ThaiSEOBoard.com

< กดยุบ (ห้องยกเลิกการใช้งาน) => สาระคำถามทั่วไป (ย้ายไป cafe) => ข้อความที่เริ่มโดย: thzeed.com ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 18:03:18



หัวข้อ: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: thzeed.com ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 18:03:18
หลังจากที่แต่งงานมาได้   21   ปี
ผมก็ค้นพบวิธีใหม่ในการทำให้ความรักสด ใสมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ


เพราะ....วันหนึ่งภรรยาผมบอกว่า ผมต้องออกเดทกับผู้หญิงคนหนึ่ง
มันเป็นไอเดียของเธอล้วน ๆ จริง ๆ นะ

'   ฉันรู้ว่าคุณรักเธอ '   ภรรยาผมพูด

' แต่ผมรักคุณนี่ '   ผมเถียง

' ฉันรู้ค่ะ แต่คุณก็รักเธอคนนี้ด้วยเหมือนกัน '


ผู้หญิงคนนั้น ที่ภรรยาอยากให้ผมไปหา คือ 'แม่'ของผมเอง
ซึ่งเธอเป็นหม้ายและใช้ชีวิต เพียงลำพังกับสัตว์เลี้ยงมา   19   ปีแล้ว

เนื่องจากงานที่รัดตัว ทั้งเจ้านายและลูกค้าที่ผมจะต้องรับผิดชอบ
และยังมีภรรยาและลูก ๆ ที่ต้องดูแล
ทำให้ผมไปเยี่ยมแม่เพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น

ผม ตอบตกลงกับภรรยา และขอบคุณที่เธอให้โอกาสเช่นนั้น
วันที่ผมโทรไปหาแม่ เพื่อชวนท่านออกไปทานข้าวเย็นและดูหนัง
แม่ถามผมว่า   ' มีอะไรหรือ ?   ลูกสบายดีรึเปล่า ?'
แม่คิดว่าการที่ผมโทรมาหาอย่างกระทันหัน
หมาย ความว่ า   มีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น
ผมตอบแม่ว่า   ' ไม่มีอะไรคับ ก็อยากคุยกับแม่ และคงจะดีมาก ถ้าเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ตามลำพังสองคนแม่ลูกบ้าง ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ดูหนังด้วยกันสักเรื่อง '
แม่ นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า   ' ได้สิจ๊ะ แม่ยินดีมากเลยจ้ะ ' + ' แล้วลูกมีเวลาว่างแล้วเหรอจ๊ะ หยุดงานได้เหรอ '
...
เย็นวันศุกร์หลัง เลิกงาน ผมขับรถไปรับแม่ที่บ้าน
ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

เมื่อ ผมไปถึงบ้านแม่ ผมก็สังเกตได้ว่า
แม่เองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน
แม่สว มเสื้อโค้ทนั่งรอผมอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว

แม่ม้วนผมแล้วสวมชุดที่ แม่ใส่ในวันฉลองครบรอบการแต่งงานครั้งสุดท้าย
พลางยิ้มรับผมด้วยใบ หน้าที่แจ่มใสราวกับทูตสวรรค์

แม่บอกเพื่อน ๆ ว่า   ' จะออกไปเที่ยวกับลูกชาย '   
แม่พูดขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถ   เพื่อน ๆ ของแม่ต่างพากันประทับใจยกใหญ่

เราไปภัตตาคารที่ถึงแม้จะไม่หรูหรา แต่ก็ดีเยี่ยม
บรรยากาศก็อบอุ่นสบาย ๆ มาก ๆ
ผมวางแผนว่าต้องเป็น ร้านในสไตล์ที่แม่ต้องชอบ

แม่ควงแขนผมเดินราวกับว่าเป็นสุภาพสตรี หมายเลขหนึ่ง

หลังจากที่เรานั่งเรียบร้อยแล้ว
ผมต้องเป็นฝ่าย อ่านเมนูอาหาร
เพราะแม่บอกว่า   ' ตอนนี้สายตาของแม่อ่านได้เพียงตัวหนังสือตัวใหญ่ ๆ เท่านั้น '

เมื่อ ผมอ่านเมนูอาหารไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง
จึงหยุดเว้นจังหวะ เพื่อให้แม่ได้เลือกรายการอาหาร
ผมเงยหน้าขึ้น   มองเห็นแม่กำลังจ้องมองดูผมอยู่ด้วยรอยยิ้มระลึกถึงความหลัง

แม่พูด เปรยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า
' ตอนที่ลูกยังเด็ก แม่ต้องเป็นคนอ่าน เมนูให้ลูกฟังหลายรอบ '

ผมบอกแม่ว่า   ' งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมจะผลัดเวรให้แม่นั่งฟังสบาย ๆ บ้างแล้ว '

ใน ระหว่างมื้ออาหารนั้น
เราคุยกันอย่างถูกคอ   -   ไม่ใช่เรื่องราวพิเศษอะไร -
เพียงแต่สลับกันถามว่าชีวิตของเรา

เรา คุยกันสนุกมากจนไปดูหนังไม่ทัน

...

เมื่อผมไปส่งแม่ที่บ้าน แม่พูดว่า   ' แล้วแม่จะออกไปเที่ยวกับลูกอีกนะ ' -
' แต่คราวนี้ลูกต้องยอมให้แม่เป็นเจ้าภาพนะจ๊ะ '


' แน่นอนครับ '   ผมตอบตกลง


' ดินเน่อร์เป็นยังไงบ้าง ?'   ภรรยาถาม เมื่อผมกลับถึงบ้าน
' วิเศษมาก ๆ ดีเยี่ยมกว่าที่ผมคิดไว้มากเลย '   ผมตอบ

อีกไม่กี่วันต่อมา แม่ผมเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
มัน เกิดขึ้นกระทันหันมากจนผมช่วยอะไรไม่ทันเลย

หลายวันต่อมา
ผมได้ รับจดหมายพร้อมใบเสร็จจากภัตตาคารที่ผมกับแม่เคยไป
มีโน๊ตเล็กๆแนบมาด้วย ว่า...

' แม่จ่ายค่าอาหารชุดนี้เรียบร้อยแล้ว แม่รู้อยู่แล้วว่าแม่คงไปอีกครั้งไม่ได้ -
แต่... แม่ก็จ่ายสำหรับสองคน คือ สำหรับลูกกับภรรยา - ลูกคงเดาไม่ถูกหรอกว่าวันนั้นมีความหมายต่อแม่มากแค่ไหน ,   รักลูกมากจ๊ะ '


ณ วินาทีนั้น ผมได้เข้าใจถึงความสำคัญของการกล่าวคำว่า   '' รัก '
ต่อคนที่เรารัก ในช่วงเวลาที่เค้าต้องการมัน

ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าครอบครัวของคุณ
จง ให้เวลากับพวกเค้าในเวลาที่พวกเค้าต้องการคุณ
เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจผลัดวันประกันพรุ่งได้


- มีบางคนบอกว่า หลังจากที่คลอดลูกแล้วต้องใช้เวลาพักฟื้นราว   6   สัปดาห์ แม่จึงจะคืนสภาพเดิม
คนนั้นไม่รู้ว่าหลังจากที่คุณได้เป็นแม่คนแล้ว ไม่มีคำว่าคนเดิมอีกต่อไป
- บางคนบอกว่า คนเราเรียนรู้การเป็นแม่ได้เองตามสัญชาติญาณ
คนนั้นไม่เคยพาลูกสามขวบไป ซูเปอร์มาร์เกต
บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นน่าเบื่อ
คนนั้นไม่เคย นั่งรถที่ลูกวัยรุ่นขับ หลังจากที่ได้ใบขับขี่มาหมาด ๆ
- บางคนบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนดี ลูกออกมาก็จะดีเอง
คนนั้นนึกว่าเด็กคลอดออกมาพร้อมกับคู่ มือการใช้และใบรับประกัน
- บาง คนบอกว่า แม่ที่ดีไม่ควรขึ้นเสียงกับลูก
คน นั้นไม่เคยเปิดประตูหลังบ้านออกมา ทันได้เห็นลูกหวดลูกบอลเข้าใส่หน้าต่างครัวของเพื่อนบ้านพอดิบพอดี
- บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นไม่ต้องมีการศึกษาก็ได้
คนนั้นไม่เคยช่วย ลูกที่กำลังเรียน ป. 4   ทำการบ้านเลข
- บางคนบอกว่า แม่รักลูกคนที่ห้าไม่เท่าลูกคนแรก
คนนั้นไม่เคยมีลูกห้าคน
- บางคนบอกว่า ช่วงที่ยากที่สุดของการเป็นแม่ คือตอนคลอดและตอนเลี้ยง
คน นั้นไม่เคยยืนดูลูกขึ้นรถเมลไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก
ไม่เคยส่งลูกเข้า ห้องหอในคืนแต่งงาน
- บางคนบอกว่า งานของแม่นั้นหมู ๆ ปิดตาสองข้าง หรือมัดมือไว้ข้างหนึ่งก็ยังไหว
คนนั้นไม่เคยสอนการออกเดินขายขนมให้กับ เหล่ายุวนารี
ที่กระจุ๊กกระจิ๊กคิกคักกันอยู่ตลอดเวลา
- บางคนบอกว่า แม่เลิกกังวลได้แล้ว หลังจากที่ลูกแต่งงานออกเรือนไป
คนนั้นไม่รู้ว่าการ แต่งงานคือการนำลูกชายหรือลูกสาวคนใหม่เข้ามาอยู่ในสายใย ใจของแม่
- บางคนบอกว่างานของแม่ สิ้นสุดลงเมื่อลูกคนสุดท้ายออกจากบ้านไป
คนนั้นไม่ เคยมีหลานยาย หรือหลานย่า
- บางคนบอกว่า แม่รู้ดีอยู่แล้วว่าคุณรักท่าน เพราะงั้น ไม่ต้องบอกท่านก็ได้
คนนั้นไม่เคยเป็นแม่คน
.................................................................


ที่ มา http://www.nonstopbit.com/forums.php?action=viewtopic&topicid=19032&page=1


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: Legolas ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 18:06:05
:P


ผมเห็นหลายกระทู้แล้วนะ mod กับ admin ช่วยดูหน่อยมั๊ยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: TOOAds.com ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 18:54:46
ขอบคุณครับ แต่ถ้าใครทำได้ พาลูกเมีย มาอยู่ด้วยกันกับแม่เลยสิครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: Tanut007 ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 19:52:35
 :wanwan008: :wanwan008: ซาบซึ้ง ในหัวใจของคนเป็นแม่ครับ เอาไปเลย +1  :o


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: aCustiCz ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 20:02:09
ซึ้งครับ  :'(


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: partyboy ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 22:06:46
 :'( ซึ้งจังครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: MDtech ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 22:22:20
มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำครับ สำคัญมากๆ


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: spingump ที่ 09 กรกฎาคม 2010, 22:34:58
 :'( :'( :'(

ความรักของแม่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: crazycatstorm ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 00:29:56
โห้...อ่านแล้วน้ำตาแทบไหลเลยอะ


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: BoomZKung ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 00:32:33
แม่คือคนที่ผมรักที่สุด ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม  :'(

+1


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: Babybinge ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 00:42:33
13-->14

ซาบซึ้งมากๆครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: carbonet ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 02:35:12
ซึ้งมากเลยครับ  :'(

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: dussarong ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 04:03:10
อ้างถึง
ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าครอบครัวของคุณ
จงให้เวลากับพวกเค้าในเวลาที่พวกเค้าต้องการคุณ
เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจผลัดวันประกันพรุ่งได้

ชอบประโยคนี้มากที่สุด และจะพยายามทำให้ได้ หลังจากเคยพลาดมาแล้ว  :'(


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: BaLanCeTeaM ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 04:08:58
รักแม่นะครับ :'( :'(


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: ManKung ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 05:15:12
เหมือนจะเคยแล้วแล้วครับ

ไงก็ขอบคุณนะ  :'(


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: asemm ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 06:29:05
 :'( :'( :'(


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้เคยอ่านกันยัง ถ้ายังมาอ่านหน่อยก็ดี เผื่อเตือนสติทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: 50kpm ที่ 10 กรกฎาคม 2010, 09:25:13
น้ำตาแทบร่วงเลย