ใช้วิธีเปลี่ยนเงินออนไลน์ เป็นเงินออฟไลน์หรือเปล่าครับ
ของผมมีร้านค้าอยู่ ก็เอาเงินที่ผ่านบัญชี ไปแจ้งเป็นเงินที่ได้จากร้านค้า เมครายการขายเอา
ใช้เงินออนไลน์ล้วนๆ เลยครับ ไม่ได้เอาเงิน online ไปฟอกธุรกิจ offline แล้วสร้าง statement ครับผม
ไม่ใช่ครับ แค่แปลงตัวเลข อย่างมีเงินเข้าบัญชี 10000 จาก อเมซอน ก็ไปเขียนว่าเป็น ขายของได้ 10000 ประมาณนั้นครับ
เข้าใจครับ เทคนิคของผมคือการสร้าง Diagram แจกแจงแหล่งที่มารายได้ตั้งแต่ user ค้นหาไปจนเกิดรายได้ครับ และเอกสารการยืนยันตัวตนว่าเราเป็นเจ้าของเว็บไซต์นั้นจริง และการเตรียมปริ้นสกรีนรีพอร์ทรายได้, เอกสารการก่อบริษัทของ affiliate ที่เราไปทำเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ, การขอให้เจ้า affiliate ที่เราไปทำเซนต์เอกสารออนไลน์เพื่อรับรองค่าคอมมิชชั่นของเรา
งั้นคนทำอเมซอนปรึกษาก็ไม่ได้สิครับ เพราะเขาไม่เซ็นต์ให้อยู่ละ
แล้วอีกอย่างที่สงสัยคือรายได้คุณเสียภาษีหรือเปล่าครับ ถ้าไม่เสียนี่ไม่น่าจะผ่านนะในความเป็นจริง
SCB นับค่าคอมมิชชั่นเป็นรายได้ครับ รายได้ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีหากชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ชัดเจน
สิ่งที่สำคัญนอกเหนือจาก บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และ statement นั่นก็คือ
1.
Corporate Document ของ Affiliate ที่เราไปทำซึ่งแสดงถึงข้อมูลการก่อตั้งบริษัท ความมั่นคง หากเป็น Amazon ให้ไป copy จาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Amazon.com 
ตั้งชื่อเอกสาร "Amazon.com, Inc Corporate Information" เป็นต้น
2.
Whois Domain Document บรรยายในเอกสารว่าการ whois domain คืออะไร วิธีการตรวจสอบความเป็นเจ้าของโดเมนทำได้อย่างไรบ้าง จัดการปริ้นสกรีนหน้าจอออกมาบรรยายใต้ภาพทีละสเต๊บ ก่อนทำต้องตั้งชื่อข้อมูล Whois ให้ตรงกับชื่อของเราที่ไปยื่นกู้
3.
Payment History Document ปริ้นสกรีนในหน้า Payment Setting แสดงถึงการจ่ายเงินเป็นชื่อของเรา และหน้าจอ Payment History ย้อนหลังทั้งหมดได้ยิ่งดี
4.
Flow Chart Document เอกสารนี้อธิบายถึงขั้นตอนการเกิดรายได้ทีละสเต๊บ(ปริ้นสกรีน)
ตั้งแต่ลูกค้าใส่คำค้นหาผ่าน SE (ยกตัวอย่าง keyword) >
SE ประมวลผล >
แสดงผลการค้นหาเจอเว็บไซต์ของเรา (ตีกรอบแดงๆ ทุกเสต๊บให้ชัดเจน) > ลูกค้าเข้าเว็บไซต์ของเรา > ลูกค้ากดสั่งของ > amazon ประมวลผล > เกิดรายได้
5.
Earning Certificated (หนังสือรับรองรายได้) ถ้ามีเอกสารนี้จะทำให้ธุรกิจออนไลน์ที่เราทำมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น หากเราขอได้จะทำให้กู้ผ่านง่ายขึ้นครับ ผมจะแบ่งไว้เป็น 2 กรณีสำหรับขั้นตอนนี้คือ
หากสามารถหาเอกสาร Earning Certificated ได้ ในกรณีที่คุณทำ Affiliate เจ้าอื่นที่มี Account Manager เช่น t3leads , peerfly คุณจำเป็นต้องเข้าไปตีสนิทกับ Account Manager ของคุณเมล์ไปคุย skype ก็ได้ครับบอกเค้าว่า "
ฉันต้องการกู้สินเชื่อจากธนาคารเพื่อซื้อบ้านภายในประเทศไทย โดยใช้รายได้จากที่นี่ไปยื่น รบกวนคุณออกใบ Earning Certificated โดยที่ฉันจะส่งเอกสารไปให้คุณเซนต์ออนไลน์"
(ขั้นตอนนี้เราจำเป็นต้องส่ง Format ไป)
Earning Certificate
Company XXXX Limited to certify that Mr. XXXX The position XXXX Affiliate Program The Company Code XXX
The average commission of the month XXXX USD.
This document is used to Mortgage Loans Only
Issued on XXXX
เว้นช่องไว้ตอนท้ายสำหรับเซนต์ออนไลน์ และลงชื่อ Account Manager ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์และอีเมล์ครับแล้วให้เค้าส่งกลับมา
จากนั้นบอก Account Manager ว่า "
หากธนาคารในประเทศไทยโทรหาคุณเพื่อมาตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของฉันรบกวนคุณช่วยยืนยันให้อีกครั้ง"
ผมเองไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมากครับพอสื่อสารได้รู้เรื่องผิดหลักไวยากรณ์เต็มๆ ทางนั้นก็ยังพอรู้เรื่องตอนคุยครับ ใน Google Translate ช่วยบ้าง
หากไม่สามารถหาเอกสาร Earning Certificated ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับเพียงแต่ถ้ามี (มันก็ดีไม่ใช่หรอครับ) แต่ถ้าไม่มีก็ต้องอธิบายตอนสัมภาษณ์ดีๆ ว่ารายได้เราเกิดมาจากระบบประมวลผลแบบอัตโนมัติของทาง xxx.com เป็นการสมัครสมาชิกเพื่อเป็นการเข้าไปทำงานเพื่อสร้างรายได้ โดยไม่มี Account Manager เป็นผู้ดูแล เราอาจจะใช้เอกสารอื่นพวก Term and Condition, About Us, Privacy อะไรก็ตามที่อยู่บนหน้าเว็บเอาไปทำเอกสารเพิ่มเติมได้ครับ
นอกเหนือจากเอกสารแล้วปัจจัยอื่นที่ทำให้เรากู้ง่ายขึ้นคือ1. การสัมภาษณ์ ทางธนาคารจะถามว่าเราทำงานยังไง ก็ตอบว่าเราเป็นตัวแทน xxxx รายได้จะเกิดขึ้นเมื่อ xxx , จะถามระยะเวลาที่เราทำมานานแค่ไหน , ทำงานที่ไหน , เรียนจบอะไรมา ซึ่งการสัมภาษณ์แต่ละครั้งมาตรฐานไม่เหมือนกัน
2. เบอร์โทรศัพท์บ้าน ตรวจสอบได้มีชื่อของเราในทะเบียนบ้าน เมื่อธนาคารโทรไปต้องรับสาย
3. ติ๊กถูกเป็นโสดในกรณียังไม่ได้จดทะเบียน แสดงการไม่มีภาระใดๆ
4. ไม่มีภาระหนี้สินเกิน 30% - 50% ของรายได้ และที่สำคัญไม่ติดเครดิตบูโร
5. การกู้ร่วม หากมีพ่อแม่หรือญาติสนิทที่ทำงานมั่นคง อาทิ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ มาเป็นผู้กู้หลัก ให้เราเป็นผู้กู้ร่วม
6.ประกัน MRTA เป็นประกันคุ้มครองวงเงินกู้ที่เรากู้ไป ในกรณีที่เสียชีวิตในระหว่างการผ่อนบ้านทางธนาคารจะชำระหนี้สินให้บางส่วนประมาณ 80% ทั้งนี้วงเงินจะลดลงทุกๆ ปี ไม่ค่อยคุ้มสำหรับผู้ที่ต้องการโปะบ้านให้หมดภายใน 5 ปี แต่เราจำเป็นต้องทำ จากที่ผมเจอมาบางคนก็บอกว่าไม่มีส่วนต่อผลการอนุมัติวงเงิน แต่สำหรับประสบการณ์ตรงมีอย่างมากครับ ธนาคารกล้าที่จะปล่อยเงินให้เราหากเราทำ MRTA เป็นการประกันความเสี่ยงเป็นอย่างหนึ่ง หากเรากู้ผ่านเงินประกัน MRTA จะถูกกู้เข้าไปกับวงเงินบ้านอัตโนมัติไม่ต้องจ่ายเงินสด
PS. ห้ามบอกว่าเราเป็นเจ้าของกิจการ เราเป็นแค่ตัวแทนรับค่าคอมมิชชัน หากเป็นเจ้าของกิจการวงเงินกู้จะได้ 50% เท่านั้นครับ