ถ้ามองอีกมุมก็ถือว่าดีแล้วที่อาจารย์ชนะคดี เพราะไม่อย่างงั้นทั้งโลกสะเทือนจริงๆ เนื่องจากเวลาเราจ่ายเงินซื้ออะไรมาสิทธิ์ก็ยังคงเป็นของคนขายอยู่ เช่น ซื้อกระเป๋ายี่ห้อดังราคาแพงมาใช้เบื่อแล้วสภาพยังดีจะขายต่อเป็นมือสองก็ต้องไปขออนุญาตตัวแทนจำหน่ายก่อน , ซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านพอมีเก็บไว้เยอะๆ จะเอามาชั่งกิโลขายก็ต้องไปขออนุญาตก่อน , หรือแม้กระทั่งหอสมุดจะเอาหนังสือที่มีส่งต่อหมุนเวียนไปที่อื่นก็อาจต้องไปขออนุญาตก่อนเพราะเข้าข่ายการเปลี่ยนความเป็นเจ้าของ
สรุปว่าเราจ่ายเงินซื้ออะไรมาแล้ว ของสิ่งนั้นก็ควรจะเป็นสิทธิ์ของเรา เราจะทำอะไรกับของสิ่งนั้นก็ได้ ไม่ใช่ว่าสิทธิ์ยังเป็นของคนขายอยู่
ความจริงมันเป็นงั้นอยู๋แล้วครับ แต่คนไทยที่ทำเนี่ยพูดจริง ๆ คือจงใจทำเพื่อการค้าอย่างชัดเจน ไม่ใช่แบบที่คุณพูดมาครับ เวลาตัดสินเค้าก็ดูเจตนาด้วยอยู่แล้วครับ
