ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: [News] Transformation จุดพลิกเทเลคอมไทย  (อ่าน 663 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Uzumaki Naruto
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 515
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,871



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2011, 13:19:29 »



อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเกือบทั้งโลกวันนี้อาจถึงจุดพลิกโฉมครั้งใหญ่ เพราะลำพังการขับเคลื่อนด้วยโมเดลสร้างรายได้จากบริการเดิมไม่เพียงพอ ปัจจุบันไม่เพียงแต่บรรดาผู้ให้บริการมือถือจะต้องเผชิญกับการแข่งขันรุนแรง ยังต้องเผชิญกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความต้องการซับซ้อน รวมถึงการเปลี่ยนถ่ายของเทคโนโลยีสู่โลก 3G และ 4G
       
       ปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการในแวดวงโทรคมนาคมจำเป็นต้องปรับตัว พร้อมทั้งเสาะหานวัตกรรมในการให้บริการใหม่ๆ ให้ทันความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ และที่สำคัญคือ การสร้างรายได้เพิ่มจากการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพเหนือคู่แข่งในตลาด
       
       “ต่อไปประสบการณ์ผู้บริโภคจะมีอิทธิพลมากขึ้นเป็นทวีคูณ เนื่องจากประสบการณ์ลูกค้าเติบโตเพิ่มขึ้นในทุกบริการ ทั้งเสียง และดาต้า ในหลากหลายช่องทาง และอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก ไอแพด โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนที่คาดกันว่าจะเติบโตเป็น 2 เท่าในปี 2016 ขณะเดียวกันปริมาณข้อมูลก็เพิ่มขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดจากเครือข่ายใหม่”
       
       นั่นคือคำกล่าวของ เอลิ เกลแมน ประธานและซีอีโอ แอมด็อคส์ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมวันนี้ และบอกว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เสมือนเป็นแรงผลักสำคัญให้ผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมทั่วทั้งโลกไม่อาจหยุดนิ่งและขับเคลื่อนด้วยบริการและนวัตกรรมแบบเดิมๆ ได้อีกต่อไป
       
       ทว่า “Transformation” คือสิ่งจำเป็นและเป็นคำตอบของความท้าทายดังกล่าว
       
       Transformation เป็นการคิดนอกกรอบจากการให้บริการเดิมของผู้ให้บริการมือถือที่ส่วนมากรายได้หลักจะมาจากบริการทางเสียง (วอยซ์) สู่การรีเอนจิเนียริ่งกระบวนการทางธุรกิจใหม่ เพื่อที่จะสร้างรายได้เพิ่มจากพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปและปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ด้วยบริการใหม่ๆ ของโลกแห่งการเชื่อมต่อ
       


       สำหรับกระบวนการทางธุรกิจใหม่ คือ ผู้ให้บริการจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ด้วยการเพิ่มความจุรองรับความต้องการลูกค้า รวมทั้งรู้จักที่จะเปลี่ยนข้อมูลที่มีอยู่มหาศาลจากเครือข่ายใหม่ ให้เป็นแหล่งรายได้ ด้วยการกำหนดราคาแบบแพกเกจตามความต้องการเฉพาะ หรืออิงคุณค่าของบริการ การจัดอันดับและคิดราคาแบบเรียลไทม์ การเสิร์ฟบริการดิจิตอลใหม่ๆ บนมือถือด้วย ไม่ว่าจะเป็น การชำระเงินผ่านมือถือ โฆษณาดิจิตอล โมบายทีวี คอนเทนต์ และแอปพลิเคชั่นต่างๆ
       
       นั่นเพราะผลจากการวิจัยผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำในเอเชียแปซิฟิกกว่า 120 บริษัท เห็นตรงกันว่า บริการเสริมบนมือถือ เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนของโมบาย โอเปอเรเตอร์ ทั้งในการสร้างประสบการณ์ลูกค้าให้เกิดการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้น การเสริมรายได้ และทำให้เหนือคู่แข่งขันในท้ายที่สุด
       
       ยกตัวอย่าง การชำระค่าบริการจากเดิมที่เป็นรูปแบบส่วนตัวมาสู่การชำระแบบครอบครัว โดยต่อไปสมาชิกในครอบครัวจะสามารถใช้บริการบนโทรศัพท์ไอโฟน (ผ่านเครือข่าย 3G) ไอแพด (ผ่านเครือข่าย 4G) และการเชื่อมต่อบนบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่บ้าน ตามความเร็วบนแบนด์วิธที่ต้องการร่วมกันได้ โดยชำระค่าบริการภายในหนึ่งใบเสร็จ เป็นต้น
       
       หรือแม้กระทั่งสามารถนำเอาค่าบริการแต่ละรายการที่ต้องชำระมาจัดอันดับ และจัดแพกเกจเสริมเพิ่มแวลูจากบริการที่ลูกค้าใช้อยู่ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ยิ่งขึ้น เช่น เมื่อจัดอันดับแล้ว พบว่าลูกค้ามีค่าใช้จ่ายจากบริการโมบายทีวีมากที่สุด ผู้ให้บริการสามารถจะเสนอแพกเกจใหม่ที่โหลดได้เพิ่มขึ้นในราคาประหยัดลง เป็นต้น ซึ่งบริการเสริมเหล่านี้ นอกจากจะช่วยเสริมประสบการณ์ใช้งานลูกค้าที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผู้ให้บริการมือถือสามารถสร้างรายได้จากการนำเสนอแพกเกจเพิ่มขึ้นด้วย
       


       สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และสามารถเกิดขึ้นได้จริง เพราะในแง่ของโซลูชั่น ไม่ใช่ข้อจำกัด เนื่องจากปัจจุบัน แอมด็อคส์ มีโซลูชั่นเหล่านี้ตอบโจทย์ผู้ให้บริการทุกความต้องการ โดยล่าสุดแอมด็อคส์เพิ่งลงนามในข้อตกลงขั้นสุดท้าย เข้าซื้อกิจการของ บริดจ์วอเตอร์ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านการจัดการนโยบายเพื่อการบริหารจัดการลูกค้าผู้ลงทะเบียนใช้บริการ และโซลูชั่นควบคุมเครือข่ายสำหรับมือถือ รวมถึงนโยบายเพื่อการบริหารลูกค้าด้านโทรคมนาคมแบบหลอมรวมบริการ
       
       การเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ทำให้แอมด็อคส์สามารถขยายการให้บริการด้านระบบเพื่อประสบการณ์ลูกค้า หรือ Customer Experience System (CES) ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการคิดค่าบริการในรูปแบบใหม่ๆ ที่แตกต่าง เจาะลึกถึงพฤติกรรมการใช้งานลูกค้ามากขึ้น เพียงแต่สิ่งสำคัญคือ ผู้ประกอบการกล้าที่จะแหกกฎหรือกรอบเดิมที่เคยเป็นหรือไม่
       
       แน่นอนว่า แนวคิดข้างต้น จะเกิดไม่ได้เลยหากปราศจากตัวขับเคลื่อนอย่างเครือข่าย 3G หรือ 4G ซึ่งเมืองไทยที่ยังไร้ 3G อาจต้องใช้เวลาอีกนาน แต่สำหรับ อาวิ เช็ชเทอร์ ประธานฝ่ายกลุ่มธุรกิจ APAC แอมด็อคส์ กลับคิดต่าง โดยบอกว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีโอกาสในการเข้าสู่กระบวนการทรานสฟอร์มอย่างมาก เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานค่อนข้างพร้อม ทั้งในแง่จำนวนคนใช้มือถือ และการใช้ข้อมูลผ่านมือถือ รวมถึงบรอดแบนด์และไวไฟก็มีการพัฒนาต่อเนื่อง หากไทยสามารถทำให้การรับส่งสัญญาณ 3G และ 4G เกิดขึ้น ก็จะช่วยให้การทรานสฟอร์มทำได้จริงจังมากขึ้น
       
       “ถ้าไทยมีการทรานสฟอร์ม เชื่อว่า 3-5 ปีข้างหน้า โทรคมนาคมไทยจะเทียบเท่าหรือแซงหน้าอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์แน่นอน”
       
       สอดคล้องกับ แอบเฮย์ คูมาร์ รองประธานฝ่ายจัดหากลยุทธ์ แอมด็อคส์โกลบอล ที่มองว่า ไทย และเวียดนาม เป็นประเทศที่มีศักยภาพและโอกาสในการให้บริการดิจิตอลบนมือถือมากที่สุด เนื่องจากปัจจุบันเมืองไทยมีผู้ใช้บริการมือถือสูงเทียบเท่าจำนวนประชากร หรือประมาณ 60 ล้านซับสไครเบอร์ แต่สามารถสร้างรายได้ส่วนใหญ่จากวอยซ์ ขณะที่รายได้จากดาต้านั้น ยังมีแพกเกจให้ลูกค้าเลือกไม่มาก เมื่อรวมกับอุปสรรคด้านเครือข่าย 3G จึงยังทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถจะสร้างสรรค์นวัตกรรมบริการใหม่ๆ ได้มากนัก

 wanwan019
ข่าวโดย ผู้จัดการ
บันทึกการเข้า

amazane
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 101



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2011, 13:30:23 »

อ่านแล้ว ได้สาระดีครับ ขอบคุณมาก
บันทึกการเข้า
mamazab
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 51
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 947



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2011, 13:47:16 »

       
       เนื่องจากปัจจุบันเมืองไทยมีผู้ใช้บริการมือถือสูงเทียบเท่าจำนวนประชากร หรือประมาณ 60 ล้านซับสไครเบอร์
หมายถึง มีการใช้งานบริการมือถือ 60 ล้านราย เลยเหรอ Huh?
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์