เชื่อว่าเพื่อนๆ คงเคยได้ยินได้เห็น สินค้าที่มี Private Label Rights มาบ้างแล้ว
สินค้าพวกนี้ คือสินค้าที่ผู้ขาย ยินยอมให้เราผู้ซื้อ นำสินค้าไปปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนชื่อ เสร็จแล้วทำไปจำหน่ายต่อได้ โดยไม่ผิดกฎหมายใดๆ !
เพื่อนๆรู้มั้ยครับ สินค้าพวกนี้แหล่ะ คือ ขุมทรัพย์บนเน็ทดีๆนี่เองถ้าเพื่อนๆรู้จักวิธีที่จะสร้างเว็บไซต์ และนำสินค้าพวกนี้ไปขาย มันอาจจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากซ่ะหน่อย ไม่เหมือนก่ะพวก Adsense หรือ พวก Affiliate Program ทั้งหลาย แต่ผมก็เชื่อว่าคงจะไม่เกินความสามารถของเพื่อนๆแน่นอนครับ ......
ทันทีที่ระบบ และ เว็บไซต์ถูก setup ขึ้น .... มันจะกลายเป็นเครื่องจักรผลิตเงินให้เพื่อนๆ ไปอย่างยาวนาน เว็บ Private Label Rights ที่ผมทำขึ้นมาแล้วเป็นเวลา 4 ปีกว่าๆ ทุกๆวันนี้ก็ยังสามารถทำเงินให้ผมได้อยู่เรื่อยๆเลยครับ .....
มาเข้าเรื่องกันเลยครับ ขั้นตอนการทำเว็บขายสินค้า Private Label Rights ที่ขั้นตอนง่ายๆ 4 ขั้นตอนดังนี้ครับ .......
1) หาสินค้า Private Label Rights ถ้าเพื่อนๆใช้ Google เป็น .... เชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนหาสินค้าพวกนี้ได้แน่นอนครับ เยอะแยะเต็มไปหมด ใช้ keyword ประมาณว่า " private label ebooks " หรือ " private label resell rights " , ฯลฯ
พยายามหา ebook ที่มาพร้อมกับ sale letter เลยน่ะครับ เพราะจะทำให้งานของเราง่ายขึ้นมากๆ แล้วก็ ให้มองข้าม พวกสินค้าจำพวก software หรือ script ทั้งหลายไปเลยครับ ! อย่าไปยุ่งครับพวกนี้ เชื่อผม !!
ผมเคยลองดูแล้วครับ พวก software หรือ script มีงานที่ต้อง support มาก บางคนอาจจะใช้ software ไม่ได้ บางคนอาจจะติดตั้ง script ไม่เป็น ไอ้เราเองก็ไม่ใช่ผู้พัฒนา บางทีพอเจอปัญหา ถึงก่ะใบ้รับประทาน .... แต่ถ้าเป็นสินค้าจำพวก ebook เนี่ย..... ง่ายครับ ไม่ต้อง support อะไรมาก โหลดไปอ่านก็จบเลย
พยายามหลีกเลี่ยง ebook ใน market ใหญ่ๆ เช่น Internet Marketing , Weight Loss , ฯลฯ ebook ใน market พวกนี้ มันจะขายค่อนข้างยากครับ สาเหตุที่ขายยาก เพราะ ebook พวกนี้มักจะถูกนำมาแจกฟรี เพื่อใช้ในการทำการตลาดในเว็บไซต์ต่างๆ ถึงแม้ว่า เราจะเอา ebook มาแก้ไข เรียบเรียงใหม่ก็เหอะ แต่มันก็คงเครียดไม่ใช่น้อย ถ้าเรากำลังขาย ebook เนื้อหาเดียวก่ะ ebook ที่คนอื่นๆ อีกหลายร้อยคนกำลังแจกฟรีอยู่ .......
2) แก้ไข ปรับปรุง เรียบเรียง e-book ใหม่ ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่ยาก สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยสัดทัดภาษาอังกฤษ ..... แต่คิดว่าคงจะไม่หนักหนาสาหัสจนเกินไปนัก เพราะว่าเราไม่ได้เขียน ebook ใหม่ทั้งเล่ม แต่เราเพียงแค่ทำการ แก้ไข ปรับปรุ่ง เรียบเรียงใหม่เท่านั้นเอง
อะไรบ้างที่ต้องแก้ ??
อย่างแรก ที่สำคัญที่สุดก็คือ เพื่อนๆต้องแก้ชื่อ ebook ครับ !
ชื่อหนังสือนี่แหล่ะสำคัญมากๆ ขายออก ขายไม่ออก บางทีอยู่เพียงแค่ ชื่อ ตรงนี้เอง ลองสังเกตุหนังสือในไทยดูเองก็ได้ครับ พวกหนังสือขายดี ติดอันดับ เดี๋ยวนี้ชอบใช้ชื่อแรงๆ แปลกๆ สะดุดสายตา " ผู้ชายเลวกว่าหมา และไม่ได้มาจากดาวอังคาร " , " Rich Dad Poor Dad " ฯลฯ
แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ebook ที่มี private label มักจะเป็น ebook แนวเทคนิค กลเม็ด เคล็ดลับ ทั้งหลาย ดังนั้น พยายามใส่ wording พวกนี้ลงไปครับ
- Secrets
- Breakthrough
- Revealed
- Undercover
wording พวกนี้มีพลังครับ มันจะช่วยให้คนรู้สึกว่า พวกเค้ากำลังจะได้รู้ ในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้
ยกตัวอย่างเช่น
Hollywood Makeup Secrets Revealed
Breakthrough Bass Fishing Secrets
สั้นๆง่ายๆครับ ไม่ต้องยุ่งยากอะไรมาก
อย่างที่สอง หลังจากที่แก้ชื่อ ebook เสร็จเรียบร้อยแล้ว คือ ทำการเรียบเรียงเนื้อหา ebook ใหม่ !
อย่าเพิ่งทำหน้าเบ้ แล้ว อุทานว่า " ตูทำไม่ได้แหงมๆ " น่ะครับ บางทีเพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องเขียนประโยคอะไรใหม่เลยด้วยซ้ำ พยายามอ่านแบบผ่านๆ เสร็จแล้วจัดการ ตัดประโยคน้ำๆ ทิ้งให้หมดครับ เก็บไว้แต่เนื้อๆ ที่เป็นใจความสำคัญจริงๆ ของ ebook ....
เพื่อนไม่ได้กำลังจะขาย ebook ราคาหลายพันเหรียญครับ เราเน้นขายถูก ฉะนั้น ebook ที่สั้น กระชับ ได้ใจความ บางทีกลับดีกว่า ebook ที่ยาวเหยียดเฉียดกิโล แต่มีแต่น้ำเต็มไปหมดซ่ะอีก ...... ebook โดยส่วนใหญ่จะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 40-80 หน้า แต่หลังจากที่ตัดน้ำ เก็บแต่เนื้อ อาจจะเหลือเพียงแค่ 25-40 หน้าเท่านั้นเอง
อีกไอเดียหนึ่งก็คือ จับเอา ebook หลายๆเล่มที่มีเนื้อหาในหมวดเดียวกัน มาขายรวมเป็น package ซ่ะเลย คิดว่าเพื่อนๆคงเคยเห็นมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะพวก Ebook ในหมวด Internet Marketing ทั้งหลาย ชอบที่จะขายรวมเป็น package บางทีมัดรวมกันเป็นสิบๆเล่ม แต่ใน Market อื่นๆ ที่ไม่ใช่ Internet Marketing ค่อนข้างจะพบเจอได้ยากครับ ถ้าเราจับ ebook หลายๆเล่ม มามัดเป็น package ขายได้ รับรองขายดีสนั่นเมือง ไม่ต้องถึงขนาดเป็นสิบๆเล่มหรอกครับ แค่ 2-3 เล่มก็เหลือจะพอ !
3) ติดตั้งเว็บไซต์ พร้อมรับตังค์ โอเคครับ ถึงตอนนี้เพื่อนๆ น่าจะได้ ebook ที่ได้รับการปรับปรุง แก้ไข เรียบเรียงใหม่ พร้อมที่จะขายแล้วหล่ะ ขั้นตอนต่อไปคือ เอา sale letter ที่แถมมากับ ebook มาติดตั้งขึ้นเว็บ ......
พวก sale letter เหล่านี้ มักจะถูกเขียนขึ้นจาก copywriter มืออาชีพอยู่แล้วครับ เพียงแต่ว่าจะเป็นพวก copywriter ค่าจ้างถูกๆ ที่จริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรน่ะครับ ส่วนใหญ่แล้ว อยู่ในระดับที่เรียกได้ว่า ใช้ได้ทั้งนั้น Conversion Rate จะอยู่ที่ประมาณ 1-2% ( คนเข้าเว็บร้อยคน มีคนซื้อ 1-2 คน ) บางทีฟรุ๊กๆ อาจจะได้ถึง 4% ทีเดียว
ดังนั้นไม่ต้องแก้ไขอะไรมากครับ อาจจะแก้ Header ซ่ะนิ๊ด Sub Header ซ่ะหน่อย บางคนอาจไม่รู้ว่าจะแก้ยังไงดี ก็ลอง Search ไปดูเว็บคู่แข่งครับ ผมไม่ได้แน่ะนำให้ไป Copy เค้ามาเลยน่ะครับ ไปดูไอเดียเค้าเฉยๆ จะมาผสมๆ กับ Header ของเราที่มีอยู่แล้ว มั่วไปมั่วมาจนดูเข้าท่า
ลองอ่านดูทั้ง Sale Letter แล้วลองคิดว่าตัวเองเป็นลูกค้าที่กำลังจะซื้อ ebook ดู ชอบ copy ตรงส่วนไหน ไม่ชอบตรงส่วนไหน ตรงไหนดีอยู่แล้วก็เก็บไว้ ตรงไหนไม่ชอบก็ตัดทิ้งไป
ตอนนี้เรายังตอบไม่ได้หรอกครับว่า Sale Letter มันดีหรือไม่ดี มันต้องลองส่ง Traffic มาลงที่เว็บก่อน เราถึงจะรู้ได้จริงๆ ขายได้ ขายไม่ได้ Conversion Rate ดี หรือ ไม่ดี
ทีนี้ก็มาเรื่องราคา อย่างที่บอกไปแล้ว ว่า ebook ของเราเป็นฉบับกระเป๋า ไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการอะไร ดังนั้นไม่ต้องตั้งราคาสูงเวอร์ครับ อาจจะเป็น $14 , $17, $19, $24 หรือ $27 เพื่อนๆบางคน อาจจะบอกว่าแพง แต่ราคานี้จัดว่าถูกสำหรับฝรั่งครับ แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงแน่ๆ
โดเมนก็ไม่จำเป็นต้องจดใหม่หรอกครับ ถ้าเพื่อนๆมีโดเมนอยู่แล้ว อาจจะใช้ของเดิมที่มีอยู่เลยก็ได้ สมมุติว่าผมมีโดเมน pawoot.com อยู่ ผมอาจจะ upload sale letter ของผมไปที่
www.pawoot.com/book-name
เอาแบบง่ายๆก่อนครับ ถ้ารู้ว่า ebook เล่มนี้ขายออกจริงๆ ค่อยจดโดเมนอันใหม่ หรูๆ ก็ยังไม่สายครับ !
ใช่ครับ ..... บางครั้ง ebook มันก็ขายไม่ออกเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะพยายามแก้ไข sale letter แล้วก็ตาม สาเหตุในการขายไม่ออกมันมีหลายประการครับ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ดั้งด้น พยายามที่จะหาสาเหตุที่มันขายไม่ออกหรอกครับ
สิ่งที่ผมทำก็คือ ........
ทิ้งมันไปก่อนซ่ะ แล้วเริ่มต้นทำ Private Label Ebooks เล่มใหม่แทน !!
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มันเป็นหยั่งงั้นจริงๆครับ อย่าไปกลัว อย่าไปเสียดายที่จะทิ้งมันเลยครับ มันเสียเวลาในการแก้ไขซ้ำไปซ้ำมามากๆ ทำเล่มใหม่แต่ทำให้เร็วขึ้น แล้วเพื่อนๆจะเจอเล่มใหม่ที่ขายได้ เร็วกว่าการไปนั่งแก้ของเดิมครับ
4) หา Traffic ในส่วนของการหา Traffic ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ เราใช้วิธีแบบง่ายๆ ลูกทุ่งๆ ธรรมดาๆนี่แหล่ะ
- Submit Article : จับเอาเนื้อหาใน ebook ออกมาสักส่วนหนึ่ง จับมันมาย่อลงอีกซักหน่อย ก็ใช้ได้แล้วครับ ถ้าขี้เกียจ submit เอง ก็จ้างเค้าเอาเลยครับ ผมชอบใช้บริการของ Isnare.com
- Join Venture : คือหา Affiliate มาช่วยขาย ebook ของเรา ถ้าเพื่อนๆใช้ ClickBank เป็นตัวรับเงิน ClickBank มันจะมีระบบอันนี้อยู่แล้วครับ สิ่งที่ต้องทำก็คือ มองหาเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวโยงเกี่ยวกับ ebook ที่เรากำลังขาย เสร็จแล้วก็ส่ง email ออกไปแน่ะนำ ebook ของเรา พร้อมกับเสนอค่า commission ที่เราจะจ่ายให้เค้า .... ผมชอบที่จะส่ง ebook ไปให้เค้าอ่าน review ฟรีๆเลย แล้วก็เสนอค่า commission เวอร์ๆ เข้าไว้ 60-80% ได้เลยยิ่งดี !!
- Ebay : ผมเองไม่ใช่โปรทางด้าน Ebay น่ะครับ แต่ผมรู้ดีว่า ช่องทางนี้เป็นช่องทางใหญ่ ซึ่งเพื่อนๆสามารถนำ ebook ไปขายได้แน่ๆ ขายดีซ่ะด้วย !
- PPC : Pay Per Click เช่น Adword , Adcenter ..... ก่อนจะลงทุนพวก PPC พวกนี้แบบจริงๆจังๆ ขอให้ได้ตัวเลข Conversion Rate ของเว็บเพื่อนๆก่อนน่ะครับ เราจำเป็นต้องรู้โดยประมาณว่า คนเข้าเว็บกี่คน เพื่อนๆถึงจะขาย ebook ออกซ่ะหนึ่งเล่ม จากนั้นก็ลองเอามาใช้คำนวนดูว่า ต้องใช้เงินทุนในการโฆษณาเท่าไหร่ต่อ click ถึงจะได้กำไร
จบหมดแล้วครับ 4 ขั้นตอนในการนำสินค้า Private Label Rights ออกมาขาย ! หวังว่าคงจะไม่ยากเกินความสามารถของเพื่อนๆน่ะครับ ! ถ้าเพื่อนๆทำสำเร็จ เพื่อนๆจะมีเว็บไซต์ ที่สามารถปั้มเงินให้เพื่อนๆได้ทุกๆวัน ไม่มีวันหยุด เป็นเวลาอีกยาวนานครับ