ตัวเลือกที่สอง ถ้าผมเป็นชัค นอร์ริส พระเอกนักบู้ชื่อดังของฮอลลีวูดเมื่อยี่สิบทศวรรษก่อน ผมจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะ Google will not search for Chuck Norris ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ยังมีความอวดรู้สู่เดาของกูเกิ้ลอีกหลายอย่าง ที่ตลกอีกอันคือ Google will not serch ถ้าเป็นอยางนั้นจริงตายเลย

ไม่อาจรู้เลยว่า โปรแกรมเมอร์ของกูเกิ้ลเขียนอัลกอริทึ่มแบบไหนสำหรับระบบแสดงคีย์เวิร์ดอัตโนมัติ แม้กูเกิ้ลจะเป็นเครื่องมือสืบค้นที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในกาแลคซีทางช้างเผือก แต่ผู้ใช้คงได้เจอกับตัวเองจนชินแล้วว่า บ่อยครั้งกูเกิ้ล อวดรู้เกินไป ลำพองตนเกินไป
กระนั้น การอวดรู้ของกูเกิ้ลส่วนใหญ่เป็นเรื่องดี ทุกวันนี้ผมแทบจะไม่ได้เปิดพจนานุกรม และสารานุกรมเลย ในไม่ช้าเอกสารอ้างอิงที่ได้รับความนิยมมาเป็นทศวรรษจะกลายเป็นนิวาศสถานของปลวก (แต่อย่าคิดเชียวนะว่าปลวกมันจะฉลาดขึ้น)
ไม่เฉพาะแต่Google เครื่องมือค้นหาจากทุกค่าย ไม่ว่าจะเป็น bing ของไมโครซอฟท์ หรือ Yahoo! ของยาฮู และอื่นๆ กำลังเข้ามาแทนที่เอกสารอ้างอิงอย่างพจนานุกรรม สารานุกรม สมุดโทรศัพท์ ตำราอาหาร อนาคตอาจกินขอบเขตไปถึงตำราเรียน
เครื่องมือสืบค้นพวกนี้ไม่ได้เข้ามาแย่งหน้าที่ของพจนานุกรมที่เป็นกระดาษเท่านั้น มันกำลังทำลายช่องทางหากินของพจนานุกรมออนไลน์ด้วย เนื่องจากเว็บไซต์ดิจชั่นนารีออนไลน์ไม่อาจอยู่ได้โดยลำพังตัวเอง แต่อาศัยรังของเครื่องมือสืบค้นอย่าง Google, Bing และ Yahoo! เป็นช่องทางให้ผู้ใช้เข้าไปถึงเว็บไซต์ และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเว็บสืบค้นข้อมูลรับบทบาทดังกล่าวมาทำเสียเอง
นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของอวสาน
คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า กูเกิ้ลมีบริการอยู่มากมาย ครอบคลุมสำหรับองค์กรธุรกิจ และผู้ใช้ทั่วไป ระหว่างที่ผู้ใช้จิตอ่อนกำลังแห่กันไปสัมครเป็นสมาชิกทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ค ทิ้งให้มายสเปซ และไฮไฟว์หยากไย่เกาะรุงรังเป็นบ้านผีสิง กูเกิ้ลมีแผนเหนือเมฆหวังกินรวบเครือข่ายสังคมมาอยู่กับสังกัดตัวเองเป็นรายเดียว
บริการใหม่ล่าสุดที่กูเกิ้ลประกาศบนเวที Google I/O เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เริ่มเป็นตัวเป็นตนชัดเจนขึ้นแล้ว ถึงขนาดส่งตัวเบต้า (ตัวทดสอบ) ให้กับนักพัฒนาโปรแกรมที่ผ่านการคัดสรรแล้วจำนวน 6 แสนคน และ 1 แสนคนแรกยังได้รับสิทธิ์ชวนคนอื่นมาทดลองใช้ได้อีก 8 คน
บริการดังกล่าวชื่อว่า Google Wave เป็นเครื่องมือสื่อสารและประสานงานส่วนบุคคลที่ทำงานประมวลผลบนเว็บ เป็นรูปแบบการสื่อสารที่ออกแบบมาเพื่อยำ (ผมเกลียดคำว่าหลอมรวม) ยำเอาอีเมล โปรแกรมสนทนาด่วน วิกิ และเครือข่ายสังคมไว้ด้วยกัน
Google Wave ยังมีเครื่องมือสำหรับช่วยเหลืองานแบบเรียลไทม์ อย่างเช่น เครื่องมือแก้ไขคำผิด/ไวยากรณ์ เครื่องมือแปลภาษาอัตโนมัติ 40 ภาษา รวมถึงเครื่องมือเสริมช่วยงานอีกมากมาย (ผมเคยเขียนถึงกูเกิ้ล หอคอยแห่งบาเบลไปแล้ว ความสามารถด้านการแปลอังกฤษเป็นไทยของกูเกิ้ล อยู่ในขั้น นรกมาก)
เพื่อให้เห็นภาพของ Google Wave มากขึ้น ให้นึกถึงหน้าจอ Gmail แต่เปลี่ยนกล่องจดหมายเป็นหน้าต่างแชต คุณสามารถคุย ปรึกษา ทำงานร่วมกับเพื่อนหลายๆ คนได้พร้อมในเวลาเดียว การสื่อสารไม่จำกัดว่าจะต้องพิมพ์ข้อความ อาจเป็นภาพวิดีโอ หรือเสียง ภาพถ่าย และแผนที่
Google Wave มีระบบตรวจสอบคำผิด แสดงเป็นเส้นขีดใต้คำให้สังเกตง่าย และแก้ไขโดยคลิกเลือกคำที่ถูกจากแถบเลือกหลังคำผิด
โปรแกรมที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นเครื่องมือแปลภาษา จากวิดีโอสาธิตของ Google Wave คนฝรั่งเศสสามารถพิมพ์ภาษาฝรั่งเศสสนทนากับคนอังกฤษ โดยระบบจะเปลี่ยนประโยคฝรั่งเศสและอังกฤษให้คู่สนทนาโดยอัตโนมัติ เรื่องที่พูดคุยสนทนาแลกเปลี่ยนทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ใน History ผู้ใช้สามารถเรียกเครื่อง Playback ที่มีปุ่มเหมือนเครื่องเล่นวิดีโอแสดงข้อความที่คุยกันก่อนหน้านี้ เหมือนนั่งไทมแมชีนของ ของเอช.จี.เวลส์
Wave เป็นมากกว่าเว็บบล็อค และทวิตเตอร์ ในส่วนที่ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์บนหน้าจอ มันเหมือนลูกผสมแบบพันทางระหว่างทวิตเตอร์ เว็บบล็อค แต่ฟีโนไทป์ของมันอาจกระเดียดไปทางเอ็มเอสเอ็นมากกว่า และมันยังมีพันธุกรรมของ Gmail ติดมาไม่น้อย
เรื่องน่ารำคาญของพวกเว็บเมล์ หรือโปรแกรมรับส่งอีเมล์อย่าง Outlook ก็คือ เวลามีประเด็นต้องหารือกัน คุณส่งอีเมล์ไปถึงเพื่อนในกลุ่ม เพื่อนในกลุ่มตอบกลับมา คุณแสดงความเห็นกลับไปอีก พวกเขาก็แสดงความเห็นตอบกลับมา ต่างคนต่างสื่อสารกัน ผ่านไปพักหนึ่งคุณมีอีเมล์ในหัวข้อเดียวกันหลายฉบับ แต่ละฉบับก็จะอ้างถึงเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านั้น
โอเค ทางออกสวยหรูที่สุดคือ ลบเมล์เก่าทิ้งไป แต่พวกเราไม่ทำกัน ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบได้ พวกเราจะเก็บอีเมล์ฉบับก่อนๆ ไว้ จนกว่ามันจะเลยผ่านหน้าจอไปและไปกองอยู่ที่ไหนสักแห่ง Google Wave แก้ปัญหาโดยรวมเมล์ที่ตอบโต้กันไปมาเหลือเพียงฉบับเดียว ง่ายๆ เหมือนนั่งแชต
ถึงตอนนี้ Google Wave ยังเป็นเพียงตัวทดสอบและเล่นกันในวงแคบ เหมือนกับสมัยที่ Gmail เปิดให้บริการที่ผู้ได้รับเชิญต่อๆ กันไปเท่านั้นสามารถใช้ได้ คนที่ทดสอบใช้งานแล้วบางคนบอกว่ามันต้องใช้ Learning curve เยอะพอสมควร
ถ้า Google Wave ลูกผสมพันทางได้รับความสนใจและมัดใจผู้ใช้ได้เหมือนกับจะค้นหาอะไรก็ต้องไปที่เว็บกูเกิ้ล เมื่อนั้น Google will take over the world คงเป็นจริง
ไม่เชื่ออีก ถามวง Tears for Fears ดูสิ
ข้อมูลจาก : กรุงเทพธุรกิจ