เอาล่ะครับ เพื่อนๆ
หลังจากที่ผมถามได้ความรู้จากคุณ kazama และเพื่อนๆ และจากการไปศึกษาเองในเว็บกรมสรรพากรอยู่ค่อนวัน
ผมขอสรุปรายการตามนี้ครับ
โดยได้เอาข้อมูลบางส่วนจากเว็บกรมสรรพากรและลง link อ้างอิงไว้ตามจำเป็นนะครับ
ประเด็นสำคัญ คือเราจะตีความรายได้เราอย่างไร และหักค่าใช้จ่ายได้กี่เปอร์เซนต์
เอาที่รู้คร่าวๆ ก็คือที่มีเพื่อนในบอร์ด บอกมาแล้วว่า คุณตราวุธเอง เสียแบบหัก 80% มันเป็นยังไง
ทำไมคุณ Witz เสียปีละ 1,200 บาทผมพอจะหาที่มาได้แล้ว
คนที่อยากรู้ ลองไล่อ่านตามกันไปนะครับ
ในที่นี้จะพูดเรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เท่านั้น
1. เราต้องเสียภาษีด้วยหรือต้องเสียภาษีตามหน้าที่พลเมืองครับ โดยทั่วไป เราทำงานกินเงินเดือน ประกอบธุรกิจเอง ไม่ได้ตั้งเป็นบริษัทจดทะเบียน เราจะต้องเสีย
"ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา" โดยยื่นแบบในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป (สำหรับ ภงด.90 และ ภงด.91) และสำหรับคนที่มีรายได้บางประเภท
ก็ต้องยื่นกลางปีด้วย (ภงด.94)ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีภาษีจะมีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ ก็ต่อเมื่อมีเงินได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าเมื่อคำนวณภาษีแล้วจะมีภาษีต้องชำระเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม ดังนี้
1. ผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงานประเภทเงินเดือน ค่าจ้างที่ได้รับในปีภาษีนั้น (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม)
- กรณีไม่มีคู่สมรสต้องมีเงินได้พึงประเมินเกิน 50,000 บาท
- กรณีที่มีคู่สมรสไม่ว่าฝ่ายเดียว หรือทั้งสองฝ่ายต้องมีเงินได้พึงประเมินรวมกัน เกิน 100,000 บาท
2. ผู้มีเงินได้จากการทำธุรกิจการค้าทั่วไปที่มิใช่เกิดจากการจ้างแรงงานที่ได้รับในปีภาษีนั้น (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม)
- กรณีไม่มีคู่สมรสต้องมีเงินได้พึงประเมินเกิน 30,000 บาท
- กรณีมีคู่สมรสไม่ว่าฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่ายต้องมีเงินได้พึงประเมินรวมกัน เกิน 60,000 บาท
2. แต่รายได้เรามาจากต่างประเทศนะ ยังต้องเสียอีกหรือ2. เงินได้เกิดจากแหล่งนอกประเทศไทย หมายถึง เงินได้ที่เกิดขึ้นหรือเป็นผลสืบเนื่องจากมี
2.1 หน้าที่งานที่ทำในต่างประเทศ หรือ
2.2 กิจการที่ทำในต่างประเทศ หรือ
2.3 ทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ
* เงื่อนไข ผู้มีเงินได้เกิดจากแหล่งนอกประเทศในปีภาษีที่ล่วงมาแล้วจะต้องเสียภาษีเงินได้ ในประเทศไทยก็ต่อเมื่อเข้าองค์ประกอบทั้ง 2 ประการ ดังต่อไปนี้
(1) ผู้มีเงินได้เป็น ผู้อยู่ในประเทศไทย ในปีภาษีนั้นชั่วระยะเวลาหนึ่งหรือหลายระยะเวลา รวมทั้งหมดถึง 180 วัน และ
(2) ผู้มีเงินได้ นำเงินได้นั้นเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีนั้นด้วย
3. เรามีรายได้แบบไหน และต้องยื่นตาม ภงด. เบอร์อะไรเขาแบ่งรายได้เป็น 8 ประเภท ตามนี้ครับ
http://www.rd.go.th/publish/553.0.html
แบบที่มีการยื่นกันหลักๆ ก็มี
3.1
ภงด.91 ยื่นแบบในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป
เพื่อนที่ทำงานเป็นลูกจ้าง พนักงานบริษัท คงรู้อยู่แล้ว อันนี้ส่วนใหญ่คงต้องเคยผ่านกันมาแล้ว
1. เงินได้ประเภทที่ 1 ได้แก่ เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ไม่ว่าจะเป็น
- เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ
- เงินค่าเช่าบ้านที่ได้รับจากนายจ้าง
- เงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้าน ซึ่งนายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า
- เงินที่นายจ้างจ่ายชำระหนี้ใด ๆ ซึ่งลูกจ้างมีหน้าที่ต้องชำระ
- เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใด ๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน เช่น มูลค่าของการได้รับประทานอาหาร เป็นต้น
3.2
ภงด.90 อันนี้ก็ ยื่นแบบในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป เหมือนกัน โดยเป็นรายได้ตามมาตรา 40(2) - 40 ( 8 )
3.3
ภงด.94 อันนี้เจาะจงเฉพาะผู้มีรายได้ตามมาตรา 40 (5) (6) (7) ( 8 )
มีอะไรบ้าง
5. เงินได้ประเภทที่ 5 เงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน เงินหรือประโยชน์อย่างอื่น ที่ได้เนื่องจาก
- การให้เช่าทรัพย์สิน
- การผิดสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน
- การผิดสัญญาซื้อขายเงินผ่อนซึ่งผู้ขายได้รับคืนทรัพย์สินที่ซื้อขายนั้นโดยไม่ต้องคืนเงินหรือประโยชน์ที่ได้รับไว้แล้ว
6. เงินได้ประเภทที่ 6 ได้แก่ เงินได้จากวิชาชีพอิสระ คือวิชากฎหมาย การประกอบโรคศิลป วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม หรือวิชาชีพอื่นซึ่งจะได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดชนิดไว้
7. เงินได้ประเภทที่ 7 ได้แก่ เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระ ในส่วนสำคัญนอกจากเครื่องมือ
8. เงินได้ประเภทที่ 8 ได้แก่ เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ หรือการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในประเภทที่ 1 ถึงประเภทที่ 7 แล้ว
อย่างเราเรา น่าจะเข้าข่าย 40 ( 8 ) อย่างที่คุณ kazama ให้ความเห็น คือ ประกอบธุรกิจส่วนตัว
4. เราจะโดนเยอะมั้ย กลัวจริงๆ ขอบอกว่าไม่เยอะเลย ถ้าเราวางแผนเป็น
จากที่คุณ kazama บอกไว้ในโพสต์ข้างบนแล้ว เพื่อนๆ รู้ไหมว่า การที่เรามีรายได้จาก 40 ( 8 ) นี่สามารถหักค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการเป็นพนักงานประจำกินเงินเดือนซะอีก!!
ขนาดการเก็บค่าต๋งจากการแข่งพนัน การเล่น หรือกระทั่ง แข่งม้า ทำน้ำตาล ฯลฯ
ยังหักค่าใช้จ่ายได้อย่างต่ำๆ ก็ร้อยละ 60 - 80 แล้วครับ
ในขณะที่พนักงานเงินเดือน หักได้ร้อยละ 40 เท่านั้นเองและต้องไม่เกินที่กฎหมายกำหนดด้วย (ตอนนี้อยู่ที่ 60,000 บาท)เริ่มเห็นอะไรหรือยังครับ?
เริ่มหายกลัวสรรพากรแล้วใช่ไหมครับ?5. ยังไม่ค่อยเห็นภาพเลย งงๆ อยู่ ??ถ้าใครยังงงอยู่ ลองมาดูตัวอย่างกัน
สมมติ นาย ก. มีรายได้จากการประกอบธุรกิจทางอินเตอร์เน็ต เดือนละ 50,000 บาท
นาย ก. ต้องการยื่นแบบ ภงด.94 กลางปี โดยมีรายได้เข้าข่ายมาตรา 40 ( 8 )
(ตรงนี้คือการอนุมานนะครับ จากเรื่องเล่าอ้างถึงที่คุณตราวุธบอกว่าสามารถเสียลักษณะแบบนี้ได้)ลองดูภาพแบบฟอร์มจริงๆ กัน ผมลองกรอกให้ดู
จะเห็นได้ว่ารายการลดหย่อน เรียกว่าลดแล้ว ลดอีก
ม.ค. - มิ.ย. 6 เดือน รายได้ฟาดไป 6X50,000 = 300,000 บาท
แต่หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 80% เหลือเงินได้พึงประเมิน 60,000 บาท
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!!มาดูอีกว่าลดอะไรได้อีก
เอ้า มีคู่สมรส มีลูก มีพ่อ มีแม่ มีค่าเบี้ยประกันสุขภาพคุณพ่อ คุณแม่ ค่าเบี้ยประกันชีวิตเราเอง เอามาลดได้!
อ้าว พอดี ซื้อบ้าน ผ่อนคอนโดอยู่ เอาดอกเบี้ยมาหักลดได้อีก!
อ้าว รายได้ยังเหลือเยอะไปเหรอ แบ่งเงินไปซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) สิ หัดลงทุนบ้าง เงินเฟ้อขึ้นทุกวัน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ
RMF ลงทุนได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ หรือไม่เกิน 300,000 บาท
LTF ลงทุนได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ หรือไม่เกิน 300,000 บาท
ขอถามว่า แค่นี้ ลด แลก แจก แถม เพียงพอหรือยัง !??ลองดูตัวอย่างข้างบนนะครับ
แล้วไปดูรายการหมวด ค. การคำนวณภาษีข้อ 3 พระเจ้าช่วยอีกแล้ว!!!
เงินได้สุทธิ ติดลบ ก็ศูนย์บาทนั่นล่ะครับ ดูข้อ 9 ครับ
ภาษี 0 บาท!!!!! ถึงตอนนี้เงินบริจาคจะมีมากน้อยก็ไม่ต้องเอามาลดแล้วก็ได้ คือรายได้สุทธิมันติดลบซะเหลือเกิน
แต่อย่าเพิ่งดีใจเกินไป ยังมีข้อ 10 ครับ คือ อีกไม้นึงที่สรรพากรดักไว้ คือ ถ้ามีเงินรายได้ในหมวด ก. เกิน 60,000 ให้เอารายได้รวมหมวด ก. X0.005 ครับ
(บรรทัดนี้ เป็นคำตอบกรณีคุณ Witz ครับ นั่นคือคุณ Witz ต้องแสดงว่ามีรายได้เดือนละ 20,000 บาทครับ ปีนึง 240,000 บาท เอามา X ตามข้อ 10 = 240,000 X 0.005 = 1,200 บาท) ระหว่างข้อ 9 และ ข้อ 10 อันไหนมากกว่า เอาอันนั้นครับสรุปนะครับ มีรายได้เดือนละ 50,000 บาท ทำธุรกิจเอง ไม่ได้ตั้งเป็นบริษัท เวลาผ่านไป 6 เดือน ยื่นเสียภาษีกลางปี ภงด.94 แม้จะหักลดหย่อนเยอะแยะจนเหลือรายได้ติดลบ ก็ยังต้องเสียภาษีตามข้อ 10
นั่นคือ...300,000X0.005 = 1,500 บาท ครับ
หรือประมาณปีละ 3,000 บาท หรือวันละ 8.2 บาท
แค่นี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรงใช่ไหมครับ??6. ชักคันไม้คันมือ อยากเสียภาษีแล้วไปดูเว็บไหนอันนี้เลยครับ
http://rdserver.rd.go.th/publish/index.php
ภงด.94 มีกำหนดรับยื่นทางอินเทอร์เน็ต ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2550 เท่านั้นนะครับ
เสีย ภงด.94 แล้ว ต้นปีหน้า ต้องยื่น ภงด.90 ด้วยนะครับ จะมีช่องให้คำนวณด้วยว่าเราเสียภาษีตาม ภงด.94 ไปแล้วเท่าไร ต้องเสียอีกเท่าไหร่
7. คุณ win รับประกันความถูกต้องรึเปล่าเนี่ยไม่รับประกันนะครับ ผมเองก็จะเริ่มทดลองยื่นทางอินเทอร์เน็ตเหมือนกัน โดยใช้รายได้ตามมาตรา 40 ( 8 )
โดยยึดตามที่อ่านและวิเคราะห์มาว่ารายได้เราน่าจะอยู่ในมาตรานี้แหละ
เท่านี้ล่ะครับ
ขอบคุณคุณ kazama ที่แนะนำ
ใครมีความเห็นยังไง เชิญได้เต็มที่เลยครับ
ส่วนใครที่ทำรูปบริษัท ก็อ่านความเห็นคุณ thusawan นะครับ