ไม่ถึงอะครับ ประมาณ $7,000-8,000 ต่อเดือนครับ แต่ผมขาย ebay ทุกประเทศนะครับ
ส่วนเรื่องตัดราคา ผมแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางธุรกิจนะครับ
คือ ซื้อสินค้าเป้าหมาย ให้หมดจากตลาดไปเลย สินค้าของผมเป็นรุ่นๆ อะครับ
แต่ละรุ่นใช้เงิน 600k ขึ้นไป ตอนนี้สต็อกผมปาเข้าไปเกือบ 2 ล้านแล้ว
หลังจากใช้วิธีนี้แล้ว คู่แข่งหมดไปเลยครับ แล้วก็ทยอยขายไปเรื่อยๆ และเป็นเจ้าตลาดของสินค้าชิ้นนั้น
สามารถกำหนดราคาตามแต่อุปสงค์ของตลาด
ผมใช้วิธีนี้ตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ก็หมดคู่แข่งตั้งแต่ตอนนั้นเลยครับ
สินค้าชิ้นนี้เป็นคล้ายๆ เงินเดือนประจำของผม
เป็นการรับประกันการมีรายได้ของตัวเอง
ตอนนี้ ผมมีสินค้าที่เตรียมไว้ขายได้ เป็นเวลา 2 ปี ครับ
ขอให้แก้ปีญหาเรื่องขนส่งให้ สำเร็จไปได้ด้วยดีนะคะ

ทุนเยอะมากๆ มองขาดแม้กระทั่งว่า คู่แข่งจะไม่มีมาขายอีกแล้ว
ของ้ราทุนน้อยค่ะ ต้องใช้หัว ถ้าตั้งใจทำก็น่าจะประมาณ 3ปี่
ผมสงสัยเรื่อง การซื้อสินค้าเป้าหมาย ให้หมดจากตลาด ทำไมผู้ผลิตถึงไม่ผลิตสินค้าป้อนตลาดออกมาอีก หรือทำไมคู่แข่งไม่สามารถติดต่อให้ผลิดสินค้าออกมาได้อีก

:

:ถ้าให้เดา คงเป็นสินค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์เสริม บริษัทแม่มีนโยบายการแบ่งจำนวนขายเป็นโซนตามทวีปต่างๆ ถ้าเราเป็นผู้ผลิต เราคงไม่ผลิตเพิ่มตาม Order หรอกค่ะ เพราะมันจะทำให้มูลค่าสินค้าของเราลดลง และการออกผลิตภัณท์ แต่ละรุ่น ต้องใช้เวลา เพราะมันต้องขึ้นกับเทคโนโลยี
มันเป็นสินค้า เทคโนโลยีถูกต้องแล้วครับ แต่ที่ทำได้อาจจะไม่ใช่ประเด็นเรื่องโซนครับ
เป็นเรื่องธุรกิจล้วนๆ จริงๆเรื่องนี้ มันอยู่รอบๆตัวท่านนะครับ
ผมว่าหลายๆท่านคงน่าจะเคยสงสัยว่า ทำไมเราต้องใช้จ่ายกับสินค้าหลายๆอย่าง ทุกๆปี หรือ สองปี ที เช่น โน้ตบุ๊ค ถ้าสมัยนี้ก็ต้อง พวก สมาร์ทโฟน tablet
ทำไมพอมันออกรุ่นใหม่มา accessory รุ่นเก่า ถึงใช้กับรุ่นใหม่ไม่ได้ ทำไมมันชอบออกหัวเสียบ แบบใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลา
(จริงๆ ท่านลอง เอาพวก สายชาร์จ ที่มีหัวเสียบไม่เหมือนกัน มาลองดูข้างใน บางทีท่านจะพบว่า สายไฟ ข้างในมันเหมือนกัน จำนวนเส้นเท่ากัน และมันทำหัวเสียบต่างกันทำไม)
หรือ ทำไม แบตมันต้องเสื่อม ทุกๆ ปี หรือ สองปี ทั้งๆที่เราอยู่ในยุคนี้สามารถไปนอกโลกกับ AXE ได้ง่ายๆ ทำไมมันใช้วัสดุดีๆวะ
(จริงที่บ้านผมมีพัดลมอยู่ตัวหนึ่งยี่ห้อ NATIONAL อายุ ประมาณ 35 ปี จนป่านนี้มันยังหมุนได้ปกติ แต่พัดลมสมัยนี้ทำไมมันต้องเสียภายใน 1-2 ปีด้วย)
หรือ อย่างเรื่อง รถยนต์ก็คล้ายๆกัน ทำไมรถที่ออกใหม่ อะไหล่ พวกไฟหน้า ไฟท้าย กันชน หรือแม้กระทั่ง ไส้กรองอากาศ ทำไมมันไม่สามารถใช้กับรุ่นเดิมได้
แล้วพวกนี้ พอผ่านไปได้ซักพัก ไอ้พวก accessory พวกนี้ ทำไมมันต้องเลิดผลิตด้วยวะ หรือ แบตรุ่นนี้ทำไมมันหาซื้อในตลาดไม่ได้ หรือ พวกไฟหน้า ไฟท้าย กันชน ไส้กรองซึกพักหนึ่ง มันต้องเลิกผลิต
เพราะมันเป็น นโยบายการทำธุรกิจ สมัยนี้ครับ ว่าต้องดูดเงินจากผู้บริโภคให้ได้ ทุกๆปี หรือ 2 ปี หลังๆ เนี่ยเหมือน จะทุกๆ 6 เดือนด้วยซ้ำ
(อันนี้เป็นการตอบคำถามว่า ทำไมบริษัท เค้าไม่ผลิต accessory พวกนี้เพิ่ม เพราะต้องการให้ท่านเปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนรุ่น )
ผมถามว่า แล้วถ้าท่านมาอุดช่องโหว่ ตรงนี้ละครับ
ในยามที่ บริษัท พวกนี้ เลิก ผลิต accessory พวกนี้แล้ว แต่ท่านเป็นผู้เดียว ที่ยังมีสินค้าพวกนี้อยู่ ท่านคิดว่า จะมีคนซื้อของท่านหรือป่าวครับ
โดยเฉพาะใน ebay หรือ amazon ที่รวมกันแล้วก็ประมาณแค่ 400 ล้านคนเอง คุณคิดว่า คุณจะพอขายได้บ้างหรือป่าวครับ
แต่มันไม่ได้ทำได้ทุกกรณีนะครับ มันก็ยังต้องใช้ความพยายามเหมือนเดิมแหละครับ เพราะเรายังมีคู่แข่งเป็นคนจีนอยู่ ไอ้ประเทศนี้สำคัญที่สุด
ถ้ามันไม่ขายตัวไหนละก็ แล้วท่านมีสต็อค ท่านจะกลายเป็น โอเปกของสินค้านั้นทันที เป็นผู้กำหนดทิศทางตลาดโลกกันเลย ฟังดูเหมือนเท่ห์ดีนะครับ
แต่ไม่ง่ายเลย ทำมา 5 ปี ผมก็หามาได้แค่ตัวเดียวเนี่ยแหละครับ แล้วก็ลงทุนกับมันเต็มที่เลย กว่าจะทำได้ต้องอ่านทิศทางของสินค้านี้ ต้องอ่านใจบริษัท
ที่ผลิตสินค้าพวกนี้ ว่ามันจะเอายังไง ต้องคำนวณว่า กับคน 400 ล้านคน เค้าจะซื้อสินค้าที่อีกกี่ปี
ประมาณนี้นะครับ ebay ของผมเป็นแนวใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจครับ พอหาได้แล้วชีวิตนิ่งมากเลยครับ ไม่ต้องดิ้นรนหาของมาขายตลอดเวลา หรืออยู่บน
ความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หรือ จะต้องหยุดธุรกิจเพราะมีคู่แข่ง
แต่ถามว่าขายสินค้าแนวนี้มันสนุกไม๊ ไม่สนุกครับ ไม่มีความตื่นเต้นอะไรเลย เหมือนเปิดร้านขายของธรรมดาทั่วๆไปเลย ไม่ดิ้นรนออก auction เรียกลูกค้า
ไม่ monitor สินค้า เพราะเราเกือบจะไม่มีคู่แข่ง เพราะไม่มีคนจีน ความสามารถเราก็คงที่อยู่อย่างนั้น ไม่ได้พัฒนา รายได้ก็ไม่วูบวาบคงที่ของมันอยู่อย่างนั้น
กลางๆไปเรื่อยๆ เป็นอย่างนี้มา 5-6 ปีแล้วครับ พอถึงเวลา ก็ไปซื้อสต็อกสินค้ามาเก็บไว้ แล้วก็นั่งรอจังหวะปล่อยของ ไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไรเลย
พอเราได้เจอสินค้าแบบนี้แล้ว
ผิดกลับสมัยเริ่มทำใหม่ๆ ชีวิตตื่นเต้นมาก มีแต่ไอเดียในการขาย
จริงๆ ไอเดียที่ใช้ทำธุรกิจ แบบนี้คล้ายๆ การซื้อหุ้นในแนว VI นั่นแหละครับ ต้องมีการคาดคะเนหุ้นที่เราเลือกว่ายั่งยืน หรือป่าว (ผมตั้งชื่อเล่นๆให้ละกันว่า ebay แนว VI)
ส่วน ebay ที่ขายตามฤดูกาล จะออกแนว การซื้อขายหุ้นแบบ short term อะไรประมาณนี้นะครับ ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกต้องหรือป่าว
ซึ่งแนวนี้จะทำกำไรสูงมากในระยะสั้นครับ