ระวังเรื่องลิขสิทธิ์ด้วยนะครับ ต่างประเทศเคยมีการฟ้องร้องกันมาแล้วเรื่องการดึงเนื้อหาข่าวนี่แหล่ะครับ แต่ขออภัยที่จำลิงค์ข่าวไม่ได้ครับ
ผมคิดว่า ถ้าโดนฟ้อง ถ้า จขกท. อ้างว่าเป็นการให้ "บริการฟรี ไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และผู้โหลดใช้บริการ โหลดใช้บริการด้วยความสมัครใจเอง" อีกครั้ง ถ้าอ้างเป็น กรณีสำหรับการศึกษา..บราๆๆๆ ว่าไป ก็หลุดการฟ้องร้องในไทยได้ แต่สำหรับต่างประเทศ ถ้าไปเอา Feed มาควรศึกษากฎหมายด้วย
ทำ feed ให้เจ้าของเว็บที่ต้องการ Application ของเว็บตัวเอง นี่จะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ด้วยหรอครับ
(ผมไม่ได้ทำแล้วเอาไปอัพขึ้น Store นะครับ ทำให้เจ้าของเว็บไปใช้งานต่อครับ)
รบกวนขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
สำหรับการทำให้ เจ้าของเว็บไซต์ที่ติดต่อมาให้ทำ หรือ ทำให้ฟรีๆ ได้รับอนุญาต หรือ มีการประกาศหน้าเว็บไซต์ไว้ชัดเจน ว่า สามารถนำ RSS Feed นี้ไปใช้ได้ฟรี ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
แต่สำหรับบ้างเว็บ มีไว้สำหรับให้ดูผ่านหน้าเว็บง่ายๆ ไม่อนุญาตให้นำไปแปะ ปะ ไว้ที่อื่นๆ หรือ ผ่านโปรแกรมอื่นๆ หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ แล้วแต่กรณีของเจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ ทางเขาอาจมีเงื่อนไขไว้ ซึ่งต้องดูให้ชัดเจน
ถูกต้องครับ
“แอปเปิ้ล” ยินยอมแล้ว จ่ายค่าเสียหาย! คดีละเมิดลิขสิทธิ์ “สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์”
จบแล้ว! คดี “สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์” หลังสั่งเชือด! ฟ้อง “แอปเปิ้ล” ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญา ฐานละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า เปิดช่องให้แอปพลิเคชันข่าวละเมิดลิขสิทธิ์อยู่บนร้านแอปสโตร์ โดยล่าสุด ทาง บริษัท แอปเปิ้ล อิงค์ จำกัด และบริษัทลูก รวมถึงกรรมการในประเทศไทย ยอมจำนนเจรจาชำระค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว!
คดีนี้ถือว่าคดีความแรกที่สื่อมวลชนไทย 8 แห่ง รวมตัวเรียกร้องให้ “แอปเปิ้ล” หยุดเผยแพร่ข่าวลิขสิทธิ์บนแอปพลิเคชั่น สำหรับอุปกรณ์พกพา โดยการฟ้องร้องแอปเปิ้ลครั้งนี้ ถือว่าเป็น คดีความที่ยกมาตรฐานของสื่อ ทำให้ทุกคนเคารพสิทธิ์ของภาพข่าว และบทวิเคราะห์ข่าวมากขึ้น
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากฏหมายของสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) เผยถึงคดีนี้ว่า “ในคดีแอปเปิ้ลนี้ ทางสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ , เดลินิวส์ , ASTVผู้จัดการ, เนชั่น , คมชัดลึก , กรุงเทพธุรกิจ , โพสต์ทูเดย์ และสยามกีฬา รวม 8 ฉบับ ได้ยื่นฟ้องบริษัท แอปเปิ้ล อิงค์ จำกัด และบริษัทลูกและกรรมการในประเทศไทย โดยในคดีนี้เริ่มฟ้องเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า โดยแอพพลิเคชั่นที่มีเผยแพร่ใน App Store ของแอปเปิ้ลซึ่งละเมิดลิขสิทธิ์ข่าวและเครื่องหมายการค้า มีดังต่อไปนี้ (1) “THAINEWs+”, (2) “Tiny – Thai News Reader”, (3) “Thai News Reader”, (4) “EveryNews” และ (5) “Thai Newspaper”
โดยในผลของคดีความล่าสุดนั้น “เมื่อได้มีการยื่นฟ้อง ทางทนายความของบริษัทแอปเปิ้ลและกรรมการของแอปเปิ้ล ได้ติดต่อเพื่อขอเจรจาสำหรับชำระค่าเสียหายซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันโดยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์(SONP) ได้ถอนฟ้องคดีอาญาดังกล่าวจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายไพบูลย์ กล่าวเสริม.
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์(SONP) นั้นเป็น องค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแล ลิขสิทธิ์ข่าวออนไลน์ของสำนักพิมพ์ไทย ซึ่งที่ผ่านมานั้น สมาคมSONP ได้มีการตรวจสอบพบว่า มีข่าวออนไลน์ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ และนำไปใช้หารายได้โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งบนเว็บไซต์ และบนแอปพลิเคชั่น อยู่หลายแห่ง.
นอกจาก “คดีแอปเปิ้ล” แล้ว ร้านกูเกิ้ลเพลย์ที่กูเกิลเปิดบริการให้ผู้ใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ (Android) ก็ได้มีการเผยแพร่แอปพลิเคชันรวมข่าวโดยผิดลิขสิทธิ์ลักษณะเช่นเดียวกันนี้อีกด้วย ซึ่งล่าสุด สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์(SONP) ได้ทำการฟ้องอีก 2 คดีคือ คดีละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าซึ่งสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ฟ้องร้องบริษัท Google อิงค์ จำกัด บริษัท Google (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท แบงค็อค เซิร์ช แอนด์ เทคโนโลจีส์ จำกัด (เจ้าของเว็บไซต์
www.yengo.com ) ซึ่งทั้งสองคดีอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบ ในประเทศไทยนั้น ยังไม่ค่อยมีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์ข้ามประเทศเท่าใดนัก เนื่องจากเป็นเรื่องในทางเทคนิคและการรวบรวมพยานหลักฐานผ่านสื่ออิเล็คทรอนิกส์และอินเตอร์เน็ตเป็นไปค่อนข้างยาก แต่ในคดีนี้ถือว่าเป็น คดีตัวอย่างในเรื่องของละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย
นายไพบูลย์เชื่อว่า คดีความนี้จะช่วยให้ประชาชน เข้าใจถึง เรื่องปัญหาลิขสิทธิ์ข่าวได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น เพราะตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ตัวเนื้อข่าวและรายละเอียดของข่าวไม่มีลิขสิทธิ์ และบทวิเคราะห์ข่าว บทบรรณาธิการ รูปภาพในข่าว และการรวบรวมจัดลำดับข่าวอาจได้รับความคุ้มครองในฐานะงานวรรณกรรมและงานรวบรวมตามมาตรา 12 ของพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ดังนั้น หากมีการดึงเอาข้อมูลลิขสิทธิ์ ดังกล่าวไปใช้บนอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบแอพพลิเคชั่นใดก็ตาม ถือว่าเป็นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ ยิ่งในส่วนของต่างประเทศด้วยแล้ว จะมีการดำเนินคดีฟ้องร้องกูเกิลและแอปเปิ้ลเป็นจำนวนมากอีกด้วย.
ที่มาของข่าว::
http://www.sonp.or.th/ ข่าวล่าสุด/apple/
ก๊อปข่าวจากเว็บ ระวังละเมิดลิขสิทธิ์ไม่รู้ตัว!
ด้วยยุคนี้ผู้คนเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้สะดวกง่ายดาย หนึ่งในสิ่งที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสนใจก็คือข่าวสารที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ข่าวสารต่างๆ นั้น สำนักข่าวออนไลน์เป็นผู้ผลิตขึ้น หากแต่เว็บไซต์ในเชิงพาณิชย์หรือที่เรียกกันว่าเว็บท่า มักคัดลอกเอาเนื้อหาข่าว บทความ และภาพประกอบของสำนักข่าวออนไลน์ไปนำเสนอ เพื่อใช้เป็นเนื้อหาดึงดูดความสนใจให้ผู้อ่านเข้ามาติดตาม…สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ส่วนใหญ่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์!
เมื่อ 25 มกราคมที่ผ่านมา สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์จัดเสวนาการละเมิดลิขสิทธิ์บนสื่อออนไลน์ ซึ่งนายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากฎหมายของสมาคมฯ ได้อธิบายปัญหาการคัดลอกเนื้อหาบนสื่อออนไลน์ที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายใจความว่า
“กรณีการคัดลอกเนื้อหาผ่านเว็บไซต์ คนทั่วไปอาจไม่รู้ว่า มีงานลิขสิทธิ์ที่กฎหมายคุ้มครองอยู่อย่างน้อย 4 อย่าง 1.งานวรรณกรรมต่างๆ ซึ่งก็คือข้อความต่างๆ ที่อยู่บนเว็บไซต์ เป็นงานเขียนซึ่งเราเองเป็นผู้รวบรวมข้อเท็จจริงมาแล้วเขียนเป็นข้อความต่างๆ ขึ้น 2.งานศิลปกรรม คือภาพถ่ายต่างๆ รวมถึงแผนผัง ดีไซน์ของเว็บไซต์ การประกอบภาพ การจัดลำดับภาพ รวมถึงตัวอักษร และสีต่างๆ ด้วย
3.ตัวเว็บไซต์ ถือเป็นงานโปรแกรมคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่ง บางครั้งการคัดลอกงานของเว็บไซต์มักมีแอพพลิเคชันต่างๆ ติดมาด้วย ก็จะถือเป็นการละเมิดในส่วนของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และ 4.งานรวบรวม คือการที่เว็บไซต์นั้นนำเอาส่วนที่มีลิขสิทธิ์กับไม่มีลิขสิทธิ์ หรือนำเอางานที่ไม่มีลิขสิทธิ์กับไม่มีลิขสิทธิ์มารวมกัน ตรงนี้เรียกว่า งานรวบรวม หากเว็บไซต์อื่นคัดลอกไปก็ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์เช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม บางคนอาจเข้าใจว่า ข่าว เปรียบเสมือนข้อเท็จจริงประจำวันที่เกิดขึ้น ในทางกฎหมายถือว่าเป็นงานไม่มีลิขสิทธิ์ หากแต่เมื่อสำนักข่าวออนไลน์นำข้อเท็จจริงเหล่านั้นไปเขียน ผ่านการกลั่นกรองของสมอง ออกมาเป็นตัวเนื้อความ เป็นบทความ เป็นการเรียงลำดับ แบ่งย่อหน้า มีการใส่ภาพประกอบ จะถือว่ามีลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
เมื่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นผ่านการกลั่นกรองของสมองจนเกิดเป็นสิ่งที่มีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายแล้ว นายไพบูลย์ชี้ว่า “เว็บท่าต่างๆ ที่จะคัดลอกไปใช้จำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าของเนื้อหาเหล่านั้นก่อน”
หากแต่ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์บนสื่อออนไลน์ที่พบอยู่เป็นประจำ คือ การไม่ขออนุญาตเจ้าของก่อนนำข้อมูลไปใช้! เมื่อไม่มีการขอ นายไพบูลย์ย้ำว่า “ตามหลักทางกฎหมายจะนำเนื้อหาไปใช้ได้เพียงบางส่วน ทั้งยังต้องอ้างอิงแหล่งที่มา โดยควรทำไฮเปอร์ลิงค์หรือการเชื่อมต่อกลับไปยังที่มาของเนื้อหา และการนำไปใช้ต้องไม่ใช่เพื่อการแสวงหากำไรที่เป็นการกระทบกระเทือนต่อเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร”
ทั้งนี้ หากวิเคราะห์เหตุผลที่เว็บท่าต่างๆ คัดลอกเนื้อหาจากสำนักข่าวออนไลน์ไปใช้ประกอบเป็นส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ตน ล้วนแต่มีผลเพิ่มยอดการเข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งในทางธุรกิจ เว็บท่าเหล่านั้นสามารถนำสถิติการเข้าชมเว็บไซต์ไปขายโฆษณาหรือแบนเนอร์เพื่อแสวงหาผลกำไรได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้จะคัดลอกเนื้อหาไปใช้เพียงบางส่วน และอ้างอิงแหล่งที่มาให้ ก็ยังเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ดี!
เพื่อลดและหยุดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ เว็บท่าน่าจะคิดสักนิดก่อนคัดลอกเนื้อหาไปใช้ สิ่งที่กระทำถ้าขัดหลักกฎหมายเจ้าของเนื้อหามีสิทธิ์ฟ้องร้องดำเนินคดีได้.
โดย : เดลินิวส์ออนไลน์