พรุ่งนี้เปิดบริการ 3G AIS ครับ
เอไอเอสลั่นเปิด3จี ก.ค.นี้ หลังบอร์ดกสทช.ไฟเขียว กสท รับอานิสงส์เปลี่ยนเทคโนฯซีดีเอ็มเอเป็นเอชเอสพีเอด้วย แต่ยังไม่ส่งหนังสือขอนำเข้าอุปกรณ์
เกม 3จีพลิก หลังมติบอร์ด กสทช.อนุมัติเอไอเอสอัพเกรดคลื่น 900 ทำ 3จีเอชเอสพีเอ 1,884 สถานีฐาน ระบุเอกชนประสานงานทีโอทีแล้ว ขอเปิดปูพรมทั่วประเทศเชิงพาณิชย์ เอไอเอสลั่นติดตั้งอุปกรณ์เสร็จแล้ว 100% เปิดเฟสแรก กทม. เดือนหน้า บอร์ดยังไฟเขียว กสท เปลี่ยนระบบจากซีดีเอ็มเอเป็นเอชเอสพีเอด้วย ยันยังไม่ได้รับหนังสือขอนำเข้าอุปกรณ์เหมือนรายอื่น พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการสอบสัญญา 3จีกสท-ทรู ให้สรุปส่งเรื่องกลับภายใน 45 วัน
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ปฎิบัติหน้าที่แทนกรรมการกิจการวิทยุกระเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทร คมนาคม (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) วานนี้ (29 มิ.ย.) มีมติอนุมัติให้บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) สามารถเปลี่ยนแปลงพื้นที่ให้บริการ 3จีในย่านความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ บนเทคโนโลยีเอชเอสพีเอ (อินแบนด์ ไมเกรชั่น) จำนวน 1,884 สถานีฐาน ตามที่ได้รับอนุญาตเดิมที่เอไอเอส เคยส่งหนังสือขอตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.2551 จำนวน 30 สถานี, 14 ส.ค.2551 จำนวน 400 สถานี และ 13 พ.ย.2551 จำนวน 1,242 สถานี
ทั้งนี้ เอไอเอสได้ระบุรายละเอียดในการเปิดบริการ 3จีเอชเอสพีเอคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ เช่น กทม.และปริมณฑลจำนวน 1,340 สถานี ชลบุรี 152 สถานี เชียงใหม่ 148 สถานี ภูเก็ต 78 สถานี นครราชสีมา 30 สถานี ขอนแก่น 25 สถานี และประจวบคีรีขันธ์ 7 สถานี ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ การอัพเกรดคลื่นความถี่เป็นเอชเอสพีเอ เอไอเอสแจ้งว่าได้รายงานไปยังบมจ.ทีโอที คู่สัญญาสัมปทานเรียบร้อยแล้ว และสามารถเปิดบริการ 3จีรูปแบบเชิงพาณิชย์ (คอมเมอร์เชียล) ได้ทันที
"การที่เอไอเอสจะเปิดให้บริการได้ในเดือนใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับเขาว่าทำได้เร็วเพียงใดถ้าต้องการจะชิงความได้เปรียบในตลาด ส่วนเรื่องการนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคมเพื่อให้ติดตั้ง 3จีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะการออกใบอนุญาตเป็นเรื่องของสำนักงาน กสทช.ในรูปแบบออโต้ ไลเซ่น"
เอไอเอสดีเดย์เปิด3จีก.ค.นี้
นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ขณะนี้การติดตั้งอุปกรณ์ 3จีและการอัพเกรดระบบ 900 เมกะเฮิรตซ์ เป็นเอชเอสพีเอจำนวน 1,884 สถานีทั่วประเทศเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว รอเพียงกำหนดการเปิดบริการอย่างเป็นทางการเดือนก.ค.นี้
ทั้งนี้ เฟสแรกดังกล่าวจะเปิดบริการก่อนในพื้นที่กทม.และปริมณฑลจำนวนราว 1,000 สถานี ส่วนพื้นที่อื่นๆ คาดว่าจะทยอยเปิดครบทั้ง 1,884 สถานีในไตรมาส 3 อย่างแน่นอน ซึ่งเอไอเอสใช้งบประมาณการอัพเกรดระบบทั้งหมด 2,500 ล้านบาท โดยใช้อุปกรณ์ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) บริษัท โนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์ก และบริษัท แซดทีอี
มติเอกฉันท์กสทเปลี่ยนระบบ
พ.อ.นที กล่าวด้วยว่า ส่วนของการเปิดบริการ 3จีสำหรับผู้ประกอบรายอื่นนั้น ที่ประชุมบอร์ดยังได้มีมติตามที่บมจ.กสท โทรคมนาคม มีหนังสือลงวันที่ 9 มิ.ย.2554 เกี่ยวกับแผนการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีวิทยุคมนาคมย่านความถี่ 800 เมกะเฮิรตซ์จากระบบซีดีเอ็มเอเป็นเอชเอสพีเอ ซึ่งสำนักงานกสทช.ได้ตอบหนังสือให้ กสท ส่งข้อมูลเพิ่ม และวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา กสท ก็จัดส่งรายละเอียดต่างๆ กลับมา ที่ประชุมบอร์ดวานนี้ จึงอนุมัติให้ กสท ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีตามที่ขอมาได้ ส่วนการนำเข้าอุปกรณ์ 3จีเป็นระเบียบของสำนักงาน ขั้นตอนเหมือนกับผู้ประกอบการรายอื่น
ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยเทคโนโลยีของ กสท ต้องมีเรื่องแผนการคุ้มครองผู้บริโภค โดยลูกค้าที่ใช้งานในระบบเดิมจะต้องได้รับสิทธิเทียบเท่าหรือดีกว่า การเปลี่ยนระบบต้องไม่กระทบต่อประโยชน์สาธารณะ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนเทคโนโลยีเป็นเรื่องการอัพเกรดเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม และไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) ดังนั้น บอร์ดจึงมีมติเอกฉันท์ให้ กสท เปลี่ยนเทคโนโลยีได้
"การที่เราอนุมัติให้เขาสามารถเปลี่ยนเทคโนโลยีได้ไม่เกี่ยวกับกรณีที่ผู้บริหาร กสท ออกมาระบุว่าจะสละประเด็นฟ้องเรื่อง กทช.ไม่มีอำนาจ จากที่เคยฟ้องเมื่อครั้งที่เราประมูล 3จีเดือนก.ย.2553 แต่ที่บอร์ดอนุมัติให้เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องการอัพเกรดเทคโนโลยีให้ดีขึ้น ซึ่งเรื่องที่เขาจะถอนฟ้องหรือไม่นั้น ไม่จำเป็นที่เอามาพิจารณา และกสทช.ไม่เคยสนใจเรื่องนี้"
นอกจากนี้ ยังได้อนุมัติให้บริษัท ทรูมูฟ จำกัดสามารถรับใบอนุญาตวิทยุคมนาคม สำหรับทดลองการให้บริการเอชเอสพีเอ (นอน คอมเมอร์เชียล) ย่าน 800 เมกะเฮิรตซ์ อีก 456 เครื่อง คิดเป็น 456 สถานี จากปัจจุบันที่ทรูมูฟให้บริการ 3จีนอน คอมเมอร์เชียลไปแล้วตั้งแต่เดือนส.ค.2551 จำนวน 656 สถานี
ตั้งอนุกก.สอบสัญญากสท-ทรู
พ.อ.นที กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนสัญญาโครงการ 3จีเอชเอสพีเอระหว่างกสท และกลุ่มทรู โดยได้แบ่งกรรมการออกเป็น 2 ชุด กรรมการชุดแรกมีนายศักดา ธนิตกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นประธาน จะพิจารณาประเด็นสัญญาดังกล่าวเป็นไปตามประกาศของกทช.ว่าด้วยบริการขายส่งขายต่อบริการ (โฮลลเซล-รีเทล) หรือไม่
ส่วนกรรมการชุดที่สอง มีนายประสิทธิ์ ประพิณมงคลการ ประธานกทช.ปฎิบัติหน้าที่แทนกรรมการกสทช.เป็นประธานในการตรวจสอบ ประเด็นหลักคือสัญญาดังกล่าวขัดต่อมาตรา 46 ตามพ.ร.บ.กสทช.ที่ระบุว่าคลื่นความถี่เป็นสิทธิเฉพาะตัวไม่สามารถโอนย้ายให้แก่บุคคลอื่นได้ โดยเสนอกรอบให้คณะอนุกรรมการส่งผลสรุปใน 45 วัน
ขณะที่การรักษาสิทธิ์วงโคจรดาวเทียม 120 องศาตะวันออก แม้จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) โดยตรงแต่ตามพ.ร.บ.กสทช.กำหนดให้บริการดาวเทียมเป็นหน้าที่ของ กสทช. ดังนั้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้นายทศพร เกตุอดิศร รองเลขาธิการกสทช.ไปตรวจ สอบรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งกสทช.พยายามหาแนวทางแก้ไข โดยให้เวลา 7 วันเพื่อนำข้อมูลมาเสนอต่อ กสทช.
อื่นๆ
