ต้องบอกก่อนว่า บทความนี้ผมไม่สามารถยืนยันได้ว่า เท็จจริง ประการใด เพราะเป็นการทดสอบที่ผมเคยเทสนานมาก เกือบปี สมัยยังทำเว็บไซต์ เพลง ก่อนจะโดนเขี่ยออกมาจากอาร์เอส

สำหรับบทดความนี้จะสโคปไปที่เว็บ ภาษาไทยแล้วกันนะครับ เกี่ยวกับการหาทราฟฟิค
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปีกว่า เคยมีคนถามในบอร์ดนี้ว่าไว้ว่า ทราฟฟิคนั้น จำเป็นไหมว่าต้องหน้าแรกติดคีย์เวิรด์
ถ้าคุณทำเว็บที่เป็นคอมมิวนิตี้ หรือเนื้อหา ผมมองว่า ไม่จำเป็นเสมอไป แต่อยู่ที่ว่าคุณ ชิง คีย์เวิรด์อื่นๆในหน้าย่อยมาได้อย่างไร (แต่คนถามก็ไม่มาเฉลยอ่ะนะ 55)
ในตอนนั้น ผมทำคีย์คำว่า เพลง ขึ้นไป หน้า 1 สลับกับ 2 เน้น แบคลิงค์เป็นหลัก แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว ทราฟฟิค ไม่ได้อยู่ที่คำว่า "เพลง" ซะเป็นหลัก เพราะคำนี้ ถ้าเว็บติดอันดับสิบ ก็มาแค่ประมาณ 1000-2000 เท่านั้นเอง อีกอย่าง การแข่งกันด้วยคีย์หลัก ค่อนข้างจะต้องอาศัยทำแบคลิงค์ เยอะเหมือนกัน
ฉะนั้นทราฟฟิคอื่นๆ ที่ไม่ได้มาจากหน้าหลักนั้น ถือว่าสำคัญทีเดียว อีกอย่างขึ้นอันดับต้นๆได้ง่าย และทำง่ายกว่า ไม่ต้องลงแรงเยอะ

ต้องย้อนความก่อนว่า เว็บเพลง ณ ตอนนั้น ไม่ใช่เว็บ ปัจจุบันนี้ เพราะเว็บปัจจุบันนี้เป็น คอนเทนต์ของเว็บ youdumv เดิม ที่เอามาใส่ในโดเมน เพลง
ส่วนเว็บเพลง ในสมัยนั้น เรามีคอนเซปต์อยู่ว่า เป็นเว็บที่ให้ศิลปินอัพโหลดเพลง แล้วมาโหวต แล้วดันเพื่อเป็นศิลปิน สำหรับคนที่มีแวว
ฉะนั้น เมื่อมีการอัพโหลด และเว็บออกไปในแนวทางของ music social network ฉะนั้นมันจึงมีหน้า profile และคอนเทนต์ที่เป็นเพลง เหมือนกับ youtube
ฉะนั้น จะทำให้เราได้มาซึ่งปริมาณของหน้าย่อย ที่แตกออกมา และเมื่อศิลปินเพิ่มขึ้น จำนวนหน้าก็เพิ่มมากขึ้น
ทีนี้ เราก็มาดูว่าเราจะเล่นคีย์เวิรด์อะไร
keywordเนื่องจากว่าเป็นเว็บ เพลง แน่นอน คีย์หลักผมจึงเลือก "เพลง" เป็นหลัก หรืออาจจะมีคีย์หลัก คีย์ที่สอง ก็คือ "ฟังเพลง" และ คีย์ย่อย ก็คือ "ชื่อเพลง" (หรือจะมองว่าคีย์หลักคือ ชื่อเพลงก็แล้วแต่ เพราะถือว่ามีชื่อเดียว และค่อนข้าง นิช)
ถ้าผมเลือกคีย์หลักคือ เพลง เช่น "เพลง" และชื่อเพลงคือ "ยังไงฉันก็เป็นของเธอ" ผมก็จะได้ title ว่า "เพลง ยังไงฉันก็เป็นของเธอ"
แต่ ผมมองแล้วว่า คำว่า "ฟังเพลง" นั้นจะครอบคลุมคำว่า "เพลง" ไปด้วยอยู่แล้วในตัว ฉะนั้น ผมจึงเลือกที่จะใช้คำว่า "ฟังเพลง ยังไงฉันก็เป็นของเธอ"
ก็จะได้คีย์ในการเสิรจ์ทั้งคำว่า "เพลง ยังไงฉันก็เป็นของเธอ" และ "ฟังเพลง ยังไงฉันก็เป็นของเธอ"
วิเคราะห์พฤติกรรมคนเสิรจ์เครื่องมือที่จะขาดไม่ได้ก็คือ google analytics เนื่องจากว่า เราสามารถเช็คได้ว่า คนเขาเข้ามาด้วยคีย์เวิรด์อะไรบ้าง
ผมจึงค้นพบว่า สำหรับเว็บไทยนั้น มันมีจุดที่คนจะค้นหาก็คือ เรื่องของการเว้นช่องว่าง
บางคนอาจจะค้นหามาว่า
2 key - "เพลง ยังไงฉันก็เป็นของเธอ" และ
1 key - "เพลงยังไงฉันก็เป็นของเธอ"
สองคำที่ใช้ค้นหานี้ มีข้อแตกต่างกันระหว่าง การพิมพ์ติด และพิมพ์วรรค
จากที่ผมลองนำคีย์ ที่ user ค้นหานั้นไปเสิรจ์ใน google เพื่อดูว่า หน้าไหนที่ติดอันดับ ทำให้ผมทราบว่า
ถ้าผมตั้ง title ว่า
"เพลง ดาวน์โหลด ยังไงฉันก็เป็นของเธอ"
และ
"เพลง ยังไงฉันก็เป็นของเธอ ดาวน์โหลด"
กรณีที่ค้นหาด้วยคีย์สองตัว เรื่องของ keyword ใน title นั้นสามารถสลับลำดับ กันได้
แต่ ถ้าคนค้นหาแบบไม่มีช่องว่าง จะทำให้มองว่า คำที่ใช้ค้นหาคือ คีย์เวิรด์เดียว ก็คือ
"เพลงยังไงฉันก็เป็นของเธอ" สำหรับกรณี title ชื่อ "เพลง ดาวน์โหลด ยังไงฉันก็เป็นของเธอ" title นี้จะถูกคั่นด้วย คำว่า "ดาวน์โหลด" ฉะนั้น เมื่อ user เสิรจ์ด้วยคีย์เดียวกันมา ทำให้ค้นหาไม่เจอ

แต่ สำหรับ title ว่า "เพลง ยังไงฉันก็เป็นของเธอ ดาวน์โหลด" มันสามารถมองได้ว่า title คือ "เพลงยังไงฉันก็เป็นของเธอ ดาวน์โหลด" ซึ่งช่องว่างระหว่างคำใน title นั้นถือว่าไม่มีผล
ฉะนั้น บางทีคุณอยากจะเก็บคีย์หลายๆตัวเช่น เพลง ฟังเพลง ดาวน์โหลดเพลง (ได้คีย์ โหลดเพลง ไปด้วย") บางทีคุณอาจจะต้องคำนึงว่า จะเอาคีย์ตัวไหน ติดกับคีย์ตัวไหน เพื่อรองรับการเสิรจ์ของ user ที่อาจจะพิมพ์วรรคมา หรือพิมพ์ติดมาก็ได้
ซึ่งแน่นอน ชื่อ title ใส่ไม่พอแน่ๆ แต่ description คุณสามารถใส่เพิ่ม และเล่นสลับให้ต่างจาก title ได้ (แต่ก็แปลกนะที่บอกว่า google ไม่เอา description มาคำนึง)
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของคีย์ "ไทย" และ "อังกฤษ" อีกด้วย
เช่นคำ่ว่า ดาวน์โหลด และ download
ฉะนั้น คุณไม่รู้หรอกว่า user อาจจะค้นหามาด้วยคำว่า "ดาวน์โหลด เพลง ยังไงฉันก็เป็นของเธอ" "ดาวน์โหลดเพลงยังไงฉันก็เป็นของเธอ" "donloadเพลงยังไงฉันก็เป้นของเธอ" แต่เนื่องจากผมเอาคีย์ติดใส่ไว้ใน title กับ description จนเต็มแล้ว ฉะนั้น ผมก็เลยเลือกที่จะใส่คีย์คำว่า download ลงไปในเนื้อหาของหน้านั้น แทนซะมากกว่า เพื่อคำนึงเรื่อง การพิมพืติดกันของคีย์เวิรด์สองตัว แต่อาจจะคนละภาษา
-------------------------
ก็ถือว่าเป็นการแบ่งปันประสปการณ์ในการทำ seo แล้วกันครับ บางทีทำแล้วก็ลองวิเคราะห์ดู จดบันทึกดู อาจจะทำให้เราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น มากกว่า นั่งปั่นลิงค์อย่างเดียว
แต่ปัจจุบัน google เปลี่ยนอัลกอไปเป็นแบบไหนแล้ว ผมก็ไม่อาจทราบได้ คงต้องไปลองทำกันดูอ่ะนะ
นอกจากนี้ยังมีเคสที่ผมลองแอบคิดๆ เรื่องคอมม่า กับ การตัดคำ title ของ google ที่ยาวเกินไปด้วยว่ามีผลหรือเปล่า (เคยนั่งเก็บเป็นพันคำ แล้วลองเอามาเข้าโปรแกรมเช็คความยาว title ของมันอยู่ ว่ามันตัดกี่คำ แล้วไอ้คำที่โดนตัดมันจะเสิรจ์เจอไหม แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบเป็นจริงเป็นจังสักเท่าไร )
ป.ล. ผมไม่ใช่นัก seo นะ ผมนัก flash

ป.ล. 2 นี่เป็น tutorial บทความแรก หลังจากสิงมาหลายปี 55 (เพราะมันไม่เหมือนโปรแกรมมิ่งที่แค่เขียนโค้ดก็ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ แต่นี่ลองจากประสปการณ์จริงเลยกล้าเล่า)
ป.ล. 3 บทความนี้ฟรี ไม่มีต่อยอดขายของภายหลัง ฉะนั้นไม่ต้องกลัวที่จะอ่านซ้ำหลายๆรอบหรือส่งต่อให้เพื่อน

อันนี้เป็นผลการบันทึก จากการค้นหาเสิรจ์แล้วดูว่า ผลลัพธ์จากการเสิรจ์แสดงว่าอย่างไร
search test 
อาจจะงงๆ หน่อยนะ เพราะผมดูเองก็งง 55
-------------------------------------------------------------------------------------------
แชร์เคสอื่นๆ สำหรับ goldfishthai.com อันนี้ลงด้วย wordpress
อันนี้จดมาล่าสุด ไม่ได้ทำอะไร ทิ้งไว้งั้นแหละ กับ ทำแต่ลิงค์ที่นี่ทิ้งไว้เฉย กับลง wordpress ไว้ title ก็ยังไม่ได้ตั้ง แต่เสิรจ์ด้วยคำว่า goldfish thai ก็เจออยู่หน้าสองเพราะตรงคีย์โดเมน
แต่พอตั้ง title ปุ๊ป ยาวๆ ใช้คอมม่า ปรากฏว่า ผมค้นหาด้วยชื่อ goldfish thai ไม่เจอ (หรือมัน dance ไม่รู้) เลยลอง goldfishthai.com ก็ไม่เจอ
แต่ลองเช็ค site: ดูปรากฏว่า มันเอา title เรายาวๆนั่นแหละเก็บไว้เป็นคำเดียวเลย ต้องเสิรจ์เต็มๆยาวๆถึงจะเจอ ก็แปลกๆเหมือนกัน เลยเลี่ยงไม่ใ่ช้คอมม่า แต่เป็นช่องว่างแทน
แ้ล้วก็ลง seo one pack plugin ไปช่วย ก็ ดูเหมือนจะหายเป็นปกติดี
ป.ล. ฝากเพลง เพราะๆ ในอดีต เพลง วอลลุ่มวันไป หนึ่งเพลง
ยังไงฉันก็เป็นของเธอ 