tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์
กระทู้: 5,656
|
 |
« ตอบ #200 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 22:04:42 » |
|
ประเด็นอยู่ที่ใช้คำพูดไม่ถูก มีคนมาชี้ให้เห็นหลายคน แทนที่จะรู้สึกอะไรบ้าง กลับ ดริฟท์แถไปยกธรรมะมาอ้าง ไม่กลัวว่าการตีความเข้าข้างตัวเองของคุณจะทำให้ธรรมะต้องมัวหมองรึ
การทำตามใจตนเองไม่สนใจคนอื่น แต่ทำแล้วตัวเองสบายใจ และไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ มันเป็นการมีสติตรงไหน?
คนชั่วบางคน เขาก็ทำตามใจตัวเอง ไม่สนใจคนอื่น ปล้น ฆ่า ทำแล้วเขาสบายใจ ไม่รู้สึกผิดด้วย ต่างกับที่คุณ tanawat30 เป็นตรงไหน คนอื่นมาด่า เขาก็ไม่ทุกข์ร้อน เขาต่างกับคุณ tanawat30 ตรงไหน
บอกตรง ๆ ว่าผมไม่เห็นว่าคุณต่างอะไรคนที่ทำเรื่องผิดเป็นวิสัย แล้วรู้สึกสบายใจ เพราะไม่ได้คิดว่าตัวเองผิดนั่นแหล่ะ จะเกรียนก็ไปไกล ๆ แล้วก็ไม่ต้องยกธรรมะมาอ้างครับ
สิ่งที่ทำ ถูกกำกับไว้ด้วยการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนโดยเจตนา แล้วเมื่ออธิบายถึงเรื่องการจี้ปล้น ถ้าถึงการทำร้ายร่างกาย มันเป็นความจริงของสิ่งมีชีวิต ซึ่งหากเป็นการทำร้ายร่างกาย ผู้ได้รับความเดือดร้อนทางกายไม่อาจควบคุมผลที่เกิดขึ้นกับตนได้ แล้วผู้กระทำต้องรู้แล้วว่าการปล้นฆ่า จะอ้างว่าไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ถูกกระทำไม่ได้ ฉะนั้นถ้าทำมันก็ผิดแน่ ๆ แต่สิ่งที่ผมบรรยายมาทั้งหมด คือสิ่งสมมุติทั้งสิ้น เพราะความสุขหรือทุกข์ที่เป็นความจริงแล้วเกิดขึ้นทางกายของสิ่งมีชีวิตไม่มีใครหนีได้ หิว เจ็บ หนาว ร้อน ง่วง ฯลฯ แล้วไม่อาจควบคุมได้ 100% ด้วย ประเด็นจึงอยู่ที่สิ่งสมมุติต่างห่าง ธรรมะนั้นได้ละความจริงไว้ในฐานที่เข้าใจ ผมจึงบรรยายแต่สิ่งสมมุติ แล้วชี้ให้เห็นว่าสิ่งสมมุติที่เกิดขึ้นกับจิตใจ เป็นสิ่งที่ควบคุมได้มากกว่า ประเด็นคือผมให้รู้จิตใจ ตนเองเป็นสำคัญ นั่นหมายความว่าจะสุขหรือทุกข์หรือไม่จึงขึ้นอยู่ที่ใจตน ทุกคนควบคุมได้ทั้งส่งและรับ แล้วควบคุมได้เฉพาะตนเท่านั้น ไม่มีใครควบคุมคนอื่นได้ ขอให้ตนเองไม่ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน โดยเจตนา แล้วถึงแม้ว่าในบางลักษณะของความรู้สึกทางกาย เช่นนกใกล้ตายเต็มแก่แล้ว เราช่วยให้เค้าพ้นทุกข์จากความเจ็บปวดได้เร็วขึ้น คือเจตนาให้นกนั้นพ้นทุกข์ก็อาจไม่บาปตามเจตนาได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kazama
CoDe iS PoeTRy
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 470
ออฟไลน์
กระทู้: 6,676
|
 |
« ตอบ #201 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 22:18:50 » |
|
ถ้าผมจะขอโทษ ต้องมาจากความตั้งใจของผมเท่านั้น คนส่วนใหญ่จะรู้สึกอย่างไรนั่นมันเรื่องของเขา ถ้าผมไม่ผิดเสียอย่าง
อีกอย่าง ผมห้ามได้แต่ความรู้สึกตนเอง แต่ห้ามความรู้สึกคนอื่นไม่ได้ ไม่งั้นโลกนี้จะไม่มีคนจริงใจหลงเหลืออยู่เลย
มันมีคำตอบอยู่ในสิ่งที่คุณ พิมพ์มาอยู่แล้ว ผมจะขอโทษเมื่อผมตั้งใจเท่านั้น ถ้าขอโทษคือการรับผิดโดยที่ไม่ผิด
ผิดหรือถูกคนทำรู้อยู่แก่ใจ ไม่มีประโยชนร์ที่จะต้องแก้ตัว ถ้าผมทำผิดผมก็จบไปตั้งนานแล้ว
อีกอย่างถ้าผมผิดจริง ผมก็ออกมาขอโทษตั้งนานแล้ว ไม่หน้าด้านปล่อยให้มันยาวมาขนาดนี้หรอก
ผมพูดถึงสิ่งที่คุณพิมพ์ในนี้ เกือบทุกคนบอกว่าคุณทำผิดที่เขียนแบบนั้น ไม่ต้องดริฟท์ ยกเรื่องธรรมะมาอ้างหรอก คนที่มีความคิดแบบคุณ ไม่ได้หาได้ยากหรอก มีออกเยอะซะด้วยซ้ำ ในบอร์ดประมูลมีเยอะแยะ พวกเกรียน ๆ ทำผิด ไม่คิดว่าตัวเองผิด กลับมองคนรอบข้างผิดแทน คนเล่นเนตทั่วไป เขาก็มองคนแบบนี้ว่าบรรลุแล้วเหมือนกัน บางทีเขาถึงเรียกเป็นเกรียนเทพ ไม่ก็เมพไปเลย ถ้าเป็นบอร์ดอื่น เกรียน ๆ แบบคุณคงโดนแบนไปแล้ว และผมคิดว่าคุณชนะใจตัวเองไม่ได้หรอก เดี๋ยวต้องมาแถต่ออยู่ดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
doctorkarn
คนรักเสียว
พลังน้ำใจ: 24
ออฟไลน์
กระทู้: 153
|
 |
« ตอบ #202 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 22:22:32 » |
|
ดีใจกับคนใต้ด้วยนะงับ
ตอนนี้ กรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคเหนือ ค่อนข้างจะร้อน+พายุฝนเป็นป้างครั้ง
ไปเที่ยวภาคใต้น่าจะสบาย(ทั้งกายและใจ)ที่สุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
BlueDragon
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 89
ออฟไลน์
กระทู้: 1,778
|
 |
« ตอบ #203 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 22:22:47 » |
|
ความศรัทธาในธรรมนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่ต้องใช้ สติ และปัญญาควบคู่ไปด้วย หากไม่มีสติและปัญญาแล้ว สิ่งที่กระทำนั้น อาจกลายเป็นแค่เพียงการ "หลงในธรรม" การปล่อยวางคือธรรมขั้นสูงสุด
สิ่งใดก็ตามเมื่อก้าวมาถึงจุดที่สูงสุด แล้ว ย่อมต้องคืนกลับไปสู่ความเดิมแท้อันเป็นธรรมดาสามัญอีกครั้ง ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ที่มีภูมิความรู้ทางด้านธรรมะ อย่างผู้ที่เพิ่งได้ธรรมใหม่ๆ แม้ส่วนใหญ่จะเกิดอาการหลงโลกหลงธรรมไปบ้าง แต่พอผ่านเข้าถึงธรรมขั้นสูงสุดแล้วก็จะเกิดการปล่อยวางมายากิเลสเหล่านั้น ลงได้เอง
โดยทั่วไปผู้ปฏิบัติที่เพิ่งเริ่มเดินทางเข้าสู่เส้นทางธรรมมักจะมีไฟแรงใน ช่วงต้น เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและศรัทธาในการปฏิบัติ ประกอบกับจิตใจอันดีที่อยากให้เพื่อนมนุษย์ทุกคนได้เข้าถึงความรู้แจ้งเห็น จริง และหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารนี้ออกไปได้ ดังนั้นเมื่อจิตของตนได้สัมผัสกับภาวะจิตเช่นใด จึงอยากให้คนอื่นได้มาสัมผัสกับภาวะแห่งจิตเช่นเดียวกับที่ตนสัมผัสได้ และอยากให้ทุกคนได้เข้าถึงสมาธิ เมื่อพบปะเจอะเจอใครๆ จึงมีความปรารถนาที่จะถ่ายทอดและเผยแผ่ในประสบการณ์ดีๆ ทางจิตที่ตนได้สัมผัสมาจากการปฏิบัติ
แต่บางครั้งความศรัทธาอันแรงกล้าก็อาจนำมาซึ่งความหลงโลกหลงธรรมได้เช่นกัน ด้วยเพราะภูมิปัญญาแห่งธรรมในขั้นต้นสามารถเกิดขึ้นได้ในภาวะที่ผู้ปฏิบัติ ยังคงมีความหลงในกิเลสโลกอยู่ ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะเป็นกิเลสในฝ่ายดีอันเป็นทางบุญทางกุศลก็ตาม แต่หากไม่เท่าทันแล้ว กิเลสฝ่ายดีนั้นก็อาจเข้าทำร้ายจิตใจของนักปฏิบัติให้ได้รับความเศร้าหมอง ได้เหมือนกัน
ในช่วงที่ได้ธรรมใหม่ๆ ผู้ปฏิบัติจะยังคงไม่เท่าทันต่อกิเลสและตกอยู่ในอำนาจมายาของกิเลสโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นกิเลสที่มีความละเอียดด้วยแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อาจารย์ในหลายๆ สำนักก็ยังมีความรู้สึกอยากมี อยากได้ อยากเป็น อยากมีชื่อเสียง อยากเป็นที่เคารพนับหน้าถือตา อยากเป็นที่รู้จักของผู้คนในสังคม อยากสร้างโน่นสร้างนี่ให้ดีกว่า ให้สวยกว่า ราคาแพงกว่าของที่อื่น
ถึงแม้หลายท่านจะเป็นผู้ที่มีจิตใจดี แต่ด้วยความหลงโลกที่อยู่ภายในจิต เมื่อจิตไม่เท่าทันต่อความหลงเหล่านี้ (หลงในกิเลสมายาโลก หลงในคำชื่นชมสรรเสริญเยินยอที่ชาวโลกมอบให้)
สุดท้ายจึงกระทำกิจกรรมที่สนองตอบมายากิเลสโลกเหล่านั้น เพื่อต้องการให้ผู้คนหันมาศรัทธาในคำสอนของตน ตราบใดที่สภาวะจิตของผู้ปฏิบัติยังพัฒนาไปไม่ถึงจุดสูงสุดแห่งธรรม ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดความหลงปรากฏอยู่ภายในจิตใจได้ ต่อเมื่อภูมิแห่งจิตก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งการปฏิบัติแล้วเท่านั้นจึงจะ สามารถปล่อยวางมายากิเลสโลกลงได้อย่างแท้จริง ภูมิแห่งจิตจะลอยอยู่เหนือสมมติโลก เป็นโลกุตระภูมิ ไม่ใยดีต่อมายาสมมติโลกแต่ประการใด ผู้ที่ถึงสภาวะเช่นนี้จึงเลือกที่จะสอนธรรมให้เฉพาะผู้ที่มีความสนใจในธรรม แต่เป็นการสั่งสอนแบบหมดซึ่งความอยาก ไม่มีความอยากหลงเหลืออยู่ภายในจิตใจเลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งความคิดที่จะอยากเป็นครูบาอาจารย์สั่งสอนใครก็ยังไม่มี อีกทั้งไม่ได้ยินดีต่อคำสรรเสริญชื่นชมในการปฏิบัติธรรมของตนว่าปฏิบัติดี ปฏิบัติเก่ง เนื่องจากภาวะจิตอยู่ในขั้นหลุดโลกไปแล้ว
ภูมิแห่งจิตเมื่อพัฒนาไปจนถึงจุดสูงสุด จิตจะมีอาการปล่อยวางจากทุกสิ่งทุกอย่าง หมดมานะ ทิฐิ อัตตาตัวตน ดูราวเสมือนเป็นมนุษย์ปกติธรรมดาที่ไม่มีดีวิเศษแต่ประการใด สูงสุดย่อมคืนสู่สามัญ ผู้ที่บรรลุสำเร็จทางจิตจะกลับมีสภาพเป็นเพียงคนปกติธรรมดาอย่างเราๆ นี้เอง ไม่หลงในลาภยศสักการะ ไม่หลงในคำสรรเสริญเยินยอ ไม่หลงในเกียรติยศชื่อเสียง ไม่อยากออกโทรทัศน์ ไม่อยากลงหนังสือพิมพ์ ไม่อยากโด่งอยากดัง ไม่ต้องการให้ผู้คนมาคอยนอบน้อมกราบไหว้บูชา หมดซึ่งความอยากมี อยากได้ อยากเป็น บนโลกนี้แล้วอย่างเด็ดขาด
ส่วนอาจารย์ท่านใดที่ยังคงมีกิเลสมายาสมมติโลกหลงเหลืออยู่ในจิต ก็ย่อมทราบดีอยู่แก่ใจตนเอง แม้ว่าท่านจะสามารถสร้างภาพหลอกคนทั้งโลกให้หลงเชื่อท่านได้ แต่ถึงอย่างไรท่านก็ไม่อาจที่จะหลอกจิตใจของตัวท่านเองได้เลย ผู้ที่สั่งสอนผู้คนให้เกิดความหลง สร้างอัตตาตัวตน เป็นเขาเป็นเรานั้นเป็นบาปเป็นกรรม
ผู้ใดที่รู้ตัวว่าตนได้หลงทางไปแล้ว เมื่อรู้ตัวแล้วสำนึกผิดและคิดกลับตัวกลับใจ ก็ให้ตั้งจิตก้มกราบลงขอขมาต่อแม่พระธรณี ขอให้แม่พระธรณีช่วยบรรเทาบาปกรรมที่ตนได้นำพาผู้คนไปในทางที่ผิด ด้วยเพราะอวิชชาความไม่รู้จริง คิดซื้อขายบุญกุศล ซื้อขายนรกสวรรค์ ซื้อขายสวรรค์วิมาน จองบาปจองบุญ อันเป็นเหตุแห่งเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารนี้
ทุกวันนี้ในสังคมบ้านเราถูกแทรกซึมไปด้วยนักธุรกิจที่เข้ามาแสวงหาประโยชน์ จากการปฏิบัติธรรม จากความเชื่อและความศรัทธาของผู้คนจนแทบแยกไม่ออกว่าอันไหนของจริง อันไหนของปลอม ทำให้การปฏิบัติธรรมเป็นไปในแนวทางที่ผิดเพี้ยน
หากผู้ปฏิบัติขาดปัญญาในการพิจารณาไตร่ตรองจนเกิดความหลงเชื่อในคำโฆษณาเชิญ ชวน และการสร้างภาพให้หลงเชื่อต่างๆ ด้วยแล้ว ความศรัทธาก็จะกลายเป็นความงมงายไปได้ ศรัทธากับความงมงายนั้นอยู่ใกล้กันมาก ถ้าก้าวพลาดเพียงนิดเดียว การปฏิบัติธรรมของเราก็จะเริ่มเดินออกนอกเส้นทาง กลายเป็นหลงทาง และไปผิดทางตามที่พวกเขาต้องการให้เป็น
อาการของผู้ปฏิบัติที่ถึงธรรมขั้นสูงสุดคือการปล่อยวางจากกิเลสโลก มิใช่การสะสมกิเลสโลกเอาไว้ มิใช่การสร้างให้เกิดอัตตาตัวตนเป็นพวกเขาพวกเรา ให้เห็นว่าเราเก่งกว่าดีกว่าคนอื่น เหล่านี้เป็นการสอนที่ผิดทาง
ทุกคนที่เกิดมาบนโลกล้วนยังคงมีความโง่ติดอยู่ภายในจิตด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่จะโง่มากหรือโง่น้อยกว่ากัน แต่ดวงจิตที่หมดซึ่งอวิชชาความโง่แล้วนั้นไม่มีเลย เพราะหากหมดอวิชชาความโง่แล้วย่อมไม่ต้องมาเกิด แต่ที่ยังเห็นเกิดกันอยู่นี้ก็เพราะอวิชชายังไม่หมดสิ้นไปจากจิต มนุษย์เราทุกคนจึงไม่มีใครดีไปกว่าใคร หรือใครเก่งไปกว่าใคร เราต่างก็เกิดและตายได้เท่าเทียมกันทุกคน.
สาธุ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pacapao
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 114
ออฟไลน์
กระทู้: 4,133
|
 |
« ตอบ #204 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 22:23:02 » |
|
อารายหว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tagecho
สมุนแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 40
ออฟไลน์
กระทู้: 822
|
 |
« ตอบ #205 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 22:43:53 » |
|
เอา ธรรมะ บังหน้า พูดดูเหมือน อยู่ในศีลในธรรมนะ แต่อ่านไปอ่านมา งง คล้ายๆ กับดริฟ เอาสีข้างเข้าถู ถามหน่อยครับ อายุเท่าไร ทำไมรู้เรื่องธรรมะ และ นิ่งมีสติได้ดีขนาดนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
zern
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 117
ออฟไลน์
กระทู้: 3,244
|
 |
« ตอบ #206 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 22:47:44 » |
|
ผมว่าผมไม่อยากซ้ำเติมคุณ tanawat เพราะอย่างน้อยคุณก็ยอมรับอย่างลูกผู้ชาย ตอนที่ผมถามว่ามีเพื่อนกี่คน บอกตรงๆในมุมมองของผม ผมมองว่าน่าสงสารมาก แต่ในมุมมองของคุณอาจจะมองว่าพวกผมน่าสงสารที่ยังไม่หลุดพ้นก็ได้ และยังไงต่างฝ่ายต่างก็คงไม่ยอมเปลี่ยนความคิดเป็นแน่ ไม่รู้นะว่าคนอื่นคิดยังไง แต่ไม่คิดเหมือนผมว่าเค้าน่าสงสารที่ไม่มีเพื่อนบ้างเหรอ ผมคิดถึงจุดนี้แล้วโกรธเค้าไม่ลงจริงๆ สำหรับผมต่อให้เค้าจะคิดต่างจากผม (หรือคนทั่วไปในความคิดผม)ยังไง ผมก็โกรธไม่ลงแล้วจริงๆ  แต่ถึงผมจะมองว่าคุณน่าสงสาร แต่หากมองในมุมของคุณ คุณก็คิดว่าพวกผมเป็นคนที่น่าสงสารที่ไม่หลุดพ้นสินะจริงมั้ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
สูงสุด ที่สุดก็คืนสู่สามัญ
|
|
|
KaPonGZaYo
NEWS group
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 81
ออฟไลน์
กระทู้: 4,431
|
 |
« ตอบ #207 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 22:48:10 » |
|
ผมอยู่ศรีสะเกษครับ ถึงมันจะเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดสมัยก่อนผมก็ภูมิใจ คนศรีสะเกษใจดีมาก  ผมรักคนที่นี่ ผมว่าพวกเราทุกคนก็ต้องรักจังหวัดที่ตัวเองอยู่ๆแล้ว อย่างทีมฟุตบอลศรีสะเกษเอฟซี ถึงจะอยู่ท้ายตารางผมก็เชียร์ตลอด  ภาคไหนไม่สำคัญครับ เมื่อก่อนก็ชอบมีคนพูดว่าภาคอิสานไร้การศึกษาบ้างล่ะ โง่บ้างล่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วครับ ด็อกเตอร์ภาคอิสานมีเยอะมากมาย พ่อผมล่ะคนนึง ญาติผมเป็นด็อกเตอร์ตั้งหลายคนแล้วครับ เอาความคิดเดิมๆทิ้งไปซะ เดี๋ยวนี้ศรีสะเกษก็ไม่ใช่จังหวัดที่ยากจนที่สุดแล้วนะครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์
กระทู้: 5,656
|
 |
« ตอบ #208 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 22:55:46 » |
|
สิ่งที่คุณ BlueDragon เอามานั้นถูกต้องหมดเลย
จากประสบการณ์ ส่วนหนึ่งที่เป็นตามอ้างนั้น มันขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคนด้วย หลายต่อหลายครั้งที่ผมเตือนตนเองเสมอคือ ตนเองจะไม่ยอมหรือไม่ให้มีใครมา
ศรัทธาผมเป็นอันขาด ส่วนความหลงนี่จะถูกจำกัดไปด้วยการนำความจริงมาสู่สาธารณะก็จะขจัดได้ ส่วนมากคนที่ติดหลงร้อยทั้งร้อย มาจากความปรารถนาให้ผู้อื่น
มาศรัทธาตน ความอยากมีชื่อเสียง ลาภยศ เงินทองทั้งสิ้น ซึ่งส่วนตัวผมไม่เคยปรารถนาสิ่งเหล่านี้เลย ดูในกระทู้นี้ก็เห็นอย่างชัดแจ้งแล้ว ถ้าผมต้องการให้คน
ศรัทธา ผมต้องระวังตัวมากกว่านี้ ผมจะไม่ทำอะไรให้ใครขัดเคืองใจโดยเด็ดขาด การกระทำให้ผู้อื่นศรัทธาด้วยเจตนาของตนคือสูตรสำเร็จนำไปสู่ความหลง ความ
หลงทำให้เกิดวิปัสนูกิเลส เกิดอุปทาน ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายนจึงต้องเอาชนะ ความอยากให้ผู้อื่นศรัทธาตนให้ได้
หลักการพิสูจน์ง่าย ๆ คนที่อยากจะให้คนศรัทะตน จะเริ่มจากผลิตคำสอนหรือนำคำสอนมาผูกโยงให้คนเชื่อ แต่คนที่แนะนำธรรมะอย่างแท้จริงจะไม่สนใจเลยว่าใครจะเชื่อหรือไม่
ผมเองก็เป็นเช่นนั้น ใครจะศรัทธาผมหรือไม่ ใครจะตำหนิติว่าผมหรือไม่อย่างไร ผมถึงไม่เดือดร้อน คนที่ต้องการความศรัทธาจากผู้อื่นมักจะเดือดร้อนเสมอ ต้องระวังคำพูด
ความคิด การกระทำที่อาจนำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธา นี่คือสิ่งที่ว่าหากได้ธรรมะมาด้วยกระบวนการเช่นนี้ จตึงไม่อาจนำธรรมะนั้นไปทำให้ตนพ้นทุกข์ได้ อีกทั้งยิ่งปฏิบัติยิ่งทุกข์
เพราะคนที่ต้องการให้คนอื่นศรัทธาตน ถือว่าเป็นผู้ไม่มีความบริสุทธิ์เพราะขาดซึ่งความจริงใจ ธรรมะที่ตนได้จังไม่ใช่ธรรมะที่บริสุทธิ์ด้วย ธรรมะที่ได้จึงนำไปสู่ความหลง ยิ่งปฏิบัติ
ตามยิ่งนำทุกข์มาสู่ตน มากขึ้น ๆ ท้ายสุดก็ไม่รู้ว่าตนเป็นทุกข์เพราะอะไร หลายคนทุกข์เพราะเอาใจไปหมกมุ่นอยู่ในสิ่งที่คนอื่นพูด ทั้ง ๆ ที่ไม่ย้อนถามตนเองเลยว่า ทำไมเราจะต้อง
ไปทุกข์กับสิ่งเหล่านั้นด้วย ลงเอยด้วยการต้องให้ผู้อื่นเห็นความสำคัญในรู้สึกของตน
พอคนอื่นไม่เห็นความสำคัญในความรู้สึกของตน ตนเองก็ทุกข์ ทุกข์อยู่นั่นแหลาะ ผมเองที่ตอบได้ก็เพราะผมเคยเป็นเช่นนั้น แล้วเดี๋ยวนี้ก็ยังพอมีหลงเหลืออยู่ เพราะมันเป็นสัญชาติญาณ
ของมนุษย์ แต่ถ้าเรารู้ทันก็เอามันออกเสีย พอเอาออกแล้วก็ว่าง เรื่องมันก็มีเท่านี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
KaPonGZaYo
NEWS group
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 81
ออฟไลน์
กระทู้: 4,431
|
 |
« ตอบ #209 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 22:56:45 » |
|
ผมว่าผมไม่อยากซ้ำเติมคุณ tanawat เพราะอย่างน้อยคุณก็ยอมรับอย่างลูกผู้ชาย ตอนที่ผมถามว่ามีเพื่อนกี่คน บอกตรงๆในมุมมองของผม ผมมองว่าน่าสงสารมาก แต่ในมุมมองของคุณอาจจะมองว่าพวกผมน่าสงสารที่ยังไม่หลุดพ้นก็ได้ และยังไงต่างฝ่ายต่างก็คงไม่ยอมเปลี่ยนความคิดเป็นแน่ ไม่รู้นะว่าคนอื่นคิดยังไง แต่ไม่คิดเหมือนผมว่าเค้าน่าสงสารที่ไม่มีเพื่อนบ้างเหรอ ผมคิดถึงจุดนี้แล้วโกรธเค้าไม่ลงจริงๆ สำหรับผมต่อให้เค้าจะคิดต่างจากผม (หรือคนทั่วไปในความคิดผม)ยังไง ผมก็โกรธไม่ลงแล้วจริงๆ  แต่ถึงผมจะมองว่าคุณน่าสงสาร แต่หากมองในมุมของคุณ คุณก็คิดว่าพวกผมเป็นคนที่น่าสงสารที่ไม่หลุดพ้นสินะจริงมั้ย โหพี่ รู้มั้ยว่าพี่โพสแต่ละโพสมันกินใจผมมากๆเลย หลายกระทู้แล้ว นับถือๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
wat
สมุนแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 81
ออฟไลน์
กระทู้: 593
|
 |
« ตอบ #210 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 23:03:21 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เริ่มจากเรื่องที่รัก เลือกสิ่งที่ถนัด ก่อนที่จะทุ่มให้สุดหัวใจ ใส่พลังลงไปให้สุดแรง"
คนหยามเหยียดสักเท่าไหร่ แต่สำคัญที่ว่าคุณสู้จริงหรือเปล่า
|
|
|
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์
กระทู้: 5,656
|
 |
« ตอบ #211 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 23:05:27 » |
|
ผมว่าผมไม่อยากซ้ำเติมคุณ tanawat เพราะอย่างน้อยคุณก็ยอมรับอย่างลูกผู้ชาย ตอนที่ผมถามว่ามีเพื่อนกี่คน บอกตรงๆในมุมมองของผม ผมมองว่าน่าสงสารมาก แต่ในมุมมองของคุณอาจจะมองว่าพวกผมน่าสงสารที่ยังไม่หลุดพ้นก็ได้ และยังไงต่างฝ่ายต่างก็คงไม่ยอมเปลี่ยนความคิดเป็นแน่ ไม่รู้นะว่าคนอื่นคิดยังไง แต่ไม่คิดเหมือนผมว่าเค้าน่าสงสารที่ไม่มีเพื่อนบ้างเหรอ ผมคิดถึงจุดนี้แล้วโกรธเค้าไม่ลงจริงๆ สำหรับผมต่อให้เค้าจะคิดต่างจากผม (หรือคนทั่วไปในความคิดผม)ยังไง ผมก็โกรธไม่ลงแล้วจริงๆ  แต่ถึงผมจะมองว่าคุณน่าสงสาร แต่หากมองในมุมของคุณ คุณก็คิดว่าพวกผมเป็นคนที่น่าสงสารที่ไม่หลุดพ้นสินะจริงมั้ย คนปฏิบัติธรรมถึงขั้นที่สามารถทำให้ตนพ้นทุกข์ได้แล้ว ย่อมเห็นว่าการมีทุกข์กับการพ้นทุกข์ต่างกันอย่างไร แน่นอนว่าใครก็ตามที่ยังไม่พ้นทุกข์อย่างแท้จริง ย่อมมองไม่เห็น ข้อแตกต่างระหว่างสภาวะมีทุกข์กับสภาวะพ้นทุกข์ต่างกันอย่างไร มองมุมนี้ใครน่าเห็นใจมากกว่ากัน นันหมายความว่าคนที่จะเข้าใจธรรมะอย่างชัดแจ้ง คือคนที่สามารถทำให้ ตนพ้นทุกข์ได้ได้อย่างชัดเจน เช่นตอนมีทุกข์รู้สึกอย่างไร พอพ้นทุกข์เช่นนั้นแล้วรู้สึคกอย่างไร เอาความรู้สึกก่อนพ้นทุกข์ ในขณะเผชิญทุกข์ แล้วหลังทุกข์นั้นพ้นไปแล้ว จะเกิดปัญญา ปัญญานั้นจะสามารถทำให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ที่มีตามเราไปด้วย ความรู้สึกเช่นนี้จะเกิดขึ้นแล้วชัดเจนต่อตนเองมากขึ้น เมื่อเราปฏิบัติธรรมได้ก้าวหน้าขึ้น จนกระทั้ง ความทุกข์ทางใจทั้งหมดพ้นไปอย่างสิ้นเชิง เราจะมองเห็นถึงความทุกข์ของผู้อื่นได้อย่างชัดเจน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
icez
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 296
ออฟไลน์
กระทู้: 2,886
|
 |
« ตอบ #212 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 23:10:55 » |
|
นิมนต์หลวงพี่กลับวัดเหอะครับ - -'
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
THZHost SSD Hosting ไทย/สิงคโปร์ พร้อม firewall ป้องกันการยิงเว็บ + scan ไวรัสในเว็บ
|
|
|
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์
กระทู้: 5,656
|
 |
« ตอบ #213 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 23:16:04 » |
|
นิมนต์หลวงพี่กลับวัดเหอะครับ - -'
จบจริงแล้วครับ สิ่งที่ทำให้ผมตอบได้ทุก rep เพราะผมรู้แจ้งเห็นจริงด้วยประสบการณ์ ถ้าขุดอะไรมา ผมตอบได้หมด ขอจบดีกว่า ในเมื่อทุกสิ่งที่ผมพิมพ์ออกมา มันเกิดขึ้นกับผมทุกอย่าง มีหรือที่ผมจะงัดเอามาตอบไม่ได้ เรื่องการให้อภัย ผมขอตอบตรงนี้แล้วกัน สิ่งที่ผมพิมพ์ไปทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับการให้อภัยหรือไม่ให้อภัย แต่อยู่ที่ การชี้แจงมากกว่า มันคนละเรื่องกันเลย ในเมื่อคนพาดพิงมา ผมก็ชี้แจงว่าอะไรเป็นอะไร พอชี้แจงไปแล้วนึกว่าจะจบ นึกว่าทุกคนจะเข้าใจ เพราะผมชี้แจงชัดเจนด้วยเหตุและผลว่าทำอะไรเพราะอะไร มันก็เท่านั้น ย้อนกลับไปดูผมตอบ แบบนี้ตลอด นั่นหมายถึงผลที่ได้ด้วยหากให้ผมยอมรับในสิ่งที่เราทั้งหลายได้มีความเห็นมา ผมก็ชี้แจงไปว่าถ้าทำตาม นั้นผลที่เกิดขึ้นกับทุกคนจะเป็นอย่างไร เพราะผมเองพ้นตรงนั้นมาแล้ว พอผมจะจบ rep ล่างก็มาต่อจริงมั้ย อย่าง rep ล่าง คุณ icez ผมดูแล้วยังขำเลยครับ ดูแล้วฮากลิ้ง ทำออกมายังกะหนังสือพิทพ์
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 พฤษภาคม 2010, 23:38:08 โดย tanawat30 »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
icez
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 296
ออฟไลน์
กระทู้: 2,886
|
 |
« ตอบ #214 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 23:19:36 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
THZHost SSD Hosting ไทย/สิงคโปร์ พร้อม firewall ป้องกันการยิงเว็บ + scan ไวรัสในเว็บ
|
|
|
ohmohm
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 170
ออฟไลน์
กระทู้: 3,098
|
 |
« ตอบ #215 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 23:31:03 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pizad_sura
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
พลังน้ำใจ: 108
ออฟไลน์
กระทู้: 5,623
|
 |
« ตอบ #216 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 23:31:33 » |
|
กร๊ากๆ เข้ามาฮา ฮา Drama-addict นะ  เรื่องการเมือง ลิ้งค์กะเรื่องธรรมมะ ลิ้งค์กะเรื่องรถแข่ง(Drif) ทำเป็น link wheel ยิงไปสู่เรื่องเศรษฐกิจภาคใต้ ปล. ว่ากันว่าท่านนี้เคยโด่งดังใน adslthailand นะ ไปสืบๆ ดู 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 พฤษภาคม 2010, 23:33:59 โดย pizad_sura »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
9sword
ก๊วนเสียว
พลังน้ำใจ: 22
ออฟไลน์
กระทู้: 308
|
 |
« ตอบ #217 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 23:33:28 » |
|
อ่านเพลินๆ คิดได้ประโยคหนึ่ง "ใครทำดีกับเราให้จำ-ทำดีกับใครให้ลืม" 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
9sword
ก๊วนเสียว
พลังน้ำใจ: 22
ออฟไลน์
กระทู้: 308
|
 |
« ตอบ #218 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 23:34:26 » |
|
กร๊ากๆ เข้ามาฮา ฮา Drama-addict นะ  เรื่องการเมือง ลิ้งค์กะเรื่องธรรมมะ ลิ้งค์กะเรื่องรถแข่ง(Drif) ทำเป็น link wheel ยิงไปสู่เรื่องเศรษฐกิจภาคใต้ ปล. ว่ากันว่าท่านนี้เคยโด่งดังใน adslthailand นะ ไปสืบๆ ดู  จุ๊ๆๆๆ...ม่าม่าอืดกันพอดี 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 พฤษภาคม 2010, 23:35:59 โดย 9sword »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
loveloveaon
หัวหน้าแก๊งเสียว
พลังน้ำใจ: 31
ออฟไลน์
กระทู้: 1,233
|
 |
« ตอบ #219 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2010, 23:35:23 » |
|
เห็นชื่อกระทู้ธรรมดาๆ เลยไม่ได้เข้ามาอ่าน สงสัย เอ๊ะ ทำไมมันไม่ตกหน้าแรก พอเข้ามาได้เรื่องเลย ดราม่าซะงั้น 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 16 ขึ้นบน |
|