ในกรณีของท่านนี่มีความประสงค์ใกล้เคียงผมมากครับ
ผมเป็นคนหนึ่ง ที่เคยทำงานในโรงเรียนมาก่อน
ด้วยความที่สมัยมัธยม ผมเป็นเด็กกิจกรรม เป็นพี่ค่ายจัดค่ายนู้นนี่นั่น นำสันทนาการ เป็นหัวหน้าวงโย เป็นคนทำเว็บโรงเรียน
เป็นช่างภาพโรงเรียน เป็นทุกอย่างที่จะสามารถทำให้โรงเรียนได้ เพราะผมรักโรงเรียนแห่งนี้มาก ผมคิดว่าที่ผมมีทุกวันนี้ได้
ในสายงานด้าน IT ไม่ว่าจะเป็นการทำเว็บ (ถึงแม้จะไม่เก่งมาก แต่ก็ใช้หากินได้น่าา) ซ่อมคอม และในด้านการเป็นผู้นำ อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ในข้างต้น
ผมได้รับโอกาศให้เข้าทำงาน เกือบจะทันที เพราะว่าหลังจากจบมอหก ผมได้ทำงานในมูลนิธิแห่่งหนึ่ง ที่ผมเคยร่วมงานด้วยในสมัยเรียน
และด้วยที่ผมเป็นที่รู้จัก และเป็นที่รัก(?) ของอาจารย์ทั้งหลาย ครึ่งปีให้หลัง ผมได้มีโอกาสเข้าทำงานในโรงเรียน ในตำแห่ง "เจ้าหน้าที่เทคนิคคอมพิวเตอร์"
แต่มันก็แค่ในนามเท่านั้น ความจริงคือ ผมทำทุกอย่าง เท่าที่ผมจะทำได้ รวมถึงการดูแลวงโยธวาทิตด้วย
ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ มันทำให้ผมมีความสุขมากๆ ผมเข้า่เรียนภาคพิเศษ เสาร์ อาทิตย์ ที่ มรชม. ในสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
แต่อย่างว่า โลกมันไม่ได้สวยขนาดนั้น....
เนื่องด้วยชีวิตของเรา ต้องอยู่ในสังคมด้วย เราไม่ได้อยู่ได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นผมจึงเริ่มเห็นความจริงและสัจธรรมในชีวิตว่า ชีวิตการงาน มันไม่ได้เหมือนอย่างที่เราฝันไว้
กลายเป็นว่า มีการแบ่งพรรค แบ่งพวก แข่งกันใหญ่ ซึ่งในตอนนั้นยิ่งเป็นรอยต่อที่รอให้ ผอ. คนใหม่มาประจำการ พวกหัวเรือใหญ่ทั้งหลาย เลยแข่งกันเบ่งอำนาจเลยจ้า

เรียกได้ว่าเป็นมหากาฟ 3 ก๊กกันเลยทีเดียว อันได้แก่ก๊กบุคลากร ก๊กกิจการนักเรียน และก๊กวิชาการ โอ้ย เล่าไปเดี๋ยวจะยาว ไม่เล่าดีกว่า
เอาเป็นว่าสุดท้ายแล้ว ผมเลือกที่จะสบายใจมากกว่า ที่จะอยู่กับงานที่ชอบ เพราะว่าเราอยู่กับงานที่ชอบแต่คับใจ มันก็ลำบาก
จนถึงปัจจุึบันนี้ ผมเลยคิดว่า งานในโรงเรียน อาจจะไม่เหมาะกับผม ผมเป็นคนสันโดษ ไม่ชอบเข้าพวกใคร
และผมก็มานั่งคิดว่า มันจะีมีวิธีไหน ที่จะทำให้เราเข้าใกล้การศึกษาได้มากที่สุด
สุดท้ายก็มาจบที่การทำเว็บ (แต่เจ้าพระคุณ เว็บการศึกษามันช่างเยอะเหลือเกิน

ตอนนี้ก็กำลังมองหาช่องทางอื่นอยู่)
และวันนี้ ผมก็ยังหวังว่า ผมจะสามารถทำประโยชน์ให้แก่การศึกษา และสังคม ให้มากที่สุด
เพราะผมคิดว่า ผมไม่ได้เกิดมาเพื่ออยากรวย แต่ผมคิดว่า ชีวิตนี้ ผมอยากจะอุทิศให้กับสังคมให้มากที่สุดครับ
ประเทศเรามันอยู่ยากขึ้นทุกวัน อย่างน้อยผมก็มั่นใจว่า ผมไม่ได้ทำให้ประเทศอยู่อยากขึ้นไปอีก

อาจจะฟังดูเหมือนนิยาย แต่อยากให้ จขกท. อ่านและหวังว่าจะเข้าใจในสิ่งที่ผมสื่อนะครับ

ปล. ขอความกรุณาเพื่อนสมาชิก อย่าเอือม และอย่าอ๊วกกับข้อความที่ผมพิมพ์ลงไปนะครับ

เพิ่มเติมครับ ตอนนี้ ม.ราชภัฏเค้าเปิด วุฒิครู 2 ปีแล้วครับ เรียนอะไรก็ได้ ที่มันอยู่ในแปดวิชาหลัก แล้วไปเรียนวุฒครูก็ได้ครับ กระทรวงไฟเขียวแล้ว