล้านอัพ ทำเป็นๆก็คืนทุนเดือนแรก แล้วที่เหลือมันจะขาดทุนตอนไหนล่ะ / ROI >500%
ไม่ต้องรับโทรศัพท์ ไม่ต้องหาลูกค้า มีความรู้เรื่องคอมนิดหน่อย ไม่ต้องเดินสาย ทำงานวันละไม่กี่นาที อยากเที่ยวก็ได้เที่ยว อยากนอนก็ได้นอน อยากกินก็ได้กิน บลาๆๆ ฮ่าๆๆ

อย่างอื่นไม่รู้ล่ะ ขี้เกจ ใช้ทุนเยอะ ผลตอบแทนน้อย หรือแล้วแต่ตัวเองจะรู้ จะสามารถก็ลุยครับ

"การไม่รู้ว่าอะไรคือความเสี่ยง นั่นล่ะคือความเสี่ยงสุดๆ"

- ร้าน Internet  ไม่แนะนำ เห็นปิดมาหลายร้านแล้วครับ
- ร้านเหล้าเล็กๆ  เห็นตัดราคากันเยอะ แข่นขันสูง  เห็นหลังมอ มีร้านหนึ่ง เปิดใหม่ ลงทุนน่าจะหลายแสนอยู่
   แรกๆ คนเยอะโคด ไม่ถึง 2 สัปห์ดา มีร้านเปิดใหม่อีก 4-5 ร้าน ยังไม่รวมร้านที่มีอยู่ก่อนอีก
   เห็นแต่ละร้านคนน้อยมาก  เซ้งไปหลายร้าน จะเปิดที่ไหนต้องลองไปนั่งดูก่อน ว่าคนเยอะไหม จะสู้ไหวไหม

- หุ้นเปิดเช่าสนามฟุตซอล หญ้าเทียม
   อันนี้ลงทุนเยอะ แต่รายได้ดี อันนี้แนะนำ คนเต็มตลอด โอกาศขาดทุนน้อย  คู่แข่งไม่เยอะ เพราะลงทุนสูง
   รู้สึกจะหลักล้าน :P

- เล่นหุ้น / เก็งกำไรทองคำ
   ไปบริจาคดีกว่า ได้บุญ
- เปิดร้านกาแฟ / ร้านนมสด
    อยู่ที่ทำเล ทำเลดีรวย :o

เอาไปปลูกผักอิอิ

แต่งเมียครับ ล้อเล่นนะครับ  :-[

ชื้อหุ้น
หุ้นกำลังอยู่ช่วงกระทิง
รวยๆๆ

ลงทุนในกองทุนรวม

ไม่ก็ สลากออมสินครับ

 :wanwan012: :wanwan012:

เปิดร้าน ข้าวไข่เจียว

ผมชอบกินไข่  :wanwan004:

ซักทีเหอะ รายนี้อะ  :'(

เอามาให้ผม กู้ดีฝ่า..

แนะนำให้อีกอย่างนึงสำหรับคนหัวอกเดียวกัน (ผมกำลังหากิจการใหม่ทำอยู่เหมือนกัน เงินต้นก้ใกล้เคียงกันกับ จขกท.นี่ละ)

ช่วงนี้ถ้าไม่รีบร้อน รอดูสถานการณ์ไปก่อนดีกว่าครับ 2-3 เดือนหลังมานี่ร้านขายของทุกที่(เท่าที่คุยกับเขามานะ)ค่อนข้างเงียบไม่เหมือนเดิมเลย ซอยร้านผมจากปกติ 4-5 ทุ่มยังมีคนเดินอยู่ตอนนี้ 2 ทุ่มก้เงียบหมดแล้ว
อาจจะเพราะหลายๆสาเหตุด้วยนะครับ ยังไงเงินอยู่ในมือเรา ไม่ต้องรีบร้อนครับอ่านเกมให้ดีๆก่อนแล้วค่อยลงเงินไปก็ไม่สายครับ

ปล.ไม่แนะนำอีกอย่างก็คือร้านเช่าหนังสือครับ 5555
ตอนนี้โดนการ์ตูนอ่านฟรีบนเน็ตถล่มยับครับ ลูกค้าที่เคยเช่าเลิกเช่าไปเกือบๆ70% เพราะอ่านในเนทเอาถึงเวลารวมเล่มออกค่อยซื้อสะสม
ร้านเช่าหนังสือเหมือนโดนตัดวงจรชีวิตไปแล้วครับ

 :wanwan020: :wanwan020:ทำ MLM อย่างฉลาด พาตัวเราเองไปอยู่ฝั่งขวามือ เงิน2แสนบาทจะทำให้คุณ มั่นคงทางการเงินได้ในอนาคต เปลี่ยความคิดของคุณเอง พยายามใช้เงินทำงานแทนคุณ  :wanwan014: :wanwan014: :wanwan014:

เปิดร้านกาแฟค่ะ ศึกษาดีๆ ค่อยๆ เริ่มจากน้อยไปก่อน รับรองไม่ขาดทุน

เอาไว้ให้เขาปล้นครับ ลองดูนะ  :wanwan004: :wanwan004:

เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวกาละมังครับ  :wanwan016:

ฉลากออมสิน ซัก 1 แสน ที่เหลือเอามาทำ Amazon Google adsense และร้านกาแฟ น่าจะกำลังดีครับ

เคยคำนวนลงกองทุนล้านนึง ได้เดือนละพัน ส่วนสลากไม่เคย กะคะเนม่ะได้ -..-

ดีกว่าดอกเบี้ยฝากปกติ ถอนช้ากว่าหนึ่งวันครับบ

:'(

ฟุตซอลหญ้าเทียม หา location ดีๆหน่อยนะครับ แหล่ม

ถ้าอยากทำำธุรกิจส่วนตัว หรือรับงานลองดูที่นี่นะครับ บังเอิญทำข้อมูลใว้ไให้คนที่สนใจนะครับ
http://www.holidaytours.in.th/thai/want.html
 :wanwan003:

ซื้อเครื่องเซิฟเวอร์ DS สัก 3หมื่น


เหลืออีก 7หมื่น หม้อหญิงครับ


(ท่าเป็นผมอะนะครับ)

ถ้าเป็นผม จะเอาไปลงทุน ซื้อหุ้นพื้นฐานดี มีการเติบโตทั้งยอดขาย และกำไร หนี้น้อย จ่ายปันผลสม่ำเสมอ ครับ  :wanwan011:

ผมจะเอาเงิน 2000 บาท  ไปซื้อหนังสือการลงทุนในหุ้นดีๆ เช่น "ตีแตก" ของดร.นิเวศร์ และเล่มอื่นๆ

หลังจากนั้นศึกษาอย่างจริงจังว่าเราจะวิเคราะห์หุ้นเองได้อย่างไร

ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 1 เดือน


หลังจากนั้นผมจะไปลงทุนในตลาดหุ้นอย่างคนมีความรู้ (น้อยคนมากในตลาดหุ้นที่มีความรู้ ผมไม่ได้ว่านะ)


ประมาณ 3 ปีเป็นอย่างช้า เงิน 2 แสนควรจะกลายเป็น 4 แสน และภายใน 6 ปีจะกลายเป็น 8 แสน ต่อไปคงไม่ต้องบอกนะครับว่าจะเป็นเท่าไหร่

(ผมกะผลตอบแทนโดยเฉลี่ยแบบทบต้นปีละประมาณ 30% ครับ)

การลงทุนในหุ้น มีความเสี่ยถ้าไม่ศึกษาพื้นฐานของหุ้นที่เราจะเข้าไปทำการลงทุนนะครับ  :wanwan011:

อ้อมีคำแนะนำเพิ่มเติมนะครับ  :wanwan005:

ก่อนอื่นเลยเราต้องมองว่าเงินก้อนนี้เป็นเงินประเภทไหน   :wanwan020:
- เงินเย็นไม่รีบร้อนเสียไปได้ไม่มีปัญหา
- ต้องการเพิ่มพูนมูลค่าของมันไม่ว่าวิธีใดๆก็ตาม
- เอามาไว้ทำอะไรก็ได้แต่ขอแค่อย่าให้มันอยู่เฉยๆ

จากนั้นเราก็มามองต่อว่ามีเป้าหมายจะเอาไปทำอะไร  :wanwan002:
- เอาไว้เรียนต่อ
- เอาไว้เก็บเพื่ออนาคต ฯลฯ

จากนั้นเราก็มามองว่าต้องการผลตอบแทนกี่เปอร์เซ็น 5% 15% 25% ก็ว่ากันไป

ระยะเวลาของการลงทุน
เอาเงินก้อนนี้ไปลงทุนแล้วต้งการใช้ระยะเวลากี่เืดือน ปี เพื่อทำให้เรามีเป้าหมายที่แน่นอน

จากนั้นก็ปรับรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเราครับ

ขอให้โชคดีในการลงทุนนะครับ  :wanwan003:

ทำ neobux ครับ

ใช่ครับ ผมเลยให้เริ่มลงทุน 2000 บาท ไปซื้อหนังสือ และศึกษาหาความรู้ก่อนน่ะครับ

ขอบคุณทุกท่าน ทุกกระทู้้ที่ตอบกันเข้ามาน่ะครับ เชื่อว่าหลายๆท่านก็ มีไอเดียที่แตกต่างกันไป

ตอนนี้รู้สึกเหมือนจะเชียร์ ร้านกาแฟกันเยอะ ..... แต่ตอนนี้ต้องขอศึกษา อะไรหลายๆอย่างก่อน

เพราะว่า เสริช ดูใน Google 'เปิด' เปิดร้านกาแฟ มาอันที่ 4 คิดว่าคนค่อนข้างให้ความสนใจเยอะ

คู่แข่งเยอะๆแน่ๆ

ปล.อยากจะให้มาแชร์ๆกันอีก ซัก 10 หน้าไปเลย  :wanwan003:

ขอบคุณครับ

เห็นด้วยครับ แต่ผมว่าเงิน สองแสนลงทุนหุ้นไม่พอกินนะครับ
อย่าเล่นหุ้นนะครับ เหมือนเล่นการพนัน หมดตัวง่าย ๆ เลยครับ
แรก ๆ อาจจะได้ แต่หลัง ๆ ส่วนมากเสียครับ
 :wanwan031:

หุ้นเปิดเช่าสนามฟุตซอล หญ้าเทียม


แถวมหาลัยผมลงทุน  18 ล้าน
2 ปี  ได้ทุนคืน  เยสเข้ สุดๆ  เด็กมหาลัยผมเอกชน   เล่นทุกวันตั้งแต่  เที่ยงถึง - ตี4
ผมเล่นทุก2วันของอาทิตย์

แบ่งส่วนนึงมาเล่นหุ้นก็ดีนะครับ เริ่มจากน้อยๆ ก่อน เป็นการศึกษา ถ้าพลาดจะได้ไม่ขาดทุนมาก

ผมก็เริ่มจากแค่หมื่นเดียว (จิงๆ ก่อนนั้นเล่นจำลองแบบไม่ใช้เงินจริงก่อน)
พอเริ่มแก่กล้า ค่อยเพิ่มทุน บวกกับศึกษาการลงทุนแบบอื่นๆ เช่น future, gold
เพราะการลงทุนแต่ละประเภท ก็เหมาะสมในช่วงเวลาที่ต่างกัน

ที่บอกให้ศึกษาพวกนี้ไว้ เพราะตอนเราแก่ตัวลง ไม่มีแรงมาลุยอะไรแบบพวกหนุ่มๆ แล้ว
รายได้เราก็จะมาจากพวกนี้แหละ อย่างที่เค้าบอกว่า "ใช้เงินให้ทำงาน"  :wanwan020:

:wanwan014: :wanwan014: :wanwan014: :wanwan014:
ปันผลคือพื้นฐานหุ้น 11 กันยายน 53 ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ที่มา : Bangkokbiznews.com

หลักการหรือหัวใจของ Value Investment หรือการลงทุนแบบเน้นคุณค่าก็คือ  การหามูลค่าที่ควรจะเป็นหรือมูลค่า “พื้นฐาน” ของหุ้น  จากนั้นก็ดูว่าราคาหุ้นในตลาดเป็นเท่าไร  ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่คำนวณได้ก็ให้ซื้อ  ถ้าราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าพื้นฐานก็ให้ขาย  เพราะนักลงทุนแบบ VI เชื่อว่าในที่สุดราคาหุ้นจะวิ่งเข้าหามูลค่าพื้นฐานเสมอ
คำถามสำคัญมีอยู่ 2 ข้อ  นั่นคือ  หนึ่ง  มูลค่าพื้นฐานคืออะไร?  มาจากไหน?  อะไรเป็นตัวกำหนดมูลค่าพื้นฐานของหุ้น  พูดง่าย ๆ  คำนวณมูลค่าพื้นฐานอย่างไร?   ข้อสอง เมื่อไรเล่าที่ราคาจะวิ่งเข้าหาพื้นฐาน?  เป็นไปได้ไหมที่ราคาหุ้นอาจจะไม่สะท้อนพื้นฐานเป็นระยะเวลานานมาก  เผลอ ๆ ตลอดไป  กลายเป็นหุ้นที่อาจจะ  “ถูกตลอดกาล”  และถ้าเป็นอย่างนั้น  VI จะได้อะไร?
คำตอบทั้งสองข้อนั้นเกี่ยวเนื่องกันนั่นคือ  คำตอบของข้อแรกก็จะตอบคำถามของข้อสองได้   คำถามที่ว่ามูลค่าพื้นฐานคืออะไรนั้น  ถ้าจะตอบก็คือ  เป็นมูลค่าปัจจุบันของหุ้นที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นจะได้จากบริษัทตลอดไป  และผลตอบแทนที่ว่านั้นก็คือ  “ปันผล” ในอนาคตทั้งหมดของบริษัท

ถ้าจะพูดให้เห็นภาพที่เข้าใจได้ง่ายไม่เป็นวิชาการก็คือ  “เป็นราคาหุ้นที่เรายินดีที่จะจ่ายเงินซื้อเพื่อเก็บกินปันผลไปตลอดชีวิต  โดยที่เราจะไม่ขายหรือเป็นหุ้นที่เราไม่สามารถขายได้”  ดังนั้น  เวลาที่ผมจะซื้อหุ้น  ผมจะต้องคิดว่าราคาที่ผมจ่ายนั้น  ผมยินดีหรือไม่ที่จะเก็บมันไว้ตลอดชีวิตเพื่อรับปันผล  ถ้าคำตอบคือ  “ไม่เอา”  นั่นก็แปลว่าราคานั้นสูงเกินไป  อาจจะเป็นเพราะผมไม่แน่ใจว่าปันผลจะลดลง  หรืออาจจะเป็นเพราะว่าผมกลัวว่าอนาคตบริษัทอาจจะเจ๊งหรือธุรกิจตกต่ำลงมากและจ่ายปันผลน้อยลงเรื่อย ๆ ซึ่งผมจะ  “ไม่มีทางออก”   แต่ถ้าคำตอบของผมก็คือ  “เอา”  นั่นก็แปลว่าผมมั่นใจในตัวบริษัทว่าจะยังดีต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ   ปันผลในอนาคตนั้นมีโอกาสสูงที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  ในขณะที่ความเสี่ยงที่ธุรกิจจะตกต่ำลงมีน้อยมาก  ดังนั้น  ผมยินดีซื้อและถือหุ้นตัวนั้นตลอดชีวิต
แน่นอน  ในชีวิตจริง   เราไม่จำเป็นที่จะต้องถือหุ้นตลอดชีวิตเพื่อเก็บกินปันผล  แต่เวลาพิจารณาซื้อหุ้นโดยอิงกับ  “มูลค่าพื้นฐาน”  ของหุ้น   เราจะต้องคิดว่าเราจะต้องเก็บหุ้นไว้ตลอดชีวิตจริง ๆ   ถ้าเราคิดว่าเราสามารถขายได้ทุกนาที  หรือเราสามารถขายได้ถ้า “สถานการณ์เปลี่ยน”  หรือแม้แต่เราจะขายเมื่อ  “บริษัทโตเต็มที่แล้ว”  ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นใน 3-4 ปีข้างหน้า  แบบนี้แสดงว่าเรายังไม่ได้ซื้อหุ้นโดยอิงกับมูลค่าพื้นฐานจริง ๆ  เราอาจจะ “เก็งกำไร”  โดยอาจจะอิงกับปัจจัยพื้นฐานบางส่วนเท่านั้น

นอกจากเรื่องของปันผลในอนาคตแล้ว  ปัจจัยที่สำคัญอีกตัวหนึ่งในการคำนวณหามูลค่าพื้นฐานของหุ้นก็คือ  “อัตราคิดลด”  ซึ่งก็คืออัตราผลตอบแทนที่เราต้องการในการลงทุนซื้อหุ้นตัวนั้น  อัตราผลตอบแทนนี้จะคล้าย ๆ  กับอัตราดอกเบี้ยที่เราได้ถ้าเราเอาเงินไปฝากธนาคารหรือลงทุนซื้อพันธบัตรซึ่งเราจะได้ผลตอบแทนที่แน่นอนเช่นปีละ 1% หรือ 3-4%  ตามลำดับ   แต่การลงทุนในหุ้นนั้นเราจะได้ปันผลที่มีอัตราไม่แน่นอนขึ้นกับผลกำไรของบริษัท  ดังนั้นเราจึงต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าโดยเฉลี่ยเช่นอาจจะได้ผลตอบแทนประมาณปีละ 10%
ปัจจัยสำคัญตัวสุดท้ายที่สำคัญมากก็คือ  อัตราการเติบโตหรือการเพิ่มขึ้นของเงินปันผลในอนาคต  นี่คือสิ่งที่จะทำให้มูลค่าหุ้นสูงหรือต่ำอย่างมีนัยสำคัญ  เพราะถ้าปันผลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  เราก็จะได้ผลตอบแทนมากขึ้นทุกปีหรือเกือบทุกปี  ยิ่งนานปันผลก็ยิ่งเพิ่มขึ้น  บางทีผ่านไป 15-20 ปี  เงินปันผลแต่ละปีอาจจะเพิ่มขึ้นเท่ากับเงินค่าหุ้นที่เราจ่าย  ถ้าเป็นแบบนี้มูลค่าของหุ้นก็จะมาก  แต่ถ้าปันผลไม่โตเลย  เคยได้เท่าไร  ผ่านไป 5-10 ปีก็ยังได้ปันผลเท่าเดิม  แบบนี้หุ้นก็จะมีมูลค่าน้อย

ผมคงไม่อธิบายวิธีคำนวณหามูลค่าพื้นฐานตามวิชาการซึ่งเป็นเรื่องที่ยากเกินไป  แต่จะลองให้แนวคิดในการพิจารณาลงทุนซื้อหุ้นโดยใช้หลักการของ “มูลค่าพื้นฐาน”  ดังที่ได้กล่าวมา  โดยสมมุติว่าเราพบหุ้นตัวหนึ่งที่ทำธุรกิจโมเดิร์นเทรดหรือค้าปลีกสมัยใหม่ซึ่งผมเห็นว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีผลประกอบการที่สม่ำเสมอและคาดการณ์ผลประกอบการไม่ยากนัก
บริษัท ก. มีกำไรปีละ 0.40 บาทต่อหุ้น  จ่ายปันผลปีละ 0.30 บาท  ราคาหุ้นเท่ากับ 10 บาทต่อหุ้น  เราคาดว่ากิจการของบริษัทนี้จะเติบโตขึ้นประมาณปีละ 10% ไปได้เรื่อย ๆ  โดยที่บริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุนเพราะฐานะทางการเงินดีมากไม่มีหนี้สินจากสถาบันการเงินเลย   ถามว่ามองโดยพื้นฐานเราควรซื้อหุ้นบริษัทนี้หรือไม่

ก่อนอื่นลองคำนวณดูว่าในปีแรกที่เราลงทุนนั้น  เราจ่ายเงินค่าหุ้น 10 บาทและได้ปันผล 0.30 บาทเท่ากับว่าเราได้ปันผลปีแรก 3%  ดูแล้วก็อาจจะไม่น่าจูงใจอะไร  เพราะเราลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลซึ่งไม่มีความเสี่ยงเลยเรายังได้ดอกเบี้ยประมาณ 4%   แต่เนื่องจากกำไรของบริษัทน่าจะเพิ่มขึ้นได้ปีละ 10%  ซึ่งน่าจะทำให้บริษัทสามารถจ่ายปันผลได้เพิ่มขึ้นปีละ 10% เช่นกัน  ดังนั้น  ปีที่สองปันผลน่าจะเป็น 3.3%  และปีที่สามน่าจะเป็น 3.63%  ปีที่สี่เท่ากับประมาณ 3.99 หรือ 4% ซึ่งเท่ากับพันธบัตรแล้ว  หลังจากนั้นอัตราก็จะสูงกว่าไปเรื่อย ๆ  พอถึงปีที่ 10 ปันผลก็เท่ากับ 8.56% และเมื่อถึงปีที่ 37 ซึ่งอาจจะเป็นปีที่เราเกษียณ  ปันผลที่ได้ในแต่ละปีอาจจะเป็น 10 บาทเท่ากับราคาหุ้นในวันนี้และทำให้เราเกษียณอย่างมีความสุข   เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ  ตั้งแต่ปีที่ 4 ของการถือหุ้น  เราก็ได้ผลตอบแทนดีกว่าการลงทุนในตราสารการเงินอื่น ๆ แล้ว   ดังนั้น  เราจึงคิดว่า  ราคาหุ้น ก. ที่ 10 บาท  เป็นราคาหุ้นที่เหมาะสมกับพื้นฐานในแง่ของเราและเรายินดีที่จะซื้อมัน

คำถามต่อมาก็คือ  ถ้าราคาหุ้น ก. ที่ 10 บาทซึ่งเราคิดว่าถูก  แต่ถ้าถือแล้วมันไม่ขึ้นทั้งที่กำไรและปันผลของบริษัทก็ดีขึ้นตามที่คาดแต่ราคาหุ้นกลับไม่ขึ้นซักทีเป็นเวลาหลายปี  แบบนี้เราควรจะขายทิ้งไหม?  คำตอบก็คือ  ไม่จำเป็น  จำไว้ว่าถ้าเรา “ลงทุนตามพื้นฐาน”  และมั่นใจว่าสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้ถูกต้อง  เราก็ถือมันไป  ผลตอบแทนของเรานั้น  เราต้องคิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องอาศัยนักลงทุนคนอื่นในการมาซื้อหุ้นต่อจากเราในราคาที่สูงขึ้น   แต่มันมาจากปันผลที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ของบริษัท   แต่เชื่อผมเถอะครับว่า  ในที่สุดแล้ว  คนจะต้องเห็นว่าบริษัทดีและเข้ามาซื้อหุ้นทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น  ผมเองเคยถือหุ้นมา 3-4 ปีโดยที่ราคาไม่ไปไหน  แต่พอมันวิ่ง  มันก็ขึ้น  “ชดเชย”  ช่วงเวลาที่มันนิ่งในเวลาอันรวดเร็ว ประเด็นสำคัญก็คือ  VI ต้อง “รอเป็น”  ว่าที่จริง  การที่หุ้นไม่ขึ้นเลยทั้ง ๆ  ที่บริษัทดีขึ้นหรือจ่ายปันผลมากขึ้นเรื่อย ๆ  นั้น  กลับเป็นโอกาสที่เราจะซื้อหุ้นเพิ่มและทำกำไรมากขึ้น

 :wanwan004: จากสิบกว่าล้าน ไม่ถึง 20ปี พอร์ทลงทุนเพิ่มขึ้นปาไปพันกว่าล้าน  ไม่ธรรมดาเลยสำหรับ คนธรรมดา ทำงานประจำ ไม่ได้มีฐานธุรกิจของครอบครัว  :o

เป็นผมเอาไปเล่นหุ้นครับ แบบสั้น ครึ่งนึง แบบเกงซัก 1-2 เดือนครึ่งนึง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะตลาด (ต้องเดาการเมือง)
โดยเฉพาะปัจจัย เทคนิคครับ ตอนนี้ ซื้อหุ้น การสื่อสารไปก่อน ^^ เพิ่งตกระนาว
(ซื้อเฉพาะช่วงราคาต่ำครับ) ราคาสูงแค่มองๆ ก็ได้

ไปนั่งกินร้านอาหารตามสั่ง หาพ่อครัวแม่ครัวดีๆ

ไปหาทำเล สถานบันศึกษา สถานที่ทำงาน

เปิดร้านอาหารตามสั่งจัดร้านสวยๆออกแบบยุดเก่าๆ อาหารอร่อย

กำไรอยู่ไม่ไกล

เปิดร้าน เหล้า  :wanwan017:
หาเด็กมา เดี๋ยวไปอุดหนุ๋นครับ  :wanwan020:

หาเมียแต่งงานครับ ต่อไปก็ใช้เงินเมีย  :wanwan016:

ตอนนี้ งบ ลดน้อยมาอีกแล้วครับ 555

เนื่องจาก ดาวน์รถไป - -*

จขกท.ขุดเอง

แต่เรื่องหนังสือขายได้เยอะมั้ยครับ  :P

สำหรับผมแถวนี้คงต้องร้านข้าวอร่อยๆสักที่ ไม่ก็ร้านข้าวต้มอร่อยๆไปเลย
คือ มันมีกี่ร้านที่นี้ก็เหมือนเปิดหนังสือทำอ่ะครับ รถชาติไม่ไหว เวลาอร่อยมันก็ดันมีแค่
ข้าวหมูกรอบ กำ ปล.ห้วยขวาง

หรือไม่ก็ทำธุรกิจขายของออนไลน์ครับ
ผมเห็นลูกค้าเว็บผมรายได้ดีน่ะครับ มันก็เหมือนขายหน้าร้านเลย
ตลาดยังเปิดน่ะครับ seo เราก็คงได้เปรียบ สินค้าหลายอย่างยังไม่แข่งยันสูง
ยังพอมีไอ้ที่ขายได้แต่ไม่มีคนขาย

ร้านเกมส์จบเห่ผมเคยเป็นผู้จัดการตึกผมรู้ครับว่ามันเป็นอย่างไร
เครื่องเกมส์ 40 ยังเจ้ง ไม่ไหว ตอนนี้ชั้่วโมงล่ะ 7 บาทก็มี

ร้านเหล้าก็ดีน่ะครับ แต่ทำเลนี้ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ บอกไมไ่ด้ว่าตรงไหนดี
เพราะเคยประสบการณ์ช่วยหาทำเลขายหมูปิ้ง ขายที่เซนทรัลบางนา - งามวงวาน
ขายดีมาก ตลาดยิ่งเจริญขายดีมาก แต่พอพาราก้อน ขายไม่ดีสะงั้น สรุปคงเป็นที่
กลุ่มลูกค้า มุ่งไปที่คนเยอะ ตลาดล่าง-กลาง นศ จัดไป โน้นเลยหน้าราม
พอไปขายเป็นไง 500 ไม้ยังไม่ถึง ขายได้แย่กว่าพาราก้อน ทุกวันนี้ ยังงงๆ
ตกลงมันดูที่อะไรหว่า น่าจะละเอียดกว่านั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฝากดูให้ดีครับ

ไหน ๆ ก้อดาวน์รถไปแล้ว ที่เหลือแนะนำให้เอาไปติดแก้สครับ จะได้มีเงินเหลือเยอะ ๆ  :-X

ร้านเน็ต ผมไม่ให้คะแนนเลยครับ ต้องเปิดอย่างต่ำ 50+ และต้องเต็มเกือบตลอดถึงจะอยู่ได้ เพราะค่าชั่วโมงตอนนี้มันต่ำมาก คิดง่ายๆ ยิ่งจำนวนเครื่องน้อย รายได้ก็น้อย ไหนจะคิดเป็นค่าคนเฝ้า สมมติค่าคนเฝ้า 150 บาท / วัน ก็ต้องมี 15 เครื่อง เต็ม 1 ชั่วโมง ก็จะได้ค่าคนเฝ้า

นี่ยังไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ตอีก ไหนจะต้นทุนค่าเสื่อมราคาคอมพิวเตอร์ ที่นับวันจะดิ่งเหวอย่างเร็ว เพราะคอมพิวเตอร์ตอนนี้เปลี่ยนไวมาก ราคาฮวบๆ

ถ้าต่อเงินไปสัก 3 แสน พอไหวครับ ผมว่า ซื้อรถตู้เล็กๆ Diahatsu สักคัน แล้วทำเป็นรถขายกาแฟเคลื่อนที่ ตอนเย็นไปจอดตามตลาดนัด ตอนกลางวันไปจอดใกล้ๆ office ที่มีร้านก๋วยเตี๋ยวข้างถนน ผมว่าขายดีครับ

อย่างอื่นยังคิดไม่ออก แต่ว่าถ้าจะเล่นหุ้น มีเกมส์หุ้นออนไลน์ หมายถึง จำลองการเล่นหุ้นจริงๆ ให้มือใหม่ลองเล่น ถ้าผมได้ยินไม่ผิดนะครับ ลองถามๆ กันดู ฝึกฝีมือก่อน ค่อยไปเล่นจริง ไม่งั้น มีแต่ลงทุนเปล่าครับ ไม่ได้ทุนคืน

ร้านเหล้า เพื่อนผมเพิ่งปิดไปไม่นาน ลูกค้าเมามีเรื่องกันทุกคืน จะฆ่ากันก็เคยมี เงินดีแต่ว่าคุณจะรับได้หรือเปล่า เขาถึงบอกว่าสุราทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท :wanwan016:
ขายนม กาแฟจะดีกว่าครับ

ขายหวยครับ กำไร ทุก 15 วัน ขายไม่หมดได้ลุ้นเองด้วย  :wanwan013:

มี 200k หรือคับ เปิดฤดูกาล แทง บเซโลน่าไปเลย บอลจบได้ 180k รวมก็ 380k คราบ :o

นั่นสินะ...อืมๆๆๆ...  :D

เปิดร้านลาบ ข้าวเหนียว ส้มตำ + กล้วยทอด ครับ

ไปหาซื้อสูตร ดี ๆ อร่อย ๆ มองหาทำเล ดี ๆ คนผ่านเยอะ ๆ เอาตั้งแต่ รากหญ้า - ไฮโซ  เพราะร้านอาหาร มีเยอะก็จริง อยู่ ถ้าไม่อร่อย ไม่สะอาด คนก็ไม่ค่อยเข้า 

ถ้าเรามีของดี สูตรดี คนทำสะอาด ทำเลดี  น้อง ๆ เสริฟน่ารัก  คนตรีมแน่ ผมว่า

เล่นหุ้น

สองเเสน   เเสนเเรก ทดสอบ เรียนรู้ ลองผิดลองถูก กับ ppc
         แสนหลัง ตามควายที่หายไปในเเสนเเรก แล้วเอาลูกเเกะติดมือกลับมาด้วย   :wanwan011:

200,000 จ้างปั่นเว็บแบบรับประกันรายได้ขั้นต่ำสองเท่าในสี่เดือน สิ้นเดือนที่สี่ก็เป็น 400,000 นึกออกแค่นี้อ่ะตอนนี้ :P

รู้จักตลาดนี้มั้ย การค้าเงิน จาก200000สามารถทำให้ได้หลายล้านบาทถ้าคุณมีประสบการณ์นี้มาก่อน

ตอนนี้เล่นทองอยู่ครับ เริ่มจากเงิน สามแสนปลายๆ ซื้อมายี่สิบบาท ตอนที่ทองยัง หมื่นปลายๆ
http://www.facebook.com/media/set/?set=a.1594322070553.79072.1610982761

ผมไม่คิดว่ามันจะขึ้นเร็วขนาดนี้ครับ ซื้อมาอาทิตย์เดียวขายแล้วกำไร สามพัน
นี่ถ้าผมเล่นซัก ร้อยบาท กำไรเป็น ครึ่งแสน
ผมมีน้อยกินน้อยครับ
แต่จะบอกว่าเล่นทองต้องมี Community นะครับ ใช่ว่ามีเงินจะซื้อได้เลยกว่าผมจะเข้าตรงนั้นได้ไปเหมาทองเฮียมาหลายบาทแล้วครับ

ตอนนี้เฮียยัดให้ผม อาทิตย์ละ ยี่สิบบาท อยากขายเมื่อไรก็ได้
หลักการง่ายๆครับ ขึ้นก็ขาย ลงก็ซื้อ แต่มันอยู่ที่กึ๋นครับ จะได้น้อยได้มาก อยู่ที่เราดูข้อมูลต่างประเทศด้วยครับ

ยังไงก็ไม่ขาดทุนครับ ทองไม่กลายเป็นขนมปิ้งแน่นอน

ทำแบบข้างบนเลยครับหาทำเลดีๆ  อยากทำบ้างจังแต่ไม่มีทุน

ฝากประจำ ดีไหม เหอๆๆ เดี่ยวนี้ดอกเริ่มสูงขึ้นมาบ้างแล้ว

ชื้อกองทุนดีๆ ไว้ซัก 100,000 อีกหนึ่งแสนลงทุนกับสิ่งที่เราชอบ และลงมือทำให้เงินมันงอกเงยขึ้นมาอีก

เวลาผ่านไปเกือบปีแล้ว จขกท. สรุปแล้วเงินยังเหลือมั้ยครับ?
เอาไปทำอะไรแล้วบ้าง เอามาเฉลยให้ฟังบ้างดิครับ  :wanwan016:

กระทู้ปี 2010 ผมว่าป่านนี้เจ้าของเค้าคงรวยไปแล้วล่ะครับคงไม่กลับมาอ่านแล้วล่ะ (คนขุดก็สรรหาเน๊อะ)  :wanwan044: :wanwan044: :wanwan044:

กระทู้มันโดนใจครับ
ผ่านไป 10 ปีแล้ว
ก็ยังเป็นคำถามที่น่าสนใจนะครับ
 :wanwan017: