ผมไม่รู้นะ แต่ความคิด ผมคิดว่า ยากครับที่เค้าจะให้ผ่าน
ลองหาคนค้ำให้เราสิครับ น่าจะพอได้อยู่
เดียวนี้ ธนาคารไม่ปล่อยเงินกู้คนโดยที่ไม่มีเงินเดือนนี้ยากเอาเรื่องเหมือนกันครับ
IM เพื่อนผมมีเงินหมุนหลัก 40,000 - 50,000 กู้ซื้อบ้านยังไม่ผ่านครับ อีกอย่าง
คุณต้องบอกธนาคารได้ว่า คุณจะกู้เงินไปทำอะไรบ้าง ในเงินที่กู้นั้น และคืนทุนเมื่อไหร่
ได้ต่อเดือนประมาณเท่าไหร่ นั้นคือหลักการของการกู้เพื่อธุรกิจครับ ตอบไม่ได้ก็จบ
เค้าไม่ได้ดูแค่ทำเลหรอกครับ
ผมไม่ได้พูดให้ท้อนะ แต่ผมอยากพูดให้เห็นหลักความเป็นจริง
ส่วนเรื่องส่วนตัวที่บอกว่า
ถ้าติดเรื่องอายุ คงต้องยอมจริง ๆ แล้วครับ และก้มหน้าเป็นลูกจ้างไปทั้งชีวิตถึงจะอึดอัดให้ตายก็ต้องทน
เป็นลูกจ้างไม่ได้น่าอึดอัดขนาดนั้นหรอกถ้าคุณคิดว่า ลำบาก เหนื่อย พอออกไปทำงานส่วนตัว
จริงๆ มันจะเหนื่อยกว่าเป็นลูกจ้าง สาม - สี่เท่าเลยผมบอกตรงๆ มันต้องทำทุกอย่างเองทั้งหมด
แล้วจะยิ่งเครียดกว่าทำงานลูกจ้างอีก เพราะถ้าคุณทำธุรกิจส่วนตัว ถ้าขายไม่ได้จะเอาอะไรกินละ
จริงไหม แต่เป็นลูกจ้างคุณก็ได้เงินเข้ามาเรื่อยๆ เค้าเลิกจ้างคุณก็ยังหาที่ทำงานใหม่ได้
คุณจะต้องมองให้ออก ผมว่าคุณมองไม่ออกนะ ถ้าสมมุตินะ ธุรกิจเจ๊ง คุณก็จะก่อหนี้เพิ่มอีก ชีวิตมันก็จะยิ่งยุ่งยากอ่ะ
บอกตรงๆ สิ่งสำคัญคือ ทำเงินถึงจะมีเงินเพิ่มตั้งหากครับ ไม่ใช่ว่า คุณจะบอกว่าทำไง ถึงจะมีเงิน มันคล้ายๆแต่คนละความหมายเลย
ส่วนเริ่มต้นช้าไปไหม ไม่เกี่ยวที่ช้าไม่ช้าครับ มันเกี่ยวว่า คุณพร้อมจริงๆหรือเปล่า พร้อมที่จะเหนื่อยกว่านี้ไหม
ผมบอกได้แค่นั้นและ เพราะว่าผมก็ไม่ได้เก่งอะไรมากใช้ชีวิตแบบเดือนต่อเดือนไปเรื่อยๆ
ส่วนตัวผมพร้อมเหนื่อยเต็มที่นะครับ
อย่างที่ผมพอจะอธิบายไปข้างต้น สงสัยไม่หมด คือ
งานประจำที่ทำ ผมจะคงอยู่ที่เดิม เพราะผมจะค่อย ๆ ขยับขยาย ไปเรื่อย ๆ โดยมีแฟนและเพื่อนของแฟน+เพื่อนของผมเข้ามาช่วย
ซึ่งหลัก ๆ จะแบ่งวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่ม เนื่องจากขาดเงินในการดำเนินธุรกิจ
สักนิดนะครับ ทำงานตั้งแต่ อายุ 16 ไม่รู้ใครเคยเจอเหมือนผมหรือเปล่า
คือ ผู้บริหารต้องการจะได้ ทั้ง ๆ ที่เขาก็รู้ว่ามันไม่ได้ มากเข้าๆ เขาก็กดดันให้เราออก
จนสุดท้ายก็ทนกดดันไม่ไหว (เขากดดันหนักจริง ๆ ครับ เรียกได้ว่า เกือบทั้งวัน ทุกวันเลย)
เปลี่ยนงานมา 3-4 ที่เจอแบบนี้เหมือนกันหมด
จนผมหมดความรู้สึกที่จะก้มหน้าเป็นลูกจ้างไปทั้งชีวิตแล้วครับ