เรียนรู้การใช้ชีวิตกับ Google ตัวใหม่กับคำว่า Over Optimization

ที่ google ประกาศมาว่าห้ามทำ ความจริงพวกนี้แหละคือถ้ามีแล้ว google จะให้อันดับดี

ต้องแยกให้ออกก่อนว่าแนวการติดอันดับดีของ google มันมี 2 ส่วนคือ

1. คิดจากคะแนนทั้งหลายแหล่ที่เป็นอัลกอลิทึ่มของมัน ซึ่งพวก backlink ทั้งหลายก็ยังเป็นส่วนสำคัญเหมือนเดิม ยิ่งเยอะก็ยิ่งดีมันแสดงถึงว่าเว็บเราเป็นที่รู้จักในคนหมู่มากและคนที่ค้นหาน่าจะต้องการเจอ ซึ่งเป็นสิ่งที่นัก seo รู้ว่า google มีแนวคิดแบบนี้เลยทำการสร้าง link ที่ผิดธรรมชาติมากขึ้นมา และมันก็ดันได้คะแนนดีด้วย

2 คือส่วนที่คอยตรวจจับว่าไอที่ได้คะแนนเยอะมาจากหลักการคิดคะแนนตามสูตร 1 นั้นมันมาโดยการโกงหรือปล่าว ซึ่งตรงนี้ google ก็จะพัฒนาเรื่อยๆ แข่งกับนักทำ seo(คนที่พยายามโกง)

ทีนี้ไออัลกอใหม่จริงๆก็ไม่ได้มีอะไรมาก หลักๆเลยคือพยายามที่จะแก้ทางพวกทำ seo เหมือนกับการหาวิธีพิสูจน์ว่า link ไหนที่มาแบบธรรมชาติหรือไม่ธรรมชาติ ซึ่งมันยากมากที่จะพิสูจน์ ยิ่งถ้าทำแบบเนียนๆ ต่อให้จ้างคนจริงๆมานั่งดูเองยังไม่แน่ว่าจะแยกได้หมดว่า link ไหนเป็นของจริงอันไหนเป็นของปลอม แล้วนับภาษาอะไรกับสูตรคำนวนที่ไม่มีทางครอบคลุม 100% อยู่แล้ว เอาแค่จับได้สัก 30% จากของเดิมก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ซึ่งถ้าคนที่ทำ seo แบบเนียนๆก็จะไม่โดนจับแน่นอน

แล้วอีก 70% google จะทำยังไงกับมัน หลักการของ google คือต้องการเป็นเว็บที่ผู้ใช้ค้นหาแล้วได้ผลลัพธ์ที่คนต้องการมากที่สุด google จึงเกลียดนัก seo มากเพราะว่าพยายามโกงอัลกอของ google ที่พยายามคิดขึ้นมาพอได้ผลดีสักพักนัก seo ก็จะหาวิธีโกงมันเรื่อยๆ ครั้งนี้ google ก็ออกมาประกาศแก้ทางนัก seo ทั้งหลายว่าไอวิธีต่างๆนั้นอะมันใช้ไม่ได้แล้ว ใช้แล้วจะโดนจัดการอะไรต่อมิอะไร พร้อมทั้งเชือดได้ 30% ที่จับได้ให้ดูว่ามันตรวจได้จริงๆนะ เหมือนเป็นการขู่คนอีก 70% ที่เหลือว่าต่อไปห้ามทำอย่างนี้ๆนะ ทั้งที่ความจริง 70% นั้นทำ seo ได้เนียนเกินกว่าที่ google ในตอนนี้จะจับได้ว่าโกง

ถามว่า seo ยังทำได้มั้ยมันทำได้แน่นอน ตราบใดที่ google ยังอยู่ นัก seo ก็ยังอยู่ด้วยเช่นกัน แต่การทำ seo ต้องทำให้เนียนให้ google จับไม่ได้ google ก็เหมือนอาจารย์ที่คุมห้องสอบ ส่วน นัก seo ก็เหมือนนักศึกษาที่พยายามลอกข้อสอบ ซึ่งก็ต้องสู้กันไปอีกยาว