ส่วนเรื่องหลักฐาน ทำอะไรละครับ ถ้าทำ Astore มันไม่มีค่าใช้จ่ายนี่ครับ ถ้า PPC ก็หลักฐานการตัดเงิน Credit ค่าโฆษณาที่เสียไป ทุกอย่างมันก็มีใบเสร็จหมดนี่ครับ
ก็เพราะว่าคนเป็นสรรพากรจะคิดว่าไม่ต้องลงทุนแบบนี้แหละครับ ผมถึงไม่อยากเสียภาษีมากเท่าไหร่
เพราะเค้าคงไม่รู้ว่ากว่าที่จะมาทำเงินได้ ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ และต้องเสียค่าอะไรต่อมิอะไรมากมาย
บางคนเสียค่าสัมนา บางคนเสียค่าหนังสือ บางคนซื้อลิ้ง บางคนทำเว็บตาแทบฉีกเผื่อจะทำเว็บ pr สูงๆ
เพื่อยิงมาให้ astore อินเด็กได้ ผมคนึงหละที่เคยขาดทุนจาก ppc หลายแสน
ต้องติดหนี้งอมแงมมายาวนาน กว่าจะลืมตาอ้าปากได้ เป็นคนผุ้ไม่มีรายได้เป็นปี
เผื่อจะสร้างเนตเวิร์กของตัวเองได้ แล้วจึงค่อยมาเริ่มได้เงิน
แต่สรรพกรรวมทั้งคนภายนอกไม่คิดว่ามันเป็นรายจ่าย และเป็นการลงทุนของเรา
ค่าแรงและค่าความรู้ของเรากลายเป็นไร้ค่าในสายตาคนอื่น
ถ้าสรรพากรเห็นค่าของความรู้ที่ผมต้องใช้เงิน เพื่อซื้ออีบุ๊ค เพื่อเข้าโปรเจคมากมาย
ทั้งถูกต้มบ้างหลอกบ้าง ทั้งล้มเหลวบ้าง มากมายครับ
ส่วนตัวผมเองซื้ออีบุ๊คฝรั่งไปสิบกว่าครั้ง รวมๆแล้วไม่ต่ำกว่าหกหมื่น
ซื้อโดเมนมาเป็นพัน เจ๊งไปเก้าสิบเปอร์เซนต์ แล้วไหนจะค่าโฮสอีก
รวมกับค่า PPC ที่เจ๊งไปเนี่ย ก็ประมาณ 6 แสนกว่า ที่ผมเป็นหนี้
แต่ไม่ต้องตกใจครับ ผมใช้เวลาปีกว่าๆ ใช้หนี้จะหมดละ เหลืออีกนิดหน่อย
แต่นั่นมันหนี้ตอนที่ผมไม่มีรายได้ เลยนำมาหักลดหย่อนภาษีไม่ได้ เพราะไม่มีรายได้ให้เสียภาษี
แต่วันที่ผมมีรายได้มีคนยิ้มแฉ่งมาแต่ไกลบอกว่าไปเสียภาษีให้ถูกต้องซะ
พอถามว่าหนี้เก่าผมจะลดหย่อนได้มั้ย เพราะนั่นมันคือรายจ่ายของผมนะ
เสียงแข้งๆจากสรรพกรรุ่นคราวแม่บอกมาว่า ไม่ได้ค่ะ เพราะนั่นมันรายจ่ายนานมาแล้ว
ใช่ครับ นั่นมันสองปีแล้วครับ แต่ผมต้องใช้หนี้ทุกเดือนๆละ 3 หมื่นหละ ไม่ให้สนใจใช่มั้ย
จริงๆถ้าผมไปเสียภาษีอย่างคุณ kazama บอกว่า 40(

ที่ลดได้ ซัก 40-80 เปอร์เซนต์ ได้
ผมไม่ขอปแดสิบหรอก ขอหักซัก 60 ก็พอครับ ผมจะเสียทุกปี และจะไม่คิดเลยที่จะบิดพริ้ว
แต่นี่สรรพากรบอกว่า ถ้ามีรายจ่ายก็เอาหลักฐานมา ถ้าไม่มีอย่างมากให้หัก 3 หมื่น
หึหึ แบบนี้แหละที่ผมไม่อยากจ่ายอ่ะ
อย่าถามนะว่าแล้วทำไมไม่เอาหลักฐานว่าใช้หนี้ไปให้เค้าดู
จะบอกว่าผมยืมแม่ตัวเอง จะไปเอาหลักฐานที่ไหนหละครับ
ยุ่งยากมากแบบนี้แหละถึงไม่อยากจ่าย :-\