ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comความรู้ทั่วไปSocial Media Marketingเศรฐกิจ ค้าขาย ประเทศไทย ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง ปีถัดไป ลงหลุม อีกมุมหนึ่ง..
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เศรฐกิจ ค้าขาย ประเทศไทย ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง ปีถัดไป ลงหลุม อีกมุมหนึ่ง..  (อ่าน 4486 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
seoland
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 118
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 643



ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 02:11:13 »

ตัวเลขจากนักลงทุนขาใหญ่ของต่างประทศของไทยในปีนี้

GDP = 0.5      ยังไม่รวมกับเหตุการณ์ที่อาจมีวิกฤติจากกรีกอีก ก็ทำให้ติดลบได้ ก็จะมีแค่ไทยกับกรีกเท่านั้นในโลก
NPL = 35-36       เหตุการณ์กำลังจะไปซ้ำรอย ปี 40

ประเทศไทยน่าจะแย่ที่สุดรองจาก กรีก ปัญหาเศรษฐกิจคล้ายกรีกก็อาจเกิดจราจลย่อยๆ การลักเล็กขโมยน้อย อาชญากรรม ทำให้ปัญหาเศรฐกิจหนักขึ้นและจมลงเรื่อยๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กรกฎาคม 2015, 02:13:07 โดย seoland » บันทึกการเข้า
talkit
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 387



ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 09:11:25 »

เห็นด้วยครับ
ช่วงนี้ทำไรก็ลำบากไปหมด  wanwan044 wanwan044
บันทึกการเข้า

สวัสดีประเทศไทย
chinchin
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 221



ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 09:18:43 »

ผมถือคติ ใช้จ่ายตามจำเป็นแหละครับ
อาจมีรางวัลชีวิตบ้าง แต่ห้ามเยอะ ไม่งั้นเดี๋ยวสิ้นเดือนต้องกินมาม่า
(แหม่...พิมพ์ไปทำให้คิดย้อนไปสมัยหนุ่มๆ ใส้แห้งแสนรันทด สมัยเรียนบ้านจนครับ)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กรกฎาคม 2015, 09:22:13 โดย chinchin » บันทึกการเข้า

pongweb
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 278
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,023



ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 09:54:44 »

ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ยึดปัจจัย 4 เป็นหลัก ไม่ฟุ้งเฟ้อเกินตัว จะเผาจริงหรือเผาหลอกก็ไม่น่ากลัวอะไร Google แบนเว็บน่ากลัวกว่าอีก  wanwan009
บันทึกการเข้า
holidaytours
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 291
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,581



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 10:03:25 »

ผมถือคติ ใช้จ่ายตามจำเป็นแหละครับ
อาจมีรางวัลชีวิตบ้าง แต่ห้ามเยอะ ไม่งั้นเดี๋ยวสิ้นเดือนต้องกินมาม่า
(แหม่...พิมพ์ไปทำให้คิดย้อนไปสมัยหนุ่มๆ ใส้แห้งแสนรันทด สมัยเรียนบ้านจนครับ)

ผมก็เหมือนกันครับ
ช่วงนี้ต้องประหยัดๆ ต้องอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
ช่วงนี้ทำไร ก็ลำบากไปหมด จริงๆครับ
 Cry
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กรกฎาคม 2015, 10:04:15 โดย holidaytours » บันทึกการเข้า

Best4u
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 14:24:02 »

รัดเข็มชัดเพราะอนาคตเค้าไม่แน่นอน
บันทึกการเข้า

welovebabyclothes
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 38
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 848



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 14:37:04 »

เป็นกำลังใจให้ทุกคน สู้ๆ ครับ wanwan003
บันทึกการเข้า

เสื้อผ้าเด็กราคาโรงงาน อยากขายเสื้อผ้าเด็ก ต้นทุนต่ำกำไรงาม คลิ๊กเลย => เสื้อผ้าเด็ก
sakuraba
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 24
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 459



ดูรายละเอียด
« ตอบ #27 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 14:52:34 »

ตัวเลขจากนักลงทุนขาใหญ่ของต่างประทศของไทยในปีนี้

GDP = 0.5      ยังไม่รวมกับเหตุการณ์ที่อาจมีวิกฤติจากกรีกอีก ก็ทำให้ติดลบได้ ก็จะมีแค่ไทยกับกรีกเท่านั้นในโลก
NPL = 35-36       เหตุการณ์กำลังจะไปซ้ำรอย ปี 40

ประเทศไทยน่าจะแย่ที่สุดรองจาก กรีก ปัญหาเศรษฐกิจคล้ายกรีกก็อาจเกิดจราจลย่อยๆ การลักเล็กขโมยน้อย อาชญากรรม ทำให้ปัญหาเศรฐกิจหนักขึ้นและจมลงเรื่อยๆ


ไทม์ไลน์เหมือนกันมาก ทุ่มงบทหาร ซื้อเรือดำน้ำ  wanwan004
บันทึกการเข้า

i-happy
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 49
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 606



ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 14:58:31 »

เชื่อป้ะ ผมได้ยินไอ้คำว่า ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริงอะไรเนี่ยมาเกือบ 10ปีแล้ว แล้วก็ตามด้วยบทวิเคราะห์โน่นนี่นั่นแบบนี้แหละ
แต่สุดท้ายก็เห็นเศรษฐกิจมันขึ้นๆลงๆตลอด

เมื่อไหร่มันจะเผาจริงซักที รออยู่  wanwan023

 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020 wanwan020
บันทึกการเข้า

kidsza
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 35
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 637



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 18:10:35 »

อ่านจนจบเลยค่ะ
รู้สึก หด หู่ มากกก...  wanwan031 wanwan031
บันทึกการเข้า

Tonight We are young
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29



ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 18:24:30 »

มีหลายปัจจัยทำให้เศรษฐกิจติดลบ  การเมือง , การส่งออกโดยรวมลดลง แต่ละประเทศแย่งกันขายสินค้าที่ตัวเองมี ราคาขายไม่ดีเท่าเดิม ประเทศที่เคยนำเข้าสินค้าหาทางผลิตเองในประเทศ

หนี้ครัวเรือนของคนไทยพุ่งทำสถิติ อันนี้ผมคิดว่าส่งผลแรงสุดๆ คนไทยส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ-ปานกลาง ใช้เงินเกินตัว กิน เที่ยว ซื้อสินค้า เป็นหนี้บัตรเครดิต ค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนของลูกสูงกว่าแต่ก่อนมาก นักเรียนต้องมีมือถือ แท็บเล็ต โน๊ตบุค ค่าบริการโทรศัพท์ ค่าเทอมค่านั่นโน่นนี่สารพัด แค่ของลูกก็หมดไม่รู้เท่าไรแล้ว พ่อแม่หาเงินไม่ทันก็ต้องกู้ยืม เด็กนักเรียนน้อยมากที่หาเงินได้เอง ส่วนใหญ่แบมือขอพ่อแม่ และผู้คนยุคปัจจุบันไม่ว่า  แก่ เด็ก วัยทำงาน ไม่ขยันเหมือนแต่ก่อน เอาเวลาไปใช้กับโลกออนไลน์ที่ไม่เกิดรายได้ คนที่มีรายได้จากโลกออนไลน์ก็มีแต่น้อยกว่ากันมาก ตอนนี้ธนาคารหลายแห่งเจอหนี้เสียเกินกว่าที่คิด ผมยังมองไม่ออกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาดีอีกเมื่อไหร่ ความเห็นส่วนตัวครับ
บันทึกการเข้า
tstcb8214
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 460



ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 21:56:55 »

นี่ยังไม่เรียกว่าเผาอีกเหรอ T,T Cry
บันทึกการเข้า
NeSt
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 162



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 22:21:40 »

เจอภัยแล้งเข้าไป  ถ้าภาคเกษตรล้ม  ผมว่าปลายปีนี้ก็ได้สนุกกันละครับ
บันทึกการเข้า

kidsza
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 35
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 637



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #33 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2015, 09:44:58 »

มีหลายปัจจัยทำให้เศรษฐกิจติดลบ  การเมือง , การส่งออกโดยรวมลดลง แต่ละประเทศแย่งกันขายสินค้าที่ตัวเองมี ราคาขายไม่ดีเท่าเดิม ประเทศที่เคยนำเข้าสินค้าหาทางผลิตเองในประเทศ

หนี้ครัวเรือนของคนไทยพุ่งทำสถิติ อันนี้ผมคิดว่าส่งผลแรงสุดๆ คนไทยส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ-ปานกลาง ใช้เงินเกินตัว กิน เที่ยว ซื้อสินค้า เป็นหนี้บัตรเครดิต ค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนของลูกสูงกว่าแต่ก่อนมาก นักเรียนต้องมีมือถือ แท็บเล็ต โน๊ตบุค ค่าบริการโทรศัพท์ ค่าเทอมค่านั่นโน่นนี่สารพัด แค่ของลูกก็หมดไม่รู้เท่าไรแล้ว พ่อแม่หาเงินไม่ทันก็ต้องกู้ยืม เด็กนักเรียนน้อยมากที่หาเงินได้เอง ส่วนใหญ่แบมือขอพ่อแม่ และผู้คนยุคปัจจุบันไม่ว่า  แก่ เด็ก วัยทำงาน ไม่ขยันเหมือนแต่ก่อน เอาเวลาไปใช้กับโลกออนไลน์ที่ไม่เกิดรายได้ คนที่มีรายได้จากโลกออนไลน์ก็มีแต่น้อยกว่ากันมาก ตอนนี้ธนาคารหลายแห่งเจอหนี้เสียเกินกว่าที่คิด ผมยังมองไม่ออกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาดีอีกเมื่อไหร่ ความเห็นส่วนตัวครับ

มาเน้นเรื่องค่าเทอมลูก ... มหาโหดจริงๆ ขนาด ตจว.นะคะ ปีละสี่หมื่นกว่า ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายจุกจิกอีก
บันทึกการเข้า

Ceramiclover
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 149
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,015



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #34 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2015, 11:50:11 »

มีหลายปัจจัยทำให้เศรษฐกิจติดลบ  การเมือง , การส่งออกโดยรวมลดลง แต่ละประเทศแย่งกันขายสินค้าที่ตัวเองมี ราคาขายไม่ดีเท่าเดิม ประเทศที่เคยนำเข้าสินค้าหาทางผลิตเองในประเทศ

หนี้ครัวเรือนของคนไทยพุ่งทำสถิติ อันนี้ผมคิดว่าส่งผลแรงสุดๆ คนไทยส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ-ปานกลาง ใช้เงินเกินตัว กิน เที่ยว ซื้อสินค้า เป็นหนี้บัตรเครดิต ค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนของลูกสูงกว่าแต่ก่อนมาก นักเรียนต้องมีมือถือ แท็บเล็ต โน๊ตบุค ค่าบริการโทรศัพท์ ค่าเทอมค่านั่นโน่นนี่สารพัด แค่ของลูกก็หมดไม่รู้เท่าไรแล้ว พ่อแม่หาเงินไม่ทันก็ต้องกู้ยืม เด็กนักเรียนน้อยมากที่หาเงินได้เอง ส่วนใหญ่แบมือขอพ่อแม่ และผู้คนยุคปัจจุบันไม่ว่า  แก่ เด็ก วัยทำงาน ไม่ขยันเหมือนแต่ก่อน เอาเวลาไปใช้กับโลกออนไลน์ที่ไม่เกิดรายได้ คนที่มีรายได้จากโลกออนไลน์ก็มีแต่น้อยกว่ากันมาก ตอนนี้ธนาคารหลายแห่งเจอหนี้เสียเกินกว่าที่คิด ผมยังมองไม่ออกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาดีอีกเมื่อไหร่ ความเห็นส่วนตัวครับ

เห็นด้วยครับ เด็กบางคนยังหารายได้เองไม่ได้เลย แต่ใช้จ่ายยังกับลูกเศรษฐี
บันทึกการเข้า

sajai
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 39
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,017



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #35 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2015, 12:31:09 »

ติดตาม  Cry
บันทึกการเข้า

ทำนายฝันทำนายฝัน
เลขมงคลเลขมงคล
ผลหวยสดหวยสด
ผลหวยรัฐบาลไทยหวยรัฐบาลไทย
ผลหวยลาวหวยลาว
hatyaiwebdesign
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 60
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,108



ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2015, 13:20:45 »

สู้กันต่อไป
บันทึกการเข้า

zapanlek
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 32
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 502



ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2015, 14:58:37 »

ตอนนี้ก็เหมือน ติดไฟเผาแล้ว แต่ปลายๆท่อนฟืน  คนที่อยู่ไกล้ๆต้นไฟก็รู้สึกหน่อย เริ่มมีควัน
แต่คนปลายๆท่อนฟืน นี้ยังไม่รู้สึกอะไรครับ
บันทึกการเข้า
tamuraki
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 31
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,607



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #38 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2015, 20:02:27 »

wanwan017

1.ที่ท่านเห็น คนกินของในห้าง เยอะ คนล้น เพราะคนในห้าง เป็นคนในกลุ่ม ระดับกลาง+ ขึ้นไป ที่ยังไม่มีผลกระทบ
เข้าใจบ้านเรา มี 3 ระดับ บน กลาง ล่าง : ระดับที่มีปัญหาคือ ระดับ ล่าง ระดับล่างเกิดปัญหา ทำให้ระดับ กลางเริ่มมองเห็น
แต่สันชาติญาณ ของคนระดับ บน หรือผู้ประกอบการจะได้กลิ่นก่อนเพื่อน  Tongue

2.เมื่อระดับ ล่างตาย ระดับกลางจะเหนื่อยมากขึ้น (ระดับกลางคือ คนทำงาน) เพราะยอดขายระดับกลางจะกระทบ (ยกเว้นระดับบางธุรกิจ
ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับระดับล่าง เช่น อุตสหากรรมใหญ่ พวกเน้นส่งออกระดับบน- กลาง หรือ โรงแรม)  เมือ่ระดับกลาง เหนื่อยมากขึ้น
ทำงานหนักขึ้น เพื่อให้ได้เงินเท่าเดิม  ปัญหางานมากขึ้น การเก็บเงินลูกค้ายากขึ้น ขายของยากขึ้น ระดับกลางล่างจะเริ่มมองเห็น เกิดการ
รัดเข็มชัดเพราะอนาคตเค้าไม่แน่นอน  Cry

3.เมื่อระดับกลาง และ ระดับล่างรัดเข็มขัด  ซึ้งเป็นคนส่วนมากของประเทศไทย ระบบเศรษฐกิจที่กระทบก่อนคือ การบริโภคลดลง
-ผลกระทบธุรกิจระดับล่างเมื่อรัดเข็มขัด ***การจับจ่ายใช้สอย หมุนเวียนตลาดสด การเกษตรเคมีพัน  ตายลำดับแรก
-ผลกระทบธุรกิจระดับกลาง เมื่อรัดเข็มขัด ***รถยนต์ อสังหาริมทรัพ เฟอร์นิเจอร์ it มือถือ สวยงาม สินค้าฟุ้มเฟือย
เมื่อออกมากระทบหลายธุรกิจมากขึ้น GPD ก็ปรับลดลง
-แล้วทำไมตลาดหุ้นทำไมไม่ลง อยู่เท่านี้มานานแล้ว
  1.ตลาดหุ้น บ้านเราไม่ใช่ตลาดหุ้นปกติ
   2.คลาดหุ้น ขายให้คนระดับกลางขึ้นไปจะเห็นผลช้าที่สุด (ปีนี้เผาหลอก) wanwan009

4.เมื่อระดับกลาง และล่างตาย ระดับบน เป็นระดับที่ได้กลิ่นได้ไวที่สุด แต่ระดับบนเป็นระดับที่ลอยตัวปัญหาแล้ว แต่ ก็ยังแบ่งระดับบน
ออกเป็นสองแบบ ระดับลอยตัว กับ ระดับมีปัญหา ซึ้งระดับมีปัญหา ก็จะเริ่มรัดเข็มขัด สั่งคนชั้นกลางให้ทำงานหนักขึ้นไม่ให้ยอดตก
หรือลดการลงทุน และพยายามลดค่าใช้จ่ายๆทุกเซ็กเม้นของธุรกิจ มากดระดับทำงานให้หนักขึ้น แต่เงินไม่เพิ่มขึ้น

5.แต่ปัญหารอบนี้จริงๆเกิดจาก ระดับล่างตายก่อน แต่นโยบายกลับ ช่วย SME ซึ้งแต่ละอัน ผู้ประกอบการใหญ่ๆ นี้ 5-50 ล้านขึ้น
ระดับ SMEนี้ผมว่าระดับ บนเลยนะเพราะเป็นผู้ประกอบการซึ้งมียีนแข็งแกร่งในตัวอยู่แล้ว แต่เหมือนเอาเงินให้ไป พออยูให้ได้ยาวขึ้น
แต่ปัญหาจริงๆคือ ระดับล่างตาย ถึงอัดไปเท่าไหร่ ก้เหมือนทำให้ มีอายุได้มากขึ้น แต่ปัญหายังคงเดิมอยู่

6.อย่าบอกว่า ก็ต้องปรับตัวสิ คนจน คนชั้นกลางถึงจะอยู่รอด ซึ้งตรงนี้ จะยังมีคนปรับตัวและอยู่รอดอยู่แล้ว แต่เป็นส่วนน้อยมากๆๆ
ปัญหาคือ ขนาดคนชั้นกลางที่มีทุน มีโอกาส ยังเอาตัวรอดได้ยาก คนจน มีทุนอะไร นอกจากความรู้เรื่องไร่นา สวนยาง แต่กลุ่มนี้
หลายๆคนชยันกว่าเราๆอีก แต่ปัญหากลุ่มล่างคือ ขาดเงินทุนในการลองผิดลองถูกเค้าลองไม่ได้เลย การพลาดพลั้งก็คือ ล้มทั้งชีวิต
ที่ปรับตัวไปจะเป็นลูกๆ ชาวนา ชาวสวน มากกว่า แต่พ่อแม่เค้า ไม่มีทุนความรู้ ขนาดระดับกลางจะหางานเสริมได้ยังยากเลย แล้วระดับนี้หละ

7.ตลาดระดับ แต่ละจังหวัด จะเห็นผลก่อนอันดับแรก เพราะหล่อเลี้ยงด้วย ผู้ประกอบการใช้เงินหมุนกันในจังหวัดและราชการ
ส่วนตลาดใน กทม จะเห็นผลช้าที่สุด เพราะเงินหล่อเลี้ยงด้วยคนชั้นระดับกลาง B+ ขึ้น จึงมองเป็นภาพรวงตาอยู่ หากเป็นธุรกิจที่เกี่ยว
โยงกับต่างจังหวัดถึงจะมองเห็น แต่เกี่ยวโยงกับระดับบนก้ไม่มีผลอะไร แต่ จะส่งผลโดยอ้อมมากกว่า และมีผลแต่ช้าที่สุด

8.เมื่อผู้ประกอบการแต่ละจังหวัดตาย จะเกิดทำให้ ระบบฝายในจังหวัดแย่ลงๆๆ (ปีนี้ยังเผาหลอก) เช่นพวกร้านเที่ยวกลางคืน ร้านขายอุปกรณื
ฟุ้มเฟือย ยอดรถ ยอดซื้อบ้าน จะเกิดอะไรขึ้น ก็จะไปเชื่อโยงกับธนาคาร ทีจะมองเห็นยอด NPL เยอะขึ้น เพราะผู้ประกอบการ หรือ ระดับ
กลางหาเงินเสริมได้ยากขึ้น ก็จะเกิด NPL หนี้บัตร เครดิตกับธนาคาร ในอัตราที่มากขึ้นๆๆๆๆๆ

9.ระดับล่างทำอย่างๆไร มองหาทางออก มองนาโนไฟแนน มองแล้วเป็นนโยบายขายฝันแน่ๆ เพราะ bank ไม่มีทางปล่อยคนไม่มีเครดิตคำประกัน
ถึงปล่อยก็น้อยมากๆๆๆๆ จนน่าใจหาย ชาวบ้านก็ต้อง ประหยัดสุดๆ

10.เมื่อคนชั้นกลาง ขายของไม่ได้ บริษัท ก็ทำ Promotion ลดราคา เพื่อให้ได้ยอดทำเดิม แต่ทำไม่ได้ ก็ต้องทำการ ลดค่าใช้จ่าย หรือบางที อาจลดคน
ซึ้งการให้ออก เริ่มเห็นผลระดับนึงในปีนี้ แต่ปีหน้า จะเห็นผลจริงๆเมื่อคนชั้นกลางล่าง เริ่มตกงาน แต่มีหนี้สินอยู่ ก็เกิดปัญหา ตามมา จี้ ปล้น เริ่มเกิดปัญหาสังคม 

11.ระดับบนที่ไม่มีปัญหา คือบริษัทที่จับคนระดับกลางขึ้นไป ก็ขยายสาขาต่อไปได้ เช่น เปิดห้างเพิ่ม เปิดร้านเพิ่ม ลงทุนเพิ่ม เพราะจับคนระดับกลางขึ้นไป
แต่ปัญหาจะยังมองไม่เห็นในปีนี้ 1-2 ปี ข้างหน้าจะเห็นผล

12.ปัญหาระดับบนที่มีปัญหา เริ่มเกิด หนักขึ้นๆ  ทำทุกอย่างแล้วว ออก Promotion จี้คนชั้นกลางให้ขายของได้ดีขึ้น ลดแลกแจกแถม
ลดสุดๆๆ ก็ยังไม่ดีคิด เมื่อเป็นระดับนี้มองปัญหาจะตามมาออก จึงส่งผลต่อระดับกลางโดยตรง โดนการลดคนงานที่ไม่จำเป็นออก

13.ระดับประเทศ เนื่องด้วยขาดความเชื่อมั้น ทั้งในและนอกประเทศ ลดการลงทุน-การท่องเที่ยว-การส่งออก  การลงทุนหายไปเกินครึ่งหนึ่ง คนในประเทศ
ตกงานในประเทศมากขึ้น การส่งออกมีปัญหา การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็ยังพอมี แต่น้อยลง

13.เมื่อทั้ง สามระดับ เกิดปัญหา เกิดอะไรขึ้น ทำให้ รัฐบาลเก็บภาษีได้น้อยลงมากๆๆๆๆ เมื่อรัฐยบาลเก็บภาษีได้น้อยลง ก็ไมมีเงินมาบริหารประเทศได้
ก็ต้องมารีดภาษีกับ ประชาชนที่เดือนร้อนอยู่แล้วทุกๆ ระดับ เมื่อทุกๆระดับ รีดกันไป รีดกันมา ก็โทษกันไปมา

***หากรัฐบาลไม่ทำอะไร คนส่วนมาก จะได้รับผลกระทบภายใน ปลายๆปีหน้า ปีนี้คนแค่เก็บตังให้อยู่รอดกัน แต่ปลายปีหน้า คนส่วนมากจะเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหว
และหยุดการใช้จ่ายไป  กระทบเป็นลูกโซ่หนักขึ้นไปอีก  การแก้ให้ตรงจุดตอนนี้สำคัญที่สุด แต่ ทีมงานทางเศรษฐกิจ มาจาทฝ่าย ราชการคือ วิสัยทัศจะน้อย
ถ้าฝ่ายนักบริหารไป จะได้วิสัยทัศที่ดีกว่านี้เพราะ ฝ่ายราชการคิดก้่าวหน้าได้น้อยกว่า รอเงินเดือนเข้า แต่เราบริหารประเทศซึ้งต้องแข่งขันกับระดับโลก
การใช้ทีมงานที่มีวิสัยทัศ ทีมงานที่เป็นเจ้าของธุรกิจ มองเห็นเครดิต หรืออะไรจะดีกว่า

***3 เสาหลักที่ค้ำประเทศ ท่องเที่ยง - ส่งออก  - ลงทุน เริ่มทรุดเอียง หนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาคือ การเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งไหม่ ปัญหาก็ยังวนเวียนอยู่
ถ้ายังไม่เข้าใจว่า ประชานิยมเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ ฉีดไปที่ระบบ ในระดับที่ พอดี ไมมากไม่น้อยไป แต่ไม่ใช่ไม่มีเลย การฉีดคือความหวัง ของฐานของเสา
ที่คำประเทศไว้ เมื่อ 3 เสาสั่นคลอน ทีมงานเศรษฐกิจ ก็ยังคิดแต่ ค้ำเสาเดิมให้อยู่ มีวิธี อื่นๆอีกมาก หรือ สร้างเสาไหม่ไปเลย

คนชั้นล่าง ต่อไปเกิดอะไรขึ้น
1.หยุดการใช้จ่ายฟุ้มเฟือยทั้งหมด ปลูกกินเอง ใช้เอง ไม่ก่อหนี้ หรือบางที มีหนี้ไปแล้ว ก็ไม่มีจะให้ ก็ขายเครื่องมือทำกิน หรือที่ไป และหยุด อยู่อย่างพอเพียง
ปลูกต้นไม้ เลี้ยงเป็ดปลา ปลูกผักไว้กินเอง แลกใช้จ่ายในหมู่บ้านกัน ไปหาลูกๆ
2.หารายได้เสริม ปัญหาคือ มีทุนแค่ความรู้เรื่อง ทำนา ทำไร่ จะไปหางาน ขายแรงงาน ใน กทม ค่าเช่าค่ากินค่าใช้จ่าย ก็ไม่คุ้มแล้ว หักไปหักมา อยู่บ้านยังดีกว่า
ขายแรงดำนาให้เพื่อน ขายแรงทำไร่ทำสวน ก็พออยู่ได้ ไปใน กทม ค่าใช้จ่ายเช่าบ้าน เดินทาง ค่ากิน ไม่คุ้มสำหรับ ค่าแรง 300 บาท
โดนหักตกแล้วไม่คุ้ม อยู่ที่บ้านยังดีกว่า หักแล้ว ยังได้เยอะกว่า
3.แล้วทำไมไม่พัฒนา ไม่หาอาชีพไหม่หละ ตรงนี้เป็นจุดที่เข้าใจผิดกันอย่างแรงสำหรับระดับบน-กลาง ที่มองระดับล่าง ว่าทำไมไม่พัฒนา เปลี่ยนอาชีพสิ ทำอย่างอื่นสิ
ซึ่งส่วนมาก ชาวนาเค้าก็ปลุกอย่างอื่น เลี้ยงสัตว์ ปลูก ไร้ เช่านา อย่างอื่นไปด้วย จะไปทำมากกว่านี้ก็ได้ แต่ทุนเค้ามีเท่านี้ก่อน จะไปทำมากกว่านี้ ก็ขอทุนหน่อยสิ
เมื่อไม่มีทุน ก็ทำให้เกิด ไม่สามารถลองผิดลองถูกในธุรกิจอื่นๆได้ คือเงินก้อนนี้ลงไปแล้วนะ เค้าหมายถึงชีวิตเค้า ผิดพลาดได้ครั้งเดียว เค้าเลยนำเงินไปลงทุน
กับทำนา ทำไร่ดีก่วา ซึ่งได้เงินแน่นอน ที่ผมเห็นๆ เค้าขยันกว่าเรา เราทำงานแบบเค้าไม่ได้ ถ้าเค้ามีเงินจริงๆเป็นผู้ประกอบการจริงๆ กลุ่มนี้ ขยันมากๆ

คนชั้นกลาง ต่อไปหละจะเกิดอะไรขึ้น
1.ปัญหาการแข่งขันที่หนักหนาสาหัสทุกวงการ การทำตลาด ที่เราโดนโจมตีจาก สินค้าจากจีนเริ่มหนักขึ้น คิดนำเข้าสินค้า จาก alibaba มา
ก็พอขายได้บ้าง Secment แต่การแข่งขั้นสูง เจ้าใหญ่ เริ่มครอง ตลาด online ทั้งซ์้อโฆษณา facebook และ adsence เจอแค่
ทาง online ยังไม่พอ พี่จีน ส่งคนมาเปิด ร้านที่ประเทศไทยเข้าให้อีก อ้าวว ที่เอามาถูกๆ โรงงานจีน ส่งคนจีนมาเปิดเข้าให้อีก

2.คนชั้นกลางก็ อะ คำนวนแล้ว ประหยัดต้นทุนที่สุด ลงทุน online ดีกว่า โฆษณาทาง facebook ทาง google ฮะ จาก 1-2 ปีก่อน
ค่าโฆษณาใน facebook ใน google ทำไมไม่ขนาดนี้ ตอนนี้มีแต่เค้าใหญ่ๆแย่งลง ทำให้ราคาค่าโฆษณา ออนไลด์แพงขึ้นไปอีก ปีนี้ยังไม่เท่าไหร่
ปีหน้าหนักขึ้นไปอีก หนีมาทางนี้กันหมดแล้วหรอ Lazada kaidee lotus 7 central agoda เวปดังๆ ติดต่อลูกค้าเองหมดแล้ว
แย่งสินค้าจะขายไปเยอะมากก 

3.คนชั้นกลางจะไปเปิดร้าน เพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ประกอบการ ก็เจอ 7-11 แย่งร้านไปเปิดหมด เปิดอะไรมา โชว์ห่วยก็สู้ 7-11 ยาก เพราะ brand เค้าดี
ไปแล้ว คิดเล่นๆนะ หาก 7-11 เป็นผู้ประกอบการในจังหวัดเอง บริหารเอง มีหลายหมื่น สาขา ป่ายนี้ประเทศไทยคง มีเงินหมุนเวียนในจังหวัดดี ร้านค้าอาหาร
ท่องเที่ยวต่างๆผู้ประกอบการเยอะ ทำให้เศรษฐกิจภายในจังหวัดเข็มแข็ง ส่งลูกเรียนได้ และกลับมาพัฒนาจังหวัด ไม่ใช่ตอนนี้ ลูกๆ ไปเป็น ลูกจ้าง ใน กทม หมดเลย
ทำให้การเจริญ เมล็ดพันธ์ของประเทศคล้ายๆกันหมด คิดเหมือนๆกันหมดไป อยู่กทม กันหมด ไม่กลับมาพัฒนา จังหวัดตนเอง

4.คนชั้นกลางจะไปเปิดท้าย หารายได้เสริม ตอนนี้ เปิดท้ายแต่ละที่คนเริ่มเดือนน้อยลง เพราะมันมีมาบ่อยเกิน เปิดเยอะเกิน  สินค้าก็เดิม คิดอะไรไม่ออกก็เสื้อผ้า
เครื่องสำอาง คิดอะไรไหม่ๆกัน ยากขึ้น

5.แต่ปัญหาหลักๆของคนชั้นกลางคือ ไม่กล้าลงทุน เพราะส่วนมาก ถูกปลูกฝังมากับระบบเงินเดือน การจะทำลงทุน รับความเสี่ยงมากๆอย่างลงทุนหรือเปิดร้านไม่ได้
ถูกปลูกฝังกับ การลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย กองทุน ตลาดหุ้น ตลาดทุน  ทอง ทำให้คนชั้นกลาง ส่วนมากจะเก็บเงินมากกว่า เนื่องด้วยรับความเสี่ยงเยอะๆไม่ได้

คนชั้นบน ต่อไปหละจะเกิดอะไรขึ้น
1.คนชั้นบน เป็นชั้นระดับที่มีเวลา คือ คิดอะไรก็ออกเป็นเงินไปหมด หาทางไปดูดเงิน คนชั้นล่าง คนชั้นกลางให้ได้ อ้าา เมื่อคนชั้นล่างตาย ก็ไม่เป็นไร หาเงิน
กับคนชั้นกลางบน กับชั้นบนสิ หาสินค้ากลุ่มนี้ เงินยังเหลือเยอะ ก็ดูดเงินพวกเราไป ไปเปิดร้านอาหารในห้างสิ กลุ่มนี้มีเงินใช้จ่ายเยอะ คนชั้นกลางก็แห่ไปทุกๆ
ศุกร์เสาร์อาทิตย์
2.คนชั้นบน ก็เปิดห้างต่อสิ ระดับกลางชอบเข้า งั้นก็เปิด ธุรกิจปล่อยสินเชื่อสิ ตอนนี้คนไม่มีเงิน ก็ไปดูดด เงินออกมาอีก
3.คนชั้นบนก็ เอ้ ลดค่าใช้จ่ายอะไรดี ว่างๆก็ ลดกล่องเล็กลง เอ้ หรือเพิ่มโปรให้คนซื้อเยอะขึ้น เอ้ หรือ เงินเยอะ โอกาสดี ฆ่าพวกร้านยี่ปั่วซาปั่วให้ตายดีกว่า
ไม่ใช้โอกาสนี้ใช้โอกาสไหน ลดกระหน่ำๆไปเลย ได้ทั้ง คนเข้าร้านเยอะ ชื่อเสียงและฆ่าคู่แข่งไปในตัวด้วย
4.คนชั้นบนก็ เอ้ เงินเหลือ เฮ้ย รัฐบาลไม่มีตังหนิ เข้าทาง กินยาวๆเงินเหลือมาก จังหวัดนี้ดี ไกล้ๆคนเดินทางเยอะ ท่องเที่ยวดี เดียวซื้อโรงแรมจังหวัดนี้ และทำไหม่เลย
และทำเป็นเมืองท่องเที่ยวไปด้วย และทำรถไฟมาจังหวัดนี้เลยดีมั้ย ประเทศไทยอู่ได้ด้วยท่องเที่ยวหนิ  เราก็สร้างโรงแรมจังหวัดนี้เลย แถมกินยาวๆ ขอทำรถไฟกับรัฐบาล
ดีกว่า กิน 3 เด้ง
5.คนชั้นบนก็ เอ้ เศรษฐกิน เห็นแบบนี้แล้ว เงินทำมัยน้อยลงหว่า หุ้นทรงตัวมาเท่านี้และ เห็ยยอดเงินตกๆๆและ อสังหาขายได้น้อย แบ้ง NPL ไม่ปล่อยตอนนี้จะปล่อย
ตอนไหน เอ้า ออกข่าวดีตลาดหุ้นดีกว่า แล้วหาคนมาซื้อเยอะๆ
6.เฮ้ย คนชันกลาง คนจนเดือดร้อยวุ้ย  ไปกวาดซื้อที่ดิน หรือที่คนเดือนร้อนดีกว่า กำลังดี คนเดือดร้อนกดราคาง่าย
7.คนชั้นบน ช่างมีเวลาเหลือเกิน คิดอะไร ทำอะไร ก็ช่างง่ายดายเสียหมด

เสร็จแล้ว เกิดอะไรขึ้นนนนอีกหลักจากี้ 5-10 ปี
***เมื่อธุรกิจอะไรต่างๆ  เริ่มยากขึ้น ธุรกิน ที่ดินใหญ่ๆ เจอ เจ้าใหญ่ๆ ครองทั้งหมด ลูกๆเราก็ไปเป็นลูกน้องเค้า เทอญ เมล็ดพัน เจ้าของกิจการ เมื่อก่อน
ก็มีเงินในจังหวัดส่งลูกไปเรียนในกทม แล้วกลับมาพัฒนาจังหวัด ต่อไปก็ เจ้าของกิจการตายหมด ลูกๆ ไปเข้า บริษัท นี้นะใหญ่เค้ามีสาขาทั่วประเทศ  ไปเข้าบริษัท
นี้นะเงินเดือนดี ไปเข้าบริษัทนี้นะ เพราะช่องทางการทำมาหากิน เริ่มยากขึ้นๆๆ จากรอบๆทิศทาง จากทั้งทางโลก และในประเทศเอง แล้วประเทศก็ลูกครองโดยไม่กี่คน
มากยิ่งๆขิ้นๆๆ    และ บริษัทใหญ่ๆ ก็ ฆ่าบริษัทเล็กๆ ต่อไปสิ อันนนี้สินค้าเจ้านี้ขายได้ เราก็ทำแข่งสิ หรือ สินค้าอันนี้ขายดี เราก็ฆ่าช่องทางการขายของเจ้านี้แล้วหนิ
ต่อไป เราจะเป็นคนคุม stock การจำหน่ายสินค้าเจ้านี้ได้ เราก็บีบเค้าได้   การฆ่าบริษัทยักใหญ๋ด้วยกันเอง ก็จะเกิด

สำหรับคนอยู่รอดชั้น เริ่มจะน้อยลง
***คนชั้นกลางหรอ ก็เฮ้ย ช่วงนี้หนังสื้อหุ้นเยอะจังไปๆๆท่าทางจะดี เฮ้ยทำไมช่วงนี้หนังสือทำ sticker line เยอะจัง ไปๆๆศึกษาท่าทางจะดี เฮ้ย
นำของเข้าสินค้าน่าสน (มันไม่ได้จบแค่นำเข้านี้สิ) คนชั้นกลาง ชั้นแรก ก็จะ จาก 100 คน ก็จะ เหลือประมาณ 5 คนที่รอดออกมาได้ ภายในปีแรก
เอ้าเมื่อรอดแล้วหนิ ชั้นดีนะ นี้ชั้นนำเข้าเกมส์ หรือ ศิลปินดารา มีรายได้ เจ้าใหญ่ได้ ยิน เอ้ ไปคุยก่อนดีมั้ย หรือซื้อคนเก่งมาเป็นพวกเลยดีนะ (จิกกัดเจ้าใหญ่พอและ)
คนชั้นกลางก็จะ เหลือ ไม่กี่ แสนคน  แต่ก็คงมีคนเก่งโผล่มาเรื่อยๆ

---------วงกลับมาเรื่องประเทศไทยต่อ------------
***เมื่อประเทศไทย ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง คนเริ่มเก็บเงิน คนชั้นกลาง เริ่มหาเงินได้ยากขึ้น ระบบทั้งหมด ส่งผลต่อ เจ้าใหญ่ และเจ้ากลางๆ
เมื่อเก็บเงินได้น้อยลงทั้งประเทศ รัฐบาล ก็ไม่มีเงินมาบริหาร และพัฒนา อ้าวววว แล้วมัน ก็วดลุปๆๆๆ แบบนี้ๆๆเรื่อยๆ จนประเทศไทยตกลงไปอีก อ้าววว
งั้นเราไปกู้ต่างประเทศมาบริหารสิ  ตรงนี้หละเป็นโจทย์สำคัญ ที่รัฐบาลต้องทำให้ถูกจุด ขอกู้ครั้งเดียว บริหารให้ถูก แก้ปัญหาให้ถูกจุด
งั้นมาเริ่มเรื่องแก้ปัญหากันเลยละกัน

วิธีการแก้ปัญหาของประเทศ(ในความคิดผมนะครับ อาจจะมั่วหน่อยๆครับเพราะความรู้น้อย - -' แต่พวกเราต้องช่วยกันแก้ปัญหา และปัญหาที่แท้จริงให้เจอกัน)
1.รัฐบาล ฉีดเงินเข้าระบบ รากหญ้าซะ ในบริมาณที่เหมาะสม ทั้งข้าว ทั้งยาง ย้ำ จำเป็น แต่ในปริมาณที่เหมาะสม ให้คนกลุ่มนี้มีความหวัง ไม่ใช่หมดหวังแบบนี้
 และปล่อยแห้งตาย *** ผมให้น้ำหนัส่วนนี้ 50% ประเทศ จะให้ให้เกิดคนจนมีเงินหมุน และทำธุรกิจเองได้ และระบบกลาง และบน การฉีดใส่ SME เป็นการฉีดที่ปลาย
เหตุไม่นานก็ตายเหมือนเดิม

2.การเลือกตั้ง มีผลต่อการลงทุน การท่องเที่ยว และการส่งออก กีดกันการค้า ส่วนนี้ทำให้ เศรษฐกิจระดับ กลาง ถึงระดับ บนรอดตรงนี้ไม่ต้องใช้เงินมาก แต่ต้อง
แลกกับปัญหาที่ยังไม่จบกันเอง ของเหลืองแดง ทั้งปัญหา เสื้อแดงต้องยอมรับ ประกาศ 300 ผิด เสื้อเหลืองต้องยอมรับ ทุนนิยมบางอย่างดี เข้าใจตรงกัน หาก
ยังไม่แก้ปัญหาตรงนี้ รัฐบาลไหม่เข้ามา ทำทุนนิยม ไม่ได้เลย ปัญหาก็จะเกิดตามมาอีก ก็จะกลายเป็นปัญหาระยะยาวกันต่อ

3.การกู้เงิน จำเป็น แต่ต้องใช้ให้ถูก ต้องมีใครจะกู้ ก็ให้ผ่านไป แต่ถ้าใช้ไม่ถูกทางนี้ ก็เหนื่อยเหือนกัน เอาลงส่วนบนหมด ประเทศก็ หนักเหมือนเดิม

4.ประเทศเราเป็นประเทศท่องเที่ยวหนิ (ผมไม่รู้นะครับคิด อันนี้มั่วๆ)รัฐก็ลงทุนเองเลย เช่น ลำตะครองรัฐก็ เปิดโรงแรม รัฐบางเองสิ ที่รัฐ บริหารเอง ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยง
โรงแรม ระดับ 1 พันล้าน บริหาร โรงแรมทำเลดีๆ แล้วให้คนท่องถิ่นมาขาย แต่เงิน บริหารโรงแรมก็เข้ารัฐไป ทำหลายๆที่ เลือกทำเลดีๆทั่วประเทศ (อันนี้นี่น่าจะติดกฎหมาย
แต่ผมก็คิดมั่วไปครับ - -)

5.ปัญหาเราต้องซื้อไฟฟ้า พลังงานเขื่อน จากลาว จากเพื่อบ้าน เราหมดไปเยอะ อาจยอมหาเงินบ้าง NGo ค้านมาก ตอนนี้หละทำได้ดีที่สุด
ปีนึงๆ เราซื้อไปฟ้า เป็น หมื่นๆล้านบาท ถ้าได้เงินเข้ารัฐตรงนี้ ปีละ หลายหมื่นล้าน บาทก็น่าจะดี จะได้ไปบริหารประเทศต่อ

6.การแก้ปัญหา คือสร้างความหวังให้ทุกๆฝ่ายกล้าใช้เงิน ออกนโยบาย ความคิดออกมาก่อน ให้คนในประเทศเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงก่อน
อย่าว่าอันนี้บิดเบือน อันนั้นบิดเบือน แก้เล็กๆน้อยๆก่อน วิสัยทัศมองทั้งประเทศ ให้ทางออกให้เป็น ไม่ใช่แก้แต่ปัญหา ทำควรทำควบคู่ไปด้วยกัน
แต่มองไม่เห็นกันเลย  wanwan035

  อันนี้แค่นี้ก่อน ความคิดอีกมุมนึงนะครับ ผิดถูก ก็แล้วแต่มุมมองและความไม่รุ้ครับ แต่อยากให้ทำเถอะ ตอนนี้ไม่เห็นปลายทางของประเทศจริงๆ
มองไปคนบริหารประเทศก็ยัง เปิดตำรา ใช้วิธีการเก่าๆมาแก้ปัญหาใหม่ๆอยู่เลย...  Sad


วิเคราะห์ได้สุดยอดครับ ขอบคุณครับ wanwan017
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
พิมพ์