ผมได้ยกตัวอย่างในการเชื่อมโยงไว้ 7 แบบ โลกอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันนี้ ประสบการณ์ทางด้านออนไลน์เพียงปานกลางคงไม่เพียงพอแล้ว
ก่อนเริ่มหน้าเว็บของคุณควรเป็นตัวเลือกที่ดี โดยปกติคุณต้องการให้หน้าเว็บมีความชัดเจนและสามารถดูดซับได้ง่ายดังนั้นการทดสอบและเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์จะไม่สูญเปล่า พิจารณาสิ่งต่อไปในนี้ในหน้าเว็บของคุณ:
ใช้การทดสอบขั้นพื้นฐานทำการทดสอบผู้ใช้งานเพื่อให้มั่นใจว่าหน้าเว็บสามารถใช้งานง่ายและผู้เข้าชมสามารถเข้าถึงได้ง่ายดาย คุณจะต้องหาบริเวณที่ผู้ใช้งานสับสนว่าควรทำอย่างไรต่อไปในหน้านี้
การทดสอบที่นี่ไม่จำเป็นต้องทำอย่างละเอียด ข้อให้แม่, เพื่อสนิท, ช่างตัดผม ฯลฯ เข้าไปยังหน้าเว็บและจดบันทึกว่าบริเวณที่พวกเขาไม่สามารถไปต่อได้, มีคำถาม หรือไม่กระทำในสิ่งที่คุณอย่างให้พวกเขาทำ จากนั้นลองเปลี่ยนแปลงหน้าเว็บเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นหน้าเว็บที่สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล
ดูที่รูปแบบการคลิกในปัจจุบันดูที่ analytics ของคุณสำหรับ insight ในหน้าเว็บที่เป็นอุปสรรคเพิ่มเติม เครื่องมืออย่าง Clicktail และ Google Analytics สามารถให้ข้อมูลเหล่านั้นได้
ตัวอย่างเช่น ใน Google Analytics รายงานของ analytics ในหน้าเว็บจะให้ข้อมูลว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์คลิกเข้ามายังหน้าเว็บอย่างไร การใช้รายงานนี้คุณสามารถย้ายข้อมูลที่น่าสนใจไปยังบริเวณเด่นๆในหน้าเว็บและ/หรือย้ายข้อมูลที่คุณต้องการเน้นไปยังหน้าเว็บเพื่อทำให้ดูน่าสนใจและ/หรือให้มีส่วนร่วมมากขึ้น
ปรับแต่งเลย์เอาท์ของหน้าเว็บและการคัดลอกลดจำนวนคำในหน้าเว็บ คนอ่านจะสแกนข้อความในหน้าเว็บที่มีเนื้อหาน้อยมากกว่าหน้าที่มีข้อความเยอะๆ ส่วนตัวผมชอบใส่ข้อมูลในหน้าเว็บให้เป็นข้อย่อยๆ cocktail ที่ผมชอบคือ 5-7 คำต้อหนึ่งข้อย่อยและมีข้อย่อยประมาณ 3-5 ข้อในหนึ่งหน้า
จำเป็นต้องพิจารณาองค์รวมทั้งหมดว่าผู้ใช้งานบริโภคข้อมูลและย้ายไปยังขั้นตอนในการซื้อได้อย่างไร อาจเป็นเกมที่สนุกซึ่งต้องพยายามรวมองค์ประกอบให้ได้มากกว่า 1 องค์ประกอบเพื่อให้ได้มาซึ่งการผสมผสานของสไตล์และสารที่น่าสนใจที่สุด อย่าสร้างหน้าเว็บให้เป็นที่ “นิยมในช่วงเลาสั้นๆ” แต่ทำให้มันเวิร์ค!
เคล็ดลับ #1: ย้ำตัวขับหลักของคุณ
ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการคลิกเข้าไปยังข้อเสนอที่ระบุไว้ (เช่น Cyber Monday ลด 20%) และเห็นเพียงเว็บไซต์ทั่วๆไปที่ไม่ได้ระบุถึงข้อเสนอพิเศษใดๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหน้าเว็บควรย้ำเหตุผลที่ผู้ใช้เข้ามายังหน้าเว็บนี้ นอกจากนี้หน้าเว็บยังควรย้ำคีย์เวิร์ดที่นำผู้ใช้งานนั้นมายังหน้าเว็บเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น: หาก PPC ad นำผู้เข้าชมมายังหน้าเว็บ คีย์เวิร์ดคำที่ระบุในโฆษณาควรปรากฏในหัวเรื่องเพื่อให้รู้สึกถึงคีย์เวิร์ดที่ดี (จากโฆษณามายัง landing page) และกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง โดยทั่วไปความต่อเนื่องคือ #1 ใน่แง่ของการยกระดับ
เคล็ดลับ #2: การอ้างเชิงปริมาณเพื่อมองข้ามความเสี่ยง
อาจมีบางคนกำลังพิจารณาเข้าร่วม “คลับ” ของคุณและจ่ายเงินให้กับคุณ มันสามารถช่วยให้รู้ว่าคนอื่นก็สามารถวัดผลจากการกระทำแบบเดียวกันนี้ได้เช่นกัน ผลลัพธ์เชิงปริมาณที่มีผลกระทบด้านความนิยมเป็นเพียงการทำให้มั่นใจถึงความต้องการ
ตัวอย่างเช่น:
50% ของมนุษย์สามารถหางานทำได้
2 ใน 3 ของสมาชิกในคลับของคุณสามารถพบรักแท้
เคล็ดลับ #3: การรวมสิทธิประโยชน์ ความชัดเจนและความภาคภูมิใจ
สิทธิประโยชน์ที่พูดถึงคือสิทธิประโยชน์โดยเฉพาะสำหรับความต้องการของลูกค้าและเพื่อย้ำเตือนผู้เข้าชมว่าทำไมพวกเขาจึงสนใจที่จะคลิกเจ้ามายังโฆษณาของคุณ
เปรียบเทียบวิธีที่ Sears และ Dyson Canada เสนอข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องดูดฝุ่นของ Dyson เว็บไซต์ Sears แสดงคำอธิบายของสินค้าเพียงเล็กน้อย ในขณะที่เว็บไซต์ผู้ผลิต Dyson ทำให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าใจคำอธิบายของสินค้าได้อย่าง่ายดายและชัดเจนถึงสาเหตุที่เครื่องดูดได้รับการพิจารณาเป็นสินค้ายอดเยี่ยม
ด้านบนของปุ่มตะกร้าในเว็บไซต์ Dyson ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าไม่มีค่าจัดส่งสินค้า ในขณะที่เว็บไซต์ของ Sears ได้ระบุข้อจำกัดในการจัดส่งสินค้าฟรี (ซึ่งแจงไว้ในรายละเอียด) ของ “สินค้าที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 65 ปอนด์” และยังบังคับให้ผู้ใช้งานต้องคำนวณค่าใช้จ่ายเอง และสำหรับผลประโยชน์ของทุกๆคน อย่าวางเมาส์บน “ทุกแผนก” โดยไม่ได้ตั้งใจในเว็บไซต์ของ Sears เพราะจะปรากฏผลลัพธ์คำอธิบายของสินค้า Dyson ที่คุณกำลังดูอยู่ในขณะนั้น!
ในทางกลับกันเว็บ Dyson มีการควบคุมทุกอย่าง ผู้ใช้งานสามารถดูสินค้าในรูปแบบ3มิติ รูปภาพที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและติดตามโฆษณาในโทรทัศน์ ส่วน Sears ก็ดูเหมือน… Sears มันชัดเจนว่า Dyson กระตุ้นการขายเครื่องดูดฝุ่น Dyson มากกว่า Sears
เคล็ดลับ #4: หัวเรื่องควรสั้นหรือยาว? หาหัวเรื่องที่ดีที่สุด
ความยาวของหัวเรื่องสำคัญจริงหรือ?
ด้านล่างคือการฝันแปรจากที่เราได้ทดสอบ (ผลเปลี่ยนชื่อบริษัทเพื่อป้องกันความผิดพลาด) ลองอ่านและเดาว่าอันไหนสามารถทำงานได้ดีที่สุด คำตอบอยู่ด้านล่างนี้แล้ว ไม่มีการหลอกลวงใดๆ! อ่านเพิ่มเติม
http://blog.uptopromo.com/?p=1010 