ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeอ่านข่าวนี้แล้ว ช๊อคเลยครับ ((ขเมรจ้องจดทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของไทยกับ Unesco))
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อ่านข่าวนี้แล้ว ช๊อคเลยครับ ((ขเมรจ้องจดทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของไทยกับ Unesco))  (อ่าน 2952 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Zero-G
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 831



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 08:54:04 »

ขออนุญาติ รายงานข่าวที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับไทยเสียวสักเล็กน้อย แต่เกี่ยวข้องกับเราซึ่งเป็นคนไทย
ไม่ังั้นอีกหน่อยคงได้เปลี่ยนเป็น ขะแมร์เสียวแน่  wanwan031 wanwan031

คนไทยจะโดนเขมรยึดหมดแล้ว !!!
เขมรเตรียมขึ้นทะเบียนขุนช้างขุนแผน พระอภัยมณี และวัดพระแก้วกับ UNESCO
ผมเจอเรื่องนี้มานาน
ตอนแรกคิดว่าคงไม่มีอะไร
แต่ไปๆมาๆชักรู้สึกเหมือนว่าคนไทยยังไม่ทราบเรื่องนี้กันเท่าไหร่
เลยขอเอามาแชร์ในบอร์ดนี้
เผื่อจะมีผู้มีกำลังพอจะช่วยกันจัดการในเรื่องนี้ได้ครับ

หลังจากที่เขมรได้ขึ้นทะเบียนรำไทย ท่าจีบไทย และหนังใหญ่ไทยกับ UNESCO ไปแล้ว ตอนนี้ทางเขมรกำลังเริ่ม

แผนฮุบวรรณคดีไทยหลายเรื่อง สถาปัตยกรรมไทย และดนตรีไทยไปเป็นของตนด้วย

รายละเอียดการขึ้นทะเบียนของ UNESCO ดูได้จากลิงค์นี้ครับ

http://www.unesco.org/culture/...php?lg=en&pg=00011#results

(เพื่อความสะดวก ให้มองลงมาหน่อยจะมีแถบสีน้ำเงินยาวๆเขียนว่า
Results : 232 element(s) Display by ...
เลือก drop down list ตรงนี้เป็น "country"
แล้วคลิกปุ่ม "OK" นะครับ จะได้ดูสะดวกกว่า)

เมื่อเลือกให้แสดงตามรายชื่อประเทศแล้ว
เลื่อนมาดูที่ประเทศ Cambodia ครับ
จะเห็นได้ว่ามี 2 อันคือ
- The Royal Ballet of Cambodia นี่คือรำไทยและท่าจีบไทย
- Sbek Thom, Khmer Shadow Theatre นี่คือหนังใหญ่ของไทย

เห็นอย่างนี้แล้วคนไทยอย่างเราๆรู้สึกยังไงกันบ้างครับ
ที่รำไทย ดนตรีไทย และหนังใหญ่ของไทยแท้ๆ
ที่ครูบาอาจารย์โบราณไทย รวมถึงท่านครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะ
อุตส่าห์ไปสอนให้ถึงราชสำนักเขมรในช่วงเพียงร้อยปีที่ผ่านมานี้
ถูกเขมรเอาไปขึ้นทะเบียนให้โลกรับรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของกัมพูชาไปอย่างหน้าด้านๆ

ของหลักๆที่เขมรกำลังจะโขมยไทยไปอีกตอนนี้ก็คือ
- ดนตรีไทย เช่น ระนาด จะเข้ ขิม
- วรรณคดีไทย เช่น ขุนช้างขุนแผน พระอภัยมณี
- สถาปัตยกรรมไทย เช่น วัดพระแก้ว เรือนไทย ลายไทยต่างๆ
เบ็ดเตล็ดต่างๆอีกก็เช่น มวยไทย เลขไทย คำราชาศัพท์ ฯลฯ

และเขมรไม่พอแค่นี้
เนื่องด้วยเขมรมีแผนระยะยาวที่จะทำให้ประเทศตน
ซึ่งคงไม่มีวันจะได้เป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจแน่ๆ
กลับไปเอาดีทางด้านวัฒนธรรมแทน
โดยการจะทำให้เขมรเป็นประเทศศูนย์กลาง
ทางวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตอนนี้เขมรเริ่มการบ่อนทำลายด้วยการปั่นกระแส
โกหกและเปลี่ยนประวัุติศาสตร์อย่างหน้าด้านๆ
โดยการกล่าวหาว่าไทยเป็นคนก๊อปปี้รำไทย ดนตรีไทย และวรรณคดีไทย ไปจากเขมร
รวมถึงวรรณดคีและสถานที่ต่างๆเช่นวัดพระแก้ว หรือพระบรมมหาราขวังไทยด้วย
พวกนี้จะมากันเป็นแก๊งค์ครับ ยากมากที่จะเถียงสู้
ด้วยคนไทยเพียงคนหรือสองคน


วิธีการก็คือ
พวกเขมรจะเข้าไปในคลิปพวกรำไทย ดนตรีไทย
แล้วจะคอมเมนต์แนวๆว่า
- เขมรแต่งมาก่อน ไทยก๊อปปี้เขมรไป
- อาณาจักรเขมรมีมาก่อนไทยในภูมิภาคนี้ใครๆก็รู้
- ตอนที่ไทยตีนครวัดได้ ไทยกวาดศิลปินนักดนตรีนางรำเขมรไป
- ไทยเป็นเมืองทาสเขมร สุโขไททรยศเขมรโขมยสมบัติวัฒนธรรมเขมรไปหมด
- ไทยนั่นแหละเรียนรำกับดนตรีมาจากเขมร เพราะเขมรมีมาก่อนตั้งเป็นพันปีมาแล้ว
- เขมรไม่ยอมรับว่าเคยเป็นเมืองขึ้นของไทยเลย
- เขมรไม่ยอมรับว่าไทยยกเขมรให้กับฝรั่งเศส แต่ตกเป็นของฝรั่งเศสเองต่างหาก
ฯลฯ

กระแสการโกหก เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ศิลปะไทย-เขมรนี้
จะเห็นได้ชัดเจนและรุนแรงมากจากเว็บไซต์ youtube.com
ท่านใดที่เล่นเว็บนี้ และติดตามคลิปวัฒนธรรมไทยน่าจะได้เจออยู่แล้ว


มีอีกลิงค์เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ผมเคยพบมา
ลองไปดูประกอบได้ครับ

http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=100716.0


อันว่ารำไทยและดนตรีไทย (รำเขมร) นั้นเดิมมาเขมรมิได้มีแต่อย่างใด
แต่เพิ่งมีขึ้นในยุครัตนโกสินทร์ ช่วงประมาณ 140 ปีที่แล้วนี่เอง
(หากไปดูในคลิปแนะนำของ UNESCO จะทราบได้เลยว่า
ชาวตะวันตกยังเข้าใจผิดกันอยู่
เพราะในเนื้อหาบอกว่าเป็นรำที่อยู่คู่กับราชสำนักเขมรมามากกว่าพันปี
ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลย
เพราะเขมรเพิ่งเรียนไปจากไทยแค่ร้อยกว่าปีเท่านั้น
คือพอเรียนได้ไม่นาน ฝรั่งเศสก็เข้ายึกเขมรพอดี
เลยทำให้รำเขมรที่เพิ่งเรียนจากไทยเป็นที่รู้จักแก่โลก
ผ่านทางเขมรไปเสียชิบ)

สมัยที่นักองด้วง เจ้าชายเขมรที่ถูกส่งตัวมาเป็นเชลยหลวงในราขสำนักไทย
ได้ร่ำเรียนภาษาไทย วรรณคดีไทย ดนตรีไทย สถาปัตยกรรมไทยไปมากมาย
มีความนิยมชมชอบและให้ค่าสิ่งต่างๆที่เป็นของไทยเป็นอย่างมาก
(เช่นเดียวกับพม่าที่ให้ค่ากับสิ่งต่างๆ
ที่มาจากโยเดีย(อโยธยา)เป็นอย่างมากเช่นกัน)
ได้ครบวาระกลับไปเป็นกษัตรย์ครองเมืองเขมรแล้ว
ก็ได้กลับไปพร้อมทั้งได้นำศิลปวัฒนธรรมไทยต่างๆ
ไปเผยแพร่และใช้ในเขมรด้วย
แม้แต่เครื่องราชกกุฎภัณฑ์ยังสร้างและส่งไปจากไทย

นักองด้วงได้นำวรรณคดีหลายเรื่องเขียนใหม่เป็นภาษาเขมร
สร้างวัดและวังใหม่โดยใช้สถาปัตยกรรมไทยทั้งดุ้น
ที่สำคัญก็คือราชวังและวัดพระแก้ว
เอ๊ะ ! ฟังผิดหรือเปล่า

ไม่ผิดครับ พระราชวังในพนมเปญก็มีวัดพระแก้วอยู่ด้วยเหมือนของไทย !!!!!
แถมขื่อวัดก็ยังชื่อว่า "วัดพระแก้ว" หรือตามสำเนียงเขมรว่า Wat Phreah Keo
เรียกว่าก๊อปปี้ไทยไปทั้งกระบิ

ใครไม่เคยทราบหรือไม่เคยเห็นวัดพระแก้วและพระราชวังเขมร
ที่ก๊อปจากพระบรมมหาราชวังกับวัดพระแก้วของไทยไป
ก็เข้าไปดูได้ในลิงค์นี้ครับ

พระราขวังพนมเปญ (สถาปัตยกรรมไทย ก๊อปไทยไปทั้งดุ้น)
http://en.wikipedia.org/wiki/Royal_Palace,_Phnom_Penh

วัดพระแก้วเขมร (นิยมเรียกว่า Silver Pagoda แต่ชื่อเต็มคือ พระวิหารพระแก้วมรกต)
http://en.wikipedia.org/wiki/Silver_Pagoda,_Phnom_Penh

ทั้งพระราชวังและวัดพระแก้วของเขมรมันก๊อปปี้ไปจากไทยชัดเจนขนาดนี้
เขมรมันยังกล้ากล่าวหาว่านี่คือสถาปัตยกรรมเขมรได้เลยนะครับ
ดูความหน้าด้าน + หน้าโง่ของเขมรสิครับ
แยกยังไม่ออกเลยว่าศิลปะไทยกับศิลปะเขมรมันต่างกันยังไง
กล้ามากขนาดระบุเอาไว้ใน Wikipedia (ดูได้จากลิงค์ข้างบน) ว่า
พระราชวังเขมรมี Architectural style เป็น Architecture of Cambodia (fail มากๆ)
เขมรกล้าทำได้ทุกอย่างจริงๆ

สมัยสุโขทัยนั้นยอดปราสาทไทยยังนิยมใช้แบบยอดปรางค์ (ยอดแบบเขมร) อยู่
แต่พอเข้าสมัยอยุธยา ยอดปราสาทไทยก็เริ่มเปลี่ยนจากยอดปรางค์
ไปเป็นยอดมณฑปหรือยอดปราสาท ซึ่งเป็นศิลปไทยบริสุทธิ์แล้ว
แต่เขมรยังใช้ยอดปรางค์อยู่
แต่ดูราชวังเขมรกับวัดพระแก้วเขมรสิครับ
อยู่ดีๆโดดมาใช้ยอดปราสาทแบบไทยดื้อๆ ไม่มีความเขื่อมต่อแม้แต่น้อย
ยังกล้าบอกว่ามันเป็นต้นฉบับได้ เวรของกรรรมของเวรอีกทีจริงๆ

แต่ ...
สิ่งสำคัญก็คือ นักองด้วงได้ขอร้องทางราชสำนักไทย
ให้ช่วยส่งครูละคร ครูดนตรีไปฝึกสอนให้ที่ราขนำนักเขมรด้วย
จากความสัมพันธ์อันดีที่ไทยมีต่อนักองด้วย
เนื่องจากไทยเราก็ได้เลี้ยงนักองด้วยมาตั้งแต่เล็กๆ
จึงได้ส่งครูนาฏศิลป์ดนตรีไปฝึกสอนถึงราชนำนักเขมรให้ตามที่ขอ
ตั้งแต่นั้น เขมรก็จึงได้มีนาฏศิลป์และดนตรีไว้ในวังของตนเสียที
หลังจากนั้นก็ได้มีครูไทยไปสอนอีกหลายครั้งหลายครา
ครั้งสำคัญอีกครั้งก็เป็นครั้งที่องค์หญิงฉวีวาดท่านป้าของ มรว.คึกฤทธิ์
ยกละครไปทั้งโรง หนีพระราขอาญาไปพึ่งราชสำนักเขมร

ท่านครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะของเรา
ก็เคยได้ไปสอนที่ราชสำนักเขมรเข่นกันตามที่ทุกท่านทราบกันดี
กลับมาท่านก็ได้แต่งเพลงนกเขาขแมร์ไว้เป็นที่ระลึกด้วยไงครับ

เขมรเรียกเพลงเครื่องสายว่า "มโหรี" เหมือนไทย
และเรียกเพลงปี่พาทย์ว่า Pleng Siem (เพลงสยาม)
ซึ่งก็คือเพลงที่มาจากสยามนั่นเอง

ชื่อเพลงหน้าพาทย์ที่ใช้ในรำเขมรก็ยังคงเรียกตามชื่อไทย เช่น
เพลงเสมอ เพลงพัดชา เพลงโล้ เพลงกลม เพลงกราวใน
เพลงเชิด เพลงสีนวล เพลงเร็ว ฯลฯ
เขมรยังคงเรียกเป็นชื่อไทยเด๊ะๆอย่างที่ไทยเรียกนี้เลยครับ
90% ของเพลงปี่พาทย์เขมร ยังคงเรียกด้วยชื่อไทย
และที่สำคัญคือ คำต่างๆเหล่านี้ไม่มีความหมายในภาษาเขมร

อาจมีบางเพลงที่เขมรเปลี่ยนไปเรียกด้วยคำเขมรเอง
อย่างเช่นเพลงพญาเดิน ก็เรียกเป็น "พอเนียแดร์" แทน
ซึ่งก็ยังคงแปลว่าพญาเดินเหมือนคำไทยเดิม

สิ่งสำคัญอย่างนึงก็คือวงปี่พาทย์เขมรไม่มีตะโพนครับ
คาดว่าเป็นกลองศักดิ์สิทธิ์ ตียาก
สมองมันยังไม่มีบารมีพอจะรับได้
ที่ไทยเคยสอนไว้เมื่อร้อยกว่าปีก่อนก็เลยสูยหายไปไม่เหลือมาถึงปัจจุบัน
หรืออาจเป็นกุศโลบายของอาจารย์ไทยสมัยก่อน
ที่อาจเล็งเห็นอะไรบางอย่างท่านเลยไม่สอนตะโพนให้พวกเขมร

เขมรมีแต่ละครใน
รำหลายๆอย่างก็ยังเรียกเป็นขื่อไทยอยู่
ที่สำคัญๆก็อย่างเข่นรำฉุยฉาย นี่เรียกว่า Chhuy Chai เลยเด๊ะๆ
ร้องออกฉุยฉายอย่างไทยเด๊ะๆอีกต่างหาก เซิร์ชหาดูได้มากมายใน youtube.com
แถมมีการใช้ปี่ว่าดอกฉุยฉายด้วยนะ ก๊อปไทยไปทั้งดุ้น

เขมรไม่มีโขน
แต่ปัจจุบันเริ่มจะทำให้มันมีขึ้นมาแล้ว
ด้วยการหัดใหม่โดยการมาก๊อปปี้โขนไปจากไทยช่วงไม่กี่สิบปีนี้มาเอง
เมื่อครั้งโน้นครูไทยไม่ได้ถ่ายทอดโขนไว้ให้เขมร สอนให้แต่ละครใน
ลองไปดูโขนเขมรสิครับ ง่อยมากๆ
ยิ่งกว่าเด็กเพิ่งหัดโขนขึ้นไปเล่นอีก ดูตอนแรกนึกว่าจำอวด

แม้แต่ธรรมเนียมในการเรียนรำ หรือการไหว้ครู ก็เป็นอย่างไทยเด๊ะๆ
ในวิทยาลัยนาฏศิลป์เขมร ก็จะนุ่งผ้าแดงเรียนกันเหมือนไทยเปี๊ยบ
พิธีไหว้ครู ก็ตั้งเครื่องตั้งสำรับอย่างไทย แต่งกายอย่างไทย
มีองค์ประธานอย่างไทย แต่งตัวเรียกเพลง ขั้นตอนต่างๆเหมือนกันเด๊ะๆ
คือถ้าประธานพิธีไม่พูดเขมรออกมา ก็ไม่รู้หรอกครับว่านี่เป็นพิธีไหว้ครูนาฏศิลป์ของเขมร


ส่วนระบำอัปสรา ที่เข้าใจผิดกันนักกันหนาว่านี่แหละเขมรแท้ๆ
ก็ไม่ใช่รำเขมรครับ
มันคือรำไทยนี่แหละครับ

ระบำอัปสราเป็นระบำที่เพิ่งคิดขึ้นมาใหม่เมื่อประมาณ 60 ปีก่อนนี้เอง
รำครั้งแรกโดยเจ้าหญิงบุพผาเทวี
โดยใช้ท่ารำต่างๆอย่างรำไทยทั้งหมด
เพียงแต่เปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่
โดยออกแบบขึ้นมาใหม่ด้วยการเลียนแบบจากภาพสลักบนกำแพงนครวัด
ดังนั้นระบำอัปสรามันก็คือ รำไทยดีๆนี่เอง
เพียงแต่เปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่คล้ายๆกับระบำโบราณคดีเท่านั้น
เพลงที่ใช้ประกอบระบำอัปสราเรียงตามลำดับ ดังนี้ครับ

เริ่มด้วย
- สีนวล
ต่อด้วย
- ต้นฉิ่ง (ไม่แน่ใจว่าใช่ "ต้นเพลงฉิ่ง" หรือเปล่า)
- เสมอ
- รัว
- จีนหลวง
แล้วจบด้วย
- เชิด

ท่านใดสนใจดูระบำอัปสราว่ามีความเป็นไทยขนาดไหน
(ไม่มีความเป็นเขมรเลย
มีความเป็นไทยมากกว่าระบำลพบุรีของเราเสียอีกครับ)
ดูได้จากลิงค์นี้ครับ
(คลิปนี้ดีมากครับ เป็นของอาจารย์คนไทย
ท่านกำกับภาษาไทยอธิบายไว้ด้วยอย่างดี)

ระบำเทพอัปสรา 1/2



อย่าประมาทนะครับเรื่องการโกหกและการปั่นกระแสนี้
เขมรเก่งเรื่องนี้มากๆ
และก็ด้วยวิธีการโกหก เปลี่ยนประวัติศาสตร์
เปลี่ยนแปลงเอกสารสำคัญต่างๆอย่างง่ายๆนี่
ก็หลอกพวกชาวตะวันตกให้หลงเชื่อได้เป็นวรรคเป็นเวร
จนขโมยเอารำไทย หนังใหญ่ รวมถึงเขาพระวิหารไปได้อย่างเป็นทางการ
ได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว

น้ำเซาะหินทุกวันยังกร่อน
ดังนั้นการที่พวกเขมรมาโหมกล่าวหาไทยอย่างนี้
โดยไม่มีการคัดค้านจากคนไทยเลย
นานวันเข้า ชาวต่างชาติมาเห็นเข้า
ก็จะโอนเอนไปตามที่พวกเขมรมันโพสต์เอาไว้
และเข้าใจมาวัฒนธรรมไทยต่างๆเหล่านั้นเป็นของเขมรไปจริงๆนะครับ

บางท่านอาจจะขำที่พระอภัยมณี หรือขุนช้างขุนแผน
ที่มีชื่อตัวละครเป็นคำไทยแท้ๆ และคนแต่งมีระบุชัดเจนเป็นคนไทยแท้อย่างนี้
เขมรจะเอาไปขึ้นทะเบียนเป็นของตนไม่ได้นะครับ
เพราะก็อย่างที่เห็นอยู่ รำไทย หนังใหญ่ไทยแท้ๆ
ไหนจะเขาพระวิหารที่อยู่บนภูเขาที่ต้องอ้อมมาขึ้นจากทางฝั่งไทยเท่านั้น
เขมรมันก็เอาได้ไปจริงๆแล้วนะครับ

เพราะงั้น ผมไม่อยากให้ "ดนตรีไทย" "วรรณคดีไทย" "สถาปัตยกรรมไทย" ฯลฯ
จะต้องกลายไปเป็นของที่ชาวโลกรับรู้ว่าเป็นของเขมรแล้วไทยก๊อปปี้ไปเลยนะครับ
ผมขอฝากท่านทั้งหลายที่มีความรู้ความสามารถ
รวมทั้งกำลังอำนาจพอจะช่วยยื่นมือเข้าไปจัดการได้
ช่วยกันอย่าให้วัฒนธรรมอันมีค่าของไทย
ขึ้นชื่อว่าเป็นของต่างชาติเลยครับ
สงสารวิญญาณครูบาอาจารย์ท่าน
ที่อุตส่าห์คิดค้นสั่งสมกันมาหลายร้อยปีหลายชั่วอายุคน
แล้วอยู่ดีๆโดนเขมรมันชุบมือเปิบไปหน้าตาเฉย

ท่านที่ต้องการเข้าไปอ่าน comment ว่าคนไทยเถียงกับคนเขมรแบบไหน
และคนเขมรมันโกหกและยืนยันความเท็จลวงโลกยังไง
ลองเข้าไปดูได้ตามลิงค์นี้ครับ
ผมเอามาให้ดูเป็นกรณีตัวอย่างในแต่ละหัวข้อ

รำไทย (อันนี้ยาวและดุเดือดมากๆ)
Mondomix présente : Ballet royal du Cambodge au Festival de Fès 2010

ดนตรีไทย (อันนี้ก็มันส์)
"RANAD-EK" Thailand Traditional Instrument

ขุนช้างขุนแผน
Khun Chhang & Khun Phen part 1

พระอภัยมณี
7/ Preah Aphai Many, Kyom chanh kol Yeak,( Veacha,Pichenda,Phanith)vs


ข้อเสียเปรียบสำคัญประการนึงก็คือ
คนไทยที่มีพอจะมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ใช้ภาษาอังกฤษไม่ค่อยคล่อง
ที่มีก็น้อยมาก ไม่อาจสู้กองทัพเขมรพวกนี้ได้ไหว
เพราะคนเขมรนั้นใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่อยู่แล้ว
เนื่องจากเขมรพวกนี้เป็นเขมรอพยพที่อยู่ในต่างประเทศ
ตามประเทศต่างๆที่มีค่ายผู้อพยพชาวเขมรอย่าง USA ฝรั่งเศส แคนาดา ฯลฯ
เขมรในกัมพูชาไม่ค่อยมาเถียงหรอกครับ เพราะมันก็ใช้ภาษาอังกฤษไม่คล่องเหมือนกัน
ดังนั้นคนไทยเราจึงเสียเปรียบมาก
เพราะภาษาที่ใช้สื่อสารกันและชาวต่างชาติรับรู้ได้คือภาษาอังกฤษเท่านั้น


สุดท้ายที่อยากจะฝากคือ นอกจากเราจะอนุรักษ์ให้ดนตรีนาฏศิลป์ไทย
อยู่คู่กับสังคมไทยภายในประเทศแล้ว
อย่างลืมที่จะต้องเผยแพร่ออกสู่สายตาของประเทศต่างๆด้วยนะครับ
เพื่อให้ชาวโลกได้ติดหูติดตาว่าดนตรีอย่างนี้ รำอย่างนี้คือไทย
ไม่ใช่เก็บไว้ชื่นชมเองแต่ในประเทศ
แต่พอรู้ตัวอีกที ชาวโลกเค้ารับรู้กันไปแล้วว่าดนตรีอย่างนี้ รำอย่างนี้เป็นของเขมรไป
ถึงวันนั้นแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วนะครับ
-----------------------------------------------------------------
เครดิต วิญญาณสถิตย์ @ ไทยคิดส์

ผมได้รับลิ๊งจากอาจารย์ที่เคารพท่านหนึ่ง
อ่านแล้ว ตกใจมากๆ
เราควรจับมือกันหาทางต้านภัยวัฒนธรรมกับพวกนี้
อย่างน้อย เอาที่เหลือทั้งหมด (ที่ยังไม่โดนมันเอาไป)
เอาไปขึ้นทะเบียนเสียให้เรียบร้อย มันจะได้ฮุบไปขึ้นทะเบียนไม่ได้ เพราะจะซ้ำซ้อนกัน
แต่คนไทย ก็ไม่ค่อยจะทันเขาหรอกครับ
เพราะชอบนิ่งนอนใจว่ามันเป็นของเราอยู่วันยันค่ำ
มัวแต่ตีกันเองอยู่น่ะแหละ คงจะสนุกกว่าเป็นไหนๆ
เข้าทำนองข้าศึกยกทัพจะเข้าตี แต่ชาวเมืองยังแย่งหม้อข้าวเดือดกันเองอยู่
(ไม่อยากจะว่าเลย...แต่นี่คือเรื่องจริง)

copy มาจาก
โค๊ด:
http://forum.mthai.com/view_topic.php?table_id=1&cate_id=34&post_id=58793

ใครทราบแหล่งข่าวแท้จริง หรือ มีข้อมูลเพิ่มเติมรบกวนรายงานเพิ่มด้วยคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:29:08 โดย Zero-G » บันทึกการเข้า

ta_to_to
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,769



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:03:49 »

 Shocked
บันทึกการเข้า

mrdreamer
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 105
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,525



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:07:13 »

ผมว่าเอาไป post ใน pantip จะได้เรื่องกว่าครับ
บันทึกการเข้า
Numl3ers
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 276
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,702



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:08:07 »

แต่อย่างว่านะครับ ประวัติศาสตร์ยังไงก็เป็นอย่างนั้นวันยันค่ำ   wanwan004 wanwan004 wanwan004

พอเขมรมันเอาไปขึ้น เราก็เอาไปแย้งได้ครับ ถ้าหลักฐานเราแน่นกว่า ยกตัวอย่างเช่น รถ ตุ๊กๆของไทย ที่ฝรั่ง(จำประเทศไม่ได้)เอาไปจดสิทธิ์บัตร ไทยยังไปแย้งเอาคืนได้เลยครับ ส่วนสิ่งก่อสร้าง มันมีหลักจารึก วัน เดือนปีที่สร้างอยู่แล้วครับ อันนี้ ใครว่าใครก็อบมันก็พิสูจน์ได้อีก
ผมไม่ได้ว่านะ ของจริงไม่สวย ของก็อปสวยกว่า แบบเมืองจำลองบ้านผม  Shocked ก็อบได้สวยกว่าอีก อิอิ

ส่วนวัฒนธรรม ให้มัน ก็อบยังไงก็ไม่เหมือนหรอกครับผมว่า  Tongue Tongue รำไทย นาฏศิลป์ไทย มีโชว์ให้ชาวต่างชาติดูเกือบทั่วประเทศ เวลาฝรั่งมาเที่ยว เค๊าบินมาดูที่ไทยครับ ไม่ได้ไปดูที่เขมร  wanwan004 ผมเคยไปดู ภูเก็ตแฟนตาซีครับ สุดตรีนมากๆ สุดยอดเลย นาฎศิลป์ำทย โรงละครหุ่นเล็กโจหลุยส์ ก็ไปมา ยิ่งโขนนี่ ผมดูคนไทยเก่งๆ โชว์ได้สวยขนาด อ่อนช้อย ผมว่าคนเขมร มันทำไม่ได้หรอกครับ ฟันธง  wanwan004 wanwan004 wanwan004

ยังไงต่างชาติก็อยากมาดูของไทยอยู่ดี ให้มันขึ้นไปเถอะ  wanwan016
บันทึกการเข้า

chunne
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 11
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 369



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:08:32 »

คำราชาศัพท์ หลายคำ ไทยเอามาจากภาษาเขมรค่ะ
ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นของไทย มันไปขึ้นทะเบียนได้ยังงัย รับไม่ได้
บันทึกการเข้า
MaFiaVza
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 412
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,989



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:10:52 »

งั้นเพลงอมพระมาพูดของพี่เบิร์ด ก็ก๊อปเขมรมาดิ  wanwan004
บันทึกการเข้า

...ซึบซับข้อมูล
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:11:02 »

ไม่ใช่จะครับ  ยึดมาตั้งนานแล้ว  เขมรมีความพยายามมานานมากแล้ว  แต่ทำไม่สำเร็จซักทีจนกระทั่งมี MOU 2543  ซึ่งรับรองแผนที่มาตราส่วน 1:20000  

ลงนามโดยรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ รมว. สุขุมพันธ์ บริพัทธ์  ในวันที่ 14 มิถุนายน 25443  นับจากนั้นเป็นต้นมา  เขมรก็ได้นำคนชาวกัมพูชาเข้ามาอยุ่

รอบ ๆ  แนวชายแดน  โดยก่อนปี 2543  เขมรได้สร้างวัดแก้วสิขศวาราม  ในปี  2541  ในเขตอุทยานแห่งชาตเขาพระวิหาร  ซึ่งได้ออกพระราชกฤษฎีกา

ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารในปี  2541  ลงนามโดยนายชวน  หลีกภัยในปี  2541  ก่อนเซ็น  MOU  2543  แล้งหลังจากปี  2543  เขมร

ได้สร้าง  วัดตลาด  ถนน  รวมทั้งอพยพผู้คนเข้ามาตลอดซึ่งเขมร  ทำผิด  MOU  ข้อ 5 ที่ห้ามเปลี่ยนแปผลงสภาวะแวดล้อม  และ  ข้อ  8  คือให้ใช้สันติในการเจรา

โดยไม่ใช้กำลังทหาร  แต่ที่เพิ่งรู้สึกว่าไทยกำลังเสียดินแดนนั้น  เพราะเขมรทำมานับ 10  ปีแต่เพิ่งจะสำฤทธิ์ในอนาคตอันใกล้นี้เอง

ก่อนหน้ามี  MOU  2543  หลังศาลโลกตัดสินเฉพาะตัวปราสาทให้เป็นเป็นของเขมร  โดยไม่ตัดสินให้ดินแดนตามพื้นที่มาตราส่วน  1:200000  ในวันที่  15  มิถุนายน

2505  แล้ว  เขมรได้มีความพยายามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนที่จะเอาตัวปราสาทพระวิหารไปเป็นของเขมรให้ได้  แล้วเขมรได้พยายามขยายขอบเขตคำพิพากษา  แต่ศาลโลกไม่รับ

เพำะผิดธรรมนูญศาลโลกมาตราที่ 60  เขมรก็ทำอะไรไม่ได้นับจากปี  2505 - ก่อนลงนาม  MOU 2543  ไงครับพี่น้อง

ทั้งหมดนี้มัน osmosis  เข้าไปในสมองของผมหมดแล้วล่ะครับ  เรื่องเขมรนี่  แสบจริง ๆ
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
Twenty-One
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 335
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,762



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:17:58 »

อ่านแล้วของขึ้นเลย เลวจริงๆ

 wanwan010
บันทึกการเข้า

# บริการโฮสติ้งขั้นเทพ 24/7 เปิดให้บริการ web hosting มาแล้ว 14 ปี ลูกค้ากว่า 40,000 ราย ให้ความไว้วางใจ
# hosting คุณภาพสูง ดูแลระบบโดย system engineer ประสบการณ์สูง
# host เร็ง แรง ไม่มีล่ม ติดตั้ง cms ฟรี
# vps ราคาถูก 50GB 999 บาท

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:26:02 »

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องการเมืองแท้ ๆ  ครับ  เพราะมันไม่เกี่ยวกับคนไทยกับคนเขมร  แต่เกี่ยวกับนักการเมือง  นักการทหารทั้งไทยและเขมรสบคบกัน

เพื่อหาประโยชน์เข้ากระเป๋าของคนกลุ่มนี้ทั้ง 2  ฝ่ายโดยที่ทั้งคนไทยและคนเขมรส่วนใหญ่ไม่ได้อะไรเลย  คนไทยกับคนเขมรยังเป็นพี่น้อง

เพื่อนบ้านที่ดีกันอยู่  อีกทั้งประเทศไทยมีเขมรอพยพมาอาศัยมากมาย  แถวบ้านผมในหมู่บ้านของผมยังมีเลย 

ถ้าผมเป็นรัฐบาสต้องโค่นล้มฮุนเซนให้ได้  เพราะไม่งั้นประชาชนชาวเขมรซึ่งอดอยากปากแห้งแล้วเป็นขอทานจะอพยพเข้ามาอาศัยในเมืองไทยมากขึ้น 

เรื่องการดค่นล้มฮุนเซนจึงเป็นเรื่องจำเป็น  เมื่อเขมรได้ผุ้นำใหม่เอาใจใส่ประชาชน  ชาวเขมรผุ้รักชาติบ้านเกิดไม่ต้องอพยพมาหากินในประเทศไทยมาเป็นผุ้

ใช้แรงงานในไทยอีกถึงมีก็น้อยลง
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
itsales
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 166
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 531



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:27:03 »

เรื่องนี้ท่าทางจะมีอีกยาวคราับ
ถ้าคนไทยไม่สามัคคีกันให้มากกว่านี้ ... สู้กัมพู.cha ยากนะครับ เถียงสู้เขมรไม่ได้แน่นอนถ้าเรามัวเอาแต่ทะเลาะกัน
บันทึกการเข้า
Regnum
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:32:04 »

ผมว่าเอาไป post ใน pantip จะได้เรื่องกว่าครับ

ไม่ต้องเอาไปลง pantip หรอกครับเพราะ บทความข้างต้น มันมาจาก pantip ที่แรก  Tongue

เขมรมันปลุกปั่นให้คนในชาติมันคิดว่าวัฒนธรรมในดินแดนบริเวณขวานทองทั้งหมดเป็นวัฒนธรรมของพวกมัน มันบอกว่าพวกมันน่ะมีถิ่นกำเนิดและอาศัยอยู่ที่นี่มาตลอด ส่วนคนไทยเป็นกลุ่มโจรที่อพยพมาจาก แถบยูนนานของจีน

อ่านจากที่ไปด่ากับมันในแฟนเพจเฟซบุ๊ค กับที่มันด่าเราในยูทูปมันจะใช้ความคิดเหล่านี้มาด่าคนไทยตลอด ถุยย พวกมันน่ะหรอมีวัฒนธรรม ลูกหลานที่มีวัฒนธรรมอันยาวนาน เค้าคงมีความคิดฆ่าล้างเผ่าพันธ์กันหรอกนะ
บันทึกการเข้า
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:48:50 »

เรื่องนี้ท่าทางจะมีอีกยาวคราับ
ถ้าคนไทยไม่สามัคคีกันให้มากกว่านี้ ... สู้กัมพู.cha ยากนะครับ เถียงสู้เขมรไม่ได้แน่นอนถ้าเรามัวเอาแต่ทะเลาะกัน

ไม่ยากครับ  ถ้าผมเป็นรัฐบาลนะครับ  เขมรตายไปนานแล้ว

1.  บอกให้ทั้งโลกรู้ว่าเขมรทำผิด MOU 2543  ขอไหนบ้าง

2.  หลักฐานแผนที่  หลักฐานเขมรโจมตีไทยต่าง ๆ  ตีแผ่ไปทั่วโลก

3.  แต่ที่สำคัญเขมรเล่นของคุณไสยต้องมีตัวช่วยถึงจะรอด
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
นายเอ(นามสมมติ)
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 57
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 861



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:57:04 »

 wanwan044 อีกหน่อยจะเหลืออะไร
บันทึกการเข้า




Numl3ers
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 276
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,702



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 10:05:17 »

ยึดมั่นประวัติศาสตร์หน่อยสิครับพี่น้อง อย่าไปตามกระแส  เฮ้อคนไทย  Lips Sealed
บันทึกการเข้า

SearchMarketing
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 522
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,613



ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 10:50:50 »

จะยาวไปไหน rep1 ถ้าโพสต์สั้นๆ มันจะได้ผลกว่ามั้ย  wanwan017

ส่วนปรากฏการณ์ที่เกิด เท่าที่ศึกษามามันก็เกี่ยวกับเงินล้วนๆ ครับ

ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการอยากรักษาคุณค่าของอารยธรรมขอมโบราณเลย ซึ่งเป็นอะไรที่ควรได้ศึกษา และรำลึกอย่างเป็นจริงเป็นจัง

งานนี้ผมสงสารผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดนลูกหลง เสียชีวิต เสียอิสรภาพ ต้องย้ายหนีระเบิด จากเกมการหาเงินของคนไม่กี่คน

ผมไม่อยากได้หรอก มรดกโลก ผมอยากให้ทุกคนได้การศึกษาที่ดี และมีคุณภาพชีิวิต

จะได้รู้เท่าทัน ทุกอย่างมันจะจบบริบูรณ์พูนสุขเอง

เขมรจะมีอะไรมาสู้ไทย เกมของนักการเมืองไทยกันเองทั้งนั้น แก่ตายกันไวๆ นะ เผื่อรุ่นใหม่จะมีลุ้นดีขึ้นบ้าง wanwan005
บันทึกการเข้า
m_manthai
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 957



ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 11:17:19 »

ผมว่าดีนะ ให้ๆเค้าไปเถอะ เราไม่เคยเห็นค่าอยู่แล้ว ผู้นำไทยเคยให้พวกนี้เป็นสิ่งผิดกฏหมาย

ถ้าไปอ่านประวัติศาสตร์ ในสมัยจอมพลปอ นี่แหละถ้าจำไม่ผิด สมัยที่เค้าเรียกว่า เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย  

ใครที่รำไทย หรือเล่นดนตรีไทย จะถุกจำคุก หรือประหารกันเลยทีเดียว คล้ายๆกับ กรณีจีนที่มีช่วงหนึ่งคือ การปฏิวัติวัฒธรรม



สมัยนั้น มีสิ่งที่ต้องสาบสูบไปจากวัฒธรรมชีวิตประจำวันคือ  รำไทย การละเล่น ดนตรีไทย เพราะเรื่องพวกนี้จะเป็นสิ่งผิดกฏหมายทั้งหมด

ส่วนของพระพุทธศาสนา ที่หายไปในช่วงนี้คือ วิปัสสนา ซึ่งเป็นทางตรงและคำสอนหลักของพระพุทธเจ้า แต่ที่เมืองไทยต้องเอาทิ้ง เพราะต้องการจัดระบบใหม่ให้พระเข้าไปอยู่ในรูปของการศึกษาที่วัดผลได้จริง เพราะวิปัสสนามันไม่สามารถนำมาสอบเลื่อนขั้นได้ วิปัสสนาจึงถูกเอาออกจากระบบการศักษาของพระสงฆ์ หรือแต่การเรียน ปริยัติเรียนนักธรรม

เพราะอย่างนี้แหละ ปัจจุบัน พุทธศาสนาในไทยจึงยุ่งเหยิงมาก มีแต่เรื่องงมงาย และเริ่มห่างไกลผู้คนไปทุกที แต่ก็ยังดีที่พม่าเก็บภูมิปัญญานี้ไว้ ช่วงหลังพระนักปฏิบัติเลยไปเรียนจากพม่ามาอีกที



ส่วนเรื่อง ดนตรีไทย เพลงไทย รำไทย ทุกอย่าง ใครเล่น ไม่ว่าที่บ้าน หรือที่งานไหนๆ จะโดนจับทันที

นี่คือจุดบั่นทอน และจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เลยทีเดียว

สมัยก่อนนานมาแล้ว การละเล่นแบบนี้มีอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่หลังจากมีกฏหมายห้าม

การละเล่นแบบนี้ กลายเป็นของหายากกันไปเลย



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 11:27:44 โดย m_manthai » บันทึกการเข้า
SinCeReNewZ
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 163
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,790



ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 11:18:38 »

แรงวะ
บันทึกการเข้า

http://amzn.to/2vNjpx1   ซื้อของเล่นผ่าน Amazon
ohmohmohm009
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 510



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2011, 11:22:15 »

ขอระบายอารมณ์น่อยนะครับ

ไอ้เวนเอ้ยไม่มีปัญญาคิดเองไงวะประเทศเพื่อนบ้านห่าไรวะอะไรก้อเอาไปหมด  Sad Sad
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์