เวลาถูกคู่แข่งตัดราคา เราแนะนำว่าอย่าไปยอม ให้หาทางแก้ไข ถ้าเรายอมก็เท่ากับเรายอมยกธุรกิจให้กับคู่แข่ง พอเริ่มเอาของไทยขาย ทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับคนขายบางกลุ่มที่ขายในอเมซอน บางคนมีสินค้าลักษณะคล้ายๆกับเรา แต่ไม่มีบาร์โค้ดในการเปิด product page ก็เล่นง่ายๆโดยใช้บาร์โค้ดของเราเปิด product page แล้วก็ทำ combined ทำให้รูปสินค้าของเค้ามาโผล่ในหน้าสินค้าของเราด้วย เค้าคงคิดว่าเราซื้อบาร์โค้ดมาหรือมั่วเอาบาร์โค้ดของใครก็ไม่รู้มาเปิด คงไม่กล้ารายงานอเมซอน แต่ที่จริงเราจดทะเบียน GS1 ถูกต้องทุกอย่าง เทียบการแข่งขันในอเมซอนกับในอีเบย์ เราว่าในอีเบย์ไม่รุนแรงเลย เพราะลิสติ้งแยกกัน และยังมีลูกค้าจากหลากหลายประเทศมาก แต่ในอเมซอนแข่งกันแรงจริงๆ อาจเพราะใช้ลิสติ้งอันเดียวกัน แทบจะใช้ราคาเป็นตัวหลักในการแข่งขัน feedback มีผลไม่มากเหมือนในอีเบย์เพราะอเมซอนมี a to z guarantee พอการแข่งขันรุนแรงต่างคนต่างก็เห็นคนอื่นเป็นคู่แข่งไปหมด สังคมผู้ขายไม่ดีเท่าในอีเบย์ คนขายในอเมริกาก็คงจะเซ็งคนขายจากเอเชียเหมือนกัน เข้าไปอ่านในฟอรั่มแล้วรู้สึกได้ และยิ่งมีการทำ FBA ยิ่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ขายนอกอเมริกา นอกจากนี้ผู้ขายอเมริกันยังต้องเสียภาษีอีกด้วย คนขายคงเริ่มเซ็งอเมซอนกันเป็นแถบๆ และสินค้ารายการไหนขายดีมากๆอเมซอนก็สั่งขายเองด้วยซะงั้น
ตอนนี้เรา happy กับอีเบย์มาก ปัจจุบันยอดขายไม่ดีเท่าอเมซอน แต่มองเห็นอนาคตที่สดใส ในอเมซอนนอกจากการแข่งขันสูง และลูกค้าก็มาแนวๆลูกคนรวยที่ถูกสปอยล์ การฟิลออร์เดอร์ต้องสมบูรณ์แบบจริงๆ นิดๆหน่อยๆก็มักจะ claim รู้ๆกันว่าอเมซอนจะอยู่ฝั่งคนซื้อมากกว่าคนขาย พักหลังๆเราถูกเคลมแปลกๆ สถานะขึ้นว่านำส่งแล้ว แต่หลังจากนั้นเป็นเดือนก็ถูกเคลมว่าไม่ได้รับของ เหมือนจงใจจะโกง ในลิสติ้งเราบอกแล้วว่าใช้เวลานำส่งแค่ไม่กี่วัน แต่เหมือนลูกค้าจงใจที่จะปล่อยให้เวลาผ่านไปซักพักก่อนจึงเปิดเคลม แต่ UPS ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้ เป็นสาเหตุที่เราเลือกใช้ UPS ในการส่งของไปอเมริกา แทนที่จะใช้ DHL หรือ Fedex ถึงแม้จะนำส่งไปแล้วเป็นเดือน UPS ก็ตามให้ได้ ถ้า courier ยืนยันว่าส่งถูกบ้าน แต่ลูกค้าบอกว่าไม่ได้รับ กรณีแบบนี้ UPS เคยไปพร้อมกับ FBI และหมายค้นบ้าน เราเจอการเคสแบบนี้หลายครั้ง แต่ยังไม่เคยต้องคืนเงินให้ลูกค้าเลย UPS เคลียร์ให้ตลอด
Policy ของ Amazon ก็มีส่วน บอกว่า ถ้าสั่งซื้อของใน US คุณจะได้รับของใน US ใช้เวลา 24 ชม
ปรากฏคนสั่งซื้อของบน Amazon วันที่ 24 ธค ปีที่ผ่านมา ยอดวันเดียว $137 ล้านเหรียญ คนสั่งซื้อชองช่วง 5 ทุ่ม เยอะมาก
ของส่งไม่ทัน USPS โดนค่าเละ และ amazon คืนเงืนให้ลูกค้า 20 %
ลูกค้าก็ไม่พอใจบอกว่า ถ้าทำ ไม่ได้อย่างที่พูด ก็ไม่ควรออก policy แบบนี้ เด็กหลายคนผิดหวัง ไม่ได้ของตอน คริสมาสต์
เพราะ คนที่ออก Policy นึกแต่การบริการลูกค้า แต่ไม่ได้เตรียม Case ที่ทำไม่ได้
พวก พายุหิมะ ของสั่งตอเกือบเที่ยงคืน ปัญหาภายใน USPS
ลูกค้าบน amazon ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ ฉันควรจะได้สิทธิแบบนี้ เพราะกฎของเธอเป็นแบบนี้
เพื่อนเราขาย CD เพลงค่ะ เป็นคนไทยใน US ขายดีที่ Amazon วันเดียว 95 แผ่น
ปรากฏบริษัทผู้ผลิตบอกว่าผลิตไม่ทันให้รอไป 2 อาทิตย์ เพื่อนคืนเงินให้ พร้อมแจ้งความจำเป็น โดน Negative FB Account Suspened ทำ Amazon อย่าให้โดน Account Suspended เป็นอันขาด
สำหรับ เรา ขาย eBay น่าทำ กว่า Amazon เยอะค่ะ ค่าธรรมเนียมก็ถูกกว่า
มีสินค้าบางตัวเราขาย ได้ 100 กว่า ชิ้น ต่อเดือน ถ้าเป็น Amazon ก็โดน Commission ไป 15% ebay จะ โดน ไป 9 % บวกค่า ธรรมเนียม Paypal
ใครที่บอกว่า ขาย Amazon เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า eBay ไปคิดดูใหม่ก็ได้นะคะ
Amazon ลงสินค้าตัวใหม่ ต้องใช้ บาร์โค้ด eBay ไม่ต้องมี บาร์โค้ด รูปสินค้าก็ไม่จำเป็นต้องวาง
บนพื้นขาว มีรูปได้มากถึง 12 รูป
eBay ขายได้ทั้งสินค้าใหม่ ค่ะ ไม่จำเป็น ต้องเป็นสินค้าเก่า
ส่วน เรื่อง Limit Sell ของ eBay ถ้าคุณ คิดนอกกรอบ คุณก็ได้ idea แล้วว่าจะขายอะไร
ปล. ถ้าเป็นสินค้าที่ทำคล้ายกับเราแล้วเอา Barcode เรามาใส่ แจ้ง Amazon เลยค่ะ เราคิดว่า Amazon มี Policy ที่เขียนเรื่องนี้ไว้
พวกที่ชอบ COPY ภาพ ข้อความ ตัดราคา ถ้ามาเกิดกับเรา เราไม่ปล่อยไว้หรอก
มือใหม่ ถ้าทุนไม่หนา หาของมาขายด้วยตัวเองไม่ได้ 3 เดือนก็ไม่รอด อาจเสียเงินอีก 5 หลัก ไปอบรมคอร์ส advance
ตามความเห็นของเรา มัน advance ยังไงหว่า เพระส่วนใหญ่ เราหาจาก Google กับ youtube มันก็มีคำตอบให้