พอดีไปอ่านมา เจอแบบนี้ อืมมมมม เอามาให้อ่านนะครับ
singgal says:
April 20, 2011 at 6:26 pm
สวัสดีค่ะ
มาขอแชร์นะคะ คือตัวเองเปิดเอเจนซี่เล็กๆกับเพื่อนได้ประมาณ 5 ปี
ทำพวกฟรีแลนซ์ทั่วไป product design, 3d, web devolper อะไรเทือกนี้หล่ะคะ
ตอนทำงานจำพวกเว็บ ก็จะใช้ tool เหล่านี้แหล่ะค่ะ นำมาใช้ประกอบงานตลอด (สมัยนั้นตั้ง getty เป็นหน้า home เลย)
สาเหตุที่ใช้ getty เนี่ย ก็เพราะว่า มันมีภาพขนาดเล็กแบบไม่ embeded watermark ให้ save ได้ (แต่ถ้าเป็นขนาดใหญ่ ต้องเสียตังค์)
และถ้าเราออกแบบเว็บ มันไม่จำเป็นต้องใช้ความละเอียดเยอะไงคะ ขอแค่ 72dpi ก็เนียนมากแล้ว (แล้วภาพเล็กเหล่านั้น ส่วนใหญ่ค่าอยู่ที่ 96dpi..เอา shop ขยายได้อีก) ก็หยิบกันมาใช้ตามใจชอบเลย
อยู่มาวันนึง (วันออฟฟิศแตกค่ะ จำได้ดี) ก็ได้รับโทร.จากลูกค้าค่ะ โทรมาต่อว่าเราขนานหนัก บอกว่าเราทำเค้าเสียชื่อเสียงมาก เอา brand เค้าไปละเมิดลิขสิทธิ์เหรอ….
ดิชั้นกับเพื่อนๆ…..งงมากกกกกค่ะ……. “อะไรขอเค้าวะ” แล้วเค้าก็เลยส่งแฟ็กซ์มาให้เราดูค่ะ……. พร้อมกับบอกเราว่า ได้ปัดเรื่องโยนมาให้ฝ่ายเราแล้ว…….(อ้าว…เล่นงี้เลยแฮะ….)
ในแฟ็กซ์ฉบับนั้น ทาง getty ระบุว่า “บริษัทคุณได้ละเมิดลิขสิทธิ์ภาพจำนวน 12 ภาพ คิดเป็นความเสียหาย 42,000 บาท (1,000 ยูโร)”
….
…..
กรี้ดแตกสิคะ……
….
ไม่แค่นั้นค่ะ….วันถัดมา ก็ได้รับแฟ็กซ์อย่างเป็นทางการ (เป็นเกียรติมากกก)
บอกว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์ของเค้า ทั้งสิ้น 136 ภาพ คิดเป็นเงิน 2,550,000 บาท (ประมาณ 60,000 ยูโร ตอนนั้น)
……………
…….
…
…
วินาทีนั้น เจ็กตื่นกันทั้งออฟฟิศอ่ะคะ งานอะไรค้างอยู่ทิ้งมันหมด เดดลง เดดไลน์ไม่ยักกะอยู่ในเซเลบรัมสักกะติ้ดเดียว
ทำไงดีๆๆๆๆ …. สองล้านห้า…..สองล้านห้า…..สองล้านห้า…….
เอาล่ะ รวบรวมสติ …อาศัยลุงกุ็ก ขอข้อมูลแกหน่อย….
…………….
…..
..
.
ไม่มีแฮะ…….ไม่เห็นจะมีใครเลย ที่โดนเหมือนเรา…..หรือใช้คำผิด…..
เอาใหม่ๆ….ค้นๆๆๆๆ ….. โหมีแต่คนยอมจ่ายทั้งนั้นเลย……
โทรไปปรึกษาคุณอาที่เป็นทนาย แกก็บอกว่าให้นิ่งไว้ก่อน เพราะ พรบ.ละเมิดลิขสิทธิ์ในไทยมันยังไม่แข็ง ขั้นแรกให้ไปลบรูปออกก่อน
วันนั้น……หุ้นส่วนทั้ง 3 คนของบริษัท เครียดจนแทบบ้า
คุยคุยคุย ขบขบขบ หาทางออกยังไงก็ไม่ทางสว่างแม้แต่นิดดดดด….
ก็ได้แต่ทำตามคำแนะนำของคุณอาอ่ะคะ…..
อยู่จนกันจึง ตี 2
เริ่มปลงกันแล้วค่ะ ยกธงแล้วค่ะ 3 ปีที่สร้างกันมา จบเพราะเรื่องบ้าๆอย่างนี้เหรอเนี่ย………?
แต่ดิชั้นกับเพื่อนจะต่างกับจขกท.นิด ตรงที่ว่า……….จิตสำนึกต่ำมากอ่ะคะ…….คือว่า ให้ตายยังไง จะเล็กน้อยถึงแค่ระดับหมื่นสองหมื่น หรือ อย่าว่าแค่ระดับ 5 พันบาทเลย…..ดิชั้นกับเพื่อนๆก็ไม่มีปัญญาจะจ่าย และ ถ้าไม่ถึงขั้นต้องไปนอนในตะราง ก็จะไม่ยอมจ่ายเด็ดขาดค่ะ
ก็เลยตัดสินใจร่วมกัน…….
……….
…..
..
………ปล่อยเลยตามเลยค่ะ……จะเป็นยังไงช่างมัน
…………………..
วันถัดมาก็พากันไปแบงค์ ไปถอนเงินในบัญชีส่วนตัวออกมาทั้งหมด แล้วย้ายโอนไปให้คนอื่นถือ (พี่น้องพี่อแม่) แล้วเราถือบัตรเอทีเอ็มไว้
จากนั้น ก็ค่อยๆเริ่มเปิด port ดูทีละเว็บ ว่ามีรูปไหนเอาของเค้ามาบ้าง พอเจอก็ลบออกแล้วเปลี่ยนรูปที่หาได้จาก Flickr (ที่เป็น CC – ครีเอทีฟคอมมอน) ขึ้นแทน
ผ่านมาไป 2 วัน
แฟ็กซ์ฉบับเดิมก็มาอีก พร้อมกับให้รีบเจรจา เพื่อจะได้ไม่ต้องถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล…..
…….
…
..
แหะแหะ……บอกจากใจจริงนะคะ….ณ ตอนนั้น คือ เราหมดแรงแล้วค่ะ เราปล่อยไปแล้ว
เลยไม่ได้สนใจอะไรอีกเลย……
ผ่านไปเดือนนึง ด้วยการมาทำงานแบบซังกะตายไปวันๆ….
ยมทูตจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้…….โคตรๆๆๆๆๆๆจะเซ็ง…..เบื่อมาก….ไม่มีกะใจทำไรเลย……
และแล้ว….
ก็ผ่านไปอีกเดือน……
อีกเดือน………..
อีกเดือน……….
อีกเดือน……
…….
…
..
..
..
..
ณ ขณะที่นั่งเขียนอยู่นี้ คือ วันที่เหตุการณ์นั้นผ่านมาแล้ว 2 ปีนิดๆค่ะ
……….แต่ก็ยังอดเสียวสันหลังไม่ได้นะคะ ไม่ใช่ว่าจะโล่งใจไปซะหมด…..
คือเรื่องของเรื่องที่อยากจะแชร์เนี่ยก็คือว่า …..
ข้อ 1. สำหรับเพื่อนๆที่โดนแบบนี้ ขอให้เก็บไว้เป็นบทเรียนเถอะค่ะ อย่าได้เอาของเค้ามาใช้ เปลี่ยนจาก getty เป็น flickr ดีกว่า เพราะมันเป็น CC สามารถเอามาใช้ได้
ข้อ 2. ยังไงซะ…ห้ามจ่าย ห้ามเจรจา ค่ะ เพราะว่า……
– หลังจากผ่านไป 2 ปี ดิชั้นเลยได้ศึกษามาว่า เค้าฟ้องกันทั้งโลกอ่ะค่ะ โดยมีสนง.ใหญ่อยู่ที่อเมริกา แล้วแตกสนง.ย่อยอยู่ตาม region ต่างๆ อย่างเอเซีย คือ ญี่ปุ่น จีน และ อินเดีย
Getty Image Thailand ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า มีตัวตนอยู่ที่เมืองไทยจริงหรือเปล่า? เหนว่ามี fanpage ใน FB เป็นภาษาไทย ก็ไม่ค่อยแน่ใจนะคะ แต่รู้ว่าย่อยมากๆๆอ่ะคะ
-หากเพื่อนๆยังกลัว ลองเข้าไปเว็บ
http://www.extortionletterinfo.com/forum/list.php?2 ดูนะคะ เป็นกรณีศึกษาสำหรับ ผู้ที่เคยโดนจดหมายจาก getty ….พออ่านเข้ามากๆเพื่อนจะรู้เลยค่ะว่า
ถ้าบริษัทเราไม่ได้อยู่ ใน USA มันเป็นไปได้ยากมากกกกกกกกกกกกกกกกกๆๆๆๆๆๆ ที่เค้าจะฟ้อง หรือ จะดำเนินการขึ้นโรงขึ้นศาลข้ามประเทศมาอ่ะค่ะ
– ถ้าหากมีจดหมายมาเมือไหร่ กรุณารีบไปลบรูปออกค่ะ แต่ขอย้ำนะคะ ว่า ห้ามเจรจา เด็ดขาด การเจรจา มันเปรียบเสมือน การบ่งบอกว่ามีตัวตน และ กำลังกลัวอยู่ ค่ะ มันทำให้ bargaining power เราหายไปวับในพริบตาเลยนะคะ
– พอได้อ่านของ จขกท. ยิ่งมั่นใจใหญ่เลยค่ะ ว่าทาง getty ไม่มีวันที่จะขึ้นโรงขึ้นศาลกับบริษัทไทยแน่นอน เพราะว่ามีการต่อรองได้ มีการอะลุ้มอะหล่วยยอมตัดทอนกันได้ ทาง getty จะ benefit สูงสุดจากคนกลุ่มนี้ล่ะค่ะ ที่ตื่นไปเจรจา
– ถ้าหากเพื่อนๆยังกลัว เมล์มาก็ได้นะคะ ปรีกษาให้ฟรีในฐานะคนเคยโดนค่ะ
girlyberrycutie@hotmail.com ดิฉันมีคุณอาเป็นทนายค่อนข้างปึ้ก อย่ากลัวไปเลยค่ะ มันไม่มีอะไรหรอกค่ะ เหมือนโดนตำรวจไถตังอ่ะค่ะ ถ้าเพื่อนๆเป็นคนนึงที่จ่ายเป็นประจำก็คงกลัวเป็นธรรมดา แต่หากว่าเพื่อนๆเคยลองยืนคุยยื้อกับตำรวจไปนานๆเข้า เค้าก็ปล่อยเราอ่ะคะ (หาจากอีนี่คงยาก….อิอิ ไปเอาหมูตัวอื่นดีก่า)
ข้อ 3. เกลียด getty มากๆค่ะ ทุกวันนี้เกลียดแบบเข้ากระดูกดำ ก็เข้าใจอ่ะนะ ว่าเราไปเอาของเค้ามา เราผิดเต็มประตู……แต่พอดีไม่แคร์สื่ออ่ะคะ….เกลียดมันมากค่ะ เกลียดดดค้ออดดดดด…….ถ้ามันเจ็งด้วยสาเหตุใดได้ จะดีใจมากๆค่ะ
ข้อ 4. รัก flickr ค่ะ อยากให้เพื่อนๆหันมาใช้
http://compfight.com/search ดู ติ้กเลือกตรงที่เป็น Creative Commons นะคะ (อย่าทะลึ่งกด commercials นะคะ)
แค่นี้หล่ค่ะ….