ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: Google search, contents และ blog  (อ่าน 1569 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
careeralive
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 362
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,192



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2013, 09:57:50 »

หลายคนเหนื่อยกับท้อ เปิดเว็บ/เปิด blog มาแล้วไม่แรงส์ แต่จะหาวิธีเร่งก็เสียว

1. ติดปัญหา Google ทำ index ให้ไม่เยอะ
2. ติดปัญหา keyword high competition
3. ติดปัญหา เว็บไม่ทำอันดับเพรา algorithm เปลี่ยนแปลงเร็ว
ฯลฯ

ผมอยากบอกว่า Search engine เป็นแค่ปัจจัยหนึ่งในการสร้างเว็บ/สร้าง blog ให้เกิด
หลายคนพยายามหาเทคนิคต่างๆเพื่อทำอันดับดีๆ เทคนนิคบนดินไม่ได้ก็เอาตายดินสายดำฯลฯ เช่นอยากเร่ง index ด้วยการปั่นบทความ อยากเร่งโพสก็ duplicate บทความ หรือการปั่น back link เรื่องนี้ Google เขาสร้างโปรแกรมมาเพื่อสกัดพฤติกรรมไว้หมดแล้ว ถ้าทำไปเรื่อยๆวันหนึ่งก็ต้องโดน penalize -- แต่ก่อนจะบอกว่า Google โหดร้าย ผมขอเล่าให้ฟังถึง structure แนวคิดการทำงานของ Google ก่อน แล้วคุณจะรู้ว่า Google ไม่ได้ร้าย

สิ่งที่ Google ต้องการนั้นง่ายๆ  Matt Cutts ใช้คำว่า Usefulness แปลว่ามีประโยชน์

1. Useful Contents เป็นยังไง? สมมุติคนกำลังมีปัญหาในชีวิตมาอ่านบทความนั้นๆแล้วสามารถเอาไปแก้ปัญหาได้ผลฉับพลัน เรียกว่าเป็น pain relief ให้ชีวิตก็ว่าได้
2. User เข้ามา Search หาแล้ว Google สามารถแสดงผล Useful Contents เหล่านั้นได้คือความสำเร็จสูงสุดของ Google

สองอย่างที่กล่าวมาเป็นภารกิจสูงสุดของ Google ตั้งแต่วันที่ Larry Page และ Sergey Brin ยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่ Standford University

สำหรับเจ้าของเว็บ ...Useful contents ต้องมีองค์ประกอบ 2 อย่าง

1) Relevancy คือควาสัมพันธ์ของคำค้นของ User กับ Contents
2) Authority สำหรับ Back link เช่น บทความหนึ่งของคุณดีมากจากเว็บใหญ่ๆ เอาไปแนะนำผู้อ่านแล้ว back link มาหาคุณ

ถ้าสองอย่างสัมพันธ์กัน User ได้ประโยชน์ Google ก็ภูมิใจภารกิจบรรลุ แต่ถ้าไม่สัมพันธ์กัน User ด่า Google ว่าระบบ search ห่วยแตกจะเกิดอะไรขึ้น
Google ก็ต้องกลับมาตรวจสอบ source contents ว่าเป็นไงไมาไงแล้วก็ de-index คุณออกไปจาก database เพื่อไม่ให้กลับมา search เจอและสร้างความไม่พอใจกับ user อีกต่อไป

ในหมวดนี้ผมจึงสรุปว่า ทั้งการ index และ de-index เป็นหน้าที่ของ Google ที่มีความสำคัญพอๆกัน -- Google จะไล่เก็บทุกอย่างตลอดไปไม่ได้ การลบสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องจึงต้องมีทุกวันและถ้ายิ่งเร็วก็ยิ่งดี เพื่อรักษาประสิทธิภาพของระบบ search ทั้งกระบวนการ

หมวดหนึ่งจบไปแล้ว เดี๋ยวมาต่อ หมวดสอง Contents ...contents ...contents

www.facebook.com/theceoblogger
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 กุมภาพันธ์ 2013, 11:27:37 โดย careeralive » บันทึกการเข้า
careeralive
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 362
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,192



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2013, 10:53:15 »

Corbett Barr full-time Blogger ใช้คำว่า Epic Contents (จุดกำเนิดของศัพทฺ์มาแต่เมื่อใดไม่รู้นะครับ)
Epic contents เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเขียน Blog จากเดิมที่เขียนกันแค่ไม่เกิน 500 คำแล้วเน้นโพสหลายๆบทความความ หรือสำหรับ Blogger บ้านเราผมเห็นหลาย Blog เขียน 200-300 คำก็มีซึ่งสำหรับ Blogger อาชีพ จำนวนคำเท่านี้ถือว่าน้อยและไม่เกิด impact ต่อผู้อ่าน ส่วน Epic contents นั้นจะมีจำนวนคำสูง 2000-4000 คำ หรือเทียบเท่ากระดาษ A4 จำนวน 4-5 หน้า++



ปัจจุบัน blogger ฝรั่งหันมาทำ epic contents มากขึ้น แม้จะใช้เวลาทำนาน คือประมาณ 10-15 ชั่วโมงต่อบทความ เนื่องจากเนื้อหาและข้อมูลเชิงลึกของบทความและการจัดการ lay out ที่ต้องพิถีพิถัน แต่ให้ประโยชน์มหาศาลต่อผู้อ่านและตรึงผู้อ่านให้อยู่ใน blog นานขึ้น อีกทั้งบทความจะประกอบไปด้วย back link เชื่อมโยงภายในเว็บได้มากกว่าบทความสั้นๆ ทำให้อัตราการหมุนเวียนของ Audience ภายในเว็บ/blog นั้นๆยาวนานจนกระทั่งกลายเป็นแฟน blog ได้เลย และการที่ blog มีแฟนหรือผู้ติดตามที่ภักดีเป็นการสร้างโอกาสการบอกต่อแบบปากต่อปากและ back link ส่ง traffic เป็นอย่างดี

ส่วนเรื่อง search engine... ปัจจุบันใน cyberspace มีเว็บเพจมากกว่า 100,000,000,000,000 เพจและเพิ่มสูงขึ้นทุกวันในอัตราเร่ง
ฉะนั้นการพึงพา search engine เพียงอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ผมคิดว่า search engine เป็นเครื่องมือและปัจจัยอย่างหนึ่งในการทำเว็บให้เกิด

ผลสำรวจเชิงสถิติในอเมริกาพบว่า
40% พิมพ์ชื่อแบรนด์ที่ต้องการค้นหาโดยตรงลงไปใน search
65% ดูทีวีแล้วกลับมา search ข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ต

แม้แต่เว็บ GoDaddy ก็ใช้ป้ายโฆษณาในรายการ Super Bowl เพื่อโปรโมทแคมเปญใหม่ของตัวเองเมื่อปี 2007
กล่าวคือคนจำนวนไม่น้อยไม่ได้ random search แต่มี target name search ในใจอยู่แล้วและไม่น้อยมาจาก offline มาจากการได้ยินได้เห็นมาจากแหล่งอื่น เห็น comment มากจาก social network

สรุป SEO เป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ไม่ใช่ปัจจัยหนึ่งเดียวในชีวิต ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย
ผมไปเจอวลีของ full-time blogger คนหนึ่ง ดันจำไม่ได้ว่าไปเจอที่ไหน เขาเขียนไว้ดีมาก

ทำเว็บยังไงให้ประสบความสำเร็จ...."จงทำเว็บราวกับวันพรุ่งนี้โลกจะไม่มีGoogle"

ทำให้ผมนึกถึงวลีของเศรษฐีหุ้น Warren Buffet ที่คนชอบถามว่าเล่นหุ้นตัวไหนดี ซื้อหุ้นอะไรดี ฯลฯ ลุง Warren ก็บอกเป็นประมาณว่า "จงซื้อหุ้นที่คุณไม่ต้องกลับมานั่งเฝ้ากระดานได้อีก 10ปี"


บันทึกการเข้า
gangnum
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 113



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2013, 11:46:21 »

+1 ถึงผมยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่เยี่ยมมากเลย
บันทึกการเข้า
SmartSeo
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 35
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 356



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2013, 14:12:54 »

ขอบคุณครับ กำลังหาแนวทาง และแหล่งข้อมูล ที่สามารถช่วยลดเวลาการแต่งเนื้อหา แต่ยังไม่ได้อะไรเลย Lips Sealed Lips Sealed
บันทึกการเข้า
ploychompu
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 12
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 229



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2013, 14:30:13 »

ขอบคุณมากค่ะ
บันทึกการเข้า

TomYong
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 51
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 451



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2013, 15:04:20 »

ได้อะไรดีๆไปเยอะเลยครับ เดี๋ยวจะพยายามเขียนบทความให้ยาวๆกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ที่เขียนแค่... บล็อกผมไม่ถึงร้อยคำก็มี
บันทึกการเข้า
careeralive
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 362
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,192



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2013, 15:11:03 »

ตอนผมเริ่มเขียน blog ใหม่ๆ อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 500 คำ แต่ถ้าหมั่นเขียน ทักษะจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจุบันบทความเฉลี่ยผมอยู่ที่ประมาณ 800-1200 ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง และกำลังแพลนจะทำ epic contents ตามออกมา มันใช้เวลา แต่ผมคิดว่าคุ้มในการสร้างภาพลักษณ์ให้ blog แข็งแรง

บทความยิ่งยาวก็เพิ่มโอกาสให้เกิด long tail keyword ซึ่งใน search engine กลุ่ม long tail keyword กินสัดส่วน 75% ของคำค้นหา ผมกำลังมี eBook เกี่ยวกับ principle of Google friendly contents เดี๋ยวเสร็จแล้วจะมาแจ้งอีกที

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์