เอาเทคนิคการปรับแต่ง WordPress เว็บไซต์มาแชร์ครับความเร็วของเว็บไซต์มีผลต่อการใช้งานของผู้ใช้ Google เองยังให้ความสำคัญในการจัดอันดับ Page Rank โดยให้ความเร็วของการโหลดหน้าเพจเป็นองประกอบ เว็บไซต์ที่โหลดหน้าเพจได้ไว้ สามารถที่จะเรียกผู้ใช้ได้มากกว่าเว็บไซต์ที่ไหลดช้า เพราะฉนั้นนอกจากหน้าเนื้อหาของเว็บที่จะต้องดี หน้าตาเว็บสวยงาม โครงสร้างเว็บเชื่อมโยงกันและใช้งานง่ายแล้ว การปรับแต่งเว็บให้ผู้ใช้โหลดได้เร็วก็มีส่วนที่สำคัญมาก
ถ้าเว็บของคุณยังไม่เคยทดสอบความเร็วเลย ลองทดสอบด้วย Google PageSpeed Insights ด้านล่าง
https://developers.google.com/speed/pagespeed/insights/ 
หลังจาการทดสอบความเร็วเว็บไซต์ด้วย PageSpeed Insights คุณจะได้เห็นความเร็วเว็บไซต์ของคุณที่เข้าถึงด้วย Mobile และ Desktop พร้อมทั้งคำแนะนำในการปรับแต่งค่าต่างๆ
Google ให้ความสำคัญกับความเร็วในการจัดอันดับ Page Rank ไม่ต่างจาก Microsoft Bing:
“A 2-second longer delay in page responsiveness reduced user satisfaction by 3.8%, increased lost revenue per user by 4.3%, and a reduced clicks by 4.3%.”
“เว็บไซต์ช้าขึ้น 2 วินาที จะเสียลูกค้าไป 3.8% จะสูญเสียรายได้(ต่อลูกค้าหนึ่งคนไป) 4.3% และเปอร์เซ็นการคลิกจะลดลง 4.3%”
วันแรก: เลือกเว็บโฮสติ้งที่ดีเว็บไซต์ที่ดี (ทำงานได้ไวและไม่ล่ม)ต้องทำงานอยู่เป็นโฮสติ้งที่ดี การเลือกเว็บโฮสติ้งที่ดีนั้นเป็นมีความสำคัญและเป็นข้อควรพิจารณาในอันดับต้นๆ เว็บโฮสติ้งที่ดีควรจะให้ความมั่นใจกับผู้ใช้บริการได้ว่าเว็บไซต์จะทำงานได้ไว (Load Time/Speed) และสามารถให้บริการเกือบตลอดเวลา ( Uptime > 99.97 ) ที่ผมบอกว่าเกือบจะตลอดเวลาเพราะในโลกความเป็นจริงนั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้เว็บไซต์ออนไลน์ได้ตลอดเวลาตลอดปีและตลอดไป ดังนั้นสิ่งที่เราต้องพิจารณาคือ ผู้บริการเว็บโฮสติ้งที่มีประสบการณ์ในการให้บริการ มีผู้เชียวชาญมีบริการที่ดีเพื่อช่วยเหลือยามมีปัญหา มีระบบจัดการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเน็ทเวิร์คที่ดีที่จะช่วยในเรื่อง Load Time และ Uptime
วันที่สอง: เลือก WordPress Theme ที่ดีและติดตั้งเฉพาะ Plugins ที่จำเป็นการเลือก WordPress ธีมนั้นถ้าเป็นธีมที่มีกล่าวอ้างว่า “Lightweight and Speedy” ธีมพวกนี้จะมักจะมีคุณสมบัติที่ทำงานได้เร็ว อย่างเช่น WordPress Theme Twenty Fifteen ด้วยความที่เป็นธีมที่ไม่มีอะไรมากทำให้เบา เวลาโหลดก็จะโหลดได้เร็ว ผมไม่ได้แนะนำว่าคุณต้องเลือกธีมที่เบาๆทำงานไวๆนะครับ การเลือกธีมอันดับแรกที่ผมคำนึงถึงก็คือตอบโจทย์การใช้งาน และความสวยงาม แต่ถ้าเลือกได้ในบรรดาหลายๆธีมที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณนั้น ธีมที่ทำให้ WordPress โหลดได้เร็วก็ควรเป็นอีกข้อที่ใช้ในการพิจารณา
นอกจากนั้น Plugins ยังมีส่วนในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ WordPress สำหรับผม Plugins ฟรีๆ ฟังชันก์การใช้งานคล้ายๆกันมีให้เลือกและทดลองใช้มากมาย ผมจะทดลองและเลือกใช้เท่าที่จำเป็นและลบส่วนที่ไม่ใช้ทิ้ง นอกจากมันจะช่วยให้เว็บของผมทำงานได้เร็วและยังเพิ่มความปลอดภัยในการลบ Code จาก Plugins ที่ไม่จำเป็นอีกด้วย
วันสาม: โหลดเร็วกว่าด้วย Catchingการทำงานหลังบ้านของ WordPress คือใช้ PHP ติดต่อกับฐานข้อมูล MySQL สำหรับการโหลด Page หรือ Post นั้น WordPress นั้นจะเป็นการดึงข้อมูลใน Tables แปลงเป็น HTML ส่งกลับไปให้ผู้ใช้ การทำ Caching จะจัดการเก็บข้อมูลที่เรียกไว้ในรูปของ Static files (ไฟล์ที่เข้าถึงง่ายและเร็ว) ซึ่งจะทำให้การโหลดหน้าเพจทำงานได้ไวกว่า สำหรับ WordPress Caching Plugins ที่แนะนำให้ใช้คือ W3 Total Cache
สำหรับท่านใดพัฒนาเว็บขึ้นมาเอง Memcache เป็น Toolsอีกตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมและรองรับการใช้งานกับหลายภาษา (ส่วนตัวผมใช้ Memcache ช่วยทำงานหลายๆอย่าง ผมเขียน Python ติดต่อกับ Database กับ API อื่นๆ memcache จะเป็นตัวขั้นกลาง เราจะ Code ให้ระบบเราไป lookup memcache ก่อนถ้าไม่มีข้อมูลก็จะไปโหลดมาจาก database หรือจาก API อื่นมาเก็บไว้ที่ Cache ครั้งต่อมาข้อมูลจากถูกเรียกจาก Cache โดยตรงแทนที่จะไปที่ Database หรือ API การทำงานจะเร็วกว่ามากๆครับ)
ถ้าใครเขียนโปรแกรมแล้วยังไม่เคยใช้ Caching tools แนะนำให้ลองศึกษาเลยครับพวก MemCache หรือ Radis เป็นอะไรที่นอกจากจะให้ทำโปรแกรมทำงานเร็วขึ้นแล้วยังทำให้ความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งครบถ้วนมากขึ้นด้วยครับ ส่วนใครใช้ WP ก็มี Plugin ให้เลือกอยู่หลายตัวเลย
วันสี่: เร็วกว่าด้วย Offsite Caching – CDN (Content Delivery Network)ผมเรียกหัวข้อนี้ว่าเป็น Offsite Caching เพราะข้อมูลในเว็บไซต์ของเราจะถูกเก็บกระจายออกไปตามเซิฟเวอร์ต่างๆ ทั่วโลก และเมื่อมีผู้เข้าชมจากจุดไหน ระบบก็จะส่งข้อมูลให้ชมจากเซิฟเวอร์จุดที่อยู่ใกล้ที่สุด ดังนั้นจึงทำให้เว็บของเราเปิดเข้าชมได้เร็วขึ้นจากสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก เพราะมันโหลดจากที่ที่ใกล้ที่สุดนั่นเอง
การใช้บริการ CDN นั้นทางผู้ให้บิรการโฮสติ้งหลายๆรายมีบริการให้พร้อมกับเพ็คเกจที่เราสั่งซื้อ ซึ่งทาให้สะดวกในการติดตั้ง หรือพร้อมใช้งานทันทีที่เราติดตั้วเว็บไซต์ สาหรับเว็บโฮสติ้งที่ไม่มีบริการ CDN รวมในเพ็คเก็จก็มีหลายลาย CloudFlare เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ CDN ระดับโลกที่มีผู้ใช้บริการกันมาก บริการ CDN ของ CloudFlare มีตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ให้ลงทะเบียนใช้งานฟรีไปจนถึงระดับที่ต้องจ่ายเงิน เว็บผมก็ใช้ CloudFlare (Free) อยู่เหมือนกัน
นอกจากจะได้ประโยชน์จากความเร็วเรื่อง Offsite Caching และยังช่วยเพิ่ม Performance และ Security ให้กับเว็บไซต์อีกด้วย ผมแนะนาให้อ่าน CloudFlare CDN จาก
https://www.wpthaiuser.com/cloudflare-cdn/
วันห้า: ภาพใหญ่โหลดช้าแต่ความคมชัดเท่าเดิมสาหรับการทำบล๊อกให้น่าสนใจขาดไม่ได้เลยที่ต้องเลือกรูปภาพประกอบให้สื่อความหมายและสวยงาม ภาพใหญ่ขนาดไฟล์ใหญ่จะส่งผลให้ใช้เวลาการโหลดสูงขึ้น และขนาดของไฟล์ภาพก็ไม่ได้มีผลต่อคุณภาพของภาพด้วยซ้า
สาหรับผมภาพความกว้างขนาด 1024px ถึงว่าเป็นภาพขนาดความกว้างสูงสุดที่พอดีสาหรับการแสดงบนหน้าจอ Desktop ถ้าคุณปรับขนาดภาพเองได้ จะได้ภาพที่พอเหมาะขนาดที่เท่ากันสาหรับการแสดงในหน้าเพจ โดยเฉพาะ Featured images (เวลาทา Slide images ที่ Header/Top ของ home page จะสวยงาม)
แต่ถ้าไม่สะดวกทาผมแนะนาให้ใช้ plugins wp-smushIt Plugin
https://wordpress.org/plugins/wp-smushit/ 
ตัวนี้จะช่วยปรับขนาดภาพในเว็บไซต์ของคุณได้โดยอัตโนมัติ ให้ความยืดหยุ่นโดยคุณสามารถปรับขนาดความกว้างสูงสุดเองได้
วันที่หก: หน้าที่ควรโหลดเร็วที่สุดคือหน้า Homeหน้า Home เปรียบเสมือนหน้าบ้านดังนั้นนอกจากจะสวยงามแล้วต้องโหลดได้ไว คนส่วนมากถ้าเข้าหน้า Post หรือ page แล้วประทับใจก็จะคลิกไปที่หน้า Home และเมื่อรู้สึกประทับใจหน้า Home ด้วยแล้ว หน้า Home ก็จะเป็นประตูแรกที่ลูกค้าจะเข้าหน้าเว็บของคุณ การปรับแต่งหน้า Home ทาได้ง่ายๆดังนี้
แสดงข้อความสั้นๆ ของ Post แทนการแสดงบทความเต็ม (เลือก Show Excerps)
ไม่แสดงจานวน Post ในหน้า Home มากเกินไป WordPress Theme นั้นสามารถจะเลือกจานวน Post หรือแม้แต่เลือก Post ใน Categories มาแสดงผลได้ ให้เราเลือกบทความในหมวดหมู่ที่น่าสนใจมาเพียง 5-7 บทความ
ไม่แสดงอะไรที่ไม่จาเป็นเช่น Social Share บางตัวที่ไม่คิดว่าจะมีคนใช้เป็นต้น
เลือกเฉพาะ Widgets ที่จาเป็นมาใส่หน้า Home เช่นอาจจะไม่จาเป็นที่ต้องแสดงจานวนคนที่มาเยื่อมชมเว็บไซต์ หรือ Facebook Fan Page ของคุณ
วันที่เจ็ด: ปรับปรุง Database ให้กระชับขึ้นฐานข้อมูลเมื่อใช้ไปนานๆ ข้อมูลเพิ่มขึ้นควรจะต้องมีการปรับปรุง (Optimize) เพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น MySQL เป็นฐานข้อมูลของ WordPress ก็เช่นเดียวกัน การปรับปรุงสามารถทำได้เองแบบแมนนวลถ้าคุณมีความรู้เกี่ยวกับ Database เช่นการลบข้อมูลขยะพวก Spam comments ทิ้ง การทำ Index เพื่อให้การค้นหาข้อมูลเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่ไช่พวก Database Admin ผมแนะนำ Plugin WP-Optimize
https://wordpress.org/plugins/wp-optimize/#description 
ให้ติดตั้ง Plugin ตัวนี้จะช่วยลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกไป ทำการ Compact/De-fragment tables นอกจากนั้นยังตั้งเวลาให้ทำงานแบบอัตโนมัติได้อีกด้วย
Plugin อีกตัวที่ผมแนะนำให้ติดตั้งเพื่อช่วยจัดการกับ Database คือ WP-DBManager Plugin
https://wordpress.org/plugins/wp-dbmanager/ 
ตัวนี้จะช่วยจัดการเรื่อง Database จากเรื่องยุ่งยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายๆ คุณสามารถจัดการ Backup, Restore, Recover Database และ Run SQL Query ผ่าน WordPress ได้
วันที่แปด: ปิดการขโมย Image Link (Hotlinking) เพื่อลดโหลดทราฟิกเมื่อบทความหรือรูปภาพในเว็บของคุณเป็นที่ต้องการ มีความเป็นไปได้ที่เว็บไซต์ของคุณจะถูกคัดลอกและบทความที่ถูกคัดลอกไปที่เว็บไซต์อื่นจะมีรูปภาพ link ที่ส่งไป link ไปเว็บไซต์ที่ถูกขโมย ที่เราพูดถึงคือ link รูปภาพซึ่งจะเป็นตัวขโมยทราฟฟิกทำให้เว็บไซต์ของคุณช้าลงได้ ในหัวข้อนี้ผมจะไม่พูดถึงการป้องกันการคัดลอกข้อมูลเว็บไซต์แต่จะพูดถึงการป้องกัน link รูปภาพมายัง link ของคุณด้วยวิธีการแก้ไข .htaccess
ให้คุณแก้ไข .htaccess ด้วยเครื่องมือที่คุณถนัด แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเปิดอย่างไร ผมแนะนำ WordPress Plugin wp-htaccess-editor เปิดไฟล์มาแล้ว Copy Code ข้างล่างใส่ลงไปครับ
/* hotlink blocking */
RewriteEngine on
RewriteCond %{HTTP_REFERER} !^$
RewriteCond %{HTTP_REFERER} !^http(s)?://(www\.)?yourwebsite.com [NC]
RewriteCond %{HTTP_REFERER} !^http(s)?://(www\.)?google.com [NC]
RewriteCond %{HTTP_REFERER} !^http(s)?://(www\.)?otherapprovedwebsite.com [NC]
RewriteRule \.(jpg|jpeg|png|gif)$ - [F]
อย่าลืมแก้ yourwebsite.com เป็นชื่อ website ของคุณ และ otherapprovewebsite.com คือ website อื่นที่คุณยอมให้เขาทำ Hotlinking ถ้าคุณอนุญาติให้หลายๆเว็บใช้ได้ก็ใส่ชื่อเว็บให้ครบ
วันที่เก้า: เพิ่ม LazyLoad ให้ภาพในเว็บไซต์การโหลดภาพในเว็บไซต์นอกจากจะสามารถเพิ่มความเร็วในการโหลดภาพด้วยการปรับขนาดรูปภาพให้เหมาะสมแล้ว เรายังสามารถโหลดภาพเฉพาะภาพที่ผู้ใช้กำลังเรียกใช้เรียกใช้ได้อีกด้วย การโหลดภาพในลักษณะนี้เรียกว่า LazyLoad การโหลดลักษณะนี้จะช่วยให้การโหลดหน้าเว็บทำงานได้เร็วขึ้น เป็นไปได้มากที่ผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บเราเปิดหน้าเพจแค่ด้านบนโดยไม่ได้เลื่อนลงมาดูรูปภาพที่อยู่ด้านล่างเลย ดังนั้น LazyLoad จึงเป็นการโหลดที่ช่วยในการโหลดหน้าเว็บให้เร็วขึ้นได้ การทำ LazyLoad กับรูปภาพทาได้โดยการติดตั้ง WordPress Plugin BI-Lazy-Load
วันที่สิบ: กำหนดเวลาหมดอายุให้กับ Static Resourcesการทำ Web Caching ส่วนใหญ่มักจะมีเวลาหมดอายุกำกับกับ Resources ต่างๆเช่น รูปภาพ ไฟล์วีดีโอ CSS และ JavaScript เมื่อไฟล์เหล่านั้นถูกทำ Caching และหมดอายุ ระบบหลังบ้านของเว็บไซต์จะโหลด Resources จากเว็บไซต์มาใหม่ การโหลดมาใหม่นี่เองจะส่งผลให้เว็บไซต์ใช้เวลาในการโหลดนานมากขึ้น ดังนั้นการตั้งเวลาหมดอายุที่เหมาะสมกับ Resources ประเภทต่างๆจึงช่วยให้การทำงานเว็บไซต์ของเราดีขึ้นได้ ด้วยความที่มันเป็น Static Resources หรือข้อมูลในเว็บที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยหรือเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เราจึงสามารถกาหนดเวลาหมดอายุให้นานขึ้นได้
ในตัวอย่างด้านล่างเป็นการกาหนดให้ไฟล์รูปภาพต่างๆมีเวลาหมดอายุ 1 เดือน
ให้แก้ไขไฟล์ .htaccess (หน่วยเวลาข้างล่างเป็นวินาที ค่าที่ตั้งเป็นตัวอย่างคือ 1 เดือน)
ExpiresActive On
ExpiresByType image/gif A2592000
ExpiresByType image/png A2592000
ExpiresByType image/jpg A2592000
ExpiresByType image/jpeg A2592000
เพิ่มช่องทางสำหรับการดาวโหลดเนื้อหา -
เพื่อนๆสามารถ Download PDF ได้จากที่นี่ https://drive.google.com/open?...mjLG5Q8zdVpkYw2C8tiIeQ7dva1UjI 
-
ถ้าใครมีคำแนะนำมีคำถาม หรือต้องการรับบทความอัพเดทใหม่ๆ http://www.bkkseo.com/tuneup-wordpress/ 
จากคาแนะนำ 10 ข้อที่นี้จะเห็นว่ามีการปรับปรุ่งแก้ไขสองประเภทด้วยกันคือ
ปรับปรุ่งจากภายในคือการปรับปรุ่ง WordPress การเลือก Theme, ใช้ Plugins ช่วยจัดการ และการ Configuration file .htaccess WordPress
ปรับปรุ่งจากภายนอก คือการปรับปรุงองค์ประกอบนอกเว็บไซต์ของเรา การเลือกเว็บโฮสติ้งที่ดีมาใช้งาน การทา CDN หรือขอใช้บริการ CloudFlare เพื่อทา CDN (Free) เรื่องพวกนี้อาจจะดูยาก และยุ่งยากซักหน่อยสาหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ สาหรับผมคิดว่าเป็นสิ่งสาคัญและจาเป็นยิ่งถ้าคุณจะเอาจริงกับงานด้านเว็บไซต์ด้วยแล้วยิ่งต้องทำ
“ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ถ้าคุณไม่ลงมือทา ศึกษา เรียนรู้ พัฒนา และรักที่จะทามัน”