ไม่ยากครับ เปิดบัญชีอเล็กทรอนิก 2 ปี ขึ้น + เสียภาษี 1-2 ปี + มีใบเสร็จ จะเขียนเองก้ไม่ผิด + มีการเดินบัญชี ธนาคารขอ 6 เดือนอย่างต่ำ แต่ส่วนใหญ่ 1 ปี และเงินเก็บ หรือทรัพสินย์ ยิ่งมากยิ่งกู้ผ่านง่าย
รายได้ จะต้องเกิน 60000 - 90000 บาท เพราะธุรกิจส่วนตัว จะหักเหลือ 30 % เช่นกินอยู่ ใช้ ผ่อน อะไรก็ตามเหลือเดือนละ 5 หมื่น หัก 30 % - ด้วย รายจ่ายที่ธนาคารตั้งขึ้น 8000-10000 บาท แล้วดูว่าเหลือเท่ากับยอดที่กู้ได้เท่าไหร่ นั่นหละครับ
ผมกู้สร้างบ้านมา 2 หลัง กำลังยื่นหลังที่ 3 มีบัตรเครดิต 1 ใบ ยอดบัตร 5 หมื่น ครับ เอาเท่านี้ ยอดผมเล็กน้อยมาก
ปล. ยอก 9 หมื่นน่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นลุกค้าจริงๆ แค่แสดงหละฐานเป็น ให้ตรงกับ state ment
ขอถามหน่อยนะครับใบเสร็จนี้ใบเสร็จอะไรหรือครับ ค่า Host อะไรพวกนี้หรือเปล่า
และถ้าทำเป็นพวกเก็บค่าโฆษณาจากต่างประเทศนี้ เขาจะถามอะไรเพิ่มไหมครับ เพราะมันต่างจาก E-Commerce มากเลย
และสมมุติว่าผมมีเงิน 100,000 (ไม่ใช่ตัวเลขจริง) หักค่าใช้จ่ายเหลือ 30,000 และต้องเอามาหักกับกินอยู่ประมาณ 10,000 เหลือ 20,000 ถึงเอาส่วนนี้มาคิดใช่ไหมครับ
ปล. ขออภัยที่ถามเยอะหน่อยนะครับ นานๆทีจะเจอผู้ที่มีประสบการณ์จริงมาตอบ

เขาสนแค่ว่าธุรกิจเรามีตัวตนมากแค่ไหน ง่ายๆ ต้องมีเว็บ และจดทะเบียน เพราะเทียบเท่าหน้าร้านครับ ผมส่ง Whois ให้ธนาคารรู้วิธีตรวจสอบอย่างละเอียดว่าผมเป็นเจ้าของเว็บนั้นๆ จริง เปิดมากี่ปี และ จะหมดอายุเมื่อไหร่ ผมสอนธนาคารเช็ค ตรงนี้ ด้วยครับ
ส่วนเรื่องบิล ค่าใช้จ่าย ไม่ต้องมีครับ เราต้องทำใบสรุปรายเดือนอยุ่แล้ว ลงไว้ตรงนั้น ลงเท่าที่จำป็นจริงๆ และสมเหตุสมผล ไม่ต้องลงทั้งหมดก็ได้ เพราะจะกู้ไม่ผ่านเอา
ส่วนเรื่องรายรับธนาคารสนที่สุด ต้องมีบิล หรือ ใบเสร็จอะไรก็ได้ หรือ Cap หน้าที่มีการรับเงิน ยังไงก้ได้ ซึ่งผมเชื่อว่าต้องมี ตรงนั้นจะแทนบิลได้ครับ ซึ่งอย่างที่ผมเขียนไว้ คือ 1 บิล 2 สเตทเม้น 3 สรุปรายเดือน ธนาคารสนแต่รายรับไม่สนรายจ่าย รายจ่ายไม่ต้องมีหลักฐาน เพราะ เขาจะหักออกอีก 8000-10000 อยู่ดีครับ เป็นตัวเลขตายตัว [*ต่อคนน่ะ แต่งงานมีลูกจะเพิ่มอีก แต่งงานแต่ไม่จดทะเบียน บอกไม่แต่งครับ]
ส่วนเงินเค้าเส่วนไหนมาคิดใช่ไหมครับ ผมจะยกตัวอย่าง.
สมุตผมแสดงรายได้ไป 12 เดือน จะเอา 12เดือนมา เฉลี่ย สมมุต คือ 80000 บาท หักค่าใช้จ่าย ทุกเดือน / 12 เช่นกัน สมมุต 20000 บาท
เหลือ เน็ตๆ เลย 60000 ใช่ไหมครับ เอา 30% มาคิด เพราะธนาคารกำหนดว่าจะเอาแค่ 30 % [ออมสิน เอา 30 % ธ.กรุงเทพ เอา 40-60 % ที่ง่ายๆ ผมว่า ธอส.ครับ จริงๆผมกู้ 3 ครั้ง ธอส 2 ครั้ง เอา 1 ครั้ง ปฎิเศษ ธอส ไป 1 ครั้ง ออมสิน 1 ครั้ง ตอนนี้กำลังรอครั้งท่ี 4 ธนาคาร ธ.กรุงเทพ อนุมัติ ] ของเราได้ทั้งหมดหลังหักแล้วมาคิด เนื่องจากธุรกิจส่วนตัว หรือ ออนไลน์ ความเสี่ยงสูงมาก 30 % ของ 60000 เหลือ 18000 และต้องมาลบรายจ่ายส่วนบุคคลที่ธนาคารส่วนใหญ่ตั้งเกณมาตรฐานไว้อีก [ตรงนี้ผมถึงบอกว่ารายจ่ายหากไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ต้องเขียน หรือเขียนน้อยๆ ครับ ]สมมุตลบ 8000 เหลือที่สามารถส่งได้ตามที่ธนาคารกำกนดคือ 10000 บาท ก็จะกุ้ได้ประมาณ 1.1-1.4 ล้าน เท่านั้นครับ.
ทรัพสินผมมีรถสองคัน แค่เงินสด มีที่ดิน มีเงินสด
ระวังเรื่องส่วนต่าง เพราะธุรกิจออนไลน์ ได้ไม่ถึง 100 % จะได้ประมาณ 75-85 แล้วแต่ธนาคาร เช่น จะซื้อบ้่านราคา 2 ล้าน เขียนไป 2.4 ล้านใช่ไหมครับ หากธนาคารอนุมัต 1.9
ต้องแสดงเงินในบัญชี 5 แสน กังนั้นปรึกษาธนาคารก่อนเขียนได้ครับ ไม่งั้นไม่อนุมัติครับ ซึ่งการประเมินจะดูศักยภาพผู้กู้ และ ทรัพสินครับ เรื่องนี้อีกยาว .... หากสงสัยถามได้ครับ
คนทำงานประจำ มีรายได้ 10000 หากไม่เขียนภาระ หรือไม่มีภาระ กู้ได้ 1 ล้าน โดยประมาณครับ
และไม่ว่าจะทำงานประจำหรือธุรกิจออนไลน์ ต้องไม่มีรายจ่ายที่เคยติด Backlish อีกน่ะครับ หากติด BL ทุกธนาคารแทบไม่รับ ยกเว้น ธอส [*ต้องไปปิดให้หมดหากจะกู้ ธอส และต้องปิดเกิน 3เดือน ไปแล้ว].. ดังนั้นคนทำธุรกิจออนไลน์ ระวังเรื่องการชำระ การติดหนี้ดีๆ ผิดแล้ว ผิดเลยครับ แก้ไม่ได้ จะได้ตัวเลือกน้อย
โอย ไม่เคยเขัยนอะไรยาวขนาดนี้ เลย