ThaiSEOBoard.com

ผมรู้จักท่านผ่านหนังสือ เรื่องการแบ่งบุญครับอ่านแล้วรู้สึกศรัทธามากเพราะปกติ ก็เป็นคนเชื่อเรื่อง บาปบุญ เวรกรรม อยู่แล้ว

ท่านบอกว่าเวลาอุทิศส่วนกุศลให้ อุทิศให้แก่เทวดาประจำตัวด้วย เขาได้มีพลังช่วยเราได้มากขึ้น เพราะปกติก็ อุทิศให้แก่ญาติและเจ้ากรรมนายเวรเท่านั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดีย

ซึ่งผมก็ทำทุกวันจน ถึงวันนี้เลย ครับ ยอมรับครับศรัทธามาก แล้วด้วยชีวิประวัติ ที่ได้อ่านมาทำให้ยิ่งศรัทธามากขึ้นไปอีกครับ ย่อๆว่าประมาณนี้

                      พระอาจาย์เกษม อาจิณฺณสีโล เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หล้า พระอริยเจ้าแห่งวัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2529 ในฝ่ายธรรมยุติ หลังจากอุปสมบทไม่นานก็เกิดความประทับใจกับประสบการณ์ทางจิตที่ได้รับจากการฝึกเล่นๆ จึงตั้งใจอยู่ปฏิบัติต่อ ไปขออยู่กับหลวงตามหาบัว แต่ท่านแนะนำให้ไปอยู่ปฏิบัติกับหลวงปู่หล้าที่ ภูจ้อก้อ เมื่อไปก็ไม่ได้อยู่กับหลวงปู่หล้า แต่อยู่วัดใกล้ ๆ กับหลวงปู่หล้า ได้ฝึกฝนตัวเองอย่างอุกฤต เป็นเวลา 5 ปี จึงรู้จักธรรมชาติ พอเป็นที่สบายใจ
                      ท่านมีประสบการณ์ทางจิตที่โลดโผนพิสดาร แม้เดินจงกรมก็สามารถเดินเหยียบอากาศเอาผ้าไปพาดไว้บนกิ่งไม้สูงสิบเมตรได้ ทั้งสามารถมองเห็นภูตผีปีศาจเทวดา นาค ครุฑ ยักษ์อย่างแจ่มชัด แม้กระทั่งลืมตา มีญาณระลึกชาติย้อนหลังได้มากมายหลาย ชาติ
                     เป็นพระสงฆ์ที่ใช้เวลาท่องเที่ยวไปในนรกสวรรค์บ่อยที่สุด คล้ายนิทานเรื่องพระมาลัยโปรดสัตว์โลก เป็นพระสงฆ์รูปเดียวและรูปแรกที่กล้าพูดกล้าเปิดเผยเรื่องราวลี้ลับโดยไม่สนใจเสียงส่อเสียดของชาวโลก และเป็นพระที่ไม่สนใจในลาภ ยศ ชื่อเสียง เป็นพระสงฆ์ที่เทพยดาทั้งสูง - ต่ำ ตลอดจนภูตผีปีศาจให้ความเคารพรักมาก วัดของท่านจึงเป็นจุดที่เทพยดาและภูต – ผี – ปีศาจ – เปรต ที่ตกทุกข์ได้ยากทั่ว ๆ ไปพากันมุ่งไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือและแต่ละวันพวกประชาชนมากหน้าหลายตาทั่ว ๆไปต่างดั้นด้นข้ามภูเขา ผ่านหนทางอันทุรกันดารไปกราบท่านเพื่อปรึกษาหาทางแก้ไขปัญหาชีวิตต่างๆ


แต่ว่าวันนี้มาเจอคลิปที่เป็นข่าว คงไม่ต้องถามความรู้สึกของผมตอนนี้นะครับ   :wanwan031:

http://www.youtube.com/watch?v=no42GLGm9gA&feature=player_embedded


FAIL สับสนงงงวย เกิดอะไรขึ้น ตกลงเรื่องเป็นมายังไงกันแน่  :'(

รักโลภ โกรธ หลง ครับ ผมว่าคงเครียดเเละครับ เพราะว่า ตั้งเเต่มีคนเอาคลปมาให้ดู ไล่ตาบคริปหลวงพ่อ มันมีไรเเปลกๆๆหลายอย่างครับผม

Edit

ืnocoment

ไปแลกลิงค์ดีกว่า

เห็นบอกว่าอยากอยู่คนเดียวนะครับ  :P

เคยศรัทธาเช่นเดียวกันกับคุณ undeath13   ครับ

เป็นได้ครับ พระบางรูปสามารถปฏิบัติจนได้ญาณสมาบัติ อาจจะด้วยบุญเก่าหรืออะไรก็ดี   แต่การได้ญาณ ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นพระอรหันต์ เพราะกิเลสยังมีครับ

ส่วนใหญ่พระจริง ต้องนิ่งใบ้   หากถ่ายทอดธรรมะก็เป็นไปอย่างสำรวมครับ  จิตที่มี สติ กำกับ ทำให้รู้ว่าอะไร ควร หรือ ไม่ควร ครับ   

ธรรมะที่ท่านถ่ายทอด  ก็ไม่ได้ผิดไปทั้งหมดนะครับ   

หากสนใจเรื่องธรรมะแนะนำว่าอ่านหนังสือธรรมะ  เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว   ของคุณ ดังตฤณ  จะดีกว่าครับ :'(

เท่าที่ดูคลิปแล้ว ศรัทธาก็หมดไปทันทีครับ คนเคยบวชจะรู้ว่าศีล 227 ข้อของพระนั้นท่านอาจจะพร่องไปเยอะ   เพราะศีลนั้นทำให้เกิดการสำรวมทั้งกาย วาจา และ ใจ   

ง่ายๆเลย  แค่ถือศีลห้าได้   กาย  วาจา  ใจ  เราก็สงบลงกว่าการที่เราถือไม่ได้แน่นอนครับ

ผมว่าถ้าใครจะเป็นอะไรก็เป็นได้ครับ  บอกได้ด้วย  ข้อสำคัญคือต้องพิสูจน์ให้ผู้ที่เราบอกด้วยกรรมวิธีการพิสูจน์ที่ถูกต้อง

ทำให้ผู้นั้นเห็นไปเลยครับ

 :wanwan044:

คงจะเครียดมากพอดู  :-X 

จากรายการเรื่องจริงผ่านจอ เมื่อปีก่อน นู้น ที่ท่านทุบ ทำลายพระพุทธรูป เอาน้ำกรดราด เหยียบฐาน ตบหน้าพระพุทธชินราชจำลอง

ก็เจอคำสั่งให้ย้ายภายใน 7วัน แต่ก็อยู่จนบัดนี้นะครับ  :P


ส่วนศีล 227 ข้อ ท่านผิดไปแล้วกี่ข้อเนี่ย  :-X

ปาจิตตีย์  มี ๙๒ ข้อได้แก่

๒.ห้ามด่า
๓.ห้ามพูดส่อเสียด
๗๗.ห้ามก่อความรำคาญแก่ภิกษุอื่น

เป็นข้อที่ภิกษุพึงศึกษาเรื่องมารยาท มี ๒๖ ข้อได้แก่


๑.นุ่งให้เป็นปริมณฑล (ล่างปิดเข่า บนปิดสะดือไม่ห้อยหน้าห้อยหลัง)

๒.ห่มให้เป็นนปริมณฑล (ให้ชายผ้าเสมอกัน)

๓.ปกปิดกายด้วยดีไปในบ้าน

๔.ปกปิดกายด้วยดีนั่งในบ้าน

๕.สำรวมด้วยดีไปในบ้าน

๖.สำรวมด้วยดีนั่งในบ้าน

๗.มีสายตาทอดลงไปในบ้าน (ตาไม่มองโน่นมองนี่)

๘.มีสายตาทอดลงนั่งในบ้าน

๙.ไม่เวิกผ้าไปในบ้าน

๑๐.ไม่เวิกผ้านั่งในบ้าน

๑๑.ไม่หัวเราะดังไปในบ้าน

๑๒.ไม่หัวเราะดังนั่งในบ้าน

๑๔.ไม่พูดเสียงดังนั่งในบ้าน

๑๕.ไม่โคลงกายไปในบ้าน

๑๖.ไม่โคลงกายนั่งในบ้าน

๑๗.ไม่ไกวแขนไปในบ้าน

๑๘.ไม่ไกวแขนนั่งในบ้าน

๑๙.ไม่สั่นศีรษะไปในบ้าน

๒๐.ไม่สั่นศีรษะนั่งในบ้าน

๒๑.ไม่เอามือค้ำกายไปในบ้าน

๒๒.ไม่เอามือค้ำกายนั่งในบ้าน

๒๓.ไม่เอาผ้าคลุมศีรษะไปในบ้าน

๒๔.ไม่เอาผ้าคลุมศีรษะนั่งในบ้าน

๒๕.ไม่เดินกระโหย่งเท้า ไปในบ้าน

๒๖.ไม่นั่งรัดเข่าในบ้าน

เค้าเรียกว่าพระหรอ

กำลังฝึกวิชาเส้าหลินอยู่มั้ง

ทำตัวไม่น่าเลื่อมใส

วัดนี้เค้าใส่บาตรกันแบบนี้หรอครับ  :P

สงสัยจะได้ดังจริงๆ ออกเรื่องเล่าเ้ช้านี้ไปแระ

ผมไม่เรียกว่าพระละ  มารดีกว่า

 :P :P

ไม่มีพระที่ไหนในโลกที่กล้าหาญ อย่างหลวงปูเกษม อาจิณณสีโลแล้วครับ
เปิดพระไตรปิฏก ให้คนศึกษา
อย่าให้เงินพระ

ให้ดูหลักธรรมที่ท่านนำมาเปิดต่อชาวโลก ดีกว่าดูกิริยาท่าทางครับ

ไม่ได้รู้จักท่านนะ  และดูคลิปไม่จบด้วย

แต่อยากฝากทุกท่านว่า
ความศรัทธา  ปัญญา  เป็นสิ่งที่เกิดกับตัวเรา
บุญ  บาป  นรก  สวรรค์ ไม่ได้เปลี่ยนไปตามตัวบุุคคล

บางคนขาดศรัทธาในความดี เพราะเอาคนอื่นเป็นบรรทัดฐาน พอเขาเปลี่ยนไป ก็คิดว่า ความดี  บุญ บาป จะเปลี่ยนไป  และไม่ทำความดีต่อไป จริง ๆไม่ใช่อย่างนั้น

ความดีก็คือความดี ส่วนจะได้ลาภ ยศ สรรเสริญหรือไม่ นั่นเป็นของแถมเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นก็ได้

พระเกษมในสคริป  ท่านจะไปนรก หรือสวรรค์ก็เรื่องของท่าน แต่ท่านไม่สามารถทำให้ผมเปลี่ยนแปลงจากนรกหรือสวรรค์ได้  เพราะการกระทำต่าง ๆ เป็นการกระทำของผมเอง
แต่ก็ยอมรับว่าเป็นห่วงคนอื่นเหมือนกัน  ที่เข้ามารู้เห็น และจิตคิดไปต่าง ๆ
โดยส่วนตัว คิดว่าพระเกษม ไม่จำเป็นที่จะทำอย่างนั้น
การอ้างกรรมเก่า ใคร ๆก ก็อ้างได้  แต่ไม่ควรอ้างเสมอไป เพราะทุกคนล้วนมีกรรมทั้งนั้น

การกระทำของท่านสอดคล้องกับพระไตรปิฎกไหม
เท่าที่ทราบมา ไม่มีพระวินัยข้อไหน ห้ามชาวบ้านถวาย เงิน ทอง แก่พระ

พระวินัยไม่ได้ห้ามชาวบ้านถวายเงิน ทอง แก่พระ แต่ห้ามพระรับเงินทองจากชาวบ้าน

ในฐานะเป็นคนนอกรีตไม่มีศาสนาอย่างผม ผมว่าคนๆนี้ไม่น่าจะใช่นักบวชนะครับ คนบ้ารึเปล่า  :P

อย่ามาบอกว่า อย่าดูกิริยาท่าทาง...เหอๆ แค่กายยังสำรวมไม่ได้ แล้ว จิตท่านจะสำรวมได้อย่างไร
กล้ามาก ยกเท้ากระทืบโต๊ะ ด่าด้วยคำหยาบ  โทสะล้วนๆ  ทั้งที่โทสะอ่ะ มันดูง่ายที่สุดแล้ว เห็นจิต เห็นราคา โทสะ โมหะ ของตัวเอง ได้แจ่มชัดยัง
...เห็นอีกภพอ่ะผมไม่สนใจหรอก  
ศิลแค่ 5 ข้อแรกยังรักษาไม่ได้ แล้วทั้ง 227 ข้อจะรักษาได้ไง

ผมบอกคำเดียวว่า ท่าน "jibfolks" ไปเปิดดู กาลามสูตร ดีๆนะครับ
ของแปลกไม่ใช่ของดีเสมอไป....ความกล้าก็ไม่ใช่เรืองดีเสมอไป
"ถวายเงินพระ"  ก็เหมือนกัน  ผมไม่ตัดสิน เพราะผมไม่รู้ไม่ได้อ่านพระไตรปิฏกละเอียด  แล้วท่านหล่ะ อ่านครบยัง ถึงตัดสินว่า ผิด
การอ่านประไตรปิฏกก็อย่าอ่านแค่บางประโยคแล้วเอามาตีความ มันจะเป็นตาบอกคลำช้างซะป่าวๆ

5555 พระรูปนี้แหละ ที่พูดว่า ผู้หญิงไม่สมควรเป็นผู้น้ำประเทศ  เช่น http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11086395/Y11086395.html

เลยเกิดเรื่องมาม่ากันในพันทิพย์ตั้งหลายครั้ง

ยังไม่แก่ ทำไมไอ้โล้นห่มเหลืองนี้จึงถุกเรียกว่าหลวงปู่หว่า  แปลกดีแท้   สอนคนอื่นดิบดี แต่พอจิตตัวเองโดนกระทบ สั่นผับๆๆๆยังกะของขึ้น

แบบนี้เค้าเรียกว่า สงฆ์สันดานกา

คนเราจะศรัทธาก็ให้ศรัทธาที่พระธรรม อย่ายึดติดตัวบุคคล พระธรรมเป็นอะกาลิโก แต่ตัวบุคคลไม่มีอะไรที่แน่นอนได้


หลายคนบอกว่าคำสอนบางอย่างท่านน่าสนใจ ผมอยากบอกว่าถ้าคิดแบบนั้นควรนับถือพระเทวทัตมากกว่าพระพุทธเจ้า

เพราะพระเทวทัตเคยทูลขอให้พระพุทะเจ้าออกกฏดังนี้ขึ้นมา

 1 .ให้ภิกษุสงฆ์อยู่ อยู่ป่าเท่านั้น เพื่อลดกิเลศและห่างใกลจากสังคมอันวุ่นวาย

2. พระสงฆ์ห้ามฉันเนื้อสัตว์ให้เกินแต่พืชอย่างเดียว

ทุกอย่างที่ขอไปเพื่อให้ดูน่าเลื่อมใส่  แต่พระพุทธเจ้าไม่เป็นด้วยเพราะพุทธศาสนาเป็นทางสายกลาง (ช่วงนั้นถ้าจำไม่ผิดพระพุทธเจ้าแยกตัวไปอยู่ป่าประมาณ 3 เดือนเพื่อให้ภิษุสงฆ์พิสูจน์กันเองว่าคำสอนแนวของพระองค์กับพระเทวทัตแบบไหนคือความจริงกันแน่ ตอนที่พระองค์แยกไปอยู่เพื่อพิสูจน์เรื่องศีลบทนี้ ก็คือตอนที่มีลิง และช้างมาถวายผลไม้ไงหลายท่านอาจจะคุ้นบ้าง)

ส่วนเทวทัตจึงจากไปกับกลุ่มพระที่ชอบแนวคิดของตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วต้องถูกชาวบ้านขับไล่เพราะชาวบ้านต้องทำตัวลำบาก


เรื่องนี้ผมรู้มานานและ แต่ไหนๆก็พิมพ์แล้ว จากหนังพระพุทธเจ้าของศรีลังกา

หาที่อ้างอิงสักหน่อย ในเนตก็น่าจะมีพูดถึง

http://www.baanjomyut.com/pratripidok/buddhaprawat/19.html

เรื่องพระสงฆ์  :wanwan017:

Edit

ผมผิดไปแล้วครับ :wanwan023:

ถูกต้อง  จับประเด็นถูกต้องแล้ว  :P

อรหันต์เหยียบฟ้าเลยน๊ะนี่...พวกชอบอวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตัวตนแค่นี้ก็ปาราชิก 4 แล้ว คำสอนบิดเบือน เพื้ยนไปวันๆ แล้วจะหาสาระหาแก่นแท้พระพุทธศาสนาได้อย่างไร

เมื่อเช้าได้ดูเรื่องเล่าเช้านี้นิดเดียวเอง นึกว่ามีอะไรกัน

โน คอมเม้น

ลดความร้อนแรงลงหน่อยดีกว่า ต้องขอโทษด้วยครับ  :wanwan019:

เมื่อตั้งกระทู้แล้ว ผมอยากให้ประเด็นอยู่ในความรู้ ไม่ใช่การด่า ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใคร
เช่นประเด็นความรู้
 เหมือนได้ยินท่านพูดว่า กาแฟดื่มทำไม  ในสมัยโบราณไม่มี
เราไม่ได้เกิดในสมัยโบราณ  หลายอย่างเราใช้ตามยุคสมัย
ถ้าพูดถึงตัวท่านเอง  เท่าที่ดูนิดหน่อย  จีวร  ร้องเท้า  โต๊ะ  กระเบื้อง  บาตร ที่ท่านใช้ หรือสำนักท่านใช้ ก็ไม่ใช่ของโบราณ หรือผลิตโดยกรรมวิธีโบราณ  บาตรสมัยโบราณไม่มีแบบนี้ ในพระไตรปิฎกก็ไม่ใช่กรรมวิธีแบบนี้ (ถ้าบางคนบอกว่า ท่านเปิดพระไตรปิฎกออก ผมจึงบอกว่าการกระทำหรือวิถีชีวิตของท่านก็ไม่ได้สอดคล้องกับพระไตรปิฎกทั้งหมด


ถ้าบอกว่ากาแฟ ดื่มทำไมไม่ดี  พร้อมเหตุผล อันนี้ก็ต้องอีกประเด็น  

ทางสายกลางน่ะ
แบบท่านนี้ก็ขมเกินไป
ส่วนแบบหลายๆท่านก็หวานเกินไป นะจ๊ะโยมจ๋า

เพราะฉะนั้น แล้วแต่จริตครับ

มีที่อ้างอิงไหมครับ
 เพื่อเป็นความรู้

หมายเหตุ เรื่องนี้  ไม่ใช่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของพระนะครับ  ถึงพระท่านจะรับและแตะต้อง  ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ (ถ้าเทียบกับเรื่องอื่น)  แต่ขึ้นรถแทกซี่แล้วไม่มีตังค์จ่ายนี่สิเรื่องใหญ่   :P

ผมกำลังสื่อว่า ศีลบ้างข้อ สามารถยืดหยุ่นได้ตามยุคสมัยไงครับ พระพุทธเจ้ายังตรัสเช่นนั้นเลย ซึ่งมหายานเค้าเลยยืดหยุ่นเยอะมาก  แต่ของไทยๆกลับใส่เพิ่มไปก็เยอะ และกลับลืมไปก้เยอะ  แต่ไปกล่าวหามหายานว่า ศีลไปเคร่งซะงั้น

พระไตรปิฏก นี้หาศึกษายากเนอะ
ที่เอามาให้ดู ของจริง ของเก๊ มีใครรุ้บ้างไหม?

จบ

แจ่ม

เอ่อ... ผมว่าไปมาม่าเรื่องอืนๆ กันดีกว่ามั้ยครับ
เรื่องศาสนา การเมือง อย่าเอาเข้ามายุ่งกับบอร์ดนี้้เลยครับ

ด้วยความเคารพครับ
 :wanwan017:

อีกเสียง

คุณถือศีล 5 มั้ยครับ?

ท่านอาจจะถือศึลไม่ครบทั้ง 227 แต่ท่านนั้นเป็นผู้ทรงศีลมากกว่าคุณ
พูดอะไรควรจะระวังนิดนึง อย่าลืมว่าหลักธรรมคำสอนก็เพื่อต้องการให้คนทำดี คิดดี พูดดี

คิดแต่สิ่งที่ดี ดี พูดแต่ในสิ่งที่ดี ดี ทำแต่สิ่งที่ดี ดี

เชื่อถือแต่อย่างมงาย  ศรัทธาได้ แต่อย่าลุ่มหลง

เห็นด้วยครับ

เรื่องนี้ ไม่มีอะไรมาก  แค่บรรลุ แล้ว เป็นบ้า  เห็นพระหลายรูป นิยมเป็นกันบ่อยๆ     การเข้าถึงญาน ต้องสามารถ ควบคุมจุดไหน จุดหนึ่งให้ได้  ก็สามารถกลับมาบนโลกแห่งความจริงได้ปกติ แต่เมื่อคิดว่าตัวเองทำได้
แล้วโล้ดโพน และ ไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อกลับมาอยู่โลกแห่งความจริง จะเกิดอาการ สติ ฟั่นเฟือน  ซึ่งเป็นผลจากการ เดินทางของจิตที่สามารถก้าวข้ามบางอย่างไปได้   เฉกเช่น  ปั่นไม่ยอมหยุด ไม่ดูตาม้า ตาเรือ  ควบคุมไม่ได้   สุดท้าย กลับมาโดน แพนด้า เก็บ   (เรื่องเดียวกันรึป่าว หว่า )    :wanwan004:   :wanwan007:

ทำแบบนี้แหละ คือ อยากดัง

ถ้าพูดหวานๆ ไม่ดังเท่านี้แน่

No comment

 :wanwan015:

เป็นคลิปที่ยาวมาก แต่นั่งดูจนจบ

สายเซนรึเปล่า

เพลาๆ ความแรง ลงหน่อยก็ดีครับ 

ผมมองว่า มันเสี่ยงเกินไป มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ครับ

ด้วยความเคารพ  :wanwan017:

ผมไปวัดนี้มาแล้วครับ

แล้วทุกวันนี้ก็อุทิศบุญครับ ไม่กราบไว้ นับถือ เคารพ ทองเหลือง ที่เคารพคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เท่านั้นครับ หุหุ

"ใครทำดีทำชั่วช่างเขา....ทำใจเราให้ดี เป็นพอ" พระพุทธเจ้าสอนครับ

แก้ไข

พอดูคลิปแล้ว ท่านนบอกท่านตั้งใจมา20ปีแล้ว เลยขอeditที่พิมพ์ไป

แต่ขอแสดงความเห็นว่า มีพระพุทธรูปดีกว่าไม่มี
ข้อดีของการมีพระพุทธรูป
- เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ วางไว้ในบ้านก็อุ่นใจ มองเห็นก็รูปสึกสงบ เย็นใจ ไม่ต้องเทศใดๆก็ทำให้คนมีความสุขสงบได้
- ไหว้พระพุทธรูป ดีกว่ากราบไหว้พระสงฆ์บางองค์ที่ ไม่ได้ความบริสุทธิ์แท้100% แต่พระพุทธรูปแทนความบริสุทธิ์แทน ท่านไม่เคยทำอาบัติแน่ๆ สบายใจในการกราบไหว้
- หากล่วงเลยไป 100ปี1000ปี พระสงฆ์อาจจะเหลือน้อยลง แต่หากมีพระพุทธรูป จะพอเป็นหลักฐานสำคัญให้เชื่อได้ว่าบ้านนี้เมืองนี้เคยมีศรัทธาในพระพุทธศาสนามากแค่ไหน อาจจะช่วยต่ออายุพระศาสนาได้

ข้อเสียคือ
- ในพระไตรปิฏกไม่เห็นด้วยที่ให้กราบไหว้พระพุทธรูป

แต่พระวินัยในพระไตรปิฏกก็มีข้อห้ามอีกหลายอย่าง ทั้งเรื่องกริยาสงฆ์ พระวินัยต่างๆ แต่หลวงปู่องค์นี้ท่านไม่เลือกที่จะทำตามพระไตรปิฏกในเรื่องพระวินัย
แต่ดันไปชูเรื่องรูปเคารพ ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญที่ทำให้คนมีความสุขได้ แต่กลับทำให้คนส่วนใหญ่รับไม่ได้และทุกข์ใจมากขึ้น

เอาแค่นี้ก่อน จริงๆมีอีกเยอะ
ฝากไปให้ลูกศิษย์ลูกหาท่านด้วย

แรงๆๆ รับไม่ได้ ทำได้ไง  :o :o

ด้วยคนค่ะ :wanwan017:

ชอบอะ

อย่าไปวิจารณ์หรือด่าทอพระภิกษุเลยครับ  บาปกรรมและนรกมันอยู่ที่ปากเรานี่เอง

เพราะเรายังไม่รู้ว่าจริง ๆแล้วจิตใจท่านเป็นเช่นไร

สมัยหนึ่งไม่นานมานี้ เคยมีคนวิพากษ์วิจารณ์ท่านพระอาจารย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมมปันโน ว่าท่านไม่ใช่พระอรหันต์หรอก พูดจาก็

หยาบคาย ด่าคนโน้นคนนี้ และอื่นๆอีกมากมาย

แล้วบังเอิญมีพระรูปหนึ่ง ท่านสงสารจึงกล่าวเตือนว่า เรื่องของพระปล่อยให้พระท่านจัดการเถิด อย่าหาบาปใส่ตัวโดยไม่สมควรเลย

ท่านว่า มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่ละอุปนิสัยได้ นอกนั้นพระอริยเจ้าทั้งหลายละได้แต่กิเลส แต่อุปนิสัยละไม่ได้

พระสารีบุตรเกิดเกิดเป็นลิงยาวนานถึง 500 ชาติ บางคราวท่านกระโดดข้าวลำธารด้วยความเคยชิน พระที่เป็นปุถุชนว่าท่านว่าไม่สำรวม

สงสัยคงบรรลุธรรมไม่จริง พระอรหันต์น่าจะสำรวมกาย วาจาใ จ ได้ดี



พระอีกรูปหนึ่งสมัยพุทธกาลชอบด่าคนว่าไอ้ถ่อย ท่านพูดหยาบเป็นปกติ แต่เป็นพระอรหันต์ ละกิเลสได้ เป็นที่รักของมนุษญ์และเทวดาทั้ง

หลาย พระพุทธเจ้าว่าท่านผู้นี้เคยเกิดเป็นพราหมณ์ชาติตระกูลบริสุทธิ์ไม่ปลอมปนสายโลหิตกับใครมาถึง 500 ชาติ ถ้อยคำด่าทั้งหลายนั้น

เป็นความเคยชินท่ีด่าผู้อื่นซึ่งมีวรรณะต่ำกว่าตนอยู่เสมอ(พาหมณ์เขาถือตนว่าวรรณธสูงส่ง บริสุทธฺ์กว่าผู้ใด) เมื่อบรรลุธรรมแล้ว ก็ละกิเลส

ได้ แต่ละอุปนิสัยไม่ได้ เป็นความเคยชิน



พระพุทธเจ้าท่านห้ามไม่ให้ใครตำหนิ ดูถูก ดูหมิ่นพระอริยะทั้งหลาย ทั้งกรณีพระสารีบุตร และพระอรหันต์รูปอื่น ๆ เพราะสิ่งทั้งหลายที่คนใน

โลกนับถือว่าดี ว่าเหมาะสม ว่าควรแล้ว ก็เป็นไปเพียงสมมุติเท่านั้น ผู้บรรลุธรรมท่านไม่มีความยึดถือในสิ่งเหล่านั้น ท่านไม่สนใจ ไม่มี

อิทธิพลต่อจิตใจของท่านเลย จะมีก็แต่เพียงอนุโลมตามโลกไปเท่านั้น



เช่นครั้งเลือกพระพุทธอุปปุฏฐาก ท่านก็ไม่เลือกพระอรหันต์ เพราะจะต้อนรับบุคคลให้เหมาะสมกับฐานะเขาไม่ได้ เนื่องจากพระอรหันต์มอง

คนเสมอกันหมด ปัญหาคือคนที่ยังมีกิเลสมักมีความถือตัว คิดว่าข้าเป็นกษัตริย์ ข้าเป็นพราหมณ์ ข้าเป็นพ่อค้าร่ำรวยมาก ทำไมจึงต้อนรับข้า

ไม่สมควรแก่ฐานะ ดังนี้จึงให้พระอานนท์ซึ่งเป็นพระโสดาบันเป็นพระพุทธอุปปุฏฐาก (พระโสดาบันกิเลสยังมากอยู่นะครับ ร้องไห้เสียใจก็

เป็น ราคะโทสะ ยังมีอยู่ แต่ท่านไม่ละเมิดธรรม)



เคยอ่านเรื่อง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านมีเพื่อนอีก 2 รูป คือท่านฤาษีลิงเล็ก กับใครอีกท่านหนึ่งผมจำ

ไม่ได้ ทั้ง 2 รูปนี้หลวงพ่อปานบอกให้ไปอยู่ในป่า ทั้งสองท่านมีอภิณญาแก่กล้า หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านว่าเพื่อน 2 คนนี้เก่งกว่าท่านอีกทำ

ฤทธิ์แสดงฤทธิ์ได้ เหาะเหิร เดินดิน ไปนรก สวรรค์ก็ได้ แต่พฤติกรรมส่วตัวจะออกแผลง ๆ ทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขา เดี๋ญวอยู่

ดี ๆ ท่านอาจจะนั่งเอาหัวทิ่มดินเอาขาชี้ฟ้าเล่นซะยั้งงั้น ชาวบ้านจะแตกตื่น และหมดความศรัทธา หาว่าพระเป็นบ้าเสีย อาจารย์ท่านเลยให้ไป

อยู่ป่า ห้ามเข้ามาอยู่ในเมือง



พระเซ็น ก็มักมีอะไรแผลง ๆ บางองค์ท่านอยู่แบบที่ใครก็คาดไม่ถึง มีรูปหนึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่  สอนลูกศิษ์ลูกหามามากมาย แต่หาคนตั้งใจ

ปฏิบัติเพื่อละกิเลสไม่ค่อยจะมี อยู่มาวันหนึ่งท่านเลยทิ้งวัด ออกเดินทางไปโดยลำพัง ลูกศฺษ์ก็พากันตามหา ท่านก็หนีเรื่อยไปเพราะเบื่อ

หน่าย จนสุดท้ายไม่มีใครหาท่านพบ จนลูกศิษญ์คนหนึ่งไปพบท่านกำลังขอทานอยู่ ผมเผ้ารุงรัง หน้าตาดูไม่ได้ ลูกศิษย์อ้อนวอนให้

ท่านกลับวัด ท่านก็ไม่กลับ ลูกศิาย์เลยขออยู่ด้วย ท่านก็ไม่ให้อยู่ ลูกศิษญ์ก็ไม่ไป ท่านเลยบอกว่าถ้าทำตามท่านได้ก็อยู่ได้ แต่ถ้าทำตาม

ท่านไม่ได้ก็ต้องไป จนอยู่มาวันหนึ่งมีขอทานที่อยู่อาศัยใต้สะพานใกล้กันเสียชีวิต ท่านกับลูกศิษญ์ก็ช่วยกันฝัง แล้วพบว่าขอทานคนนี้มี

อาหารที่ตนขอทานมาได้อยู่ชามหนึ่งแต่อาหารนั้นเน่าบูดแล้ว  ลุกศิษย์จะเททิ้งแต่อาจารย์กลับเอามากิน แล้วก็บอกลูกศิษ์ให้กิน ลูกศิย์ก็กิน

ไม่ได้ สุดท้ายท่านบอกว่า เห็นไหมล่ะ เจ้าอยู่กับข้าไม่ได้หรอก ตกลงลูกศิาษย์ต้องยอมไปจากอาจารย์



พระบางรูปในนิกายเซ็น แสดงปริศนาธรรม ด้วยการตบหน้าอาจารย์  แต่อาจารย์กลับยิ้ม บอกว่าดี ๆ

เป็นการแสดงว่าตนหมดความยึดถือในตัวตนแล้วทั้งศิษ์และอาจารย์


ท่าอาจารย์พุทธทาสของเรา สมัยยังหนุ่มๆ คนก็ยังหาว่าท่านเป็นพระบ้านะ เพราะทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขาทำกัน


ผู้ที่บรรลุธรรมนั้นเขาหมดความยึดถือแล้ว  แต่เราปุถุชนนั้นยังยึดนั่นถือนี่อยู่เต็มไปหมด มันเลยยุ่ง


ที่เขียนมายืดยาวนี้ ผมไม่มีเอี่ยวอะไรกับใครเลย แค่อยากเตือนพวกเราว่าอย่าหาบาปใส่ตัวโดยรู้เท่าไม่ถึงกาลเลย อยู่เฉย ๆดีกว่า


กรณีหลวงพ่อเกษมนั้น เรายังไม่รู้ว่าท่านดีหรือไม่ดีอย่างไร ดังนั้นอะไรที่เราไม่ทราบแน่ชัดก็อย่าไปคาดเดาเลยครับ เกิดท่านเป็นพระ

อรหันต์จริง การด่าว่า บริภาษพระอรหันต์นี่บาปหนักมากนะครับ เพราะท่านเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วโดยสิ้นเชิง

เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองครับว่าท่านเป็นเช่นไร แต่เราเป็นชาวบ้านผู้ไม่รู้ว่าใครเป็นอะไร หรือไม่เป็นอะไร ...ไม่รู้ก็เฉยไว้ดีกว่าครับ

ด้วยความรักและห่วงใยครับ

ระดับโลกียะ อิทธิฤทธิปาฎิหารยทำได้ทุกคน ถ้าปฏิบัติได้ระดับหนึ่ง
แต่พอเล่นมากๆก็ติดฤทธิ แล้วก็เสื่อม ดูแค่จริยากับคำสอนก็รู้แล้วคับ
จะเอามายกตัวอย่างกับหลวงตามหาบัว หลวงพ่อฤาษีไม่ได้หรอก

no comment  :wanwan023:

เห็นด้วยครับ...เคยบวชมา...เจอมาเยอะ ^^

ไม่ขอวิจารณ์ครับเพราะLevelยังไม่ถึง...
ถ้าเก็บLevelจนถึงแล้ว ก็คงไม่เสียเวลากลับมาวิจารณ์อีกนั่นแหละ
 :P

เข้ามาดู

เข้ามาด้วย

ลอง ไปหาอ่านประวัติ "หลวงปู่ตื้อ" ดูครับ..ท่านแรงกว่านี้เยอะ สายหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ศรัทธาครับ...

แบบนี้เวลาเราไปวัดนี้ เราไปขากถุยใส่พระก็ไม่ผิดใช่ป่ะ ก็แค่อยากถุย แต่นับถือนะ  :wanwan004:

 :P แบบนี้เรียนมามาก รับมากแล้วไม่ส่งกลับ รับอย่างเดียว เลยเข้าตัว

ชอบคำที่เน้นสีไวครับผม

ถึงจิตใจจะดี หรือว่ายังไงผมไม่รู้นะ

แต่เป็นภิกษุ ต้องสำรวม กาย วาจา ใจ

ท่านผู้นี้ ไร้ความสำรวม

อ้างแต่พระไตรปิฎก แต่ไปดูคลิปในกระทู้ก่อนๆ ตีความมั่วชิบ อนาถ  :P :P

พอๆกับหลวงตาบัวสมัยก่อน แต่เผอิญไม่มีใครถ่ายคลิป ใครไม่สนิทไม่รู้หรอก

ผมดีใจที่มีเพื่อนๆ หลายคนออกมาเตือนเรื่องนี้ว่าพยายามอย่าดูหมิ่นพระท่านจะดีกว่าครับ เรื่องบ้างเรื่องเราต้องสัมพัสด้วยใจและความรู้สึกของเรากิเลสมันหนามันบังตามองยากครับ  แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นและผมมั่นใจได้คือพระรูปนี้ท่านไม่ธรรมดาแน่นอนครับ เพื่อนๆ หลายคนอาจจะไม่ชินกับพระสายป่า และชินกับพระที่มีจริยวัติที่งดงามแบบในเมือง  ทำให้ในแง่มุมของพระสายปฏิบัติระดับเราอาจจะไม่ทราบกันครับ

สุดท้ายที่ผมพอทราบมาคือเพราะเจ้าหลายๆ รูปที่ท่านบรรลุธรรมระดับสูง ท่านไม่ได้ถือศีล 227 ข้อ ท่านถือแค่ข้อเดียวเดียวครับเรียก "อธิศีล" ครับ

สุดท้ายระยะเวลาจะบอกเองว่าท่านเป็นพระที่ดีหรือไม่ดี แต่ผมก็มั่นใจในสายตายของผมในระดับหนึ่งเช่นกันครับ

ตามนั้น  :wanwan016:

เหมือนจี้กงไง ไม่ปฏิบัติเยี่ยงพระ แต่เป็นอรหันต์

ขออธิบายเป็นเพลงหล๊ะกันครับ :P :P
บอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึก ..สักเท่าไหร่ มากแค่ไหนก็ไม่รู้ :wanwan031: :wanwan031:

หลวงปู่ตื้อ ท่านแรงครับในคำพูด แต่แม้หลวงปู่ท่านจะกล่าวด้วยคำพูดที่ดุดัน แต่สีหน้าและอาการท่านสงบเงียบ แสดงชัดว่าการดุด่าของท่านมิได้เป็นไปด้วยอารมณ์ปุถุชน แต่เป็นการเตือนสติให้พิจารณาถึงสิ่งอันควรไม่ควร

แต่ใสคลิปเตะโต๊ะ ขนาดที่แม่ชี พระสงฆ์กำลังตักอาหาร ด่าลอยๆด้วยถ้วยถ้อยคำหยาบคาย ผมว่าต่างกันนะครับ :P

ผมอยากทราบอะครับ ว่าที่หลวงปู่ ออกมา ด่าพ่อล่อแม่ ด่าอวัยวะเพศสุนัขตัวเมีย เตะโต๊ะ เตะเก้าอี้ แบล็กคิกกล่องทิชชู่ ขากถุยน้ำลาย  รวมถึงรำคาญที่คนมาหาท่านที่วัดจำนวนมาก และไม่ต้องการให้มาชื่นชอบไม่ต้องการให้ใครมารู้จัก

เพราะ มีคนหาว่าท่านอยากดัง ท่านเลยออกมาตอบโต้

งั้นผมขอถามว่า อันนี้ ท่านทำด้วย อารมณ์ใด โทสะ โมหะใช่หรือไม่ เพราะไม่พอใจ

แล้วยังนี้ จะเรียกว่าท่านเป็นพระอรหันต์ได้หรือไม่ เนื่องจากยังอารมณ์และกิเลส ยังไม่ขาดโดยสิ้นเชิง

หลวงปู่บอกไม่ต้องมาวัด ให้อ่านพระไตรปิฎกอยู่บ้าน อย่างนั้น เวลาเราเรียนหนังสือ ไม่ต้องมีครูสอนแล้วสิ โรงเรียนไม่ต้องไปแล้ว อ่านสืออยู่บ้านเองจบ แบบนี้หรือ

ผมเห็นถกเรื่องพระอรหันต์ไม่อรหันต์ อยากทราบว่า มีรูปได้ที่บรรลุอรหันต์แล้วแสดงออกแบบไม่สำรวมบ้างครับ

แล้วพระอรหันต์ที่ว่ามีนิยามความหมายอย่างไรแค่ไหน

ดูคลิปไปได้แป๊บเดียว ม่ายหวาย  :wanwan035:

ขอไม่แสดงความเห็น เพราะเป็นแค่ปุถุชน

ก็ เลือกเสพแต่สิ่งดีๆละกันครับ  :wanwan007:

 :wanwan007:

 :P ท่าตอนเหยียบเก้าอี้นี่เท่ดีแต่ไม่ไหวๆ  :P :P :P

แบบนี้ปัญหาโลกแตก ยิ่งถามก็ยิ่งได้แต่คำถาม กลัวคนอื่นจะทำตาม..แบบว่าไปบวชเป็นพระจะได้ไม่มีใครมาทำอะไรได้

การตีความพระไตรปิฎกผิดๆ เพียงเพื่อหวังถึงซึ่งนิพพาน  :P

 :wanwan044: :wanwan044: :wanwan044: +1 ให้เลยครับ

เอาความรู้สึก ความเชื่อแบบตื้นๆเลยนะ
พระ ในความเชื่อของหลายๆคน คือผู้พยายามดับกิเลศ วางจากตัวตน
พระ ควรมีสติ รู้ตัวว่ากำลังโกรธ กำลังหลง กำลังทุกข์ หรือเปล่า

ถ้าดับกิเลศแล้ว ควรจะแสดงความโกรธ อาฆาต ออกมาไหม
ถ้าวางจากตัวตน จะสนใจไหมว่าใครนินทา หรือพูดถึงตนว่าอย่างไร
ถ้ามีสติ จะปล่อยให้อารมณ์ครอบงำการแสดงออกหรือเปล่า

อย่างน้อย หากมีความพยายาม การแสดงออกก็จะสำรวมด้วยความพยามยามนั้นเอง

อันนี้น่าจะเป็นอะไรที่ทุกคนน่าจะรู้สึกกันได้อยู่แล้วมั๊ง

ล่าสุดท้าสรยุทธ์ไปทำข่าว ถ้าไม่ไปจะด่าสรยุทธ์ ok จะถือว่าสรยุทธ์เป็นสัตว์ไม่นุ่งผ้า ท้าสรยุทธ์ 24นาที

สรุปแล้วครับ คลิปแรกท่านอยากดัง อยากออกทีวีนี่เองครับ :'(


http://www.youtube.com//watch?v=0TO8I4QgSY8


ผมว่าท่านท้าผิดคนแล้วครับ แนะนำท่าน ไปท้า วู้ดดี้ ดีกว่า แรงกับแรง น่าจะเข้ากันนะครับ :wanwan011: ผมก็อยากเห็นเช่น กัน

เพี้ยน !

Like like! เขียนได้ดีครับ

   "ดูก่อน ชาวกาลามะทั้งหลาย     พวกท่านอย่าเชื่อเพราะฟังตามกันมา อย่าเชื่อเพราะปฏิบัติสืบต่อกันมา   อย่าเชื่อเพราะข่าวเล่าลือ    อย่าเชื่อเพราะอ้างตำรา       อย่าเชื่อเพราะเหตุผลทางตรรกะ     อย่าเชื่อเพราะการอนุมาน อย่าเชื่อเพราะคิดตรองตามแนวเหตุผล   อย่าเชื่อเพราะเข้ากับความคิดเห็นของตน    อย่าเชื่อเพราะรูปลักษณ์น่าเป็นไปได้    และอย่าเชื่อเพราะคิดว่าผู้พูดเป็นครูของตน
     ดูก่อน ชาวกาลามะทั้งหลาย    เมื่อใดท่านทั้งหลายรู้ด้วยตนว่าสิ่งทั้งหลายไม่ดีงาม  มีโทษ  วิญญูชนติเตียน  พึงละสิ่งเหล่านั้นเสีย เมื่อใดรู้ว่าสิ่งทั้งหลายดีงาม   ไม่มีโทษ วิญญูชนสรรเสริญพึงรับและปฏิบัติสิ่งเหล่านั้น"

ถ้าสิ่งใดไม่ดีงาม ไม่เหมาะสม มีโทษ ผมเลือกที่จะเชื่อคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ

งั้นขออยู่เฉยๆ ดีกว่า  :P

เฮ้อ :P

คนในนี้รู้เรื่องธรรมะกันเยอะจริงๆ ครับ ไม่น่าเชื่อ

คิดว่าแบบนี้นะ  :P

 :o ยังติดชาร์จเหมือนเดิม  สงสัยว่าคนที่นั่งทนฟังกันได้ยังไง นั่งนิ่งเชียว ที่แท้อยากออกทีวี
เสื่อมสุดๆ :wanwan044:

หลวงปู่ท่านเป็นพระที่รักษาวินัยมาก สายปฎิบัติ
สิ่งที่ออกเป็นข่าวนั้นเป็นแค่เป็นบางส่วน
ที่ให้ข้อมูลไม่หมด อย่าให้เพื่อนๆเปิดใจสักนิดครับ

ดูสิ่งที่ท่าน ปฎิบัติมา ผมเห็นหลายคนพอได้ศึกษาแล้ว
กลับมาขอขมาหลวงปู่ก็มีมากครับ

ก่อนที่จะบาปมากกว่านี้

ด้วยความห่วงใยครับ

อยากให้ทุกคนลองศึกษาจิงๆก่อนครับ แล้วจะเข้าใจเลย

 :wanwan017:

ไม่ ขอ เพิ่มเติม ความเห็น ในเรื่องนี้ ครับ

วันใด ถ้าสังคม ข่าว เล่นเรื่อง  พระ ถ้าเป็นเรื่องดี ๆ จะไม่ค่อยได้รับความสนใจ แต่ถ้า เป็นเรื่อง ไม่ดี เกี่ยวกับพระ แล้ว จะดัง เ็ป็นกระแส ภายในไม่กี่วันเอง

ใคร จะเป็นอะไร ยังไง ก็แล้วแต่ ขอเพียงเรา มี จิตใจดีี กระทำแต่สิ่งทีดี ๆ ก็แล้วกันครับ

แต่สงสัยว่าออกไปขนาดนี้ แต่ไม่มีผู้มีอำนาจในทางสงฆ์จัดการอย่างเด็ดขาด
หรือ มีเส้นมีสายเยอะ


ถึงคุณเจ้าของกระทู้ครับ
หากคุณศรัทธา ขอให้ศรัทธา ที่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่ได้ดีแล้ว จงทำสิ่งนั้นต่อไป

อนุโมทนา กับการปฏิบัติดีด้วยครับ





ปล. ผมฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่ออยู่รูปหนึ่งฝั่งธน ท่านมาทางสายวิปัสสนา(สมาธิ)หากท่านสนใจ ผมสามารถแนะนำได้

เท่าที่ผมเคยติดตามนะครับ

ไม่ใช่ไม่มีครับ แต่มีมาแล้วหลวงปู่เกษม ก็ชี้แจงเป็นข้อๆตามพระไตรปิฎก ซึ่งมันไม่ผิดครับ น่าจะประมาณนี้ครับ

http://www.fungdham.com/sound/vorvachiramete.html


ฟังนี้ดีกว่าครับ

ของท่านว.  ธรรมของทานฟังง่าย

ผมสงสัยครับ ถ้าท่านบรรลุแล้วจริง ทำไมจึงยังมีโทสะโมหะ อยู่ มีพระเถระมาว่าท่าน อยากดัง ทำไมจึงไม่ปล่อยวางเสีย

ทำไมต้องด่า ตอบโต้ผ่านคลิปด้วยครับ  :wanwan017:

ทำไมถึงไม่เข้าณาน 8 ถอดจิตแล้วไปคุยกัน เองล่ะครับ จะออกมาด่าผ่าน ยูทูป ให้ชาวบ้านท่านปรามาสท่านทำไม

ถ้าท่านบรรลุจริงทำแบบนี้ ส่งเสริมชาวบ้านให้ลงนรกหลายหมื่น คนเลยนะครับ เพราะวิว เป็นแสนแล้ว และท่าน อัฟโหลดคลิปด้วยตัวเองด้วย

 :P

แปลกจัง....[มาม่า]  เฉยเลย... :wanwan008:

ร่วมถกด้วยคน...

ผมว่าเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์แอบแฝงบางอย่าง..
เมื่อวานมาจนวันนี้ผมไล่ดูคลิปที่ทางสำนักสงฆ์สามแยกนี้ได้อัพโหลดไว้..ความเห็นส่วนตัว..ผมกลับรู้สึกแตกต่างจากที่เห็นคลิปแรกเมื่อวาน..

ไอ้เรื่องสำรวมไม่สำรวมไม่ต้องพูดกัน เพราะมียกขาพาดก้านคอพระรูปอื่นได้ ฉะนั้นไอ้เรื่องแค่พูดหยาบคงเล็กไป...

แต่.........

ผมกลับมองว่า..พระท่านรู้ตัว!!!! ว่าทำอะไร....

ท่านรู้ว่า...ยกขาพาดคอเพื่อน...พูดจาส่อเสียด ลามก หยาบคายอะไรก็แล้วแต่...มันแค่...
อาบัติ ปาจิตตี ! ....ปลงอาบัติ..จบข่าว

แต่สิ่งที่ท่านพยายามบอกในหลายๆคลิปมันน่าจะประมาณว่า...
ให้เคารพนับถือกันที่ พระพุทธเจ้า พระธรรมวินัย และพระสงฆ์ผู้ประพฤติดีประพฤติชอบ

ผมว่าท่านพยายาม..หาเรื่อง...เพื่อที่จะบอกสังคมว่า...

พระเอาขาพาดคอเพื่อน...อาบัติ ปาจิตตี....แก้ได้ง่ายๆ
แต่..พระที่สะสมลาภยศ เงินทอง ผู้หญิง และประพฤติตนเยี่ยงฆราวาสอื่นๆ...คือ???????

พระพูดจาหยาบคาย..แต่ตีแผ่พระไตรปิฎกมาสอนคน..
กับพระพูดจาอ่อนหวาน..แต่เรียกรับผลประโยชน์เข้าสู่ตน..

....ความเห็นส่วนตัวแล้วผมว่าเราคงต้องมองกันยาวๆ ท่านใดที่ยังไม่แน่ใจก็อย่าเพิ่งไปด่าว่าพระท่านเลยครับ บาปหนักจะติดตัวเราไปเปล่า.....ผมมองว่าท่านแสดงกริยาแอบแฝงเพื่อ..หาเรื่อง!!! กับพระผู้ใหญ่...เพราะท่านคงมั่นใจในความผิดที่เล็กน้อยของท่านว่าคงเทียบไม่ได้กับพระที่มีรถ มีบ้าน มีบริวารทั้งหลาย....


ปล.

อาบัติ แปลว่าความถูกต้อง หรือพูดให้ชัดลงไปว่า “ความผิดที่เกิดขึ้นเพราะไม่ละเว้นข้อที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม และไม่ทำตามข้อที่พระองค์ทรงพระอนุญาตให้ทำ เรียกว่าอาบัติ”
อาบัตินั้นว่าโดยชื่อมี 7 อย่าง คือ ปาราชิก สังฆาทิเสส ปาจิตตีย์ ถลุลัจจัย ปาฏิเทสนียะ ทุกกฎ ทุพภาสิต

โทษของพระนั้น เมื่อแบ่งโดยละเอียด ก็เป็น 7 ชั้น ตามชื่อของอาบัติดังกล่าวแล้ว แต่เมื่อว่าโดยย่อก็แบ่งเป็นโทษที่แก้ไขให้กลับเป็นปกติได้ กับโทษที่แก้ไขไม่ได้ ท่านเรียกเป็นภาษาบาลีว่า สเตกิจฉา คือโทษที่แก้ไขได้ กับอเตกิจฉา โทษที่แก้ไขอะไรไม่ได้

อเตกิจฉา นั้น ได้แก่อาบัติปาราชิก ซึ่งพระที่ต้องอาบัติขั้นนี้แล้ว ท่านเรียกว่าเป็นผู้พ่ายแพ้ มีทำได้อย่างเดียวคือสึกออกไปเป็นฆราวาส ถ้าปรารถนาจะสร้างความดีก็ทำความดีในขั้นของฆราวาสไป แม้จะกลับมาบวชอีกก็ถือว่าไม่เป็นภิกษุ หมายความว่าตลอดชาตินี้จะเป็นพระอีกไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆก็ตาม แต่ท่านแสดงว่าถ้าสึกออกมาแล้วตั้งใจบำเพ็ญเพียรทางจิตในฐานะที่เป็นฆราวาส อาจบรรลุมรรคผล 3 ขั้นต้นได้ถ้ามีบารมีพอ

สเตกิจฉา นั้น มีวิธีแก้ไขที่ผิดกันอยู่ คืออาบัติสังฆาทิเสสนั้น เป็นโทษที่รองลงมาจากอาบัติปาราชิกถึงแม้ผู้ต้องจะไม่ขาดจากความเป็นพระแต่ต้องประจานตนเองและทรมานตนด้วยการประพฤติมานัตและอยู่ปริวาส เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 ราตรีแต่ถ้าปกปิดไว้ก็ต้องเพิ่มวันออกไปอีกกว่าจะกลับเป็นพระบริสุทธิ์ได้เหมือนเดิมก็หนักอยู่ คือต้องประชุมสงฆ์ให้ยอมรับรู้ถึง 20 รูปมากกว่าการประชุมเพื่อรับคนเข้าบวชเสียอีก

ส่วนอาบัติปาจิตตีย์ ถุลลัจจัย ปาฏีเทสนียะ ทุกกฎ ทุพภาสิตนั้น จะบริสุทธิ์ได้ด้วยการบอกความผิดของตนแก่เพื่อนสหพรหมจารี และรับว่าจะสำรวมระวังต่อไป ปาจิตตีย์บางประเภทมีแปลกอยู่ที่ว่า นอกจากจะบริสุทธิ์ได้ด้วยการแสดงแล้ว บางข้อยังต้องทำลายสิ่งของที่เป็นเหตุให้ต้องอาบัตินั้นด้วย

โทษของพระที่หนักที่สุด คือต้องอาบัติปาราชิก 4 ดังกล่าวแล้ว อาบัตินั้น ได้แก่การเสพเมถุนจะกับคนหรือสัตว์ก็ตาม ลักของคนอื่นราคาบาทหนึ่งขึ้นไป ฆ่าคนตาย และอวดคุณพิเศษมีมรรค ผล นิพพาน ทั้งๆที่ตนไม่มีคุณพิเศษเช่นนั้น และยุยงทำลายให้พระสงฆ์แตกกัน อันเรียกว่าสังฆเภท ถ้าต้องแล้วยังขืนเป็นพระอยู่ก็เป็นเพียงผ้าคลุมคนเท่านั้น ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน คือจะไปเกิดในสวรรค์หรือบรรลุนิพพานไม่ได้ถ้ายังขืนครองเพศพระอยู่จนตาย และในขณะที่มีชีวิตอยู่จะบำเพ็ญเพียรอย่างไรก็ไม่อาจลบล้างกรรมชั่วนั้นจนบรรลุมรรค-ผลได้

กระแทก like แรงๆ

แล้วทำไมพระแพลงกิ้ง โดนจับสึกอะครับ  ไม่ก็ไล่ออกจากวัดอะ ครับ  :P

กับพระที่เรี่ยไรเงินบริจาค ก็โดน จับสึก

ข้อหาทำตัวไม่เหมาะสมที่เป็นพระ   :wanwan001:

ทั้งๆที่ไม่ผิดอาบัติปราชิก4สักหน่อย

ผมเชื่อมั่นอย่างสุดใจตั้งแต่เกิดมาไม่เคยฟังเทศแล้วเข้าใจเท่าหลวงปู่รูปนี้ ท่านคือพระ อรหันต์ ล้านเปอร์เซ็น เป็นบุญของผมมากๆแม้มีโอกาสจะขอไปกราบท่านสักครั้งในชีวิต  :wanwan017:

ผมก็เชื่อมั่น เหมือน ท่าน xfiles  ครับ
การที่เป็นข่าว มันก็ดีนะครับ ทำให้คนสนใจที่จะศึกษาธรรมที่ถูกมากขึ้น
ผมสังเกตเห็น หลายคนพอได้มาศึกษาจริงๆ ก็มาขอขมาหลวงปู่มีมากมายครับ

ด้วยความห่วงใยครับ

ท่านบรรลุ แต่อีกฝ่ายไม่บรรลุมั้งครับ เลยคุยกันทางจิตไม่ได้ น่าจะเป็นกุศโลบายนะ :wanwan044:

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ ชาวพุทธ อย่างเราๆ จะต้องหันหน้าเข้าหาพระไตรปิฏก อย่าไปสนใจพระเกษม อาจิณณสีโล พระท่านถูกหรือผิด ก็แล้วแต่ท่าน  ผมว่าเป็นข้อดีนะครับอ่านๆไปรู้ได้เร็วกว่าไปนั่งฟังพระเทศสอนอีก สงสัยอะไรค่อยถามครูบาอาจารย์เอา พอดีว่าไปเจอคลิปนี้มาอีกทีเลยเอามาให้ชม

แต่ที่แน่ๆ ผมยืนยัน ว่า พระพุทธรูป ไม่ใช่ตัวแทน ไม่ใช่สัญลักษ์แทน พระพุทธเจ้าแน่นอน ล้านเปอร์เซน สิ่งที่เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้านั้น คือ พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เรารู้กันดี ได้เรียนมาตั้งแต่ประถมแต่ลืมนึกถึงกัน

ส่วนความเห็นเรื่องมีพระพุทธรูป กับ ไม่มี อันไหนดีกว่ากันผมไม่ออกความเห็นใดๆ แค่อยากบอกว่า พระพุทธรูปไม่ใช่ตัวแทนพระพุทธเจ้าแน่นอน

http://www.youtube.com/embed/SPc0Ffe2cXE
http://www.youtube.com/embed/UpWdylVELQk

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.samyaek.com (http://www.samyaek.com)

ถ้าท่านบรรลุแล้วจริง ทำไมจึงยังมีโทสะโมหะ อยู่ มีพระเถระมาว่าท่าน อยากดัง ทำไมจึงไม่ปล่อยวาง
ทำไมต้องด่า ตอบโต้
แบบนี้เรียกว่า..ไม่ใช่พระแล้ว   
เป็นแค่ผู้ศึกษาพระไตรปิฎก  แต่ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติธรรม
อย่ามาแถวบ้านนะ   เดี๋ยวปล่อยหมาวิ่งกัดซะ  :wanwan010:

ทีแรกเห็นในคลิปก็ไม่พอใจเหมือนกันทั้งยกเท้าสูง ทั้งกริยาวาจา ทั้งเหยียบพระพุทธรูป เรื่องวินัยผมขอไม่พูดถึงอีก
แต่เท่าที่ศึกษาดูวิชาทางจิตท่านแน่นมากๆ

เคยดูตอนญาติโยมมาปรึกษาท่านเรื่องคนโดนผีเข้า แล้วจู่ๆหนึ่งในคนที่มีปรึกษาหลวงพ่อก็โดนผีเข้า
จากที่ผมศึกษาวิธีไล่ผีของหลายๆชาติ เกือบทุกศาสนา มาหลายปี หลายสิบถึงร้อยวิธี ไม่เคยเจอวิธีไหนได้ผลดีเท่าของหลวงปู่เกษมเลย

ได้ผลดีหมายถึง
1.ผีออก
2.ไม่ต้องโดนตัวผู้โดนผีเข้า น้ำมนต์ก็ไม่ใช้
3.เจ้ากรรมนายเวรดวงนี้(ผีที่ตามมาสิง)จะอโหสิกรรม และหลุดจากบ่วงกรรมนี้ทันที

คือของศาสนาอื่นๆมัก ใช้ไม้กางเขนรึไม่ก็คำภีร์แตะหัวรึหน้าอก ใช้น้ำมนต์แล้วผีก็มักจะออกช้า และไม่ออกบ้าง กลับมาใหม่บ้าง
บางท่านที่ได้ผลดีหน่อยก็ใช้มีดหมอ อันนี้ก็ออกจริง แต่เค้ายังไม่อยากระร่างนี้ไป ก็จะแอบกลับมาเข้าร่างอีกจนได้
บางท่านใช้น้ำมนต์ อันนี้หายแป๊บเดียว ถ้าเป็นเจ้ากรรมนายเวรเดี๋ยวเค้าก็กลับมาใหม่อีก รึบางทีก็ยังไม่ออกแต่แอบอยู่ส่วนอื่นๆของร่างกาย
บางท่านใช้วิธีสวดมนต์รึเทศน์ ก็อาจจะได้ผล แต่ช้าเสียเวลามาก
แล้วกว่าร้อยวิธีที่ผมศึกษามาจะเป็นลักษณะเดียวกัน

โดนส่วนตัวของผมผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องนี้ ผมจึงขอชื่นชมวิธีของหลวงปู่เกษม ที่ใช้วิธีที่ผมไม่เคยเห็นในศาสนาใดรึประเทศใดๆและได้ผลที่ดีจริงๆ
ท่านได้แสดงให้เห็นว่าการไล่ผีนั้น ควรทำยังไง เพื่อผลลัพท์ที่ดีกว่า และเป็นวิธีที่ผมคิดไม่ถึงจริงๆ
ขอแสดงความนับถือ :wanwan017: :wanwan017:


เป็นการศึกษาส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณ

ไม่ค่อยเห็นด้วยกับท่าน แต่จับสึกเลยนี่โหดไปไหม...  พรรษา 20 กว่าๆแล้วนะ บวชมานานมาก

ฆราวาสในผ้าเหลือง :wanwan044:

ท่านทำตัวไม่เหมาะครับ

ยาวไป ๆ :wanwan013:

เห็นด้วยครับ :wanwan013: พระรูปนี้ผมว่ากริยาหนักกว่าแพลงกิ้งอีกนะครับ ทำไมไม่โดนจับสึก งงครับ
เท่าที่ผมติดตามดูมาตั้งแต่คลิ๊ปแรกถึงตอนนี้ท่านไม่ได้อยากดังหรอกครับ แต่ท่านมีคลิ๊ปมาอัพเดตตลอดเลย(กิจของสงฆ์หรือเปล่า)
เห็นมีออกมาทุกวันหล๊ะครับ โต้คนนั้น โต้คนนี้ ผมคิดว่าท่านเก่งมากเลยนะครับเรื่องพระวินัยคำภีร์ไหนท่านสามารถเอามาอ่านให้ดูได้หมด
แต่ว่าในโลกความจริงผมคิดว่าสำคัญที่สุดคือการปฏิบัตินะครับ ท่านอ่านเข้าใจก็จริงแต่ท่านไม่ได้นำมาปฏิบัติเลยย
แค่กริยาท่าทางที่ท่านแสดงออกมานี่ก็เห็นแล้ววว่าท่านศึกษาไปงั้นๆไม่ได้นำมาปฏิบัติ ท่านนำมาใช้จริงเรื่องเดียวที่ผมเห็นคือทำลายพระพุทธรูปครับ :wanwan001:
ส่วนตัวผมนับถือพระรูปไหนผมไม่เคยไปขอของดีหรือว่าอะไรมายึดเหนี่ยวจิตใจหรอกครับ แต่ผมนับถือเรื่องการปฏิบัติมากกว่าที่บ้านผมมีพระพุทธรูปครับและผมคิดว่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
ของผมเป็นอย่างดี ผมชอบที่จะศัทธาแบบนี้ถ้าผมจะไม่ได้บุญแล้วบาปเพราะไหว้พระพุทธรูป ผมก็ขอบาปหล๊ะครับ เพราะผมสบายใจที่ได้ทำแบบนี้ ผมไม่ได้บรรลุอะไรเลยย แต่ผมมีความสุขที่ได้ทำแบบนี้ครับ :wanwan002: :wanwan002:

พระนักเลง  :wanwan004:

ผมไม่วิจารพระ แต่รู้ว่าผมกำลังดูใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร โดยไม่เอาอารม และ ความรู้สึกเข้าไปใส่ในตอนที่เราดู

ใครรู้บ้าง ท่านพูดคำว่า อยากดัง กี่คำ ในคลิบนี้

ผมเห็นด้วย

ใครได้ดู พระพุทธประวัติพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กันบ้างเอ่ย

บรรลุนั้น มี 2 ทาง คือ

ทางพระอรหันต์  คือ การบรรลุธรรมอันสูงสุด วางเปล่า ปล่อยวาง ทั้งหมดทั้งปวง
โลกิยสมาบัติ  คือ ไปในทางที่ อธรรม โกรธ หลง ตรงข้าม หลักคำสอนทุกอย่าง

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%95 พระเทวทัต

ควรศึกษากันท่องแท้ก่อนน่ะ พูดไปเรื่องมันยาวมาก ไปดูเข้าไปดูอ่านเยอะ ๆ จิตใจเราจะปล่อยวางเอง

สาธุ

 :P ผมดูคลิปครั้งแรกผมว่าท่านไม่ค่อยสบายนะครับ

เป็นได้ครับ พระบางรูปสามารถปฏิบัติจนได้ญาณสมาบัติ อาจจะด้วยบุญเก่าหรืออะไรก็ดี   แต่การได้ญาณ ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นพระอรหันต์ เพราะกิเลสยังมีครับ

เนื่องจากกิเลสยังมีก็ เป็นแบบในคลิปได้ .. ดูตัวอย่างพระเทวทัศ เป็นต้น

ผมว่าสภาพตอนนี้ .. ญาณคงเสื่อมไปแล้ว เหลือเพียง ความยึดถือกับสิ่งที่เคยได้มาในอดีต..

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีโอกาส ได้ญาณสมาบัติ อีก  มีได้เสื่อมได้ เรื่องธรรมดา