ถ้าเป็นตามที่คุณ sirwilliams43054 ว่าหล่ะก็
ผมมองว่า google เลือกห้ามทำเว็บที่มีเนื้อหาที่ไม่ก่อให้เกิดผลกำไรกับตัวเองไปแต่แรกน่าจะดีกว่า (ทำจริงไม่ได้หรอก เดี๋ยวแพ้คู่แข่งรายอื่น)
หรืออีกกรณีคือทุกเว็บที่จะแปะแอดได้ จะต้องผ่านการตรวจสอบก่อนแปะก่อนทั้งหมดว่ามีเนื้อหาตรงกับที่กำหนดไหม ถ้ามีการแอบแปะในเว็บอื่นที่ไม่ได้ผ่าน white list ก็ไม่ต้องแสดงกันไป
ไม่งั้นมันจะเหมือนกับ google แอบหัวหมอ ปล่อยให้ทำให้แปะเว็บที่ตัวเองห้ามไว้ก่อน แล้วค่อยมาแบนทีหลัง ตัวเองก็รับผลประโยชน์จากรายได้ adword ไปเรียบร้อย ไอ้ที่แบนก็ไม่ต้องจ่าย
ไม่เกี่ยวเลยฮะ คุณบอกว่า แพ้รายอื่น
คำว่าแพ้รายอื่น มันเป็นมุมมอง ในเชิง นักSEO เกินไป
มันยังมีอีกหลายวาระให้เล่น คลิ๊กส่วนใหญ่ของผม มาจาก organic Search ที่เป็น คำถาม ทางเทคนิค เฉพาะ ซึ่ง ค่าคลิ๊กอ่าจจะได้ 15% ของราคาเต็ม แต่ไม่ต้องแข่งกับใคร
เนี่ยแหละคือความสนุกของ adsense ไม่ได้แข่งกันที่ key แข็ง มันแข่งกันที่ การ motivate คนมากกว่า ร่ายนานๆ คุยยาวๆ 1 บทความติด organic search ในหลายมิติในหลายบริบท
จึงไม่แปลกว่าทำไม การทำ adsense ให้ทำ บทความยาวให้ยาวที่สุด ( Methodology , Experience , Solution มักจะเป็น บริการ service ที่ซับซ้อน ยากแก่การทำความเข้าใจ หรือโปรดัคที่ต้องอาศัย How to )พวกนี้พูด สามวันก็ไม่จบ เช่น การเลี้ยงหมาพุ๊ดเดิ้ล
ส่วนทำ Amazon สั้นให้สั้นที่สุด (final product ซื้อสินค้าใน 5 นาที) พวกที่ซื้อแล้วได้เป็นกล่องๆ
มันคนละมุมมองกันครับ
ประเด็นที่สอง
หากทำตามที่คุณบอก Google คงไมเกรนแตกตายครับ
แล้วให้คนกรอง มันมี Bias เฉพาะคนอีก
จากทีม กรองที่แต่ก่อนอาจจะมี 10-20 คน กลับกลายต้องมี 5,000 คน แล้วต้องมา คุบ Bias คนอีก
วันๆนึง หากมี account เป็นหมื่นๆ ผมว่า ธุรกิจล่มแน่นอนฮะ
เงื่อนไขนี้ ทำยากครับ โทษ Google ไม่ได้นะ เพราะเขาทำงานกับคน เป็น สิบๆล้านคน
ก็ต้องใช้ Algorithm และ Data mining เป็นตัวจับครับ
ฉนั้น จะเล่น Google ต้องเข้าใจจริตแห่ง Google เสียก่อน
