"กรุงเทพไอที" จะพาไปทัวร์เกาะไต้หวัน เมืองแห่งไอที เพื่อเยือนศูนย์การออกแบบผลิตภัณฑ์ และพัฒนาระบบเสียงที่บริษัทแม่ของ "ASUS""Start with people is our design thinking" ประโยคสะดุดใจข้างต้นนี้ สื่อสารถึงจุดยืนและความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้น ที่ผู้ผลิตแบรนด์ไต้หวันใส่ใจลงไปในการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายครองใจคน
ในสถานการณ์ที่โน๊ตบุ๊คสัญชาติจีนและไต้หวันเริ่มได้รับการต้อนรับและถูกยกระดับขึ้นเทียบชั้นอินเตอร์แบรนด์จากญี่ปุ่นหรืออเมริกา กลยุทธ์ต่อไปที่จะฉีกตัวเองให้ต่างออกมาจากคู่แข่ง หนีไม่พ้นการสร้างจุดเด่นให้ตัวเอง
และประโยคข้างต้นนี้เองเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดที่ "กรุงเทพไอที" จะพาไปทัวร์เกาะไต้หวัน เมืองแห่งไอที เพื่อเยือนศูนย์การออกแบบผลิตภัณฑ์ และพัฒนาระบบเสียงที่บริษัทแม่ของ "ASUS" ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คและเมนบอร์ดชั้นนำ แบรนด์แท้ต้นตำรับดั้งเดิมตั้งแต่ชาติกำเนิด ที่บอกไว้ว่าเป็นเบอร์หนึ่งในประเทศมาหลายปี และกำลังไต่ขึ้นให้ได้สูงสุดเพื่อขึ้นอันดับท็อป 3 ในตลาดโลกให้ได้...เร็วๆ นี้
แรงบันดาลใจมาจากทุกหนแห่ง"มิเชล เชา" ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ แผนกแบรนด์ เวอร์ชวล คอมมูนิเคชั่น ASUS เล่าว่า บรรยากาศแผนกการออกแบบของที่นี่จะพยายายามทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด แต่เพียงแค่ห้องแคบๆ ที่เดียวไม่สามารถทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และไอเดียชั้นเยี่ยมออกมาได้ วิธีการหาแรงบันดาลใจของทีมจะมาจากทุกหนทุกแห่งทั่วโลก จากงานของดีไซน์เนอร์ชั้นนำ งานแสดงแฟชั่นการออกแบบระดับอินเตอร์ เพลง บทกลอน ภาพยนตร์ หรือแม้แต่การเดินไปตามท้องถนนที่ได้พบวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนโดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานออกแบบเลยก็ตาม
"งานออกแบบที่ดีต้องเริ่มมาจากความต้องการพื้นฐานของผู้บริโภค ที่ผ่านการกลั่นกรองด้วยประสาทสัมผัส ทั้งการมองเห็น การได้ยิน ความรู้สึก และการสัมผัส ทั้งมีทีมวิจัยที่ทำหน้าที่สำรวจตลาดเพื่อให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง"
ขณะที่ เรื่องของกลิ่น บริษัทเคยผลิตโน๊ตบุ๊คที่มีกลิ่นหอมของน้ำหอมออกมาแล้วเช่นกัน แต่ผลตอบรับที่ได้ไม่ตรงกับความต้องการของตลาดมากนัก โปรเจ็คลักษณะนี้จึงวางเอาไว้ก่อน
ทั้งนี้ แนวทางการออกแบบสินค้าของบริษัทต้องมีความพร้อมทั้งด้านการวิจัยตลาด การคิดค้นวัตถุดิบ แพ็คเกจจิง รูปลักษณ์ และสเปคของเครื่อง ทีมงานที่มีเมื่อรวมจากทุกประเทศที่กระจายอยู่ทั่วโลกทั้งอังกฤษ จีน สิงคโปร์ กรุงไทเปของไต้หวันเอง และที่อื่นๆ มีเป็นหลัก 100 คน หลักๆ ประกอบไปด้วยทีมดีไซเนอร์ ทีมวิจัยตลาด ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุดิบสำหรับการผลิต และวิศวกรที่ต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างผลออกมาให้สอดคล้องกับการผลิตได้จริงไม่ใช่แต่ทำตามจินตนาการ
เดินอยู่กับปัจจุบันไม่พอผู้เชี่ยวชาญจาก ASUS กล่าวว่า แต่ละปีจะมีโปรเจ็คใหญ่ 1 ชิ้น และงานล้ำๆ ที่คิดไว้สำหรับรองอนาคตข้างหน้าอีกจำนวนหนึ่ง ทีมงานต้องออกแบบผลิตภัณฑ์ทุกอย่างภายใต้แบรนด์ ASUS ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนมากมายจนนับได้ไม่หมด แต่โดยสรุปผลงานที่ออกวางตลาดมีไม่ต่ำกว่า 50-100 ชิ้น ทั้งยังต้องเข้าร่วมการประกวดการออกแบบต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อเปิดวิสัยทัศน์ให้กว้างขึ้นด้วย
"เราจะไม่พูดว่าไม่เคยทำ และไม่พูดว่าทำไม่ได้ เพราะเราเองต่างก็ไม่อาจคาดเดาได้ถูกต้องทั้งหมดว่าเทรนด์ของตลาดในอนาคตจะไปทางใด ฉะนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าการทำงานต้องหลากหลาย สำหรับ ASUS ทุกอย่างต้องเป็นไปได้ เราเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ให้ความสำคัญอย่างมากกับการดีไซน์" พร้อมกันนี้เธอได้ระบุถึง ผลงานชิ้นเอกที่ทำร่วมกับศิลปินชื่อดัง "เจย์ โชว์" ด้วยว่า เป็นครั้งแรกของการผสานงานกันที่ลงตัวระหว่างบริษัทด้านนวัตกรรมโดยทีมออกแบบของบริษัท 5 คน และศิลปินชื่อดังที่มีความเป็นตัวของตัวเอง และเชี่ยวชาญด้านดนตรีระดับเยี่ยม เจย์ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด กว่างานจะเสร็จออกมาต้องใช้เวลาทั้งหมดมากกว่า 6 เดือน
มิเชลกล่าวเสริมว่า ผลิตภัณพ์แต่ละชิ้นต้องใช้เวลาคิดล่วงหน้า 1 ปี เมื่อเสร็จแล้วต้องรออีก 3-6 เดือนเพื่อดำเนินการผลิตก่อนออกวางตลาด ขณะนี้มีแผนผลิตโน้ตบุ๊คที่ทำจากไม้ไผ่ออกมาอีก โดยจะปรับปรุงให้ดีขึ้นจากการผลตอบรับของตลาดที่ผ่านมา แต่ขอยังไม่เปิดเผยว่าจะเป็นเมื่อใด
ไม่เพอร์เฟ็คแต่ดีที่สุด"เฮนรี่ ฮวง" ผู้อำนวยการอาวุโส เซ็นสิบิลิตี้ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง แล็บ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเสียง โปรเจ็ค "โซนิค มาสเตอร์" ASUS กล่าวว่า สาเหตุที่บริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องระบบเสียงของผลิตภัณฑ์มาก เนื่องมาจากผลวิจัยระบุว่า แต่ละวันคนมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเสียงมากถึง 9.27 ชั่วโมง
"เหมือนดังที่เจย์ โชว์ กล่าวไว้ว่า เสียงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ ความรู้สึก และช่วยเก็บความทรงจำของผู้คน"
เขากล่าวว่า ASUS ผลิตระบบเสียงโซนิค มาสเตอร์ลงในโน๊ตบุ๊คไปกว่า 10 รุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์สำคัญคือ การแก้จุดบอดเรื่องเสียงที่ไม่คมชัด เบาเกินไป เบสที่ไม่หนักแน่น และการใช้งานไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากพอ รวมถึงต้องป้องกันความเสี่ยงจากการใช้งานที่อาจไปกระทบกับข้อมูลภายในเครื่องโน้ตบุ๊คของลูกค้า
เฮนรี่เผยว่า แต่ละพื้นที่ แต่ละประเทศมีความต้องการที่แตกต่างกัน บริษัทมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 20 คน ทั้งมีทีมในภูมิภาคอื่นๆ เช่นอเมริกา และยุโรป จากนี้ไปพร้อมทุ่มเงินลงทุนอีกมหาศาลเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายหลักของการพัฒนาคุณภาพเสียงคือการไปให้ถึงมาตรฐานที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมให้ได้
"ผมเองไม่อาจการันตีได้ว่าที่ทำไปแล้วนั้นเพอร์เฟคที่สุด บอกได้แต่เพียงว่าได้พยายามทำงานเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และความต่างในวัฒนธรรมของผู้บริโภคอย่างดีที่สุดแล้ว"
ข่าวโดย กรุงเทพธุรกิจ 