ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comความรู้ทั่วไปE-commerceการวิเคราะห์ตลาด มันทำกันยังไงเหรอครับ ผมอยากเป้นเจ้าของธุรกิจ
หน้า: 1 [2] 3   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: การวิเคราะห์ตลาด มันทำกันยังไงเหรอครับ ผมอยากเป้นเจ้าของธุรกิจ  (อ่าน 32737 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
bsuppakorn
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 11:26:57 »

สุดยอดมากครับ แต่ละท่าน ได้ความรู้เยอะ ส่วนตัวผมไม่ค่อยเก่งนักน่ะครับ แต่ของแชร์ด้วยน่ะ (ธุรกิจตัวเองยังกระท่อนกระแท่นอยู่เลยยยย อิอิ)

สำหรับผมน่ะครับ

มีอยู่ 2 อย่างที่ผมวิเคราะห์

1. STP Marketing
2. Marketing Mix (4P's หรือ 7P's)

เรื่องแรก STP Marketing คือ การแบ่งกลุ่มลูกค้า กำหนดลูกค้าเป้าหมาย และกำหนดตำแหน่งของสินค้าเราเมื่อเปรียบกับคู่แข่ง

ตามตัวเลยครับ S = Segmentation T = Targeting P = Positioning

การแบ่งกลุ่มลูกค้า ก็แบ่งตามประเภทที่เราต้องการได้เลย อาทิ ชาย – หญิง อายุ รายได้ ความชอบหรือความสนใจเรื่องต่างๆ หรือเรียกอีกนัยว่าพฤติกรรม
หลังจากที่แบ่งแล้วเราก็เลือกเป้าหมาย เช่น ชาย อายุ 25 ปีขึ้นไป รายได้ 15,000 บาทขึ้นไป ชอบกีฬาฟุตบอล ( ตย. สินค้าหรือบริการเกี่ยวกับฟุตบอล)
หลังจากนั้นเราเปรียบเทียบเรากับคู่แข่งในตลาดในแต่ละประเด็นของสินค้า อาทิ ราคา การใช้งาน เป็นต้น

เรื่องที่ 2 Marketing Mix
สำหรับการขายสินค้า ประกอบด้วย 4P คือ product Price Place Promotion
แปลตามตัวเลยน่ะครับ เรื่องที่เราต้องทำการบ้าน
1. ผลิตภัณฑ์ หรือสินค้านั้นเอง
2. เรื่องการกำหนดราคา
3. ช่องทางการจัดจำหน่าย
4. การสิ่งเสริมการตลาด (การประชาสัมพันธ์ การโฆษณาต่างๆ)

มีส่วนไหนผิดพลาดขออภัยด้วยน่ะครับ
บันทึกการเข้า

ศูนย์บริการงานสื่อสิ่งพิมพ์ โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และถ่ายเอกสารด้วยระบบ Digital Copy รองรับงานกว่า 100,000 แผ่นต่อวัน พร้อมบริการเข้าเล่มทุกประเภท
chinnawong
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 41
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 11:35:45 »

มาเก็บความรู้เพิ่มเติมด้วยคนครับ
บันทึกการเข้า

alive4limited
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 165



ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 11:47:18 »

เข้ามาเก็บความรู้ ครับผม ขอบคุณมากครับ  wanwan017
บันทึกการเข้า

ดูทีวี ดูหนัง ดูบอล HD สดผ่านมือถือ รองรับ ios/android #www.odm4fun.com [mobile Phone only]  #PM ขอรับ ID+รหัสผ่าน ทดลองใช้ก่อนได้
LineID : alive4limited [24ชม.]
MD.18
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 287
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,008



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 12:13:27 »

บทความการเริ่มต้นทำธุรกิจที่ดี การวิเคราะห์การตลาด
การวิเคราะห์การตลาด... เป็นขั้นตอนแรก ๆ ในกระบวนการทำธุรกิจต่าง ๆ ที่มีอยู่บนโลกมากมาย ทั้งบางคนคิดเอง หรือบางคนก็เป็นคนต้นคิดแล้วก็มีคนต่อยอดไปอีกมากมายนับแสนนับล้าน ทีนี้เรามาดุกันว่า การวิเคราะห์การตลาดนั้นเป็นอย่างไร มีข้อดีอย่างไรในการวิเคราะห์การตลาด และที่สำคัญ มันจำเป็นต้องทำไหม บางคนบอกว่า ฉันอยากที่จะขายกาแฟฉันก็จะขายเลย ไม่มานั่งคิดให้ปวดหัวหรอก เพราะการขายก็คือธุรกิจ..... ซึ่งจริง ๆ ไม่ผิดครับที่คิดอย่างนี้ เพียงแต่เป็นเรื่องที่ตัวเองไม่รู้ครับว่า ถึงแม้คุณจะทำอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องของธุรกิจ ในสมองของคุณจะต้องมีการคิดวิเคราะห์ไม่มากก็น้อยครับ ในเรื่องของการตลาด ว่าจะทำอย่างไร เพราะหลักความคิดในการทำธุรกิจก็มีไม่กี่อย่างครับ ...เริ่มต้นก็ กลยุทธ์พื้นฐาน  5W1h
 - ขายอะไร what
 - ขายให้ใคร who
- ขายทำไม why
- ขายเมื่อไหร่ when
- ขายที่ไหน where
- ขายยังไง how

เพราะมันเป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจ ที่เรา ๆ ท่าน ๆ ต่างก็รู้ดีว่าการทำธุรกิจ อะไรก็ได้ สักอย่างหนึ่ง ยังไงมันก็ต้องผ่านกระบวนการวิเคราะห์การตลาดมาแล้วทั้งนั้นถึงจะเริ่มลงมือทำได้ บางคนอาจคิดเยอะ บางคนอาจจะคิดน้อย แต่ก็ต้องคิดกันอยู่ดี

การวิเคราะห์การตลาด อาจจะแบ่งเป็น สองส่วนใหญ่ ๆ คือ การวิเคราะห์ตลาดภายใน  และการวิเคราะห์ตลาดภายนอก  การวิเคราะห์ตลาดภายในก็คือ การดูว่าในช่วงเวลาแต่ละช่วงของสินค้าชนิดนี้นั้นเป็นอย่างไร  อดีต ปัจจุบัน แนวโน้มอนาคต ดุว่า เมื่อก่อน กาแฟเป็นอย่างไร มีการใส่อะไรไปบ้าง และใครเป็นผู้นำ ใครตาม ใครได้เปรียบ ใครอยู่ตำแหน่งไหน ยิ่งเขียนรายละเอียดเยอะ เราก็จะได้เห็นความจริงเยอะ และเวลาวิเคราะห์จะง่ายขึ้นไปในกระบวนการออกกลยุทธ์การตลาด เมื่อเรามองดุว่าแนวโน้มในปัจจุบันเป้นอย่างไร คนกินกาแฟเพิ่มมากขึ้นอย่างไร มีราคาเพิ่มไหม แก้วละกี่บาทแล้ว หรือมีกาแฟทางเลือกไหม เราก็ต้องมองให้ละเอียด ใช้เวลาในส่วนนี้ให้เยอะพอสมควรแต่อย่ามาหยุดตรงขั้นตอนพวกนี้ เพราะมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งในร้อยของการวิเคราะห์

เมื่อเราดูตลาดภายในแล้ว เราก็ต้องมามองดู วิเคราะห์การตลาดภายนอกว่าเป็นอย่างไร ก็คือ ภายนอกของสินค้านี้เป็นอย่างไร พวกกฎหมายการขายของเป้นอย่างไร  กาแฟที่ไหนมีแนวโน้มที่จะดัง หรือพวกราคาของกาแฟในประเภทที่เป็นคนละ Line ของสินค้าเรา เราก็ต้องดูไว้ด้วยเพราะทุกอย่างมันกระทบกันอยู่แล้ว มองให้รอบด้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งด้านการแพทย์ว่า คนกินกาแฟไปแล้วเป็นอย่างไร ซึ่งการวิเคราะห์ตลาดภายนอกนั้นเราจะไม่สามารถควบคุมได้ เพียงแต่เราต้องรู้เพื่อคิดว่าแนวโน้มมันจะเป็นอย่างไร

เมื่อวิเคราะห์การตลาดทั้งภายในและภายนอกเสร็จแล้ว ก็จะมาถึงส่วนของการวิเคราะห์ STP พวก Segment ของสินค้า กาแฟอะไร กระป๋อง หรือกาแฟโบราณ หรือเป็นธุรกิจประเภทไหน  และตัว Traget ของเราว่าเป็นใคร เอาให้ละเอียด ระบุให้ชัดว่าเป็นใคร ผู้ชาย หญิง อายุเท่าไหร่ รสนิยมเป้นอย่างไร บ้านอยู่แถวไหน อาชีพอะไร วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและเป้าหมายหลัก รอง และท้ายสุด ทำเป็นข้อ ๆไป และวิเคราะห์ตัวสุดท้ายของงส่วนนี้ก็คือ position ของเรา เราอยู่ตรงไหนในอวกาศอันกว้างใหญ่ สินค้าเรา คืออะไร อร่อยแพง  เร็วถูก  ซึ่งมีการจับคู่กันเยอะในส่วนของตัวแปรการตั้งตำแหน่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกว่าเราจะต้องเจอคู่แข่งประเภทไหนบ้าง ใครเป็นคู่แข่งเรา ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งใกล้เคียงกับเรา วึ่งตรงนี้เราต้องออกไปสำรวจตลาดจริง ๆนะครับ ไม่ใช่ว่ามานึก นั่งเทียนเอาเองโดยไม่ได้ดูสภาพความเป็นจริง

เมื่อเราวิเคราะห์มากในส่วนหนึ่งแล้ว ให้เรานั่งคิดทบทวนและอ่านข้อมูลไป ๆ มาๆ ให้ดีก่อนจะไปทำในขั้นตอนต่อไปว่าขั้นต่อไปข้างหน้าเราต้องมาทำอะไรอีก ไม่ว่าจะเป็นดูในเรื่องของ 5’m of marketing   4p's  marketing behavior และรวมไปถึงแผนการตลาด กลยุทธ์การตลาด แผนการเงิน แผนฉุกเฉิน และอีกมากมาย ซึ่งคุณจำเป็นต้องรู้

แต่ก็เดี๋ยวจะยาวเป็นบทความคุณภาพ  จริง ๆ ก็ต้องหาตำราไว้อ่านเรื่อย ๆและครับ เพราะโลกเปลี่ยน ตำราก็ต้องเปลี่ยน  แต่หัวใจของธุรกิจไม่เคยเปลี่ยน..... นั่นคือ ทำธุรกิจต้องมีกำไร 

และ หัวใจที่ยึดมั่นเสมอมา  "ชื่อเสียงมาก่อน  เงินทองจะตามมา"


ไม่รู้ตรงคำถาม หรือมีประโยชน์หรือป่าวนะ.... แค่อยากแชร์และให้ดูแนวทาง การเขียนบทความให้คุณภาพ เพราะเห็นบางงานของลูกค้าเราไปจ้างคนเขียนบทความละ ไม่ได้เรื่องเลย -  - จ้าง 300คำ เขียนมา 270 กว่าคำ และก็วนไปมาพยายามทำให้ข้อความยาว โดยดูแล้ว ไม่มีประโยชน์เลยบางบทความ


ขอบคุณครับ  wanwan017
บันทึกการเข้า

ติดต่อทางเมล์ [email protected] by ทวีศักดิ์  line : 0862600055

คิวงานว่าง !!
click2charm
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 611
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,349



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 12:39:37 »

ก่อนอื่นแนะนำการวิเคราะห์ ปัจจัยภายนอกก่อนน่ะครับ ซึ่งหากเป็นผู้บริหาร ควรต้องรู้ และเข้าใจเรื่องพวกนี้ให้มาก ๆ
MC - STEPS
-M = Market คือ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
-C = Competition คือ สถานการณ์การแข่งขัน
-S = Social คือ ค่านิยมทางวัฒนธรรมของสังคม เช่น การใช้สินค้าที่มียี่ห้อ
-T = Technology คือ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
-E = Economic คือ สถานการณ์
-P = Political & Legal คือ สถานการณ์ของการเปลี่ยนแปลงเรื่องกฎ ระเบียบต่าง ๆ
-S = Suppliers คือ กลุ่มผู้จำหน่ายวัตถุดิบ / กลุ่มผู้ผลิตและเครือข่าย

STP Analysis
- Segmentation จะเป็นการแบ่งส่วนตลาดออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ โดยใช้หลักพฤติกรรมศาสตร์ ประชากรศาสตร์ จิตวิทยา เป็นต้น  อันนี้ศึกษาเพิ่มเติมได้น่ะครับ มีเยอะในเน็ต
- Targeting เมื่อทำการแบ่งส่วนตลาดออกมาแล้ว ให้ทำการกำหนดกลุ่มเหมายให้ชัดเจน เพื่อทำการตอบสนองตลาดนั้น ๆ ครับ
- Positioning  อ่ะ กำหนดตำแหน่งคุณค่าทางการตลาดให้เขาหน่อย เผื่อเขาจะได้ปลื้ม ๆ เน๊อะ

ผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพน่ะครับ  ตัวอย่างรองเท้าฮาดี้ ๆ
Segmentation ผมทำการแบ่งลูกค้าโดยใช้หลักประชากรศาสต์ ดังนี้ เพศหญิง วัยรุ่น วัยกลางคน วันผู้ใหญ่ และแบ่งตามพฤติกรรม คือ ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง
Targeting ผมเลือกกลุ่มผู้หญิง วันรุ่น และวัยกลางคน ที่ชอบเล่นกีฬา เป็นกลุ่มเป้าหมาย สำหรับผลิตภัณฑ์นี้
Positioning รองเท้าฮาดี้ ใส่สบาย คล่องตัวง่าย ยังกะนินจา

ส่วน Marketing Mix ที่เห็น ๆ กันบ่อย ๆ จะมีอยู่ 4Ps กับ 8Ps น่ะครับ  ตรงนี้ หากเป็นมือใหม่ แนะนำให้วิเคราะห์ 4Ps ให้เข้าใจถ่องแท้ก่อน
เพราะหลัก ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมากครับ  สำหรับสิ่่งที่ผมจะแนะนำน่ะครับ จะเป็นการมองในเรื่องของ ผู้บริโภคด้วย นั้นคือ 4Cs

4Ps Vs 4Cs
P1 - Product ในที่นี้หมายรวมถึง สินค้า บริการ ไอเดีย นั้นคือสิ่งที่เราต้องนำเสนอแก่ลูกค้าครับ 
C1 - Customer Solution  ผู้บริหารควรมองกลับไปยังผู้บริโภคด้วย ว่ามีความต้องการอะไร แนวคิดนี้เป็นแนวคิดการตลาดยุคใหม่น่ะครับ

P2 - Price  เป็นการกำหนดราคา ที่เหมาะสม สำหรับสินค้าและบริการนั้น ๆ ซึ่งการกำหนดราคาจะมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยุ่กับนโยบายของแต่ละองค์กรจะเลือกใช้ ศึกษาได้เพิ่มเติมครับ
C2 - Cost Solution  สำหรับต้นทุนตรงนี้ ในฐานะที่เราคือเจ้าของสินค้า ควรมองที่กระเป๋าเงินของลูกค้าด้วย ว่าอำนาจในการจับจ่ายใช้สอย มีมากน้อยเพียงใด และมีวิธีให้ลูกค้าจ่ายได้ลูกลงหรือไม่

P3 - Place  ช่องทางในการจัดจำหน่าย เข้าถึง ครอบคลุม หรืออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าเป้าหมายได้มากน้อยแค่ไหน
C3 - Convenience Solution มองย้อนกับมาที่ลูกค้าเป้าหมาย ตามที่ผมยกตัวอย่างมาข้างต้น ต้องพิจารณาว่าลูกค้าเราสะดวก ซื้อที่ไหนมากที่สุด แล้วทำการตอบสนองนั้นซะ

P4 - Promotion  สำหรับข้อนี้ หลาย ๆ คนอาจมองไปที่ การลด แลก แจก แถม สะสมแต้ม ต่าง ๆ แต่จริง ๆ แล้ว นั้นเป็นเพียง ส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการขายเท่านั้นครับ  สำหรับโปรโมชั่น จะประกอบไปด้วย การทำ PR , การขายตรง , การขายโดยพนักงาน , การโฆษณา , การส่งเสริมการขาย นั้นเอง  ซึ่งมีหลากหลายเครื่องมือมาก ๆ ในปัจจุบัน
C4 - communication Solution  สำหรับส่วนนี้จะเป็นการสื่อสารไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย นั้นหมายถึงว่า หากคุณเป็นผู้บริหาร คุณควรเข้าใจว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ชอบไปที่ไหน ชอบอ่านนิตยสารอะไร ชอบเล่นเว็บไหน ชอบสังคมอะไร เพื่อที่จะทำการสื่อสารได้ตรงกลุ่ม และมีประสิทธิ์ภาพมากที่สุดน่ะครับ

ปล.ความรู้ดังกล่าวข้างต้น อาจผิดไปบ้าง เนื่องจากได้ยินมานิดหน่อย มีแฟนเป็นการตลาดน่ะครับ   ตอนนี้โสด Tongue Tongue
บันทึกการเข้า

manchy
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 85
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,164



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 12:41:11 »


ขอบคุณครับ นึกว่าเรียนการตลาด
บันทึกการเข้า

iLhay
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 411
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,368



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 12:45:28 »

หลักๆที่ผมทำทุกวันนี้ครับ

- STP Analysis
- SWOT Analysis
- 4C
- 4P

ความรุ้พวกนี้จริงๆหาได้ตาม internet ครับ หรือจะอ่านที่ท่าน click2charm บอกไว้ก็ได้ ใช้แค่นั้นละครับ ที่เหลือ ประยุกต์เอง

เรื่องพวกนี้ถือเป็น Business Strategy ครับ บอกตรงๆ 4 หัวข้อนี้ถ้าเอาจริงใน business กระดาษรีมนึงยังจะไม่พอเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 มีนาคม 2013, 12:46:15 โดย iLhay » บันทึกการเข้า

Wordpress Hosting


Wordpress Hosting เริ่มต้นปีละ 790 บาท NVMe SSD เร็ว 9000MB/s เร็วกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
Cloud Server เริ่มต้นเพียงเดือนละ 159 บาท พร้อมใช้ภายใน 1 นาที ผ่านระบบอัตโนมัติมีทั้ง Linux / Windows / DirectAdmin
สอบถามข้อมูลและแจ้งปัญหา 02-105-4417 ตลอด 24 ชั่วโมง
click2charm
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 611
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,349



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 12:58:52 »


ขอบคุณครับ นึกว่าเรียนการตลาด

อิอิ  Tongue Tongue Tongue
บันทึกการเข้า

chatippong1
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 208



ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 13:12:06 »

สินค้าคุณคือ .........

คุณมีวัตถุประสงค์แลเป้าหมายอย่างไร

STP Analysis
SWOT Analysis
Marketing MIxs (4Ps สำหรับสินค้า 7Ps สำหรับบริการ)
5Force Model (สำหรับธุรกิจใหม่)

ลองค้นหาและศึกษาหัวข้อเหล่านี้ดูครับ
แนะนำรายการ อ่านเกมอ่านกลยุทย์ ของ อ.ธันยวัชย์ ลองชมดูครับ สนุกและได้แง่คิดการตลาดเยอะมาก ( ช่องGMM ONE ) ยูทูปน่าจะมีครับ
บันทึกการเข้า
CyberM
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 148



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 13:55:56 »

เก็บข้อมูลครับ ขอบคุณมากสำหรับทุกความคิดครับ เป็นประโยชน์มากๆ
บันทึกการเข้า

้ตรายางด่วนเชียงใหม่
Line ID: berm2556
towerlove
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 883



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 23 มีนาคม 2013, 17:16:36 »

สุดยอดไปเลยคร้าบ ได้ความรู้ ขอบคุณครับ  wanwan017
บันทึกการเข้า

chinnawong
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 41
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 24 มีนาคม 2013, 21:36:55 »

การตลาดมันเป็นทั้งศาสตร์และศิลปะครับ ผมลองอ่านหนังสือหลายๆเล่มแล้ว แนวทางมันก็คล้ายๆกันครับ มันอยู่ที่บ้านประยุกต์ครับ ลองหาความรู้หลายๆ ทาง มาประกอบกันแล้วแล้วก็ลองทำครับ ลองผิดลองถูก บางทีคุณอาจจะเจอแนวทางของคุณเองก็ได้ 
บันทึกการเข้า

deebedding
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 199
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,783



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 24 มีนาคม 2013, 22:05:49 »

การวิเคราะห์ตลาด เป็นการศึกษาข้อมูลตัวแปรต่างๆที่อยู่ใน "ตลาด" ครับ พูดภาษาชาวบ้านแบบเข้าใจกันง่ายๆ ลองนึกถึง ตลาดสด ห้างสรรพสินค้าครับ แล้วค่อยมองรายละเอียดอื่นๆ ซึ่งผมจะขอแนะนำเป็นกึ่งวิชาการ คือความรู้ที่มีอยู่ในตำรา กับความรู้ที่มันมีอยู่จริงแต่ไม่มีใครนึกหรือรู้ว่ามันมีอย่างนี้ด้วยครับ บางเรื่องที่ไม่จำเป็นก็ขออนุญาตตัดออกไปน่ะครับ

1. มูลค่าตลาด หมายถึง ยอดรวมการค้าขายในธุรกิจนั้นๆ เช่น ตลาดเครื่องดื่ม, ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค, ตลาดสินค้าเสื้อผ้า, ตลาดกาแฟ, ตลาดสื่ออินเตอร์เน็ต, ตลาดอีคอมเมิรซ์, ฯลฯ หมายถึงยอดรวมเม็ดเงินที่สะพัดในตลาดนั้นๆ ไม่ว่าจะยอดขาย เงินไหลเวียนในระบบ ซึ่งสำหรับผมจะมองเรื่องนี้ก่อน เพื่อเลือกธุรกิจ ซึ่งตามธรรมชาตของตลาด ตลาดใหญ่ๆ เม็ดเงินสะพัดเยอะๆ จะหมายถึงธุรกิจที่มีคุณภาพ คือ ธุรกิจที่ยั่งยืน (100 ปี ก็ยังทำกันอยู่) กับธุรกิจที่กำลังเป็นที่นิยม (นิยมสมัย) และนั่นหมายถึงอุปสรรคจากการที่จะมีคู่แข่งอยู่เป็นจำนวนมาก การสร้างแบรนด์ใหม่ๆขึ้นมาในตลาด หรือแจ้งเกิดจนฮิตติดตลาด จะใช้เวลา และมีโอกาสยากเพราะเจ้าใหญ่เค้าก็มีกลยุทธ์มากมายในการรักษาพื้นที่ในตลาดของเค้าไว้ แต่สำหรับผมก็มีข้อดีบางอย่างอยู่คือ ตลาดยิ่งใหญ่ segment หรือตลาดย่อเฉพาะทางในตลาดธุรกิจนั้นๆ มันก็ผุดกันเป็นดอกเห็ดเหมือนกัน จึุงมีช่องให้เราเดินและเติบโตได้เสมอ ไม่ว่ากี่ยุคสมัย เพียงแค่เราอาจต้องสร้างตลาดนั้นขึ้นมาเอง หรือเลือกเส้นทางตีเมืองให้เป็น track ที่เป็นเกมส์ของเราเองครับ และนอกจากนี้ยังอาจหมายถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ เช่นตลาด local (ท้องถิ่น) ในเมือง นอกเมือง ในประเทศ ต่างๆประเทศ และยังหมายถึงในแง่อัตราการเติบโตของตลาด ว่ากี่เปอร์เซ้นต์ต่อปี ซึ่งข้อมูลจุดนี้จะเป็นข้อมูลที่แบรนด์ใหญ่ๆ เค้าจะมีข้อมูลและสถิติอยู่ในมือครับ โอกาสพลาดเค้าจึงน้อยกว่าเรา

นอกจากนี้ยังสามารถมองในมิติของการ market share ว่าใครครองสัดส่วนในตลาดอยู่เท่าไหร่ เปรียบเสมือน ก๊กต่างๆในแผนที่ตลาดครับ

2. สินค้า ตัวแปรที่สำคัญมากตัวนึง เพราะจะประกอบไปด้วยมิติหลายๆมิติ ที่ไม่ใช่มองที่ตัวสินคัาที่เป็นวัตถุที่จับต้องได้เท่านั้นครับ แต่ยังหมายถึงการสร้างแบรนด์ การ dance ของสินค้า ว่าโดดไปเซ็กเมนต์ไหนได้บ้าง หรือไปเกี่ยวเนื่องกับสินค้าคู่ขนาน หรือสินค้าทดแทนตัวใกล้เคียงตัวไหนบ้าง เป็นการมอง position ของสินค้า ว่าเป็นแบรนด์ระดับใด มอง location ว่าจัดจำหน่ายหรือวางสินค้าที่ไหนบ้าง modern trade, soho, etc., การมองสินค้าว่าสร้างแบรนด์เจาะกลุ่มใด, อายุและวัย, หรือเลือกวางตนเองสำหรับผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์แบบไหน มาตรฐานที่ได้รับเพื่อสร้างความอุ่นใจและน่าเชื่อถือ

นอกจากนี้ ยังเป็นการมองสินค้าทีวัฏจักรการเติบโตและเสื่อมสลาย เช่น ดาว นม เด็กมีปัญหา สุนัข เหมือนในตำรา แต่ยังมองในรูปแบบอื่นๆ ได้ คือสำหรับผมจะมองเป็น "คน" หรือ "สิ่งมีชีวิต" เพราะความจริง ธุรกิจ หรือสินค้า เอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้มีแค่ 4 สถานะ และยังสลับสถานะกลับไปกลับมาได้ตลอด

และยังหมายถึงการมอง วงจร หรือขั้นตอนของสินค้าในตลาด เช่น วัตถุดิบ  การขนส่ง กำลังคน เงินทุน แหล่งเงินทุน ทำเล หรือตลาดวางของ ต้นเหตุที่มาของความต้องการสินค้า ต้นเหตุความเสื่อมสลายในตัวสินค้า สินค้าใน line ใกล้เคียงกัน สินค้าทดแทน เซ้กเมนต์ย่อยในตลาด เช่น เครื่องดื่ม มีน้ำเมา, น้ำอัดลมหรือน้ำสี, น้ำผลไม้, กาแฟ, น้ำเปล่า, ฯลฯ ยังอาจมีย่อยเป็น น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ น้ำดื่ม beauty ก็ว่ากันไปแล้วแต่จะคิดกันได้ครับ ล่าสุดนี้ผมเริ่มเห็นขยายเซ็กเมนต์ กันออกมาแนวประมาณว่า เครื่องดื่มสมุนไพร, collagen, รวมไปถึงน้ำจำพวกใช้ทำอาหารได้สำเร็จรูป เช่น น้ำแกงส้มใส่ขวด เทใส่ชามใส่ผักใส่เนื้่อแล้ว wave กินได้เลย

3. ลูกค้า ในตัวแปรข้อนี้ ผมแนะนำให้หาอ่านเอาได้ทั่วๆไป ครัีบ ว่าดูอะไรกันบ้าง เพราะจะมีพื้นฐานเหมือนๆกันหมดทุกธุรกิจครับ เช่น อายุ, วัย, เพศ, สถานภาพ, การศึกษา, ไลฟสไตล์การดำเนินชีวิต, ศาสนา, ฯลฯ แก่นแท้ของมันคือการมองที่ "ความต้องการ" ครับ พูดง่ายคือ รักโลภโกรธหลง ของมนุษย์นั่นแหละครับ แต่วิธีมองที่ถูกต้องคือ การมองด้วยความเข้าใจ ถึงที่มาที่ไปของมนุษย์ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นครับ (ตถตา-มันเป็นเช่นนั้นเอง) จะทำให้เราธรรมชาติของลูกค้าได้ ว่าเราควรนำสินค้าไปเจอกับลูกค้าเรายังไง และควรวางตำแหน่งสินค้าเราให้โดนใจแบบไหนครับ และยังอาจหมายถึง การเลือกทำตลาดกับลูกค้าว่า ทำที่สินค้าก่อน หรือทำที่ลูกค้าก่อน เพราะบางครั้งการทำตลาดเน้นไปที่ตัวสินค้าก่อน อาจจะเหมาะกว่า เดี๋ยวลูกค้าตามมาเอง ก็เป็นการเลือกที่เหมาะสมและคุ้มกว่าก็ได้ เช่นการสร้างนวัตกรรม เป็นต้น

4. สภาพความเคลื่อนไหวหรือสภาพความรุนแรงในตลาด ตรงนี้หมายถึง การมองที่กิจกรรมที่เกิดขึ้น, ปริมาณข่าวสารเกี่ยวกับตัวสินค้า, ปริมารการออกอาวุธของผู้ร่วมแข่งขันในตลาด, บทสรุปการแข่งขันในแต่ละช่วงว่า บาดเจ็บล้มตาย หรือเสวยสุขกันมากน้อยขนาดไหน หลังสงครามสงบ คล้ายๆกับการมองว่าตลาดนั้นๆ เป็นประเทศสงบสุข หรือประเทศสงครามเย็น หรือประเทศสงครามกลางเมืองรบกันทุกวัน ประมาณนั้นครับ

5. กลยุทธ์และกลไกในตลาดนั้นๆ เป็นการมองว่าในธุรกิจหรือตลาดสินค้านั้นๆ มีการใช้กลยุทธ์อะไรกันบ้าง โดยส่วนตัวผมจะศึกษาย้อนกลับไปไกลๆหลายๆปีเลยครับ และสะสมเป็นกลยุทธ์ของเราเอง เอาไว้สู้กับคนอื่นเค้า เพื่อป้องกันธุรกิจของเรา และลดช่วงเวลาแนะนำตัวผู้ประกอบการรายใหม่ในตลาด ที่จะมีเจ้าใหญ่เข้ามาทำความรู้จักเป็นจำนวนมาก (อันนี้เอาฮาครับ มันเป็นเรื่องจริง และมีอยู่จริงครับ แต่ผ่านช่วงนี้ไปได้จะสนุกครับ) โดยส่วนตัวผมจะมองหลายๆมิติ เช่น การมองกลยุทธ์ว่าเป็นแนวนอน แนวลึก บางคนมีแนว z ด้วย, การมองระดับชั้นของกลยุทธ์ เช่น คิดกี่ชั้น 2 ชั้น หรือ 3 ชั้น, การมองว่าเป็นเกมส์ คือกลยุทธ์หลายๆอัน จับใส่ cubic เป็นหลายๆชั้นหลายๆมิติ แล้ววางเป็นแถวๆ เป็นขั้นๆ เพื่อผลลัพธ์สุดท้ายที่เจ้าของตลาด หรือเจ้าใหญ่ในตลาดเค้าวางเอาไว้ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่แท้จริง ซึ่งส่วนใหญ่เค้าจะไม่บอก และเก็บไว้ในใจครับ

6.ปัญหาและอุปสรรค ศึกษาปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในตลาดนั้นๆ เช่นเดียวกับที่ศึกษากลยุทธ์ จะเป็นการซึมซับประสบการณ์และทำให้เราเรียนรู้ในธรรมชาติของธุรกิจและตลาดนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนคนหนุ่มอายุ 22 ปี (กำลังจบ) ซึ่งมีกำลังเยอะ และกำลังร้อนวิชา และมักมีข้อเสียเป็น ความประมาท เมื่อทำอะไรสำเร็จเข้าหน่อย ก็จะถูกทดสอบด้วยคนแก่อายุ 60 ซึ่งเขี้ยวลากดิน ขยับปีกพญามังกรนิดเดียว คนหนุ่มอย่างเราๆ (ผมเลยหนุ่มไปแล้ว อิอิ) ก็เป็นอันหงายเก๋ง ล้มหมดสติ และตื่นมาด้วยความงุนงง ว่ากูโดนอะไรไปว่ะเนี่ย โดนบัวขาวซัดเข้าให้แล้วหรือนี่เรา

แต่ถ้าเราเป็นคนหนุ่มที่กำลังเยอะ และรู้ข้อเสียของตนเอง ซึ่งขอบอกว่าเป็นทุกคนครับ แล้วยอมรับข้อเสียนั้นๆ ศึกษาประสบการณ์ต่างๆ ที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ปัญหาที่เคยเกิดขึ้น มองเห็นกลยุทธ์ที่คนใช้กัน มองเห็นโครงสร้างและตัวแปรในธุรกิจ, สินค้า, และตลาด อย่างทะลุปรุโปร่ง ยิ่งถ้าได้คุยกับคนแก่ หรือผู้อาวุโสในวงการเยอะๆ ดูดเอาประสบการณ์ของคนอายุ 60 ที่เชี่ยวกรากที่เค้าเมตตาเรา เอาประสบการณ์และความรู้เหล่านั้น มาไว้ในคนหนุ่มอายุ 22 อย่างเรา คนหนุ่มอย่างเรา ก็จะมีประสบการณ์และกึ๋น ไม่แพ้คนอายุ 60 ที่เป็นผู้นำในตลาดหรือเจ้าสัวต่างๆ เหมือนกันครับ

7. ตลาด และตัวเราเอง การมองตัวเราเองเป็นส่วนหนึ่งที่ผมมักจะัเห็นหลายๆคนลืมมองไป ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญสุดเลยก็ว่าได้ เปรียบเสมือนการมองอาวุธและศักยภาพของตัวเรา ว่าเหมาะสมหรือควรเข้าไปในตลาดนั้นๆ ไหม เพราะบางทีการมองตัวเราเองไม่ออก ก็ทำให้เราประเมินสถานการณ์ผิด เดินสุ่มสี่สุ่มห้าถือมีดเข้าไปในตลาด ที่เขากำลังรบกันด้วยปืนเลเซอร์ ก็เรียบร้อยครับ กลับบ้านแน่นอน หลายๆกระทู้ผมจึงมักเน้นให้ผู้อ่านหันมามองตัวเองกันก่อน ผมไม่ได้หมายถึงมองว่าเราสู้เข้าได้ไหม ถ้าเราอาวุธน้อย แต่ผมหมายถึงอาวุธน้อยก็สู้ได้ ถ้าใช้วิธีถูก แต่เรารู้ตัวเราเองหรือเปล่า ว่าอาวุธเราน่ะน้อยแค่ไหน เอาแบบจริงๆ ไม่ลำเอียง แบบมีสติ จะได้เลือกวิธีเข้าตลาดแบบฉลาดเข้า เช่นอาวุธน้อย ตลาดใหญ่ mass เข้าลำบาก ก็จะได้เข้าตลาดนั้นเฉพาะ segment ย่อยๆ หรือใช้วิธีขายพ่วง คือแนบไปกับสินค้าเจ้าใหญ่ๆเขา เช่น แนบเพลงแต่งเองไปกับค่ายมือถือหรือแอป ดีกว่าตั้งค่ายเพลงเอง, ขายขนมของเราแนบไปกับเครื่องดื่ม, ฯลฯ

8. ช่องว่างในตลาดและเกมส์ของเราเอง นำความรู้ความเข้าใจที่ได้มามองหา ช่องว่าง และจุดอ่อนของคู่แข่ง นำตรงนั้นมาสร้างเป็นเกมส์ของเราเอง ใส่เป็นชั้นๆ หลายๆมิติ สร้างเป็นกระบวนทัพ เริ่มจากทัพเล็ก (หากเริ่มต้นธุรกิจใหม่ และมีเงินทุนน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนทำธุรกิจแรกๆ) หลอมอาวุธ สร้างนวกรรม ข้าวเต็ม เงินเต็ม เสร็จแล้วเดินตามเกมส์ที่วางไว้ครับ นี่เป็นวิธีเดียว ที่รายเล็กๆ จะเติบโตรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกาจนเติบโตกลายเป็นเจ้าใหญ่ได้ และไม่จำเป็นต้องมีเงินถุงเงินถัง ถึงจะรวยได้ เงินน้อยๆ ก็รวยได้ อยู่ที่เดินเกมส์ถูกหรือเปล่า ขวนขวายและขยันอดทนแค่ไหน และที่สำคัญเข้าใจตลาดจริงหรือเปล่า

ตลาด ก็เป็นสิ่งมีชีวิต เหมือน หุ้นครับ และหุ้นก็เหมือน คน เพราะเป็นความเคลื่อนไหว ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของคน ดังนั้นถ้าคุณมีเกมส์ของคุณ เจ้าใหญ่แค่ไหนก็สู้คุณหรือบีบคุณไม่ได้ หนำซ้ำกลับอาจต้องขอเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับคุณ หรือเอาคุณเข้าไปร่วมด้วย และนั่น ก็อยู่ในแผนของคุณอยู่แล้ว

ขอให้โชคดีกับการมอง "ตลาด" ครับ


+1 ให้เลยค่ะ
บันทึกการเข้า

IKao
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,291



ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 24 มีนาคม 2013, 22:08:18 »

ความรู้ทั้งนั้น ไม่ได้เรียนมาชักงง  Tongue
บันทึกการเข้า

แบบไหนเรียกว่า Advance?
DePe
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 251
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 669



ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: 24 มีนาคม 2013, 23:06:31 »

+ 1 ariesanywhere ครับ ละเอียดดี

รุ้สึกตัวเองเป็นเด็กน้อยความรู้หางอึ่งไปเลยทีเดียว  Tongue
บันทึกการเข้า

ขี้โม้ มีอยู่ 2 ประเภท
1.โม้ไปวันๆ
2.โม้แล้วดันทำได้จริง
jingjoe008
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57



ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: 26 มีนาคม 2013, 01:28:53 »

เป็นบทความ ถาม-ตอบที่เป็นประโยชน์ต่อผมมากขอบคุณททั้งหมดครับ zad
บันทึกการเข้า
Freeze
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 191
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,278



ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 26 มีนาคม 2013, 02:15:24 »

สุดยอดมากเลยครับ ได้ความรู้เพียบเลย  wanwan011
บันทึกการเข้า

ทำวันนี้ !! ให้เหมือนกับวันสุดท้ายของชีวิต ~
bakavee
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 327



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 02 เมษายน 2013, 11:03:44 »

แนะนำว่า ให้ลองสมัครอ่านบทความจาก Online Marketing King ครับ ผมก็อ่านอยู่ เจ๋งดีครับ เค้ามีแฟนเพจอยู่ครับ
บันทึกการเข้า

kasets
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 35
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 155



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #38 เมื่อ: 02 เมษายน 2013, 11:24:09 »

กระทู้ดีมากครับ ได้ความรู้เยอะ ทั้งเนื้อหาและทฤษฎี  แต่สิ่งสำคัญ ผู้ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ในเมืองไทย แปลกดีนะ คนที่บ้าน ฐานะยากจน ปานกลาง มีหนี้มีสิน  ไม่ จบปริญญาตรี ร่ำรวยเป็นเศรษฐี
เช่น คุณตัน ,คุณอิทธิพัทธ์ และอีกหลายท่าน มากมายครับ

 สรุป คือ คิดแล้วลงมือทำ ครับ ล้มแล้วก็ลุก ทำๆๆๆ จนกว่าประสบความสำเร็จ ครับ
บันทึกการเข้า

Sub
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 147
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,414



ดูรายละเอียด
« ตอบ #39 เมื่อ: 05 เมษายน 2013, 22:41:57 »

ชอบมาก ขอเก็บไว้อ่าน  wanwan017
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3   ขึ้นบน
พิมพ์