อาจจะแหวกกระแสความเห็นอื่นนะครับ
ทำไมคุณไม่ลองเขียน แผนธุรกิจ (business plan) ออกมาดูก่อนหล่ะครับ
ว่าที่คุณจะทำคืออะไร แล้วใครคือลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณจากนั้นก็ลองนำข้อมูลทั้งหมดที่คุณเขียนใน business plan เอามาคำนวณหาความน่าจะเป็น จากเงินทุน+ความสามารถของคุณ เพื่อหาความน่าจะเป็นคร่าวๆ ว่ามันจะ work หรือไม่?
การเขียนแผนธุรกิจเป็นเหมือนแค่เข็มทิศการเดินทางของคุณ ไม่มีอะไรบอกได้ชัดเจนว่าที่คุณคิดออกมานั้น มันจะเจ๊ง หรือมันจะทำให้คุณรวยครับ
แต่ที่แน่ๆเจ้าเครื่องมือตัวนี้
มันจะช่วยให้คุณวางแผนงานแบบไม่หลงทางครับที่ผมกำลังจะบอกก็คือ ยังไม่ต้องกังวลว่าคุณจะขายมันยังไง
ไม่ว่าคุณจะทำอะไร จะเขียน app หรือพัฒนาระบบขาย
คุณต้องรู้จักผู้ใช้งาน user ของคุณเป็นอย่างดีเสียก่อน ว่าเค้าต้องการใช้มันหรือกำลังหามันอยู่ หรืออาจจะเป็นว่า พวกเขาเหล่านั้นมีปัญหาเกี่ยวกับ xxx และระบบของคุณสามารถช่วยเขาเหล่านั้นแก้ปัญหานั้นได้
ที่จริงแล้วผมอยากให้คุณศึกษาละเอียดลงไปถึงว่า ผู้ใช้งานของคุณกลุ่มอายุเท่าไหร่ ผู้หญิงหรือผู้ชาย ชอบอ่านเนื้อหาหรือสนใจหัวข้ออะไรเป็นพิเศษเลยด้วยซ้ำ
เพราะมันจะช่วยได้มองเห็นภาพมากขึ้น แล้วคุณจะมองเห็นทันที ว่าคุณต้องไปขายที่ไหนตัวอย่างเช่นสินค้า: คุณอยากจะเขียนสคริประบบ iMacro ช่วยกดเพิ่ม LIKE ออกมาขาย
กลุ่มเป้าหมาย : เจ้าของเพจหรือผู้ดูแลเพจ ที่อยากจะเพิ่มจำนวน Like ของตัวเอง แต่ขี้เกียจกดทีละอัน หรือกำลังมองหาเครื่องมือช่วยทำงานของพวกเขา
วิเคราะห์ :
- จากกลุ่มเป้าหมายและสินค้าของคุณ แน่นอนว่า user ต้องรู้จัก iMacro เป็นอย่างน้อย
- ต้องชอบอยู่ในชุมชนหรือมีการให้ข้อมูลแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ iMacro
- ที่ ThaiSEO เป็นชุมชนภาษาไทยใหญ่ที่สุดที่จะให้ความชวยเหลือเรื่องนี้ได้
- สมมติที่ ThaiSEO ยังไม่ค่อยมีใครทำตัวนี้ออกมาขาย
จากการวิเคราะห์ก็น่าจะพอได้คำตอบว่า ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ใน ThaiSEO มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน iMacro และระบบของคุณสามารถตอบโจทย์นี้ได้
ที่เหลือที่ต้องคิดก็คือ ใน ThaiSEO สามารถมีช่องทางไหนลงขายหรือเข้าถึงผู้ใช้งานเหล่านั้นได้บ้าง หรือบางทีอาจเป็นการติดต่อโดยตรงไปที่เจ้าของเพจเลยก็ได้
ขั้นตอนต่อไปก็เรื่อง การพัฒนาระบบ คุณก็ลองเขียนความสามารถของคุณออกมาในกระดาษที่ขีดเส้นตรงกลางแบ่งครึ่ง
โดยอาจจะกำหนดให้ทาง
ซ้ายมือ คือ สิ่งที่คุณทำได้ และสามารถทำได้ดี
ส่วนช่องด้าน
ขวามือ คือ สิ่งที่คุณทำไม่ได้ หรือทำออกมาทีไรขัดใจแม่ทุกที
สมมติว่าคือ คุณคิดว่าตัวคุณเองเมพ Programming และให้ไป Design ก็ไม่เคยถูกใจตัวเองเลย
ถ้าเป็นแบบนี้ ผมแนะนำว่าให้จ้าง outsource เรื่อง design ทำแทนครับ
ไม่มีใครในโลกนี้เก่งทุกอย่าง จงให้คนที่เขาเก่งในด้านนั้นเป็นผู้ช่วยของเราในการทำงานครับ แล้วตัวเราก็จะได้มีเวลาไปทำในสิ่งที่เราถนัดจริงๆเมื่อก่อนผมเองก็ชอบคิดว่าตัวเองเรียนรู้อะไรได้เร็ว ฉะนั้นถ้าทำอะไรไม่ได้ ผมก็จะหัดทำหัดเขียนด้วยตัวคนเดียว เพราะเมื่อก่อนจะชอบคิดว่าจะไปจ้างคนอื่นทำทำไม เรื่องแค่นี้หัดแปปเดียว เดี๋ยวก็เป็น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
ผมคิดว่าผมในตอนนั้น คิดผิด....กว่าจะเขียนอะไรได้หรือหัดอะไรแต่ละตัว หลายอย่างมันก็เกิดท้อเอาไปดื้อๆระหว่างทาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการออกแบบที่ผมไม่ถนัดและไม่ชอบเอาซะเลยถ้าเรามัวไปเสียเวลากับสิ่งที่เราไม่ถนัด มันก็ยิ่งจะใช้เวลาในการพัฒนาระบบนานขึ้นโดยไม่จำเป็น และเผลอๆกว่าจะเสร็จ คู่แข่งก็ยึดตลาดไปเรียบร้อยแล้วก็ได้สิ่งเหล่านี้ทำผม fail ไปหลายโปรเจคแล้วเหมือนกัน
ผิดถูกไม่รู้นะครับ เพราะถ้าเป็นผมผมจะลองเริ่มจากอะไรแบบนี้ครับ
ที่ผมเขียนมาข้างบนนี้ ก็เพื่อต้องการจะบอกให้คุณได้ทราบครับ
การวิ่งตามตลาดว่าอะไรกำลัง hot อะไรกำลัง Trend แต่ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ถนัด งานแบบนี้มันเหนื่อยมากนะครับลองเริ่มจากมองหาสิ่งที่เราถนัด และมันตรงกับความต้องการตลาด แล้วมันจะเป็นการทำงานที่มีความสุขครับ 
ปล. เพิ่มเติมบทความสอนการเขียน Business Canvas เบื้องต้นครับ =>
http://thumbsup.in.th/2012/04/business_model_canvas/ 
ความรู้ทั่วไป
