หลักการพิจารณาสินเชื่อทั่วไป ก็คือความสามารถในการจ่ายคืน เรื่องรถอย่างว่า ง่ายมากมายเดี๋ยวนี้...
แสดงหลักฐานที่มาของรายได้ ก็จบ statement อันนี้ต้องมีอยู่แล้ว ยิ่งนานและคงที่ยิ่งดี เช่น 50,000+- นิดหน่อยทุกเดือน
ส่วนบ้านนั้น แบงค์นิยมดูจาก อัตราก้าวหน้าในการฝากเงิน ถ้าเงินในการดาวน์ มาจากการเก็บสะสมคือ
วิธีทำ statement แบบนี้ก็หาก้อนแรกมาใส่ให้มากกว่าเงินดาวน์ ซัก 5% ของเงินดาวน์ แล้วฝากต่อซัก 6 เดือนให้ดูว่ามันเพิ่มเดือนละ xx,xxx แบบคงที่หรือเข้าออกแต่ให้เพิ่มขึ้นแบบคงที่ แสดงที่มาของรายได้ อันนี้ถึงไม่มีเอกสารมายัน ก็สามารถ แสดงได้เช่น ผมมีร้านขายเสื้อที่สยาม เช่าช่วงเค้าอีกทีไม่มีสัญญาอะไร เงินที่ได้ก็เป็นเงินสด แต่แสดงที่มาได้ มาดูที่ร้านได้ ถ้า statement เราเป็นอย่างที่ว่า เค้าก็จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอีกครั้ง
แล้วก็ดูว่า มียอดเงินเหลือ หลังจากดาวน์ไปแล้ว อะไรประมาณนี้....
อันนี้ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ แต่อย่าพยายามหลอกตัวเอง ครั้งนึงผมเคยเป็นมาแล้ว ดาวน์เท่านี้ หาได้ ผ่อนแบบ 70% ของรายได้ คิดว่าประหยัดเอาก็ได้ สุดท้ายไม่เหลืออะไร เงินก็หมด ของก็โดนยึด ประวัติก็เสีย... ยังไงฝากทุกคนที่จะซื้อของใหญ่ ๆ ก็คิดเยอะ ๆ กันหน่อยนะครับ
รถผ่อนกัน 3-6 ปี นานเหมือนกัน บ้านยิ่งแล้ว ส่วนใหญ่ผ่อน 10 ปีอัพ อีกวิธีนึงก็อาจเลิกผ่อนยาว ๆ เพื่อให้ค่าใช่จ่ายต่อเดือน น้อยไว้ก่อน อาจเสียดอกมากหน่อยไม่เป็นไร เพลย์เซฟไว้ก่อน ในขณะที่เราก็หาเงินมากขึ้น แล้วแบ่งส่วนเก็บมาขึ้น พอครบก็เอาไปโปะ ได้ลดดอกครึ่งนึ่ง บวก ลบ คูณหารแล้ว ถูกกว่าแบบส่งเร็ว ๆ จ่ายแพงหน่อย อดเอา เป็นทุกข์ จะเที่ยวไหนก็ไม่ได้ พอเป็นทุกข์ทำให้ทำงานได้น้อย ยิ่งหาเงินได้น้อยลง....
ประสบการณ์การส่วนตัวจร้า แบ่งปันกัน...
