ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comความรู้ทั่วไปInternet Marketingคอนเทนท์-สื่อออนไลน์ทางเลือกยุควิกฤติ
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: คอนเทนท์-สื่อออนไลน์ทางเลือกยุควิกฤติ  (อ่าน 816 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kitdee
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 305
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,162



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2009, 08:07:25 »


 
โดยเฉพาะงบการตลาดที่สามารถตัดได้ง่ายกว่างบอื่นๆ กำลังซื้อกำลังการบริโภคของประชาชนก็ลดลงไปด้วย แต่มีอยู่ธุรกิจหนึ่งที่ยังถือว่าได้รับผลกระทบน้อย นั่นคือ ธุรกิจออนไลน์ ทั้งธุรกิจคอนเทนท์ และสื่อโฆษณาออนไลน์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นทางเลือก

ส่วนของตลาดคอนเทนท์ ปัจจุบันได้กลายเป็นส่วน "เล็กๆ" ในชีวิตประจำวัน ถ้าเป็นคอนเทนท์ทางโทรศัพท์มือถือ การรับข่าวสาร การใช้เสียงเพลงรอสาย หรือการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้กลายเป็นเรื่องปกติ ขณะที่คอนเทนท์อินเทอร์เน็ต อาจจะเติบโตช้ากว่า แต่ในกลุ่มคอนเทนท์ความบันเทิง ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ความบันเทิงไร้ผลกระทบ
นายอาทิตย์ เลิศรักษ์มงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานออนไลน์บิสเนสเว็บไซต์ชีซ่าดอทคอม บมจ. อาร์เอส กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจไม่ดี มีผลกระทบกับตลาดดิจิทัลคอนเทนท์น้อยมาก โดยเฉพาะด้านความบันเทิง เพราะคนยังต้องการสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด ยิ่งในกลุ่มความบันเทิงที่เกี่ยวกับวัยรุ่น เช่น เกม เพลง ยอดการดาวน์โหลด การใช้งานยังคงเป็นปกติ

ยิ่งในปัจจุบันการเข้าใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตทำได้ง่ายขึ้น มีรูปแบบคอนเทนท์ใหม่ๆ มากขึ้น ประกอบกับลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นจะคุ้นเคยกับการใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ กล่าวคือ การเสียเงินซื้อสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เช่น จ่ายค่าโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต เกมออนไลน์ เพลง ดังนั้น ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์ ถ้าเจาะตลาดได้ถูกจุดก็ยังสามารถเติบโตขึ้นได้

"ชีซ่าเล็งเห็นโอกาสแล้ว ว่า จะเป็นแค่เว็บพอร์ทัล รวบรวมคอนเทนท์ไม่ได้ แต่ต้องสร้างการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ จึงเกิดเป็น เวอร์ช่วล ดิจิทัล ไลฟ์ ให้บริการผ่านโลกเสมือนออนไลน์ แต่ทั้งหมดก็อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน คือ เป็นเรื่องของการสร้างสังคม การแสดงออกในตัวตนของผู้ใช้" นายอาทิตย์กล่าว

จากรูปแบบการบริโภคคอนเทนท์ดังกล่าว ทำให้รายได้ของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้แต่แรกแล้ว คือ เดิมรายได้จะมาจากโฆษณาเป็นหลัก แต่พอสร้างสังคมออนไลน์ได้ ก็สามารถขายคอนเทนท์ได้มากขึ้น และเชื่อมโยงไปยังโมเดลธุรกิจใหม่ๆ สัดส่วนรายได้จากโฆษณาก็ลดลง

ดังนั้น แม้ปัจจุบันแม้พันธมิตรจะตัดงบโฆษณาลง แต่ชีซ่าก็ยังอยู่ได้ด้วยคอนเทนท์ต่างๆ ที่มีอยู่

สื่อโฆษณาออนไลน์ โตต่อเนื่อง
นายศิวัตร เชาวรียวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มอินเตอร์แอ็คชั่น จำกัด กล่าวว่า ส่วนของตลาดสื่อโฆษณาออนไลน์ ปีนี้คาดว่ามีมูลค่าประมาณ 2.3 พันล้านบาท คิดเป็น 2% ของตลาดโฆษณารวม และยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีกมาก ดูได้จากตลาดต่างประเทศที่มีสัดส่วนระหว่าง 10-15% เพราะคนใช้อินเทอร์เน็ตมีมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งคนใช้เน็ตมีมาก มูลค่าสื่อโฆษณาก็เติบโตตามไปด้วย

ไตรมาสแรกปีนี้ การใช้จ่ายในสื่อโฆษณาออนไลน์เติบโตมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับสื่ออื่นโดยรวมที่ลดลง เพราะบริษัทต่างๆ มีการปรับงบโฆษณา และหันมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น ซึ่งมีประสิทธิภาพและใช้งบประมาณน้อยกว่า

ดังนั้น แม้ว่าปีนี้ช่วงไตรมาส 3 อาจชะลอตัวไปบ้างตามช่วงเวลา และการมีปัจจัยลบที่กระทบกับความเชื่อมั่นหลายส่วน แต่จากปัจจัยบวก คือ จำนวนผู้เล่นและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ยังเชื่อว่า สื่อโฆษณาออนไลน์จะโตมากขึ้นแน่นอน

"การเมือง" ปัจจัยสำคัญ
นายกษมาช นีรปัทมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท็อปสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารสื่อและการตลาดออนไลน์ ในเครือสนุกดอทคอม กล่าวว่า ตลาดรวมสื่อออนไลน์ปีที่ผ่านมาโต 30% และปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสื่อทางเลือก ใช้งบประมาณไม่สูง ให้ประสิทธิภาพที่ดี แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องความไม่ปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการเมือง ที่อาจเป็นเหตุให้การเติบโตหยุดชะงักได้

"ด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ บริษัทต่างประเทศมีการตัดงบการตลาดออกส่งกลับบริษัทแม่ ดังนั้น สื่อต่างๆ จะได้รับผลกระทบโดยตรง สื่อออนไลน์ยังเป็นทางเลือกที่ดี ได้รับผลกระทบน้อย แต่ถ้ามีเรื่องการเมืองเข้ามากระทบความเชื่อมั่นอีก จะมีผลต่อการเติบโตในภาพรวมแน่นอน" นายกษมาชกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้บริโภคเอง ก็เป็นปัจจัยบวกที่ช่วยการเติบโตได้เช่นกัน เพราะด้วยอินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ราคาค่าบริการอินเทอร์เน็ตต่ำลง จำนวนคนใช้เติบโตขึ้น การใช้งานดิจิทัลคอนเทนท์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ตลาดสื่อออนไลน์จึงเติบโต ผลประกอบการของผู้ให้บริการก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย มั่นใจว่าถ้าไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นจะมีการเติบโต 25-35%

ส่วนการปรับตัวเพื่อรับเหตุการณ์ต่างๆ บริษัทมีการใช้โปรโมชั่นเพื่อรักษาลูกค้า ที่ทำสัญญาวงเงินสูง หรือทำสัญญาระยะยาว เช่น ถ้าทำสัญญา 3 เดือน แถม 3 เดือน ทำสัญญา 6 เดือน แถม 6 เดือน เพื่อสร้างยอดในระยะยาวให้กับบริษัท แต่จะไม่มีการปรับลดคนอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลยังขาดแคลนอีกมาก

ข้อมูลจาก : bangkokbiznew.com
 
บันทึกการเข้า

"ชีวิตนี้สั้นนัก, อย่ายึดติดกับกฎเกณฑ์, อภัยให้ไว, รักอย่างแท้จริง, หัวเราะให้เต็มที่ และยิ้มอยู่เสมอ "
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์