ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeภาคใต้เศรษฐกิจดี
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 16   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ภาคใต้เศรษฐกิจดี  (อ่าน 36625 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Dr.K
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 436
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,820



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #60 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 13:26:30 »

 wanwan004 ได้กลิ่นดราม่า
กลายเป็นประเด็นจนได้
 Tongue กระทู้แบบนี้สินะ ถึงฮอท
บันทึกการเข้า

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #61 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 13:27:08 »

ใจเย็นๆ ครับทุกท่าน

ผมอ่านแล้วก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน ยังไงผู้ที่พิมพ์ออกมาแก้ไข หรือขออภัยด้วยก็ดีครับ
อ้างถึง
ภาคใต้  มีแต่คนที่มีการศึกษาเป็นส่วนใหญ่ครับ  คนใต้จะเป็นคนที่มีเหตุผล  ยากที่จะให้ใครครอบงำได้

ผมก็คนใต้ มีเพื่อนหลายภาคครับ ผมคิดว่า ไม่เกี่ยวหรอกครับ ว่าใครอยู่ภาคไหนแล้วจะโดนครอบงำ
โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าน่าจะอยู่ที่บุคคลนั้นๆ มากกว่า บางคนดี บางคนไม่ดี ขึ้นชื่อว่าสังคม ย่อมมีคนเหล่านี้ทั้งนั้นครับ อยู่ที่ว่าจะเจอคนแบบไหน

บางคนมีเหตุผล บางคนไม่มีเหตุผล บางคนมีสติ บางคนไม่มีสติ บางคนมองแต่ตัวเอง บางคนมองแต่คนอื่น
ผมคิดว่าเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องธรรมชาติครับ แต่อย่าไปกล่าวว่าพวกเราดีอย่างนั้นอย่างนี้ครับ เขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ อย่ากล่าวเช่นนั้นครับ

สุดท้ายนี้ อยากให้ชุมชน thaiseoboard.com นั้น เป็นแหล่งความรู้ และมีน้ำใจต่อกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน รักกันไว้ครับ

ขอบคุณครับ

 wanwan003

งั้นผมตัดคำว่ายากที่จะถูกครอบงำออก  ก็แล้วกัน  แต่ไม่แก้แล้ว  เพราะ code  ไปหลาย rep  แล้ว  แก้ไปก็เท่ากับหนีความจริง
ที่จริงผมก็ไม่อยากให้กระทบขนาดนั้น  แต่ถ้ามันกระทบจริง ๆ  ผมก็ว่าตามนั้นแหล่ะ  เพราะผมบอกแล้วใน rep ก่อน ๆ  ว่าผม
อาจจะมีอคติก็ได้  เพราะผมเป็นใต้
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #62 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 13:52:14 »

จากกระทู้นี้  ด้วย rep  ที่ผมพิมพ์แค่สั้น ๆ  มันสะท้อนอะไรหลายอย่าง  อย่างแรกหลายคนไม่เข้าใจว่าสิ่งที่มากระทบจิตใจทั้งสุขและทุกข์เป็นสิ่งสมมุติ
ซึ่งแน่นอนว่าผมก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นด้วย  กว่าจะหลุดพ้นสิ่งสมมุติอันนี้ได้ก็ยาก  ทำให้สะท้อนว่าการที่เราไม่พ้นทุกข์เพราะไปแบกรับความทุกข์ของคนอื่น
มาไว้ที่ตนเองด้วย  เช่นถ้าทำไปแล้วเขารู้สึกอย่างไร  ทำให้คนเราไม่กล้าแสดงความจริงใจออกมา  แล้วทำให้การปฏิบัติธรรมจนสำเร็จมรรคผลเป็นไปได้
ยาก  นี่เป็นจุดอ่อนสำหรับมนุษย์  นี่ถ้าผมไม่เคยตายแล้วฟื้นมาก่อน  ผมก็ไม่อาจยอมรับได้  เพราะยังคิดว่าการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนนั้นคือการสร้างบาปกรรม
แท้จริงแล้วมันต้องประกอบด้วยเจตนาของตนด้วย  แต่อีกมุมหนึ่งถึงแม้ว่าไม่ได้ทำให้ผุ้อื่นเดือดร้อน  แต่ว่าสิ่งที่ตนแสดงออกไม่ได้แสดงออกจากใจก็ถือว่า
เป็นบาปกรรมแล้ว  แน่นอนว่าการไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนในปัจจุบันจะทำให้ตนเองเดือดร้อนภายหลัง  เพราะพอเราตายไปสิ่งที่เราคิดว่าทำไปแล้วดีมันฟ้องหมด
เลยว่า  มันไม่เป็นแบบที่เราคิด  ด้วยคำตอบที่ว่าเราไม่จริงใจ  แทนที่จะแสดงความรู้สึกนึกคิดออกไปตรง ๆ  กลับมาคิดว่าถ้าคนรู้ว่าเราคิดแบบนี้  เขาจะไม่พอใจ
กลายเป็นว่าผมเองต้องตกนรกเพราะสิ่งเหล่านี้  ทำให้ผมรู้ว่าแสดงความรู้สึกตรง ๆ  อย่างใน rep  สิ่งที่ผมต้องทำคือจะทำอย่างไรให้คนเข้าใจอย่างที่ผมเข้าใจ
มากกว่า  มันมีน้อยคนมากที่จะรอดจากนรกมาเล่าให้ฟังได้

แล้วกระทู้นี้มันก็ทำให้ผมเข้าใจว่าสิ่งที่ผมกำลังจะทำนี้มันยากจริง ๆ  นั่นหมายความว่าเราทั้งหลายก็ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิดแล้วเป็นทุกข์ต่อไปเรื่อย ๆ  จากเหตุที่ว่า
ไม่แสดงความรู้สึกนึกคิดที่ออกไปตรง ๆ  ให้คนอื่นเห็น  เพราะถ้าทำแบบนั้นก็จะเป็นแบบผม  นั่นเป็นสิ่งที่คนทั่วไปยากจะยอมรับได้  เนื่องจากจะเจอแรงกดดันมหาศาลอันมีเ
เหตุมาจากเไม่อาจไปบอกให้คนอื่นตีควา
เฉพาะมุมที่ผมตั้งใจเท่านั้นก็ไม่ได้  ผมก็ต้องขอบคุณนรกและลูกไฟแดง ๆ  ที่แผดเผาร่างกายผม  จนทำให้ผมรู้ว่าถ้าตนเองไม่แก้ไขต่อไปอนาคตจะเจอกับอะไร  คนเรา
เจอหนเดียวมันเข็ดไปตลอดกาล 
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
9neo
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 60
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,411



ดูรายละเอียด
« ตอบ #63 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 13:53:53 »

ถึงว่า กระทู้นี้ไม่ตกซักที ไอ้เราก็นึกว่าวิเคราะห์เศรษฐกิจกัน
บันทึกการเข้า
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #64 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 13:57:30 »

ถึงว่า กระทู้นี้ไม่ตกซักที ไอ้เราก็นึกว่าวิเคราะห์เศรษฐกิจกัน

ไม่ตกอะดีแล้ว  ก็ไม่นึกว่าที่ผมพิมพ์ไปสั้น ๆ  จะทำให้ผมเล่าประสบการณ์ที่เคยเจอได้
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
zern
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 117
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,244



ดูรายละเอียด
« ตอบ #65 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 14:19:06 »

จากกระทู้นี้  ด้วย rep  ที่ผมพิมพ์แค่สั้น ๆ  มันสะท้อนอะไรหลายอย่าง  อย่างแรกหลายคนไม่เข้าใจว่าสิ่งที่มากระทบจิตใจทั้งสุขและทุกข์เป็นสิ่งสมมุติ
ซึ่งแน่นอนว่าผมก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นด้วย  กว่าจะหลุดพ้นสิ่งสมมุติอันนี้ได้ก็ยาก  ทำให้สะท้อนว่าการที่เราไม่พ้นทุกข์เพราะไปแบกรับความทุกข์ของคนอื่น
มาไว้ที่ตนเองด้วย  เช่นถ้าทำไปแล้วเขารู้สึกอย่างไร  ทำให้คนเราไม่กล้าแสดงความจริงใจออกมา  แล้วทำให้การปฏิบัติธรรมจนสำเร็จมรรคผลเป็นไปได้
ยาก  นี่เป็นจุดอ่อนสำหรับมนุษย์  นี่ถ้าผมไม่เคยตายแล้วฟื้นมาก่อน  ผมก็ไม่อาจยอมรับได้  เพราะยังคิดว่าการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนนั้นคือการสร้างบาปกรรม
แท้จริงแล้วมันต้องประกอบด้วยเจตนาของตนด้วย  แต่อีกมุมหนึ่งถึงแม้ว่าไม่ได้ทำให้ผุ้อื่นเดือดร้อน  แต่ว่าสิ่งที่ตนแสดงออกไม่ได้แสดงออกจากใจก็ถือว่า
เป็นบาปกรรมแล้ว  แน่นอนว่าการไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนในปัจจุบันจะทำให้ตนเองเดือดร้อนภายหลัง  เพราะพอเราตายไปสิ่งที่เราคิดว่าทำไปแล้วดีมันฟ้องหมด
เลยว่า  มันไม่เป็นแบบที่เราคิด  ด้วยคำตอบที่ว่าเราไม่จริงใจ  แทนที่จะแสดงความรู้สึกนึกคิดออกไปตรง ๆ  กลับมาคิดว่าถ้าคนรู้ว่าเราคิดแบบนี้  เขาจะไม่พอใจ
กลายเป็นว่าผมเองต้องตกนรกเพราะสิ่งเหล่านี้  ทำให้ผมรู้ว่าแสดงความรู้สึกตรง ๆ  อย่างใน rep  สิ่งที่ผมต้องทำคือจะทำอย่างไรให้คนเข้าใจอย่างที่ผมเข้าใจ
มากกว่า  มันมีน้อยคนมากที่จะรอดจากนรกมาเล่าให้ฟังได้

แล้วกระทู้นี้มันก็ทำให้ผมเข้าใจว่าสิ่งที่ผมกำลังจะทำนี้มันยากจริง ๆ  นั่นหมายความว่าเราทั้งหลายก็ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิดแล้วเป็นทุกข์ต่อไปเรื่อย ๆ  จากเหตุที่ว่า
ไม่แสดงความรู้สึกนึกคิดที่ออกไปตรง ๆ  ให้คนอื่นเห็น  เพราะถ้าทำแบบนั้นก็จะเป็นแบบผม  นั่นเป็นสิ่งที่คนทั่วไปยากจะยอมรับได้  เนื่องจากจะเจอแรงกดดันมหาศาลอันมีเ
เหตุมาจากเไม่อาจไปบอกให้คนอื่นตีควา
เฉพาะมุมที่ผมตั้งใจเท่านั้นก็ไม่ได้  ผมก็ต้องขอบคุณนรกและลูกไฟแดง ๆ  ที่แผดเผาร่างกายผม  จนทำให้ผมรู้ว่าถ้าตนเองไม่แก้ไขต่อไปอนาคตจะเจอกับอะไร  คนเรา
เจอหนเดียวมันเข็ดไปตลอดกาล 
กระทู้ก่อนหน้าคุณเคยบอกว่าตอนนี้มีความสุขเพิ่มขึ้น เพราะ"มีคนมาวุ่นวายกับคุณน้อยลง"
ผมว่าตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วล่ะครับ คงเพราะว่าหลักธรรมของคุณลึกซึ้งลุ่มลึกเกินไป กว่าที่คนธรรมดาอย่างผมจะเข้าใจได้
พวกผมเปรียบเสมือนนักเรียนที่เพิ่งขึ้นประถม ยังบวกลบเลขไม่ค่อยคล่อง ส่วนคุณเปรียบเสมือนอาจารย์มหาวิทยาลัย
มาถึงคุณก็สอนพวกผมดริฟท์ ดริฟท์ ดริฟท์ แล้วก็ดริฟท์ แล้วพวกผมซึ่งความรู้ยังน้อยจะไปดริฟท์ตามคุณได้อย่างไร
คุณช่วยสอนตั้งแต่ บวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน ยกกำลัง แคลคูลัส ไล่ไปทีละสเต็ปแล้วค่อยสอนดริฟท์
พวกผมจึงจะรู้เรื่อง และดริฟท์ตามคุณได้ แต่หากมันจะทำให้คุณมีความสุขน้อยลง หรือคุณไม่ต้องการเผยแผ่ธรรมะให้คนส่วนใหญ่เข้าใจ ต้องการให้รับรู้แค่คนที่มีพรสวรรค์ถึงขั้นเท่านั้น ผมก็ไม่ขอรบกวนแล้วครับ
 wanwan017
บันทึกการเข้า

สูงสุด ที่สุดก็คืนสู่สามัญ
Dr.K
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 436
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,820



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #66 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 14:24:26 »

***** องค์ประกอบแห่ง ปิสุณวาจา (คำพูดที่ทำให้แตกแยก) *****
 
๕. ปิสุณวาจา    (คำพูดที่ทำให้แตกแยก)
 
   ปิสุณวาจา  เมื่อแยกบทแล้วได้ สองบทคือ ปิสุณ - วาจา
 
   ปิสุณ  แปลว่า  บดให้ละเอียด หรือทำให้แตกกระจัดกระจาย
 
   วาจา  แปลว่า  คำพูด
 
   เมื่อรวมกันแล้วเป็น ปิสุณวาจา แปลว่า คำพูดที่ทำให้แตกแยก กระจัดกระจาย ได้แก่ พูดส่อเสียด มีวจนัตถะว่า
 
             "ปิสติ สามคฺคี สญฺจุณฺเณตีติ  -  ปิสุณา"
 
    แปลความว่า วาจาอันใด ย่อมบดความสามัคคี คือทำให้แตกแยก กระจัดกระจาย ฉะนั้น วาจานั้น ชื่อว่า "ปิสุณา" 
 
             "ปิสุณา จ สา วาจา จาติ - ปิสุณวาจา"
 
คำกล่าวที่บดความสามัคคี คือทำให้แตกแยกด้วย เป็นเจตนาที่เป็นเหตุแห่งการกล่าวนั้นด้วย ชื่อว่า ปิสุณาวาจา
 
              "ปิยํ สุญฺญํ กโรตีติ - ปิสุณา"
 
  คำกล่าวอันใด ย่อมทำตัวเองให้เป็นที่รัก และกระทำผู้อื่นให้สูญจากความรัก ฉะนั้น คำกล่าวนั้น ชื่อว่า ปิสุณวาจา
 
    องค์ประกอบแห่ง ปิสุณวาจา มี ๔ ประการคือ
 
๑. ภินฺทิตฺโพ      มีผู้ที่จะถูกทำให้แตกแยก
 
๒. เภทปุรกฺขาโร     มีเจตนามุ่งให้แตกจากกัน
 
๓. ปโยโค     ทำความเพียรให้แตกจากกัน
 
๔. ตทตฺถ  ชานนํ     ผู้ฟังรู้เนื้อความนั้น

     ปโยคะ คือความพยายามในปิสุณวาจา   มี ๒ อย่างคือ
 
๑. กายปโยคะ   การส่อเสียดโดยทางกาย มีการแสดงกิริยาท่าทาง ให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ความหมายของตน
 
๒. วจีปโยคะ   การส่อเสียดโดยทางวาจา คือ การพูดยุแหย่ให้บุคคล ๒ ฝ่าย แตกแยกกัน
 
   การกล่าว ปิสุณวาจานี้ แม้จะครบองค์ประกอบทั้ง ๔ ประการก็ตาม ถ้าผู้ฟัง ปิสุณวาจา กับผู้ถูกส่อเสียดไม่มีการแตกแยกกัน ก็ไม่เป็นการก้าวล่วงกรรมบท แต่ถ้าแตกแยกกัน จึงล่วงกรรมบท
 
   ปิสุณวาจา ที่จะมีโทษหนัก หรือโทษเบา ขึ้นอยู่กับผู้ถูกส่อเสียดเป็นประการสำคัญ
 
   ถ้าผู้ถูกส่อเสียด ให้มีการแตกแยกนั้น เป็นผู้มีศีลธรรม ผู้กล่าวก็ย่อมได้รับ โทษมาก
 
   แต่ถ้าผู้ถูกส่อเสียดนั้น เป็นผู้ที่ไม่มีศีลธรรม ผู้กล่าวก็มีโทษน้อย

 
 (คัดจาก หนังสือพระอภิธรรมมัตถสังคหะ)


เอามาให้อ่านครับผม     
บันทึกการเข้า

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #67 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 14:27:34 »

จากกระทู้นี้  ด้วย rep  ที่ผมพิมพ์แค่สั้น ๆ  มันสะท้อนอะไรหลายอย่าง  อย่างแรกหลายคนไม่เข้าใจว่าสิ่งที่มากระทบจิตใจทั้งสุขและทุกข์เป็นสิ่งสมมุติ
ซึ่งแน่นอนว่าผมก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นด้วย  กว่าจะหลุดพ้นสิ่งสมมุติอันนี้ได้ก็ยาก  ทำให้สะท้อนว่าการที่เราไม่พ้นทุกข์เพราะไปแบกรับความทุกข์ของคนอื่น
มาไว้ที่ตนเองด้วย  เช่นถ้าทำไปแล้วเขารู้สึกอย่างไร  ทำให้คนเราไม่กล้าแสดงความจริงใจออกมา  แล้วทำให้การปฏิบัติธรรมจนสำเร็จมรรคผลเป็นไปได้
ยาก  นี่เป็นจุดอ่อนสำหรับมนุษย์  นี่ถ้าผมไม่เคยตายแล้วฟื้นมาก่อน  ผมก็ไม่อาจยอมรับได้  เพราะยังคิดว่าการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนนั้นคือการสร้างบาปกรรม
แท้จริงแล้วมันต้องประกอบด้วยเจตนาของตนด้วย  แต่อีกมุมหนึ่งถึงแม้ว่าไม่ได้ทำให้ผุ้อื่นเดือดร้อน  แต่ว่าสิ่งที่ตนแสดงออกไม่ได้แสดงออกจากใจก็ถือว่า
เป็นบาปกรรมแล้ว  แน่นอนว่าการไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนในปัจจุบันจะทำให้ตนเองเดือดร้อนภายหลัง  เพราะพอเราตายไปสิ่งที่เราคิดว่าทำไปแล้วดีมันฟ้องหมด
เลยว่า  มันไม่เป็นแบบที่เราคิด  ด้วยคำตอบที่ว่าเราไม่จริงใจ  แทนที่จะแสดงความรู้สึกนึกคิดออกไปตรง ๆ  กลับมาคิดว่าถ้าคนรู้ว่าเราคิดแบบนี้  เขาจะไม่พอใจ
กลายเป็นว่าผมเองต้องตกนรกเพราะสิ่งเหล่านี้  ทำให้ผมรู้ว่าแสดงความรู้สึกตรง ๆ  อย่างใน rep  สิ่งที่ผมต้องทำคือจะทำอย่างไรให้คนเข้าใจอย่างที่ผมเข้าใจ
มากกว่า  มันมีน้อยคนมากที่จะรอดจากนรกมาเล่าให้ฟังได้

แล้วกระทู้นี้มันก็ทำให้ผมเข้าใจว่าสิ่งที่ผมกำลังจะทำนี้มันยากจริง ๆ  นั่นหมายความว่าเราทั้งหลายก็ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิดแล้วเป็นทุกข์ต่อไปเรื่อย ๆ  จากเหตุที่ว่า
ไม่แสดงความรู้สึกนึกคิดที่ออกไปตรง ๆ  ให้คนอื่นเห็น  เพราะถ้าทำแบบนั้นก็จะเป็นแบบผม  นั่นเป็นสิ่งที่คนทั่วไปยากจะยอมรับได้  เนื่องจากจะเจอแรงกดดันมหาศาลอันมีเ
เหตุมาจากเไม่อาจไปบอกให้คนอื่นตีควา
เฉพาะมุมที่ผมตั้งใจเท่านั้นก็ไม่ได้  ผมก็ต้องขอบคุณนรกและลูกไฟแดง ๆ  ที่แผดเผาร่างกายผม  จนทำให้ผมรู้ว่าถ้าตนเองไม่แก้ไขต่อไปอนาคตจะเจอกับอะไร  คนเรา
เจอหนเดียวมันเข็ดไปตลอดกาล 
กระทู้ก่อนหน้าคุณเคยบอกว่าตอนนี้มีความสุขเพิ่มขึ้น เพราะ"มีคนมาวุ่นวายกับคุณน้อยลง"
ผมว่าตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วล่ะครับ คงเพราะว่าหลักธรรมของคุณลึกซึ้งลุ่มลึกเกินไป กว่าที่คนธรรมดาอย่างผมจะเข้าใจได้
พวกผมเปรียบเสมือนนักเรียนที่เพิ่งขึ้นประถม ยังบวกลบเลขไม่ค่อยคล่อง ส่วนคุณเปรียบเสมือนอาจารย์มหาวิทยาลัย
มาถึงคุณก็สอนพวกผมดริฟท์ ดริฟท์ ดริฟท์ แล้วก็ดริฟท์ แล้วพวกผมซึ่งความรู้ยังน้อยจะไปดริฟท์ตามคุณได้อย่างไร
คุณช่วยสอนตั้งแต่ บวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน ยกกำลัง แคลคูลัส ไล่ไปทีละสเต็ปแล้วค่อยสอนดริฟท์
พวกผมจึงจะรู้เรื่อง และดริฟท์ตามคุณได้ แต่หากมันจะทำให้คุณมีความสุขน้อยลง หรือคุณไม่ต้องการเผยแผ่ธรรมะให้คนส่วนใหญ่เข้าใจ ต้องการให้รับรู้แค่คนที่มีพรสวรรค์ถึงขั้นเท่านั้น ผมก็ไม่ขอรบกวนแล้วครับ
 wanwan017

พอเข้าใจหมดแล้ว  ความสุขที่ผมมีก็ไม่มีเพิ่มแล้วไม่มีลดอีกแล้ว  ความทุกข์ก็ไม่มีเพิ่มแล้วก็ไม่มีลดลงไปกว่านี้อีกแล้วเช่นกัน  แต่ถ้ามีมันจะไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำในชาติที่เป็นมนุษย์
และสรรพสัตว์  แต่มันเป็นกรรมที่ทำบาปไว้ตอนเป็นเทพแล้วหนีลงมาเกิด  พอเข้าใจว่านั้นเป็นสิ่งที่ต้องชดใช้ก็ชดใช้ไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไปตามประสาคนมีกรรม  ชดใช้หมดก็พ้นไปจากความสุข
และทุกข์ทั้งปวง  แต่ว่าพ้นเฉพาะทางใจนะครับ  ทางกายก็ต้องยอมรับสภาพมันไปก่อน  เพราะยังไม่ตาย  ตายเมื่อไหร่ทุกข์ทางกายก็จบเมื่อนั้น
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
Santa
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 507



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #68 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 14:33:58 »

พอเข้าใจหมดแล้ว  ความสุขที่ผมมีก็ไม่มีเพิ่มแล้วไม่มีลดอีกแล้ว  ความทุกข์ก็ไม่มีเพิ่มแล้วก็ไม่มีลดลงไปกว่านี้อีกแล้วเช่นกัน  แต่ถ้ามีมันจะไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำในชาติที่เป็นมนุษย์
และสรรพสัตว์  แต่มันเป็นกรรมที่ทำบาปไว้ตอนเป็นเทพแล้วหนีลงมาเกิด  พอเข้าใจว่านั้นเป็นสิ่งที่ต้องชดใช้ก็ชดใช้ไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไปตามประสาคนมีกรรม  ชดใช้หมดก็พ้นไปจากความสุข
และทุกข์ทั้งปวง  แต่ว่าพ้นเฉพาะทางใจนะครับ  ทางกายก็ต้องยอมรับสภาพมันไปก่อน  เพราะยังไม่ตาย  ตายเมื่อไหร่ทุกข์ทางกายก็จบเมื่อนั้น

 Shocked สมกับเป็นไทยเสียวจริงๆ มีคนทุกแบบเลย

ขนาดเทพหนีลงมาเกิดยังมีเลยอ่ะ  Tongue
บันทึกการเข้า
เก๋าลัดคุง
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 196
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,906



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #69 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 14:37:05 »

สงครามธรรมะ
บันทึกการเข้า

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #70 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 14:44:03 »

***** องค์ประกอบแห่ง ปิสุณวาจา (คำพูดที่ทำให้แตกแยก) *****
 
๕. ปิสุณวาจา    (คำพูดที่ทำให้แตกแยก)
 
   ปิสุณวาจา  เมื่อแยกบทแล้วได้ สองบทคือ ปิสุณ - วาจา
 
   ปิสุณ  แปลว่า  บดให้ละเอียด หรือทำให้แตกกระจัดกระจาย
 
   วาจา  แปลว่า  คำพูด
 
   เมื่อรวมกันแล้วเป็น ปิสุณวาจา แปลว่า คำพูดที่ทำให้แตกแยก กระจัดกระจาย ได้แก่ พูดส่อเสียด มีวจนัตถะว่า
 
             "ปิสติ สามคฺคี สญฺจุณฺเณตีติ  -  ปิสุณา"
 
    แปลความว่า วาจาอันใด ย่อมบดความสามัคคี คือทำให้แตกแยก กระจัดกระจาย ฉะนั้น วาจานั้น ชื่อว่า "ปิสุณา" 
 
             "ปิสุณา จ สา วาจา จาติ - ปิสุณวาจา"
 
คำกล่าวที่บดความสามัคคี คือทำให้แตกแยกด้วย เป็นเจตนาที่เป็นเหตุแห่งการกล่าวนั้นด้วย ชื่อว่า ปิสุณาวาจา
 
              "ปิยํ สุญฺญํ กโรตีติ - ปิสุณา"
 
  คำกล่าวอันใด ย่อมทำตัวเองให้เป็นที่รัก และกระทำผู้อื่นให้สูญจากความรัก ฉะนั้น คำกล่าวนั้น ชื่อว่า ปิสุณวาจา
 
    องค์ประกอบแห่ง ปิสุณวาจา มี ๔ ประการคือ
 
๑. ภินฺทิตฺโพ      มีผู้ที่จะถูกทำให้แตกแยก
 
๒. เภทปุรกฺขาโร     มีเจตนามุ่งให้แตกจากกัน
 
๓. ปโยโค     ทำความเพียรให้แตกจากกัน
 
๔. ตทตฺถ  ชานนํ     ผู้ฟังรู้เนื้อความนั้น

     ปโยคะ คือความพยายามในปิสุณวาจา   มี ๒ อย่างคือ
 
๑. กายปโยคะ   การส่อเสียดโดยทางกาย มีการแสดงกิริยาท่าทาง ให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ความหมายของตน
 
๒. วจีปโยคะ   การส่อเสียดโดยทางวาจา คือ การพูดยุแหย่ให้บุคคล ๒ ฝ่าย แตกแยกกัน
 
   การกล่าว ปิสุณวาจานี้ แม้จะครบองค์ประกอบทั้ง ๔ ประการก็ตาม ถ้าผู้ฟัง ปิสุณวาจา กับผู้ถูกส่อเสียดไม่มีการแตกแยกกัน ก็ไม่เป็นการก้าวล่วงกรรมบท แต่ถ้าแตกแยกกัน จึงล่วงกรรมบท
 
   ปิสุณวาจา ที่จะมีโทษหนัก หรือโทษเบา ขึ้นอยู่กับผู้ถูกส่อเสียดเป็นประการสำคัญ
 
   ถ้าผู้ถูกส่อเสียด ให้มีการแตกแยกนั้น เป็นผู้มีศีลธรรม ผู้กล่าวก็ย่อมได้รับ โทษมาก
 
   แต่ถ้าผู้ถูกส่อเสียดนั้น เป็นผู้ที่ไม่มีศีลธรรม ผู้กล่าวก็มีโทษน้อย

 
 (คัดจาก หนังสือพระอภิธรรมมัตถสังคหะ)


เอามาให้อ่านครับผม     

ทั้งหมดนี้  ขึ้นอยู่กับเจตนาของเรา  มีเช่นนั้นจะไม่มีใครทำความดีได้อย่างแท้จริง  การทำดีทำหลอก ๆ  นั้นทำได้ง่ายทำแล้วมีคนสรรเสริญมากมาย
การทำความดีหลอก ๆ  นั้นใช้เกณฑ์ว่าผู้รับต้องการสิ่งใดเป็นที่ตั้ง  ไม่ได้มาจากเจตนาของตนเองที่อยากทำเพื่อผู้อื่นเป็นหลัก  การกระทำดีแล้วมี
คนยกย่องว่าดีเพียงใด  เช่นทำให้ตนเป็นที่รัก  หรือไม่พฦดอะไรแล้วก่อให้เกิดความแตกแยก  ก็ไม่อาจนำความเจริญมาสู่ตนได้ถ้าไม่ได้ทำด้วยใจ
ทุกสิ่งทุกอย่างพึงอยู่ที่ใจตน  ให้ถามตนว่าตนประสงค์เช่นนั้นหรือไม่  ถ้าตนประสงค์ให้เป็นเช่นนั้นผลนั้นย่อมเกิดกับตน  ถ้าตนไม่ประสงค์เช่นนั้น
ต่อให้ใครจะบอกว่าตนเองจะเป็นอย่างไร  เดือดร้อนแค่ไหนผลนั้นย่อมไม่ตกถึงตน  เพราะตนไม่มีเจตนาประสงค์ให้เกิดกับผู้อื่น  คำสอนทุกคำสอนที่มี
ไม่ว่าจะมีกี่คำสอนก็ตาม  ให้ต่อท้ายด้วยคำว่า  เจตนานั้นต้องมาจากความตั้งใจของตนเสมอจึงจะเป็นคำสอนที่ถูกต้อง  

ข้อเสียอย่างหนึ่งในการแนะนำคำสอน  คือได้ละส่วนที่เข้าใจแล้วโดยดุษฎีไว้ในฐานที่เข้าใจ  เมื่อผู้ปฏิบัติไม่เติมส่วนที่ขาดหายไปให้ครบ  จะด้วยเหตุที่ว่า
ไม่เข้าใจจริง ๆ  เพราะเนื่องจากถูกลดทอนจากต้นฉบับแล้วถ่ายทอดตาม ๆ  กันมา  พอมาถึงคนรุ่นหลังผลจากการปฏิบัติจึงหกคะเมนตีลังกา  แล้วให้ผล
ออกมาแล้วตรงกันข้ามกับความเป็นจริง  เมื่อผู้ปฏิบัตินำหลักธรรมที่ตรงข้ามกับหลักความจริงไปปฏิบัติ  ผลที่ได้จึงก่อทุกข์ให้ตนอย่างมหาศาลทั้งที่โดย
รู้ตัวและไม่รู้ตัว  ถ้ารู้ตัวแบบผมแล้วมองเห็นความจริงก็รอดจากความทุกข์ไป
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
deadclosed
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 133
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,553



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #71 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 14:56:32 »

เป็นกำลังให้ คุณ tanawat30 ครับ

ในฐานะคนใต้ ผมเข้าใจพี่จะสื่ออะไร

บวก ลบ คูณ หาร ไม่ต้องสอนผมก็ได้ครับ ข้ามไปแคลคูลัสเลย ที่เหลือผมเก็บปะสบการณ์จากนอกห้องเรียนเอง

ปล.คนใต้ถ้าไม่รักคนใต้ด้วยกันแล้วใครจะรักครับ Tongue
บันทึกการเข้า
kobbank
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 41
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,049



ดูรายละเอียด
« ตอบ #72 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 14:59:41 »

ดีใจคับ ที่ภาคใต้เศรษฐกิจ ผมก็เป็นคนใต้เหมือนกัน อิอิ wanwan016 wanwan019
บันทึกการเข้า

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #73 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 15:07:32 »

เป็นกำลังให้ คุณ tanawat30 ครับ

ในฐานะคนใต้ ผมเข้าใจพี่จะสื่ออะไร

บวก ลบ คูณ หาร ไม่ต้องสอนผมก็ได้ครับ ข้ามไปแคลคูลัสเลย ที่เหลือผมเก็บปะสบการณ์จากนอกห้องเรียนเอง

ปล.คนใต้ถ้าไม่รักคนใต้ด้วยกันแล้วใครจะรักครับ Tongue

กระทู้นี้ทำให้ผมมองเห็นความทุกข์ทางใจที่เพื่อนมนุษย์กำลังได้รับประจักษ์แจ้งในใจตนมากขึ้น  เพราะผมก่อนปฏิบัติธรรม
ก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง  ความคิดอ่านไม่ต่างจากพวกเราหรอก  ตอนที่ผมเจอความทุกข์นั้นด้วยตนเอง  ผมเอาตนเองรอดได้
อย่างที่ว่า  ถ้าไม่ตกนรกก็มองไม่เห็นทุกข์ของตนเอง  แต่พอผมพ้นทุกข์หลุดจากวังวนแห่งความเป็นมนุษย์ไปได้  แล้วย้อน
กลับมาสัมผัสกับคนอื่น ๆ  ผมรู้เลยว่าถ้าจะทำให้เราทั้งหลายพ้นทุกข์แล้วมองเห็นสัจธรรมนี่  มันสาหัสจริง ๆ  แล้วบางคนดูเหมือน
จะมีธรรมะ  แต่พอเจอวังวนการตีความในเจตนาของผู้อื่นอย่างที่ปรากฏในกระทู้นี้  มันรู้ได้อย่าางชัดแจ้งเลยว่า  การทำให้คนพ้นทุกข์
อย่างแท้จริง  อาจเป็นเพียงแค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 พฤษภาคม 2010, 15:09:24 โดย tanawat30 » บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
Belle
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #74 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 16:06:57 »

เข้ามาอีกที่มาม่า เอ้ยย ดราม่าซะแล้ว  Tongue 
เข้ามาบอกว่าที่เชียงใหม่เมฆตั้งเค้าอีกแล้ว  ตกลงมาเลยฝน จะได้ไม่ต้องรดน้ำต้นไม้และล้างรถ  Embarrassed

ขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ ที่คำตอบพาออกทะเล เฮะๆ  wanwan037
บันทึกการเข้า

tradeya
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 186
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,110



ดูรายละเอียด
« ตอบ #75 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 16:20:00 »

งั้นผมตัดคำว่ายากที่จะถูกครอบงำออก  ก็แล้วกัน  แต่ไม่แก้แล้ว  เพราะ code  ไปหลาย rep  แล้ว  แก้ไปก็เท่ากับหนีความจริง
ที่จริงผมก็ไม่อยากให้กระทบขนาดนั้น  แต่ถ้ามันกระทบจริง ๆ  ผมก็ว่าตามนั้นแหล่ะ  เพราะผมบอกแล้วใน rep ก่อน ๆ  ว่าผม
อาจจะมีอคติก็ได้  เพราะผมเป็นใต้

คำที่สือความหมายผิืดคือ "มีแต่" ครับ ไม่ใช่ "ยากที่จะถูกครอบงำ" ครับ คำๆนี้ทำให้ความหมายทั้งประเโยคเป็นในแง่ลบ

อย่างเรปข้างบนพูดถึงเชียงใหม่ ถ้าผมพูดว่า

คนเหนือมีแต่ผู้หญิงขาวๆสวยๆน่ารักๆ กับ สาวเหนือขาวๆสวยๆน่ารักๆเยอะแยะ อันไหนมันฟังไม่แบ่งแยกและดูดีกว่ากันครับ

ปล. ผมชอบน่ารักๆไม่เกี่ยวว่าภาคไหนครับ อิอิ

 
บันทึกการเข้า

21P.T.
Verified Seller
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 57
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,147



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #76 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 16:35:07 »

เยี่ยมมากๆ ... ข่าวดีจริงๆครับ  wanwan003
บันทึกการเข้า

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #77 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 16:36:16 »

งั้นผมตัดคำว่ายากที่จะถูกครอบงำออก  ก็แล้วกัน  แต่ไม่แก้แล้ว  เพราะ code  ไปหลาย rep  แล้ว  แก้ไปก็เท่ากับหนีความจริง
ที่จริงผมก็ไม่อยากให้กระทบขนาดนั้น  แต่ถ้ามันกระทบจริง ๆ  ผมก็ว่าตามนั้นแหล่ะ  เพราะผมบอกแล้วใน rep ก่อน ๆ  ว่าผม
อาจจะมีอคติก็ได้  เพราะผมเป็นใต้

คำที่สือความหมายผิืดคือ "มีแต่" ครับ ไม่ใช่ "ยากที่จะถูกครอบงำ" ครับ คำๆนี้ทำให้ความหมายทั้งประเโยคเป็นในแง่ลบ

อย่างเรปข้างบนพูดถึงเชียงใหม่ ถ้าผมพูดว่า

คนเหนือมีแต่ผู้หญิงขาวๆสวยๆน่ารักๆ กับ สาวเหนือขาวๆสวยๆน่ารักๆเยอะแยะ อันไหนมันฟังไม่แบ่งแยกและดูดีกว่ากันครับ

ปล. ผมชอบน่ารักๆไม่เกี่ยวว่าภาคไหนครับ อิอิ

 

ถ้าให้ผมอ่าน  ผมก็เฉย ๆ  เพราะไม่ว่าอย่างไรก็สมมุติขึ้น  ความแตกแยกเกิดจากการที่เราเอาใจไปใส่ให้เกิดความรู้สึกมากกว่า
แล้วคำว่าแต่กับคำว่าเยอะแยะก็ต่างกัน  เอาเท่าที่ผมเจอก็เหมือนกับที่ผมบอก  ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะรู้สึก  แต่พอผมเข้าใจ
ธรรมะ  ผมกับรู้สึกเฉย ๆ  ถ้าจะมีเพิ่มคือ  อาจจะสนใจว่าคนพูดมีเจตนาอย่างไรมากกว่า  แต่ไม่ใช่ไปตีความในสิ่งที่เขาพูด
ถ้าเป็นไปได้  ผมก็ถามเลยว่าคนพูดมีวัตถุประสงค์อย่างไร  เขาตอบมาอย่างไรก็อย่างนั้น  คำตอบของเขาได้มาอย่างไรคือจบ
เพราะถ้าเขาพูดไม่จริงตามจิตใจของเขา  นั่นมันเรื่องของเขาที่จะต้องรับกรรมที่ตนสร้างขึ้นนั้นไปเอง

ฉะนั้นเรื่องของเจตนา  ถ้าคนไหนรู้สึกว่าผมพิมพ์แล้วขัดความรู้สึก  นั่นเป็นเพราะผู้นั้นตั้งใจรับไปเอง  ถ้าบอกว่าเมื่อก่อนผมก็เคยเป็น
ตอนหลัง  พอผมเข้าใจหลักธรรมลึกซึ้งขึ้น  จะเหลือแต่คำว่า  ถ้าเขามีเจตนาพูดเพื่อให้กระทบจิตใจผม  เขาก็ต้องรับกรรมตามเจตนา
มันก็เท่านั้น  ส่วนผมไม่มีอะไรหรอก  ใครมีเจตนาอย่างไรคนนั้นรับไป  เจตนาเกิดจากผู้ส่ง  ผู้ส่งก็รับทุกข์ไป  ที่สำคัญเจตนาเกิดจากผู้
รับถ้ารับแล้วไปเกิดทุกข์ขึ้นในใจตนก็เป็นดังนั้น  สิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้วมีผลทันตาเห็น

เพิ่มอีกนิด  นั่นหมายความว่า  ถ้าใครพูดอะไรมาแล้วมันบังเอิญกระทบจิตใจของผมขึ้นมา  ถ้าเขาผู้นั้นไม่มีเจตนาจะทำให้ผมเดือดร้อนใช่ว่า
เขาผู้นั้นจะสร้างบาปกรรมไว้กับผม  แต่ผมเองต่างหากสร้างบาปกรรมให้กับตนเอง  กล่าวคือก็ดันไปทุกข์เสียเอง  ทั้ง ๆ  ที่ทั้งสุขทุกข์ที่เกิดขึ้น
ทางใจเป็นเพียงสิ่งสมมุติเท่านั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 พฤษภาคม 2010, 16:39:47 โดย tanawat30 » บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
เก๋าลัดคุง
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 196
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,906



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #78 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 17:02:31 »

อ้างถึง
พิมพ์แล้วขัดความรู้สึก  นั่นเป็นเพราะผู้นั้นตั้งใจรับไปเอง


เจริญพร    Grin

บันทึกการเข้า

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #79 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2010, 17:33:18 »

อ้างถึง
พิมพ์แล้วขัดความรู้สึก  นั่นเป็นเพราะผู้นั้นตั้งใจรับไปเอง


เจริญพร    Grin



จริง  ใครตั้งใจส่งคนนั้นก็รับ  ใครตั้งใจรับคนนั้นก็รับ  ถ้าคนส่งตั้งใจรับ  คนรับไม่ตั้งใจรับหรือรับเป็นอีกอย่าง  การส่งผลย่อมเป็น
เกิดกับผู้ส่งตามเจตนาของผู้ส่ง  ผู้ส่งเมื่อส่งไปอย่าง  ผู้รับเมื่อรับไปอีกอย่างย่อมเป็นผลกับผู้รับตามที่รับนั้น  ถ้าไม่เข้าใจสัจธรรม
ข้อนี้  ไม่มีทางเลยที่เราทั้งหลายจะพ้นทุกข์ทางใจได้  อีกอย่างหนึ่งผู้รับแล้วเกิดทุกข์  นั่นย่อมเป็นเพราะบาปกรรมของแต่ละคน
สร้างไว้ไม่เหมือนกันได้  คนที่ไม่มีกรรมอย่างนั้นก็จะมองว่าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ  นั่นหมายความว่าผู้ต้องการรับก็มีกรรม
เช่นนั้นเหมือนกันจึงรับไปแล้วเกิดทุกข์ขึ้นกับตน  ส่วนผู้ส่งก็ย่อมส่งตามแรงกรรม  เมื่อมีเจตนาส่งความทุกข์จะมาเกิดขึ้นในใจ
ของผู้ส่งทันที  เรียกว่าวิบากกรรม  ถ้าให้แยกเป็นวิบากบุญกับวิบากบาปได้อีก  คอบ rep nนี้  ทำให้ผมเข้าใจเรื่องวิบากกรรม
ชัดแจ้งขึ้นแหะ  มันเป็นแบบนี้เอง
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 16   ขึ้นบน
พิมพ์