ต่อจากกระทู้นี้
http://www.thaiseoboard.com/in....msg4587026/topicseen.html#new เห็นว่าสำคัญ
จึงแจ้งข่าวเพิ่มเติมเฉยๆครับ
ขายของออนไลน์ ต้องขึ้นทะเบียนกับสคบ. ฝ่าฝืนมีโทษปรับ100,000 บาท และปรับวันละ10,000บาทจนกว่า คุณจะปิดเว็บไซต์หรือปิดกิจการ
------------------------------------------------------------------------
การขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ตเป็นธุรกิจตลาดแบบตรงที่ต้องจดทะเบียนต่อ สคบ.
นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา*
๑. ความเป็นมาและสภาพปัญหา ในยุคแห่งโลกาภิวัฒน์ การซื้อขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ต หรือที่นิยมเรียกว่า e-commerce
นั้น นับว่าเป็นธุรกรรมที่นิยมแพร่หลายเป็นอย่างมาก เนื่องจากอินเตอร์เน็ตได้กลายเป็นส่วนหนึ่งใน
ชีวิตประจำวันของคนจำนวนมากในโลกใบนี้ไปแล้ว ปัจจุบันอินเตอรเ์น็ตได้ขยายวงกว้างมากขึ้นทุกวัน
ประกอบกับการซื้อขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นวิธีการทำตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็น
จำนวนมาก ในเวลาอันรวดเร็ว และใช้ต้นทุนในการลงทุนต่ำอีกด้วย
ปัญหาที่ตามมาจากการซื้อขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ตที่มีผู้บริโภคร้องเรียนต่อสำนักงาน
คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นจำนวนมาก ก็คือ สั่งซื้อสินค้าโดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร
หรือผ่านบัตรเครดิตแล้วแต่ไม่ได้รับสินค้า ได้รับสินค้าชำรุดบกพร่อง สินค้าไม่ได้มาตรฐาน สินค้าไม่
เป็นไปตามที่โฆษณา ติดต่อผู้ขายไม่ได้ เหล่านี้สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น บางกรณีสั่งซื้อสินค้าประเภทยาลด
ความอ้วนโดยหลงเชื่อคำโฆษณาที่มักโอ้อวด เป็นเท็จ เกินจริง แล้วไปใช้ผิดวิธี ไม่ได้ใช้ตามคำแนะนำของ
แพทย์ จนให้เสียชีวิตไปดังที่ปรากฏเป็นข่าวก็มี ดังนั้น ปัญหาที่เกิดจากการซอื้ สินค้าทางอินเตอร์เน็ต
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว จึงควบคู่มากับการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบธุรกิจที่
ไม่สุจริต หวังแต่เพียงกำไรโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ดังนั้น ผู้บริโภคที่สั่งซื้อสินค้าผ่าน
อินเตอร์เน็ตต้องระมัดระวังและตระหนักในปัญหาเหล่านี้ให้จงหนัก
๒. ธุรกิจซื้อขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ตที่ต้องจดทะเบียน ผู้ประกอบธุรกิจที่ทำการค้าขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมี
หน้าที่ต้องไปจดทะเบียนต่อ สคบ. ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.๒๕๔๕ ก่อน จึงจะ
ทำการค้าได้ เหตุที่กฎหมายต้องบังคับให้ต้องจดทะเบียนก็เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถตรวจสอบหรือ
ติดตามผู้ประกอบธุรกิจหรือบุคคลผู้ค้าขายได้ หากผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิ์จากการซื้อสินค้าหรือบริการ ขอ
ย้ำว่า ผู้ทำการค้าขายสินค้าผ่านสื่อหรืออินเตอร์เน็ตที่ว่านี้ต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะทำการค้าขายได้ มิใช่
ค้าขายไปก่อนแล้วไปจดทะเบียนภายหลัง (จดก่อนขายมิใช่ขายก่อนจด) โดยแยกบุคคลที่มีหน้าที่ต้องจด
ทะเบียนเพื่อทำการค้าขายผ่านอินเตอร์เน็ตดังนี้
*
ผู้อำนวยการส่วนขายตรงและตลาดแบบตรง สคบ., นบ., นม.(ด้านกฎหมายมหาชน), เนติบัณฑิตไทย,
ประกาศนียบัตรนักกฎหมายมหาชนภาครัฐ รุ่นที่ ๑, ประกาศนียบัตรนักกฎหมายภาครัฐ ระดับกลาง,
ประกาศนียบัตรหลักกระบวนการยุติธรรม รุ่นที่ ๑๑
- ๒ -
๑. กรณีเจ้าของเว็บไซต์ที่จดทะเบียนเว็บไซต์ไว้เพื่อขายสินค้าของตนเองก็ดี หรือเป็นคนกลางใน
การนำสินค้าของบุคคลอื่นมาขายผ่านหน้าเว็บไซต์ก็ดี มีหน้าที่โดยตรงในการต้องไปจดทะเบียนต่อ สคบ.
ตัวอย่างเช่น บริษัท เอ จำกัด จดทะเบียนเว็บไซต์ ชื่อ www.I Love Shopping.com
โดยทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการนำสินค้าของบุคคล จำนวน ๑๐๐ รายการ มาขายให้แก่บุคคลทั่วไป กรณี
เช่นนี้ บริษัท เอ จำกัด มีหน้าที่ต้องไปจดทะเบียนต่อ สคบ.ก่อนจึงจะทำการค้าขายได้ ส่วนบุคคลที่เป็น
เจ้าของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า ที่เป็นเจ้าของสินค้าจำนวน ๑๐๐ รายการ นั้น หากเจ้าของ
เวบไซต์ดังกล่าว ได้จดทะเบียนธุรกิจตลาดแบบตรงต่อ สคบ.แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนต่อ สคบ.
อีก ทั้งนี้ เจ้าของเว็บไซต์จะต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดหรือประเภทของสินค้า ชื่อที่อยู่ของเจ้าของ
ผลิตภัณฑ์ วิธีการซื้อขาย เงื่อนไขต่างๆ ให้นายทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงทราบด้วย หากมี
ปัญหาการผิดสัญญาก็ดี สินค้าไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ปลอดภัยก็ดี สคบ.ย่อมสามารถตรวจสอบและติดตาม
ผู้ต้องรับผิดได้
๒. กรณีบริษัท ห้างร้าน หรือบุคคลธรรมดา ที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้นำเข้า
หรือผู้แทนจำหน่าย หรือผู้ขาย หากจดทะเบียนเว็บไซต์เพื่อค้าขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นของตนเอง
โดยไม่ผ่านเว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางดังที่กล่าวมาในข้อ ๑. เป็นผู้มีหน้าที่ต้องไปจดทะเบียนการประกอบธุรกิจ
ตลาดแบบตรงต่อ สคบ.โดยตรง
ตัวอย่างเช่น บริษัท เอ จำกัด เป็นผู้ผลิตสินค้าเครื่องสำอางเพื่อจำหน่าย โดยมีการจำหน่ายผ่านสื่อ
ต่างๆ เช่น สื่ออินเตอร์เน็ต เป็นต้น บริษัท เอ จำกัด ต้องยื่นจดทะเบียนธุรกิจตลาดแบบตรง (ขายสินค้าผ่าน
สื่อ) ก่อน จึงจะทำการจำหน่ายสินค้าผ่านสื่อดังกล่าวได้
๓. ธุรกิจตลาดแบบตรง ที่มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนต่อ สคบ. ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาด
แบบตรง พ.ศ.๒๕๔๕ นั้น หมายรวมถึง บุคคลทที่ ำการค้าขายสินค้าผ่านสื่ออื่นๆ ด้วย เช่น สื่อโทรศัพท์
โทรสาร หรือเครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบอื่นๆ
ตัวอย่างเช่น (๑) บริษัท บี จำกัด เปิดสายด่วนหมายเลข 9999 เพื่อเป็นสื่อกลางหรือเป็นหน้าตัวแทน
นายหน้าในการซื้อขายสินค้าไม่ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของตนเองหรือผลิตภัณฑ์ของบุคคลอื่นให้แก่ผู้บริโภค
กรณีเช่นนี้บริษัท บี จำกัด มีหน้าที่ต้องไปจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงต่อ สคบ.ด้วยเช่นกัน
(๒) นางสาวสวย รูปงาม เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริม
อาหารหลายรายการ จัดให้มีการโฆษณาสินค้าดังกล่าวผ่านโทรทัศน์ดาวเทียม โดยจัดให้มีการโทรศัพท์
- ๓ -
สั่งซื้อสินค้าผ่านรายการด้วย กรณีเช่นนี้ นางสาวสวยฯ มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนธุรกิจตลาดแบบตรงก่อนจึง
จะทำการค้าขายสินค้าผ่านสื่อโทรศัพท์ได้
๓. บทกำหนดโทษสำหรับผู้กระทำการฝ่าฝืน ผู้ใดประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง (ค้าขายสินค้าผ่านสื่อ) โดยไม่จดทะเบียนธุรกิจตลาดแบบตรง ต้อง
ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับรายวันอีกวันละไม่
เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ (มาตรา ๔๗ แห่ง พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง
พ.ศ.๒๕๔๕)
๔. ธุรกิจที่ไม่อยู่ในข่ายต้องจดทะเบียน บริษัท ห้างร้าน หรือบุคคลธรรมดา ที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้นำเข้าหรือผู้แทน
จำหน่าย หรือผู้ขาย ที่ทำการโฆษณาสินค้าผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งสื่ออินเตอร์เน็ตด้วย นั้น หากประสงค์เพียง
โฆษณาสินค้าหรือบริการผ่านสื่อเพียงอย่างเดียว โดยมิได้ประสงค์หรือมุ่งที่จะทำการซื้อขายสินค้าหรือ
บริการผ่านสื่อด้วย แล้ว ไม่มีหน้าที่ต้องไปจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงต่อ สคบ.แต่อย่างใด
ธุรกิจประเภทนี้มุ่งที่จะทำการตลาดในลักษณะค้าปลีกหรือค้าส่งเท่านนั้ แต่การโฆษณาสินค้าหรือบริการก็
เพื่อให้บริโภครู้จักมักคุ้นกับชื่อทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้า หรือตัวสินค้าเท่านั้น และหากผู้บริโภค
ต้องการจะซื้อสินค้าก็สามารถไปเลือกซื้อได้ที่ร้านจำหน่ายทั่วไป โดยผู้บริโภคสามารถเห็นตัวสินค้า เห็น
ฉลากสินค้า เห็นรายละเอียดต่างๆ ที่ตัวผลิตภัณฑ์นั้นโดยตรง ซึ่งต่างจากการสั่งซื้อสินค้าผ่านสื่อที่ผู้บริโภค
ไม่มีโอกาสได้เห็นตัวสินค้าก่อนที่จะทำการซื้อขาย
ข้อสังเกต (๑) ผู้ประกอบธุรกิจที่ทำการค้าขายสินค้าผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งสื่ออินเตอร์เน็ต นั้น
นอกจากมีหน้าที่ต้องจะทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงต่อ สคบ.ตาม พระราชบัญญัติขายตรงและ
ตลาดแบบตรง พ.ศ.๒๕๔๕ แล้ว ยังมีหน้าที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ตามพระราชบัญญัติว่า
ด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.๒๕๔๔ ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถ
ตรวจสอบการมีตัวตนของผู้ประกอบการได้ มีตัวตนจริงหรือไม่ อยู่ที่ไหน ทำธุรกิจอะไรบ้าง (ต้องจด
ทะเบียนทั้งต่อ สคบ. และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
(๒) กรณีมีข้อสงสัย หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สคบ. หมายเลขโทรศัพท์
๐-๒๑๔๓ - ๐๓๖๔- ๗ หรือสายด่วน ๑๑๖๖
------------------------------------------------------------------------
http://www.ocpb.go.th/download/pdf/a8.pdf
*************************************
แนะนำเปิดขายของออนไลน์
สร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าต้องจด1ทะเบียนกับทาง สคบ. ก่อน
เป็นคดีกระช่อนทางโลกออนไลน์อีกแล้วสำหรับกรณีซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตแต่ไม่ได้ของ กับคนดังในเว็บไซต์ Pantipที่หลอกขายของซึ่งเป็นสินค้าแบรนด์เนมสุดหรู ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า นาฬิกา และเครื่องสำอางราคาตั้งแต่หลักพัน ไปถึงหลักแสน โดยกลโกงจะเริ่มจากให้ลูกค้าสั่งสินค้าผ่านทางเฟซบุ๊ก และทางไลน์ โดยระบุว่าสั่งของพรีออร์เดอร์รอสินค้าประมาณ 2-3 อาทิตย์ แต่เอาเข้าจริงผ่านมา 4-5 เดือนก็ยังไม่ได้ของ พอลูกค้าทวงถาม ผู้ขายก็กลับบ่ายเบี่ยง ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่ผู้ขายนำเงินที่ลูกค้าโอนไปใช้จ่ายก่อน แล้วก็ใช้วิธีให้ลูกค้าอีกคนหนึ่งโอน เพื่อนำเงินไปใช้คืนให้กับลูกค้าก่อนหน้า จนลูกค้าออกมาตั้งกระทู้ผ่านเว็บไซต์pantip และได้รวมรวบผู้เสียหายกว่า 10 คนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยรวมยอดเงินของผู้เสียหายนับสิบล้านเลยทีเดียว
นี่นับเป็นกรณีตัวอย่างที่ผู้บริโภคพึงระวังเมื่อจะสั่งซื้อของผ่านทางอินเตอร์ เพราะจะใช้เพียง
ความไว้วางใจคงไม่ได้ เพราะหากถูกหลอกลวงก็จะต้องมานั่งเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาลเพื่อเรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงในส่วนของผู้ประกอบธุรกิจที่คิดจะขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ก็จะต้องสร้างความไว้วางใจ และน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคด้วยเนื่องจากการซื้อขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตเข้าข่าย1การประกอบธุรกิจ “ตลาดแบบตรง"1หมายความว่าการทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภคซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางและมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจ ตลาดแบบตรงนั้น ซึ่งกฎหมายกำหนดให้1ผู้ประกอบการต้องทำการจดทะเบียนกับทาง สคบ. ก่อนที่จะเริ่มประกอบการ1 ตาม1พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง1 ทั้งนี้เพื่อจะได้มีตรวจสอบและติดตามผู้ประกอบการหรือผู้ขายได้ หากมีการร้องเรียนเกิดขึ้นเมื่อผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่ว่าจะเป็นในกรณีการไม่ได้รับสินค้าหรือสินค้าไม่ได้มาตรฐานหรือมีการโฆษณาสรรพคุณเกินจริงหรือสินค้าชำรุดเสียหาย หรือติดต่อผู้ขายไม่ได้ เป็นต้น
สำหรับขบวนการและขั้นตอนการจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ให้ยื่นเอกสารสำหรับการยื่นคำขอจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงได้ที่ สคบ. ซึ่งประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน /สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนและวัตถุประสงค์นิติบุคคล /สำเนาหนังสือบริคณหสนธิและสำเนาบัญชีผู้ถือหุ้น / สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจลงชื่อแทนนิติบุคคล (กรณีผู้ยื่นคำขอเป็นนิติบุคคล) /สำเนาสัญญาเช่าหรือการขอใช้พื้นที่ แผนที่ตั้ง ภาพถ่ายสถานที่ติดต่อของสำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขา (ถ้ามี) / หนังสือมอบอำนาจระบุอำนาจหน้าที่ของผู้รับมอบอำนาจอย่างชัดเจน (กรณีให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอ) /สินค้าหรือบริการที่ต้องการนำเสนอขายรวมถึงเอกสารหลักฐานแสดงที่มาของสินค้าหรือบริการ /เอกสารหลักฐานการได้รับอนุญาตจากเจ้าของหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือตามที่กฎหมายกำหนดในสินค้าหรือบริการ (ถ้ามี)
ในส่วนของคำอธิบายวิธีการขายสินค้าหรือบริการซึ่งรวมถึงตัวอย่างขอความที่ใช้ในการสื่อสาร
เพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการนั้น ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวจะต้องมีการระบุถึงข้อความต่อไปนี้ปรากฏอยู่ด้วยได้แก่ / วิธีการสั่งจองหรือสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ /วิธีการชำระเงินของผู้บริโภค /วิธีการสั่งสินค้า/ ตัวอย่างเอกสารการซื้อขาย (ใบเสร็จรับเงิน)
กรณีสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 021413420-23, 021430364-47*************************************
http://www.ocpb.go.th/ewt_dl_link.php?nid=3627&filename=all_multimedia
Update...
K. nanjaow
- ส่วนขายตรงและตลาดแบบตรง
โทร 0-2143-0365-67
โทรไปถามเจ้าหน้าที่ ที่เบอร์นี้เค้าบอกมาว่ากรณีที่ ผู้ขาย มีสินค้า(เป็นคนขายสินค้านั้นโดยตรง) มีเว็บ ลงรูปลงราคาหรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะส่งผลให้ผู้ซื้ออ่านแล้วตัดสินใจซื้อ ตรงนี้ จัดเป็นการตลาดแบบตรง คุณต้อง ขึ้นทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และไปจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิค
แล้วยื่นคำร้องเพิ่มว่าธุรกิจของเราเป็นการตลาดแบบตรง เสร็จแล้วค่อยมาขึ้นทะเบียนที่ สคบ.
เอกสารที่ใช้ในการยื่นมีดังนี้
http://www.ocpb.go.th/ewt_news.php?nid=779 ต้องไปยื่นจดที่ สคบ แจ้งวัฒนะ ที่เดียวเท่านั้น และธุรกิจ ecommerce จะมีรายละเอียดปลีกย่อยเรื่อง การใช้งานฉลากผลิตภัณฑ์ เพิ่มเข้ามาอีก อันไหนใช้ได้ หรือห้ามใช้ซึ่งต้องติดต่อกับกองฉลาก ที่มีสำนักงานที่ตั้ง ที่เดียวกันกับ สคบ
เราเลยพูดต่อไปอีกว่า การตลาดส่วนใหญ่มันก็แบบตรงทั้งนั้น ตั้งแต่ข้าวแกงตลาดสดยัน ป้ายโฆษณาชวนเชื่อ สื่อทีวีหนังสือพิมพ์ แล้วแบบนี้มาแห่กันจดทั้งหมดมันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ สคบ.
เขาก็อ้างกฏหมาย จบ!
K. Babybinge
มีหลักฐานล่าสุดที่พบว่า ทาง สคบ. ตีความว่า การตลาดแบบตรง เป็นอีคอมเมิร์ซ ก็จะมีเอกสารนี้
สถิติการจดทะเบียนธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง
ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๕ ถึงปัจจุบัน
(๑) การจดทะเบียนการประกอบธุรกิจ
๑.จำนวนผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงที่ได้รับการจดทะเบียน
ขายตรง
(๒) การจดทะเบียนการประกอบธุรกิจ จำนวน ๖๑๓ ราย
ตลาดแบบตรง
จำนวน ๒๑๖ ราย
๒.การยื่นคำขอ/รับจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง
(ตั้งแต่ มกราคม ๒๕๕๒-กันยายน ๒๕๕๓)
...
๓. ปัญหาข้อร้องเรียนเกี่ยวกับธุรกิจตลาดแบบตรง (สั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต)
(๑) โอนเงินชำระค่าสินค้าแล้ว แต่ไม่ได้รับสินค้า
(๒) โอนเงินชำระค่าสินค้าแล้ว แต่ได้รับสินค้าชำรุดบกพร่อง เสื่อมคุณภาพหรือไม่ได้มาตรฐาน หรือได้รับสินค้าไม่เป็นไปตามที่โฆษณาหรือประกาศ
(๓) มีการหลอกลวงให้ซื้อสินค้า แต่ไม่มีสินค้าอยู่จริง เป็นเหตุให้ผู้ซื้อต้องสูญเสียเงินเพื่อชำระค่าซื้อสินค้า (ซื้อสินค้า ไม่ได้สินค้า)
(๔) ไม่สามารถติดต่อกับผู้ขายตามหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งได้
http://www.ocpb.go.th/download/pdf/a11.pdf
เป็นเอกสาร สถิติการจดทะเบียนธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 (ปีที่เริ่มประกาศใช้พรบ.) จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งคำว่า ปัจจุบันในเอกสารนี้ น่าจะเป็น เดือนกันยายน 2553
ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า สคบ. เริ่มตีความให้ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นการตลาดแบบตรง มาตั้งแต่ 3ปีที่แล้ว
แล้วเวลาที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้น คือ ตั้งแต่ 2545 จนถึง 2552 เหตุใดจึงไม่มีการตีความเช่นนี้
และหลังจาก กันยายนปี 2553 สคบ. ทำอะไรอยู่ เหตุใดจึงไม่ประกาศออกสื่อว่า ขณะนี้มีการตีความใหม่แล้ว ให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นการตลาดแบบตรง
ให้ผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซทุกคนต้องมาขึ้นทะเบียนกับทาง สคบ. ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตาม พรบ.ขายตรงและการตลาดแบบตรง
เป็นที่น่าสงสัยยิ่งนัก