ThaiSEOBoard.com

สองสามวันมานี้ผมรู้สึกว่าเวลาจ้องอะไรมักจะเบลอไปหมดที่หน้าคอม
จอที่ใช้ขนาด 23" ครับ ปรับขนาด 1024*768 32bit
แต่ก่อนจ้องครึ่งวันก็ไม่เบลอครับเดวนี้รู้สึกว่าหนักตาปวดตาพอสมควร
ขนาดใส่แว่นครับ อาการแบบนี้น่าจะเกิดจากสาเหตุใดครับ

แสงคอมจ้าไป
หรือสายตาสั้นเพิ่มอีกแล้ว

พรุ่งนี้ผมว่าจะไปหาหมอแล้วครับ ไม่ไหวปั๊มบล๊อกไม่ได้เลย :wanwan006:

ผมก็เป็นครับ ปรับ contrast 10 ยังจ้าๆอยู่เลย ปวดตามากครับ

แล้วทำไงอ่ะครับ

ปรับ contrast ให้มืดลงมาหน่อยก็ได้มั้งครับ ถ้าไม่ได้ทำกราฟฟิค ทีแรกอาจจะมืด แต่ใช้ๆไปก็ชินเอง

ล้าตาเหมือนกันค่ะ เพลียๆ ไงมะรู้

ผมก็เป็นครับ ปวดเบ้าตามากๆ แต่ไม่แจกใจเลยที่เป็น อยู่หน้าคอมฯวันละ 16-18 ชั่วโมง :P

เป็นเหมือนกันครับ ขนาดใช้ที่กรองแสงแล้ว ต้องพักสายตาบ้างครับ แล้วกลับมาทำงานใหม่

ก็มีบ้างแหล่ะครับ

เป็นเหมือนกันค่ะ หนักตา แล้วเพลีย มากเลย ขนาดใส่แว่นยังเป็น ถอดแว่นก็มัวๆ  :'( ตื่นมา 8 โมงเช้า นั่งเล่นคอมถึง ตี 3 ทุกวันเลย  :P

ลองโพสถามคุณหมอจักษุแพทย์เบื้องต้นที่นี่ก่อนก๊ได้ครับ มีอาจารย์หมอใจดีให้ความกรุณามาตอบแทบทุกวัน

hทีทีp://www.rcopt.org/board-public.html

ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
ไม่ได้เนียนนะครับ พอดีเห็นว่าหลังๆมีปัญหาเรื่องตากันเยอะ แล้วส่วนตัวก็ดูแลเว็บนี้อยู่พอดี
 :wanwan008:

เป็นหนักกว่า จขกท. อีกค่ะ
รู้สึกตามันล้าๆ ตามด้วยเวียนหัว คลื่นไส้ อยากอาเจียร มึนๆ พะอืดพะอม (เขียนถูกปะ?)
ยิ่งเวลาเลื่อนๆหน้าจอ ขึ้นๆลงๆ ดูนั่นดูนี่ เวียนหัวมากกก.. จะอ้วกให้ได้ ทรมานอะ
บางครั้งต้องนั่งดมยาด้วย ทำงานด้วย กินน้ำเย็นๆ เอาน้ำเย็นล้างหน้า เร่งแอร์แรงๆ
อาการพวกนี้ ตอนแรกคิดว่าท้อง 555+
.
.
จริงแล้วมันคือโรค
CVS หรือ Computer Vision Syndrome

"...ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่นั่งเฝ้าอยู่แต่หน้าจอมอนิเตอร์นานกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าคุณเครียด นอนดึก ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ที่ทำร้ายสายตาคุณโดยตรง ลองสังเกตุตัวเองว่าสายตาคุณผิดปกติหรือเปล่า..."

อ่านต่อที่นี่ค่ะ (Credit คุณ sobright) http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=65323


"...Computer vision syndrome (CVS) เป็นกลุ่มอาการของตาและสายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ อาการจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อใช้เวลากับคอมพิวเตอร์นานมากขึ้น อาการของ Computer vision syndrome จะมีอาการเมื่อยล้าตา ปวดตา เคืองตา ตาแห้ง น้ำตาไหล ตามัว เห็นภาพซ้อน ปวดคอ หลังและไหล่..."

สำหรับวิธีป้องกันและแก้ไขอย่างละเอียด (ดีมากๆขอบอก)
ศึกษาได้ที่นี่ค่ะ (Credit พญ.โสฬส วุฒิพันธุ์ ) http://www.doctor.or.th/node/7253

คนที่เริ่มมีอาการ อย่าชะล่าใจนะคะ เพราะต่อไปมันจะลุกลามค่ะ
รีบป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ นะคะ

มีแว่นหรืออุปกรณ์ที่พอจะบรรเทาได้ไหมอะคับ

ผมเพลียมากครับ จะหลับอยู่ตลอดเวลา  :wanwan031:

ผมก็เป็นครับ   :P

 วิธีแก้__เล่นคอมนานๆ แล้วปวดตา
 โดยเมื่อใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ
 ส่วนใหญ่มักเกิดอาการเมื่อยล้าในลูกตา ปวดตา
 ตามัวหรือเห็นภาพซ้อน ตาแห้ง รู้สึกไม่สบายตา ตาสู้แสงไม่ได้
 นอกจากนั้นยังมีอาการปวดศีรษะ ปวดคอ ปวดไหล่ และปวดหลังอีกด้วย
 มักจะพบในผู้ที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2
 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องต่อวันเป็นประจำ
 สาเหตุเนื่องมาจากการที่เราใช้ตาดูจอคอมพิวเตอร์นานๆ
 เป็นผลให้การกระพริบตาลดน้อยลง ทำให้เกิดปัญหาตาแห้ง
 นอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากแสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์
 และภาวะแสงสว่างที่ไม่เหมาะสม การเพ่งทำงานในระยะใกล้เป็นเวลา
 นานๆ ทำให้กล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการเพ่งเกิดการแข็งเกร็ง
 เป็นสาเหตุนำมาซึ่งอาการปวดตา ปวดหัวได้ ส่วนอาการปวดคอ
 ปวดไหล่และหลังนั้นเป็นผลจากตำแหน่งในการวางคอมพิวเตอร์ไม่เหมาะสม
 ทำให้ต้องอยู่ในท่าที่ผิดปกติ

 วิธีแก้ปัญหานี้แก้ได้ไม่ยากครับน้องๆ ตามนี้เลย
 1. การจัดสิ่งแวดล้อมใหม่
 ได้แก่การจัดวางโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้จอคอมพิวเตอร์อยู่ในระยะที่ห่างจากลูกตาประมาณ
 20 ? 24 นิ้ว วางในระดับที่ต่ำกว่าระดับตาประมาณ 10 ? 20
 องศาเพื่อจะได้ไม่ต้องเหลือบตาขึ้นสูง
 ความสว่างของห้องต้องเพียงพอ
 ความสว่างในห้องหรือบริเวณโดยรอบจอคอมพิวเตอร์ต้องใกล้เคียงกัน
 นอกจากนี้ยังอาจใช้แผ่นกรองแสงเพื่อช่วยลดแสงสะท้อน เป็นต้น

 2. การปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ได้แก่
 การปรับความสว่างของคอมพิวเตอร์
 ควรจะปรับให้สว่างเท่าๆกับความสว่างของห้อง
 ขนาดของตัวหนังสือควรจะมีขนาดประมาณ 3
 เท่าของขนาดตัวหนังสือที่เล็กที่สุดที่ท่านยังสามารถอ่านได้จากจอคอมพิวเตอร์ในระยะเดียวกัน
 ส่วนสีของตัวหนังสือควรเป็นสีดำบนพื้นสีขาว
 นอกจากนั้นควรวางกระดาษหรือหนังสือที่จะต้องดูให้อยู่ในแนวเดียวกับจอคอมพิวเตอร์
 เป็นต้น

 3. การฝึกนิสัยของตนเอง ควรปรับให้มีการกระพริบตาอย่างสม่ำเสมอ
 ให้มีการคลายกล้ามเนื้อที่ใช้ในการมองใกล้
 โดยบังคับให้มองไปในที่ไกลๆนานประมาณ 1-2
 นาทีเป็นครั้งคราวหรืออย่างน้อย 1-2 ครั้งทุกชั่วโมง
 หรือให้มีการหยุดพักการทำงานทุกชั่วโมงประมาณ 5-15 นาที เป็นต้น
 การใช้น้ำตาเทียมก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะแก้ปัญหาตาแห้งได้
 โดยแนะนำให้ใช้ได้เมื่อรู้สึกเมื่อยล้า แสบตาหรือตาแห้ง

 4. ในผู้ที่อายุเริ่มมีสายตายืดหรือตายาวตามอายุ
 ควรใช้แว่นสายตาชนิด Progressive lens
 ซึ่งมีช่วงการมองหรือจุดโฟกัสหลายระดับโดยเฉพาะที่สำคัญคือระยะกลาง
 (intermediate zone) ซึ่งเป็นตำแหน่งของจอคอมพิวเตอร์
 นอกจากนี้แว่นตาก็ควรจะเคลือบสารที่ป้องกันการสะท้อนเพื่อช่วยลดการสะท้อนของแสงเข้าตาได้อีกระดับหนึ่ง

 5. การแก้ปัญหาปวดคอ ปวดไหล่และปวดหลัง
 นอกจากจะจัดระดับจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมดังกล่าวแล้ว
 ท่านั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็มีความสำคัญ ควรจะต้องนั่งตัวตรง
 หลังเอนไปด้านหลังเล็กน้อย
 แขนทั้งสองในขณะกดแป้นพิมพ์ให้อยู่ในแนวขนานกับพื้น
 ส่วนเท้าควรวางราบกับพื้น

 6. อย่านั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ถ้าเป็นไปได้ทุก 2-3
 ชั่วโมงที่อยู่หน้าจอ ควรเว้นวรรคพักสายตาสัก 10-15 นาทีมั่งนะ
 ส่วนจะหลับตาเฉยๆ หรือเดินไปดื่มน้ำ, ดื่มชาหรือกาแฟ
 หรือเข้าห้องน้ำบ้างก็ได้ ไม่งั้นก็หันไปคุยกับคนรอบๆข้าง
 หรือแฟน ก็ได้นะ เป็นการผ่อนคลายไง

 7. ช่วงเบรกระหว่างใช้คอม ออกกำลังกายบ้างสิ
 อย่างน้อยทำเป็นบิดขี้เกียจก็ยังดี
 ไม่ใช่นั่งอยู่ท่าเดิมๆตลอดเวลา

 8. หางานอดิเรกที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับคอมทำบ้าง เช่น
 ไปเดินห้างสรรพสินค้า พาแฟนไปเที่ยว
 ไปดูหนังสักเรื่องเป็นการผ่อนคลาย
 แล้วค่อยกลับมาทำงานหน้าคอมแบบเดิม ก็จะทำให้เราสดชื่นขึ้นมาบ้าง

ลักษณะของแว่นตาที่เหมาะกับการใช้คอมพิวเตอร์♦
แว่นสำหรับคอมพิวเตอร์ ควรมีระยะที่เห็นชัดที่ 18-28 นิ้วฟุตซึ่งเราเรียกว่า intermediate viewing distance และมี intermediate viewing angle 10๐-15๐ ต่ำจากระดับตา ในขณะที่แว่นอ่านหนังสือ โดยปกติ เช่น bi-focals หรือ progressive lens จะมีระยะที่เห็นชัดอยู่ที่ระยะ 16-18 นิ้วฟุตจากตาและทำมุม 20๐-30๐ ต่ำจากระดับตา.

(http://www.doctor.or.th/sites/default/files/computer3.jpg)

♦ Anti-reflective coating (AR) บนเลนส์จะลดจำนวนแสงจ้าและแสงสะท้อนจากเลนส์ที่จะเข้าสู่ตา.
♦ Lens tints จะลดความสว่างและสีบางสีที่จะเข้าสู่ตา การย้อมสีนี้อาจให้ความสบายกับบางคน.
♦ ในรายที่มีกล้ามเนื้อตาผิดปกติ การใส่ปริซึมในแว่นตาจะทำให้ใช้ตาได้สบายขึ้น.
♦ Ultraviolet coating ถ้าในห้องทำงานมี fluorescent light ซึ่งให้แสงสีฟ้าจำนวนมาก แสงสีฟ้ามีความกระจัดกระจายสูง การใช้ ultraviolet coating จะตัดแสงสีฟ้าที่เข้าตาได้.
♦ ในผู้ที่เป็น presbyopia แว่นสำหรับคอมพิวเตอร์ควรมี intermediate zone ที่กว้างไว้สำหรับมองคอมพิวเตอร์ซึ่งอาจเป็น

1. Single-vision lens ใช้เลนส์ที่มีระยะที่เห็นชัดที่ 18-28 นิ้วฟุตเพื่อไว้ใช้ดูคอมพิวเตอร์อย่างเดียว มีราคาถูกที่สุด. ข้อเสียคือ มองใกล้มากๆ และมองไกลไม่ชัด.

2. แว่น Multifocal
♦ Trifocal โดยจัดให้เลนส์ส่วนบนของแว่นสำหรับดูไกล ส่วนกลางให้ชัดสำหรับดูคอมพิวเตอร์ และส่วนล่างสำหรับดูหนังสือ. ข้อเสียคือ เลนส์ส่วนกลางจะมีบริเวณแคบและเวลามองคอมพิวเตอร์อาจต้องเงยหน้าขึ้นมอง.
♦ Bifocal จัดให้เลนส์ส่วนบนของแว่นเห็นชัดสำหรับดูคอมพิวเตอร์และส่วนล่างสำหรับดูหนังสือ. ข้อเสียคือ มองไกลไม่ชัด. แต่ถ้าทำให้เลนส์ส่วนบนเห็นชัดสำหรับดูไกลและส่วนล่างสำหรับดูคอมพิวเตอร์. ข้อเสียคือ เวลาดูคอมพิวเตอร์ต้องเงยหน้าขึ้น.
♦ Progressive lens ข้อดีคือไม่มีเส้นรอยต่อระหว่างเลนส์. ข้อเสียคือ การบิดเบี้ยวของภาพที่อยู่ข้างๆ. โดยทั่วไป progressive lens มี intermediate area แคบจึงไม่เหมาะกับการทำงานคอมพิวเตอร์. การพยายามเงยหน้าหรือก้มมาข้างหน้าเพื่อให้เห็นชัดจะทำให้มีอาการปวดคอ ไหล่ และหลัง ฉะนั้นสำหรับการทำงานคอมพิวเตอร์ควรเลือก progressive lens ชนิดมี intermediate zone กว้างและอยู่ตรงกลาง เมื่อมองลงล่างจะดูหนังสือได้ ถ้าก้มหน้าแล้วเหลือบตาขึ้นบนเล็กน้อยก็จะสามารถเห็นไกลได้ประมาณ 10 ฟุตพอให้เห็นของภายในห้องได้ แม้ไม่ชัดพอที่จะขับรถ เราเรียกเลนส์กลุ่มนี้ว่า occupational progressive lenses การใช้เลนส์กลุ่มนี้ทำให้ลดอาการปวดเมื่อยล้าตา ไหล่และหลังได้.    

3. Clip-on เป็นเลนส์ที่นำมาหนีบบนแว่นเพื่อให้เห็นชัดในระยะที่ต้องการ.

การจัดตำแหน่งการนั่งให้เหมาะสมในการใช้คอมพิวเตอร์
ตำแหน่งการนั่งที่ไม่เหมาะสมขณะใช้คอมพิวเตอร์ทำให้มีอาการปวดคอ หลังและไหล่ได้ ตำแหน่งที่แนะนำได้แก่
♦ จอคอมพิวเตอร์อยู่ตรงกับเรา ห่างประมาณ 20-26 นิ้วฟุต.
♦ จอคอมพิวเตอร์อาจหงายขึ้นบนได้เล็กน้อยเหมือนหนังสือที่เราถืออ่าน.
♦ ในท่ามองตรง จัดให้จุดกลางของจอคอมพิวเตอร์อยู่ต่ำกว่าตาลงมา 5-6 นิ้วฟุต.
♦ ขณะพิมพ์ควรให้แขนขนานกับพื้น เท้าวางราบบนพื้นหรือที่รองเท้า เข่าให้อยู่ระดับเดียวกับเก้าอี้หรือสูงกว่า.
♦ หลังตรงและไม่ให้งอไหล่มาข้างหน้า.
♦ Keyboard และ mouse ควรให้อยู่ต่ำกว่าศอก เพราะถ้าสูงกว่าหรืออยู่ไกลเกินไปจะทำให้ไหล่ต้องรับน้ำหนักของแขน เกิดอาการเมื่อยล้าที่ไหล่ คอและหลังได้.
♦ จัดที่นั่ง ไม่ให้มีลมเป่าเข้าตา.
♦ การมองไปมาระหว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์กับหนังสือทำให้มีอาการเมื่อยล้าได้ จึงควรวางหนังสือให้ใกล้กับจอคอมพิวเตอร์.
♦ ไฟที่ใช้กับหนังสือไม่ควรให้ส่องเข้าตา หรือจอคอมพิวเตอร์.
♦ ขณะใช้คอมพิวเตอร์ควรหยุดพักสายตาเปลี่ยนเป็นมองไกล 2 ครั้งทุกชั่วโมง และควรลุกขึ้นมายืน ขยับแขนขา หลัง คอ ไหล่และข้อบ่อยๆ.

Credit: http://www.doctor.or.th/node/7253

ก็รักษาสุขภาพกันบ้างน่ะครับพี่น้อง TSB ผมก็ไม่ค่อยดีเท่าไรเรื่อสายตาอ่ะครับ

อยู่กับคอมมากกว่าอยู่กะแฟนอีก  555+

อ่อ..เอาต้นกระบองเพชรเล็กๆ วางไว้ข้างจอคอมฯ ช่วยดูดรังสีจากคอมพิวเตอร์ได้นะคะ

น้องผมบอกว่า เอาไว้กินเวลานั่งทำงานหน้าคอมฯแล้วง่วงมากๆ :wanwan024: :wanwan024:

 :'( คุณแค่ เพลีย แต่ผม พังไปแล้ว (ตาผม ไม่คุ้มเลย)

ชีวิตในปัจจุบัน ทำให้จำเป็นต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน หรือการพักผ่อนหย่อนใจในโลกไซเบอร์ แต่ถ้าเราทำงานกับคอมพิวเตอร์อย่างไม่ถูกสุขลักษณะ จะก่อให้เกิดปัญหาในร่างกาย เช่น ภาวะปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เอ็นอักเสบ หรือวุ้นในตาเสื่อม เป็นต้น ลองนำ 10 วิธี ของเราไปปฏิบัติ แล้วคุณจะสามารถทำงานกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีความสุข

     1. ควรตรวจสายตาก่อนทำงานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ และตรวจวัดสายตาซ้ำเป็นระยะๆ
     2. ผู้ที่แพ้แสงสว่าง ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนปฏิบัติงานร่วมกับคอมพิวเตอร์
     3. ควรเปลี่ยนอิริยาบถ หรือยืดกล้ามเนื้อเป็นระยะๆ ไม่ควรนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเกินไป
     4. จอจัดแสงที่จอแสดงภาพ (Monitor) ควรเหมาะสม คือไม่ควรมีแสงกระพริบ หรือวูบวาบ และควรมีความสว่างหรือความเข้มของแสงที่เหมาะสม คือ ควรปรับให้ ไม่สว่างหรือมืดเกินไป
     5. ระยะจากสายตามายังจอคอมพิวเตอร์ ควรมีมุมก้มประมาณ 20 องศา ระยะห่าง 18-22 นิ้ว
     6. การวางตำแหน่งมือที่แป้นพิมพ์ ข้อศอก ควรตั้งฉากกับลำตัว(ประมาณ 90-120 องศา) เพื่อลดแรงยกที่หัวไหล่
     7. การจับ Mouse ไม่ควรให้ข้อมืออยู่ในตำแหน่งที่บิดเอียงออกทางด้านนอกลำตัว ควรจับในท่าที่ข้อมือเอียงหรือบิดน้อยที่สุด
     8. เก้าอี้ ควรสามารถปรับระดับสูงต่ำ ตามสรีระของผู้ใช้งานได้ และต้องมีพนักพิงที่ปรับระดับได้ และที่พักแขน ส่วนเบาะรองนั่งควรมีลักษณะโค้งลาดลง ไม่เป็นสันคม และไม่กดที่ใต้ตำแหน่งของเข่า
     9. จอแสดงภาพต้องสามารถปรับมุมก้มเงย หรือเอียงได้
     10. หากปวดกล้ามเนื้อหรือเอ็นเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์

ที่สำคัญ การทำงานทุกการทำงานต่อเนื่องกัน 2 ชั่วโมง ควรมีการหยุดพักประมาณ 10 นาที ด้วยนะครับ

จาก http://www.sapaan.net/forum/health-community/oo1noiaocaiaiiaeoaaaeeaocoaeo/   :-[

ยายกวนทั้งคืนล่ะสิ เล่นเอาตาเพลียเลย ล้อเล่งงง  :P เคยเป็นแต่นาน ๆ ปวดกระบอกตาที แต่เป็นทีนี่หนักเลย ดาวระยิบเห็นไรเขียวไปหมด แถมเหมือนภาพหน้จอหายไปบางส่วน พอไปหาหมอ ๆ ดันบอกเป็นไข้หวัดใหญ่เทียมซะงั้น  :-X

น้อง ๆ ก็พักกันบ่อย ๆ นะครับ
ผมว่ามันแย่นะ อาการพวกนี้
ตา จมูก คอ หู มันลิ้งค์กันด้วย

ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ
เวลาตาใสปิ๊ง ก็จะดูน่ารัก
หมั่นดูแลถนอมดวงตาไว้นะจ๊ะ

ปล. รู้สึกตาขาวจะมีเส้นเลือดเยอะขึ้นอะ มีวิธีลดมั้ยครับ

เป็นบ่อยเหมือนกันครับช่วงนี้

 

ค้นเจอละ ถามเองตอบเอง 555 

.........

ตาดำไม่มีหลอดเลือด ได้น้ำตาเลี้ยง และออกซิเจนในอากาศ
ถ้าใส่คอนแทคเลนส์ ออกซิเจนเลี้ยงก็ลดลง น้ำตาลดลง

ทำให้เซลล์เยื่อบุผิวกระจกตาดำซึ่งมีบทบาท
ในด้านการทำให้กระจกตาดำคงความใสอยู่ได้ตลอดเวลา ลดจำนวนลงไป

ภูมิคุ้มกันของตาก็ลดลง พอติดเชื้ออ่อน ๆ คัน มีน้ำตาไหล หลอดเลือดเลยขยายตัวขึ้นเพื่อเอาระบบภูมิคุ้มกันมาที่ตาดำ

........................

ฟังดูแล้วก็เกี่ยวกับน้ำตาด้วย ใช้คอมมาก ๆ ตาแห้ง ก็น่าจะเป็นสาเหตุของเส้นเลือดในตาเห็นชัดมากขึ้น
ตาจึงไม่ใสแบบเด็ก ๆ

ผมเคยเส้นเลือดที่ตาขาวแตกมาแล้ว สาเหตุจากการนั่งจ้องอยู่หน้าจอคอมนานๆนี่แหละ ผลที่ตามมาก็คือจะปวดแสบตามากเวลาทำงาน เลยจำเป็นต้องหยุดพักรักษาตัวชั่วคราว เป็นอันว่างานไม่เดินยิ่งกว่าเดิม
ต้องรีบรักษาตาให้หายเป็นปรกติโดยด่วนที่สุด มิฉะนั้นอาจจะไม่ได้ทำงานอยู่หน้าจอคอมอีกตลอดไป

สรุปคือเราต้องพักผ่อนให้เพียงพอครับ อย่าหักโหมมาก รู้จักแบ่งเวลาทำงานและรักษาสุขภาพไปด้วย ไม่งั้ยจะได้ไม่คุ้มเสียนะครับ เรื่องสุขภาพนี่เรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเรื่อดวงตานี่ต้องดูแลมากๆเลยครับ

สู้ๆครับ

เป็นเหมือนกันครับ หามรุ่งหามค่ำเพื่อพี่ Ads คนเดียว  :'(

เลิกใช้คอมไปเลย ไม่งั้นก็ใช้จอ 15 นิ้ว CRT รุ่นเก่าๆ แทน

จอ CRT ยิ่งแย่มั้งครับ เมื่อก่อนเคยใช้ ใช้แอลซีดีสบายตากว่า แต่อย่าจ้องมาก ๆ

ผมเคยเป็นแบบ มองแล้วเบลอ เวียนหัวด้วย ไปหาหมอ หมอบอกว่าถ้าจ้องคอมมากๆ ต้องพักบ้าง เช่นทำงาน 1 ชัวโมงต้องพักสายตา 10 นาที
แล้วค่อยไปทำต่อ แล้วก็ใส่แว่นที่มีเลนส์ที่มันกรองแสงจากคอมได้อะครับ ราคาแว่น 3000 กว่าๆมั้ง

รักษาสุขภาพกันด้วยครับ ไม่งั้นเหมือนหาเงินมาได้เยอะแล้วจะไม่ได้ใช้ นะครับ

ได้ใช้ครับ แต่อาจมองไม่เห็น คลำๆ เอา :wanwan009:

มีวิธีแนะนำดีๆ
เริ่มจากการปรับสิ่งแวดล้อมในการทำงานก่อน ให้มีแสงสว่างเพียงพอ

แสงจ้า และแสงสะท้อน (Glare reflection) จากจอคอมพิวเตอร์ทั้งที่สะท้อนมายังจอภาพ หรือ
แม้แต่แสงสว่างจากหน้าต่างส่องปะทะหน้าจอภาพโดยตรง
ก่อให้เกิดแสงจ้าและแสงสะท้อนเข้าตาผู้ใช้คอมทำให้เมื่อยตาล้าง่าย
จึงต้องจัดแสงไฟและตำแหน่งจอภาพให้เหมาะสม
อย่าให้จอภาพหันหน้าเข้าหน้าต่างหรืออยู่หน้าต่อหน้าต่าง
โคมไฟที่ส่องหน้าตรงๆ ลงมาอาจทำให้เกิดแสงจ้า
น่าจะเปลี่ยนเป็นหลอดไฟที่กระจายทั่วๆ ไป
หรือโคมไฟที่ส่องเฉพาะกระดาษอย่าให้แสงปะทะกับจอภาพและตาผู้ใช้

นอกจากนี้ควรปรับคลื่นแสงที่หน้าจอ (Refresh rate)
ซึ่งเครื่องส่วนใหญ่จะปรับอยู่ที่ 60 Hg ซึ่งขนาดนี้ทำให้เกิดแสงกระพริบ
ทำให้ภาพบนจอเต้นกระตุ้นให้เราต้องปรับตาเพื่อโฟกัสใหม่อยู่เรื่อยๆ
ทำให้ตาเมื่อยล้าได้
ควรปรับความถี่ให้อยู่ระดับ 70-80 Hg จะทำให้จอภาพเต้นน้อยลง สบายตาขึ้น

ระยะของการทำงานที่ไม่เหมาะสมทำให้ตาของเราเมื่อยเพราะต้องเพ่ง
ระยะจากตาถึงจอภาพควรเป็น 0.45 ถึง 0.50 เมตร
ตาอยู่สูงกว่าจอภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้แว่นตาแบบ Bifocal (คือแว่นสายตาที่มองทั้งระยะใกล้และไกล) จะต้องตั้งจอภาพให้ต่ำกว่าระดับตาเพื่อตาจะได้มองตรงกับเลนส์แว่นตาที่ใช้มองใกล้ การตั้งจอคอมพิวเตอร์สูงกว่าระดับสายตา
จะทำให้ผู้ใช้ต้องแหงนหน้ามอง การแหงนหน้าอยู่ประจำทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่ได้ง่าย
พอจัดการสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็มาจัดการตัวเองต่อ
คนที่มีค่าสายตาที่ผิดปกติอยู่เดิม เช่น มีสายตาสั้น ยาว หรือเอียง หรือสายตาผู้สูงอายุ
ควรแก้ไขสายตาให้มองเห็นชัดที่สุด จะได้ไม่ต้องเพ่งโดยไม่จำเป็น
การทำงานจ้องจอภาพนานเกินไป ย่อมเกิดอาการไม่สบายตาได้ง่าย
ทุกคึ่รึ่งชั่วโมง ที่จ้องจอภาพควรพักสายตาประมาณ 5 นาที
โดยมองออกไปไกลๆ หรือหลับตาเฉยๆ
การหยอดน้ำตาเทียมระหว่างวันอาจจำเป็น เพราะน้ำตาระเหยมากขึ้นเวลาใช้คอม ทำให้
ตาแห้งง่ายขึ้น
ลองทำดูนะคะ เพื่อสภาพตาที่ควรถนอมของคุณ
มีอีกที่นี่เข้าไปอ่านดูสิดีนะ www.drtulaya.com (http://www.drtulaya.com)  :wanwan020:

ลูทีน หาซื้อที่ไหนได้ถูก ๆ ครับ วันนี้ไปดูบู้ต แบลคมอ 60เม็ด750 มีที่อื่นถูกกว่ามั้ย

เอาแล้วอาการผมตอนนี้เป็นแบบนี้เลยเป็นมา 3 เดือนไปหาหมอมา 3 ครั้งแล้วยังไม่หาย ขออนุญาติขุดมานะเผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆครับตอนนี้ผมทรมารมากมายยเลย T T

น้ำตาเทียม, พักสายตา, เลนส์ตัดแสง blue light ช่วยท่านได้ครับ

 :wanwan017:

เหมือนมีน้ำตาคลอๆๆอยู่ประจำเลย  :P

ขอบคุณมากครับ

แสบตาทุกวันเลยครับ นั่งทำงานวันละ 12 ชม.

ผมกลัวเหมือนกัน เห็นบางคนเป็นหนักโดนสัางห้ามอยู่หน้าจอคอมเลย แต่ผมทำๆไปแล้วก็ออกไปเล่นกับหมาไป

ผมเป็นบ่อยครับอยู่หน้าคอม ทั้งวัน ต้องออกกำลังกาย เช่นวิ่ง 30 นาที หรืออะไรที่ประมาณนี้ ช่วยได้ครับ ผมทำแล้วเห็นผล แต่ก็ไม่ได้หายขาดครับ

เป็นบ่อย โดยเฉพาตาข้างซ้าย เคยเป็นจอประสาทตาอักเสบมาแล้ว

เป็นครับ   แต่ผมทานอาหารเสริมหรือวิตามินบำรุงไปด้วย อาหารก็ดีขึ้นบ้าง

ปัญหานี้เป็นกันเยอะแน่นอน เหอๆ  :'( รวมทั้งผมด้วย

เป็นครับ ลุกออกไปหาอะไรทำ

เป็นเหมือนกันครับ นั่งหน้าคอมทั้งวัน ต้องงีบพัก สักชั่วโมง สองชั่วโมงดูครับ   ไม่ไหวอย่าฝืน สายตาสำคัญมาก ดูแลมันดีๆน่ะครับ  :wanwan003:

ที่ผมรุ้สึกได้เลยคือสายตาสั้นลงเยอะเลย

ของผมจะเป็นแบบมึนๆคลื่นไส้

สายตาแย่ลงเลยเลยครับ ทำงานหน้าจอทั้งวัน

แย่ลงอย่างชัดเจน  :wanwan015:

เป็นเหมือนกันครับ ปวดตามากๆเลย เดี๋ยวลองทำตามคอมเม้นที่พี่ๆ เพื่อนๆแสดงความเห็นมา ว่าจะได้ผลอย่างไร เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังครับ

ถ้าเป็นหนัก  แนะนำให้พักผ่อนบ้างนะครับ :wanwan013:

ผมนี่ ครบวงจรเลยครับ
ตา ข้อมือ ท้ายทอย หลัง

ต้องพักไปยืดเส้นยืดสายเป็นระยะครับ

เป็นข้างเดียวกับผมเลยครับ
 :wanwan017:

ช่วงงานเยอะๆเป็นประจำค่ะ กินวีต้าเบอรรี่ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ลองดูนะคะ

ช่วงนี้ทำงานจ้องจอคอมนานๆ รู้สึกปวดตา ต้องพักสายตาเป็นระยะ  กินวิตามิน และอาหารบำรุงสายตา ช่วยได้

ใช่ครับ ใช้ไปนานๆมีเบลอเหมือนกันคับ

wow คำแนะนำจากเพื่อนๆดีมากๆเลยครับ ขอบคุณค๊าบบ

เคยปวดตาประมาณว่ากระบอกตาเต้นตุ๊บ ๆ ๆ ไม่เป็นอันทำไรเลย ขนาดนอนยังปวด ทรมานมาก  :wanwan035:

ผมเหมือนกัน ใส่แว่นช่วย ปกติไม่ใส่แว่น

เป็นเหมือนกันเลยค่ะ ใช้คอมนานแล้วปวดกระบอกตามาก
บางครั้งก็ปวดหัว เป็นไมเกรนไปเลย

พึ่งไปหาคุณหมอมาเมื่อไม่นาน ตรวจไปหลายอย่าง ค่อยสบายใจขึ้นมานิดนึง

 :wanwan011: :wanwan011:

ก่อนนอนให้ใช้ เจลเย็น ประคบครับ
ผมมีสองอัน สลับกันไป

ประคบแล้วก็นอนหลับ

ส่วนคอมก็ลง โปรแกรม flux มันจะกรองแสงให้เหลืองๆ สบายตาครับ :wanwan030:

ผมก็ไปหาหมอมาครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าผมเป็นไมเกรนแล้ว ทรมารจริงๆ

เราเคยเป็นค่ะ ปวดตามากเวลานั่งทำงานหน้าคอมนานๆ ทั้งแสบ พร่า น้ำตาไหลและสายตาสั้นเป็นหมดครบ!

วิธีแก้ของเราคือ นอกจากปรับแสงจอคอมแล้ว เราเน้นกินอาหารสีเหลืองส้มเป็นหลักค่ะ
ตั้งแต่แครอท ข้าวโพด มะละกอ สับปะรด ฟักทอง(ชอบมาก) ไข่แดงและดื่มน้ำเยอะๆ
อาหารที่มีสีเหลืองส้มทั้งหลาย พวกนี้วิตามินเอสูง บำรุงสายตา
ช่วยให้การมองเห็นชัดขึ้นและป้องกันระบบการทำงานของดวงตาเสื่อมได้ครบวงจร

เราเคยสายตาสั้น มองตัวหนังสือเล็กเท่ามดมาช่วงนึง พอมากินผักผลไม้เยอะๆ สายตากลับชัดขึ้นและไม่ปวดอีกเลย

 :D ปรับปัจจัยภายนอกแล้ว อย่าลืมใส่ใจปรับภายในด้วยอาหารการกินกันด้วยนะคะ เราว่าช่วยได้หลายระดับเลยล่ะ ^_^

ตามความเห็นนี้..น่าช่วยได้จริงๆ ค่ะ
ส่วนด้านล่าง ของคู่คอมของเราเอง ขาดไม่ได้ °^^

(http://oi62.tinypic.com/2iw4irp.jpg)

เป็นประจำครับ เหมือนเปิดไฟหรี่ที่ตาตลอดเวลา วิธีแก้ของผมคือ นอนหลับครับ

เป็นเหมือนกัน  :-X

วิธีของผม กินไข่เป็ดต้มวันละ 3 ฟอง เช้าเที่ยงเย็นครับ

ผมใช้แว่นที่ตัดแสงสีฟ้าจากจอคอมพ์ ช่วยได้เยอะครับ คุ้มกับการทำงานที่ต้องใช้สายตาตลอดเช่นพวกเรา

ผมปรับ Brightness 0 ครับ แล้วปรับ Contrast เอา คือเคยเห็นบางคนใช้หน้าจอสว่างมาก ผมยังงง ว่าใช้งานไปได้ยังไง

ชาว im ใช่รางกายส่วนลูกตาเยอะ ต้องบำรุงมันเยอะกว่าส่วนอื่นด้วยเช่นกัน ว่าแล้วไปหาซื้อข้าวโพดมาเทะ เล่นดีกว่า ;D
ปล.น้ำตาเทียม หาซื้อมาใช้ได้เลย

เข้ามาเพราะชื่อกระทู้.. แล้วเพลงนี้มันแว๊บเข้ามา "เช้าบ่ายเย็น อยู่หน้าจอ อยู่หน้าจอ..."

ใครนึกไม่ออก >> hททps://www.youtube.com/watch?v=6RKoa40t1wA  :wanwan004:

เวลาจ้องคอมเราจะปรับลดแสง ไม่เล่นในที่แสงจ้าหรือมืดเกิน

และก็พักสายตาบ่อยๆ ดื่มน้ำด้วย บางครั้งก็รู้สึกปวดตาบ้าง ก็รีบพักสายตาเลย 5555

เคยเป็นบ่อยๆครับ ถ้าจ้องหน้าจอนานๆ ผมจะแก้ปัญหาโดยหลับตาสัก 1 นาที แล้วมองไปรอบๆห้องทำงานเพื่อดูสาวๆ(ที่ทำงานสาวจีนเยอะ) อิอิ

เป็นบ้างครับ ผมแก้ปัญหาโดยการ หาอะไรทำนอกจากมองจอคอม  :wanwan017:

อันนี้ไม่ได้เพลียค่ะ เราเปง คือ ปวดตา ยันไป ถึงหัว เลยจ้าๆ หลังๆ เวลาทำงาน ก็ พักสายตา บ้างอะจ้ะ ดีขึ้นอยุ่

ผมนี่ปวดตาเลยอยู่หน้าคอม หน้ามือถือตลอดเวลาขับรถต้องผ่อนสายตาก่อนไม่งั้นเบลอ

ผมนี่เคยอาการหนักครั้งนึง
นั่งหน้าคอมทั้งวัน 2-3ชม. มีออกไปพักสายตาบ้างครั้งละไม่เกิน 20นาที
วันนั้นก็ทำแบบนี้ทั้งวันเหมือนกัน แต่พอช่วงเย็นกะจะดูหนังก่อนนอน
พอเปิดดูได้แค่ต้นเรื่องประมาณสัก10นาที อยู่ๆก็มีอาการแสบตาอย่างรุนแรง
คิดว่าคงเพราะนั่งหน้าคอมทั้งวัน วันนั้นก็เลยตัดสินใจนอนพักผ่อนสาย ไม่ดูหนัง
พอตื่นเช้ามา เหมือนว่าจะลืมตาสู้แสงไม่ได้เลย เพราะจะปวดแสบและมีน้ำตาไหลตลอด
ก็เลยให้แฟนไปซื้อยาหยอดตามาให้ และก็ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน
เป็นสัปดาห์ก็ยังไม่หาย ก็เลยตัดสินใจไปคลินิก หมอบอกว่าตาอักเสบ ฉีดยาให้เข็มนึง กับจ่ายยาแก้อักเสบให้
จากนั้นก็กลับมานอนพักผ่อนสายตา พอตื่นขึ้นมาก็ไม่รู้สึกปวดตาแล้ว แต่ยังสู้แสงไม่ได้
ผ่านไป 3-4วัน ก็หายเป็นปกติครับ

ณ เวลานั้น รู้ซึ้งและเข้าใจหัวอกคนพิการทางสายตาเลยครับ จะทำอะไรมันก็ตะกุกตะกักไปหมด
อยากจะดูหนัง ก็ดูไม่ได้ จะออกไปไหนก็ไปไม่ได้ ทรมานมากครับ  :'(

เริ่มเป็นเหมือนกันค่ะ

 ใช้น้ำตาเทียมน่ะครับ  หยอดวันละครั้งก็ได้ ช่วยสายตาได้เยอะทีเดียว

ผมเป็นหนักกว่า จขกท.อีก แต่ก็ต้องทำใจฝืนทน เพราะถ้าไม่ใช้คอมก็ต้องไปทำอย่างอื่น หวังว่าสักวัน จะมีเทคโนโลยี หน้าจอแบบใหม่ ที่ไม่ทำลายสายตาเหมือนอย่างทุกวันนี้  :'(

ตาเสียมากทำงานพวกนี้

เป็นเหมือนกันค่ะ อาศัยใส่แว่นกรองแสง ช่วยได้เยอะ

 :wanwan044:

มองต้นไม้เขียว ๆ ครับ ช่วยได้ครับ
ใช้คอม 1 ชม. พักสัก 5 นาที ครับ
 :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017:

อันนี้เกิดกับตัวผมเลยนะครับ ทำงานจ้องคอมแทบทั้งวันทั้งคืน แบบว่าปวดตาง่วงหลับหน้าคอมฝืนแบบนี้บ่อยมากๆจนตามันเกิดลูกอะไรสักอย่างเหมือนซี้ดขึ้นตา ไปหาหมอๆบอกว่าไขมันอุดตันเพราะใช้ตาหนัก คือตาคนเรามันจะมีจุดอะไรสักอย่างรอบตา พอถึงจุดนึงมันจะบวม สุดท้ายผมต้องกรีดออกเสียไปราว 1700

ตอนตื่นนอนสิครับ ปวดตาลืมแทบไม่ขึ้น

เป็นบ่อยเลยครับ

ผมทำจนเป็นซี๊ด :'(

ผมก็เป็นโรคสายตาสั้น และก็มีปัญหาเรื่องตา ประจำ เกิดจากการเพ่งมองจอคอมพิวเตอร์ ทังการปรับแต่งแสงหน้าจอคอมและตำแหน่งการมอง ก็ช่วยได้เยอะ แต่ก็ปวดกระบอกตา มองอะไรบนท้องฟ้า ก็จะมีใยแมงมุมดำๆ ขึ้นมา

ทางแก้ไขเรื่องนี้ คือ หายาวิตามินบำรุงสายตากินครับ ก็ป้องกันเรื่องสายตาได้ระดับหนึ่ง แต่ท้ายที่สุด คือ ต้องซื้อปริ๋นเตอร์มาหนึ่งตัว หาข้อมูลและปรินออกมาอ่าน จะได้ไม่ต้องมานั่งเพ่งมองหน้าจอคอม

ผมทำงานวันนึงๆ 10-16 ชม จ้องหน้าจอ ปวดหัวและอยากอ้วกครับ ก็เลยหาวิธีแก้ก็เจอครับ
 - ปรับแสงหน้าจออยู่ที่ 5500K แต่สีที่ได้จะลดความสดใสลง (ใช้โปรแกรมช่วย)
 - ปรับแสงให้ห้องทำงานให้เท่ากับจอภาพ (พอดีใช้ imac มันปรับอัติโนมัติ)
 - ลุกมาหมุนแขนไปข้างหน้า-หลัง ทุกๆ 2 ชม เดินไปเข้าห้องน้ำ

ผมลองทำประมาณ 1 อาทิตย์
- รู้สึกว่าอาการปวดหัวหายไป ตาไม่ล้า
- อาการปวดไหล่ คอ ค่อยๆหายไปครับ
- หลังจากทำงานมาทั้งวัน ยังสดชื่น ไปทำกิจกรรมหลังเลิกงานได้ดีขึ้น เช่น ออกกำลังกาย ไปเที่ยว

พักสายตา มองอะไรเขียวๆ ใช้แว่นกรองแสง หลับตาบ้างค่ะ

หมอบอกให้ผมบริหารสายตาครับ
โดยใช้ปากกาตั้งตรง วางอยู่หว่างคิ้วแล้วเลื่อนออกไปจนสุดแขน จากนั้นเลืื่อนเข้ามาจนเห็นภาพไม่ชัด นับหนึ่ง ทำจนครบ 20 ครับ วันละ 2-3 ครั้ง แล้วแต่สะดวก ผมลองทำแล้วดีขึ้นครับ ถ้าวันไหนคิดว่าใช้งานตาเยอะก็ทำซักหน่อย ช่วยได้ครับ