ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: พลังอภิจิต พลังสื่อความในใจ  (อ่าน 5633 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kitdee
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 305
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,162



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2008, 12:28:48 »


            หนังสือ เรื่อง ปรัชญาชีวิต ศาสตร์แห่งความสำเร็จ (The Law of succeed) เป็นหนังสือเล่มแรกๆที่ผมอ่านมานานมาก ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น 


                ตอนนั้นอ่านเพราะว่า อ่านปกหน้า ปกหลังแล้ว รู้สึกอยากรู้จักว่า  คนที่เป็นที่ปรึกษาของ ประธานาธิบดี ของอเมริกา ถึง 4 คน เขามีแนวคิดอย่างไร ?  เมื่อเริ่มเปิดอ่านบทแรก คุณ นโปเลียนฮิลล์ ก็พูดถึงเรื่อง อภิจิต เป็นเรื่องแรก เพราะเขามีความเชื่อว่า สิ่งนี้เป็นกฎที่สำคัญที่สุดของผู้ที่ประสบความสำเร็จ
 

                พลังอภิจิต คือ อะไร  ทำไมจึงสำคัญนั้น  หากพยายามหาความหมายแล้ว ดูจะอธิบายยากมาก ว่ามัน คืออะไร แต่ถ้ายกตัวอย่าง เราจะเข้าใจทันที เช่น

เคยไหม ที่เราเดินๆอยู่ แล้วเรารู้สึกว่ามีคนเดินตามเรา และเมื่อเราหันไป ก็พบว่ามีคนตามเราจริงๆ
เคยไหม ที่เรารู้สึกว่า มีคนแอบมอง และเมื่อเราลองมองหาดู เราก็พบคนแอบมองจริงๆ แม้เขาจะอยู่ในที่ลับตาคน
 

คุณ นโปเลียน ฮิลล์ เรียกความรู้สึกที่ส่งมานี้ว่า พลังอภิจิต  ซึ่งพลังนี้มีความสำคัญต่อบุคคลที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่า หากจิตใจของผู้นำ มีความเข็มแข็ง แม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่พลังอภิจิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้สึกเข็มแข็งให้กับทีมงานได้   หากผู้นำกลัว ก็จะถ่ายทอดความรู้สึกกลัวไปยังทีมงานได้

 

คุณนโปเลียน ฮิลล์ ให้ข้อสังเกตว่า  พลังอภิจิต นี้ เกิดขึ้นจาก ภายในจิตใจของเรา เมื่อจิตใจรู้สึกอย่างไร ก็จะส่งคลื่น อินฟาเรด ที่ระดับความถี่ที่ต่างกัน ตามแต่ความรู้สึก ทำให้ระดับพลังงานของคลื่นที่แผ่ออกมาก ต่างกัน ดังนั้นเราจึงสามารถแยกแยะความรู้สึกที่รับรู้ได้ว่าต่างกัน

 สรุปก็คือ คนเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ จึงต้องหัดควบคุม ฝึกฝนจิตใจ ให้เข็มแข็งจริงๆ  ไม่ใช่เข็มแข็งแต่ปาก ซึ่ง คุณนโปเลียน ฮิลล์ ต้องการสื่อว่า  ภาพแสดงภายนอกที่เราแสดงอยู่นั้น  ไม่สามารถหลอก ผู้คนได้หรอก นอกเสียจากเราคิดอย่างนั้นจริง คนจึงจะเชื่อ  …. และนั่นเป็นที่มาของ ประโยคที่ว่า  หากคุณคิดว่า คุณทำได้ คุณจะทำได้ และทีมงานจะเชื่อว่าทำได้

 

เรามาลองอ่านประวัติย่อๆของคุณนโปเลียน ฮิลล์ สักหน่อยนะครับ ซึ่งคุณ พันโท ภูมิสิษฐ์ ชินบุตรวงศ์/อานันท์ ชินบุตร จะเป็นผู้เล่าให้ฟัง

 

นโปเลียน ฮิลล์ เป็นคนแรกที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับความสำเร็จที่แผ่พลังงานออกมาจากความคิด สมัยที่เขาเป็นหนุ่มยังยากจนเขาไปสัมภาษณ์อภิมหาเศรษฐีคนแรกของโลกเพื่อจะนำมาเขียนบทความ อภิมหาเศรษฐีผู้นั้นคือ แอนดรู คาร์เนกี ซึ่งอพยพมาจาก สก็อตแลนด์กับพ่อแม่ตอนที่มีอายุเพียงสิบสองปี และกลายเป็นผู้สร้างอาณาจักรเหล็กกล้าในอเมริกา หลังจากสัมภาษณ์พูดคุยกันหมดไปหนึ่งวัน แอนดรู เชื้อเชิญให้ นโปเลียนอยู่ต่ออีกสักสองสามวันเพื่อพูดคุยปรัชญาความสำเร็จให้เอร็ดอร่อย ตอนท้ายของการพูดคุย เขาถาม นโปเลียน ฮิลล์ ว่า “ถ้าผมจะให้งานคุณอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องกินเวลายี่สิบปี โดยที่ผมจะไม่จ่ายเงินให้คุณเลยสักเหรียญเดียว และงานนี้จะสร้างผลดีให้กับคนทั่วโลกอย่างมหาศาล คุณจะรับทำไหม”

นโปเลียน เล่าให้ฟังภายหลังจากนั้นอีกหลายสิบปีต่อมาว่า ตอนนั้นเขาล้วงลงไปในกระเป๋าไม่มีเงินเหลือนอกจากค่ารถกลับบ้าน อะไรกันเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกให้งานทำแต่ไม่จ่ายเงินสักแดงเดียว เขาเล่าให้ฟังต่อไปว่า จากที่รู้มาว่า แอนดรู คาร์เนกี เป็นผู้ที่รู้จักใช้คน ฮะฮ้า ถ้าอย่างนั้นก็จะต้องมีดีอะไรอยู่ในตัวเรานะซิ เขาจึงได้เลือกให้เราทำงาน นโปเลียน จึงรับปากอย่างแข็งขันไปทันที เขาบอกว่า มหาเศรษฐีของโลกแสดงความยินดีกับเขา แล้วพูดว่า “นี่เธอรู้ไหม เธอใช้เวลาตัดสินใจยี่สิบเก้าวินาที หากเธอตัดสินใจเกินหกสิบวินาที ฉันจะไม่ให้งานนี้แก่เธออย่างเด็ดขาด คนที่จะประสบความสำเร็จ เป็นคนที่ตัดสินใจรวดเร็วและเด็ดขาด”

จากปรัชญาที่สะสมอยู่ในตัวของผู้ประสบความสำเร็จซึ่งเป็นเศรษฐีทั้งหลายในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นจาก เฮ็นรี่ ฟอร์ด ผู้ผลิตโรงงานประกอบรถยนต์เป็นสายการผลิตคนแรก หรือ โธมัส อัลวา เอดิสัน นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก และคนอื่นๆ ซึ่งมีหลักการสู่ความสำเร็จอยู่ในใจแต่ไม่ได้นำมาเขียนไว้ ก็ได้ถูกวิเคราะห์รวบรวมมาเป็นปรัชญาแห่งความสำเร็จในหนังสือสิบกว่าเล่มเป็นครั้งแรกของโลก เปิดเผยวิธีการแน่นอนที่จะนำมนุษย์ไปสู่ความสำเร็จตามความมุ่งมั่น และหนังสือที่โด่งดังที่สุดและได้สร้างมหาเศรษฐีในยุคต่อๆมาอีกหลายร้อยหลายพันคน คือ Think and Grow Rich หรือ คิดแล้วรวย

ความคิดมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมภายนอกรอบตัวเรา และความเชื่อคือความคิดที่ทรงพลังมากที่สุดซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะได้หรือไม่ได้อะไร เศรษฐกิจของเราทั้งส่วนบุคคลหรือประเทศชาติจะโตหรือไม่โตก็มาจากความเชื่อ ในยุคเศรษฐกิจถดถอยในอเมริกา ดับเบิล ยู เคลเมนต์ สโตน ลูกศิษย์อันดับต้นๆที่เชื่อถือปรัชญาที่ นโปเลียน ฮิลล์ รวบรวม ใช้พลังความเชื่อขับดันทีมขายประกันของเขาจนทำให้เศรษฐกิจของบริษัทสวนทางกับเศรษฐกิจของโลก เขากลายเป็นเจ้าพ่อประกันผู้ยิ่งใหญ่ สั่งสอนวิชาประยุกต์ของ นโปเลียน ฮิลล์ ให้แก่ผู้คนในแบบของ Positive Mental Attitude หรือทัศนคติเชิงจิตทางบวก ซึ่งก็หนีไม่พ้นเรื่องการสร้างความเชื่ออันแข็งแกร่งในทางบวกว่าอนาคตจะต้องดีอย่างแน่นอน

 
บทความ คุณ ก้องเกียรติ
บันทึกการเข้า

"ชีวิตนี้สั้นนัก, อย่ายึดติดกับกฎเกณฑ์, อภัยให้ไว, รักอย่างแท้จริง, หัวเราะให้เต็มที่ และยิ้มอยู่เสมอ "
kisssssda
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 65



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2008, 13:43:17 »

 Smiley น่าสนใจนะครับ ชอบ
บันทึกการเข้า

รักนะเด็กโง่
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์